ข้อความโดย: ฐิตา
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2011, 08:30:34 am »วิธีขอขมา
ความผิดที่มีต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน อาจเป็นอุปสรรคคอยปิดกั้นไม่ให้บุคคลเข้าสู่นิพพานสันติบทได้ แม้แต่ผู้ปฏิบัติธรรมเองก็ตาม
อาจารย์ท่านจะแนะนำแก้ไขให้ออกจากการบำเพ็ญกรรมฐานชั่วคราวเพื่อมุ่งหน้าไปสู่บุพการีชน เพื่อไปทำการขมาปนกิจ คือขอขมาลาโทษต่อท่านเหล่านั้นเสียก่อน เมื่อท่านงดโทษงดบาปจึงกลับเข้ามาสู่การบำเพ็ญวิปัสสนากรรมฐานต่อไป ในปัจจุบันได้มีการจัดพิธีขอขมาตั้งแต่ก่อนพิธีบรรพชาอุปสมบท นับว่าเป็นโอกาสที่ดีที่กุลบุตรจะได้หมดกังวล และสามารถปฏิบัติธรรมได้อย่างสะดวกใจ
อย่างไรก็ตามหากบุคคลที่ท่านต้องการขอขมาได้ถึงแก่ชีพิตักษัยไปก่อนแล้ว ก็มีวิธีอยู่คือ ไปที่สุสานป่าช้าขอขมาที่หลุมฝังศพของท่าน หรือหากมีการฌาปนกิจเหลือแต่อัฐิ ก็ต้องขอขมาลาโทษที่อัฐิของท่าน และถ้าหากบังเอิญว่าไม่สามารถทราบได้ว่าท่านอยู่ ณ ที่ไหน หรือถ้าเสียชีวิตไปแล้ว ก็หาหลุมศพไม่ได้ ไม่มีอัฐิ ครูบาอาจารย์ท่านแนะนำว่าให้นำดอกไม้ธูปเทียนเข้าไปหาองค์พุทธปฏิมากร กราบนมัสการระลึกถึงพระพุทธคุณแล้วอ้างท่านเป็นพยานในการตั้งจิตขอขมา
(หนังสือวิมุตติรัตนมาลี)
การขอขมาจัดเป็นบุญอย่างหนึ่ง ในบุญกิริยาวัตถุ ๑๐...
อาจสงเคราะห์เข้าข้อทิฏฐุชุกัมม์ เป็นต้น คือ การทำความเห็นให้ตรง ในที่นี้คือ ทำความเห็นของตนให้ถูกต้องตามความเป็นจริง คือเป็นว่า บิดามารดามีคุณเป็นต้น การล่วงเกินต่อบุคคลผู้มีคุณด้วยกาย วาจา ใจเป็นบาป นี่คือความเห็นที่ตรงตามความเป็นจริง
การขอขมาลาโทษ นับว่าเป็นการกล่าวคำที่ประเสริฐบริสุทธิ์ สามารถระงับความรุนแรง ร้อนร้าย ขจัดปัดเป่าความเคียดแค้นทั้งหลายให้ ดับหาย มลายสูญฉับพลัน เกิดแต่สันติสุข สันติภาพ สันติธรรม ในดวงใจยิ่งๆขึ้นไป
การขอขมาเป็นการบำเพ็ญบุญของบุคคลทั้งสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งได้ละตัวตน ปล่อยวางทิฏฐิมานะ สำนึกดีรู้ผิดชั่ว จึงกล้าเอ่ยวาจาขอขมา อีกฝ่ายอาจได้บำเพ็ญทานที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งให้กันได้ยาก คือ "อโหสิกรรม" ให้อภัย
ดังนั้นการขอขมาจึงจะไม่เป็นเรื่องที่น่ามหัศจรรย์ได้อย่างไร เพราะการขอขมาเท่ากับเป็นการขูดรีดเอากิเลสออกจากใจของตน...
ขอขมาผู้ใดก็ได้ที่เราเคยผิดพลาดล่วงเกิน ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ที่เหนือกว่าเรา หรือมีคุณกับเราเท่านั้น
นี้....นับว่า เป็นกิจของผู้มีบุญบารมีจะพ้นทุกข์อีกประการ...
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=tilltomorrow&date=10-01-2011&group=2&gblog=27
ขอบพระคุณ
บทความธรรมะ : รจนาโดย : น้อมเศียรเกล้า
Pics by : น้อมเศียรเกล้า
เรียนขออนุญาตนำมาเผยแผ่ค่ะ
อกาลิโกโฮม * สุุขใจดอทคอม
อนุโมทนาสาธุที่มาทั้งหมดมากมายค่ะ