ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: มีนาคม 06, 2011, 06:13:30 am »สุดอัศจรรย์ขณะพระราชทานเพลิงสรีระสังขารหลวงตามหาบัว ควันไฟรูปดอกบัวลอยสู่เบื้องบน ท้องฟ้าเปล่งรัศมีสีทอง พร้อมปรากฏดวงไฟขนาดใหญ่เหนือเมรุ ญาติธรรมก้มกราบพร้อมเปล่งสาธุกึกก้อง เชื่อบุญบารมีของหลวงตาสร้างปาฏิหาริย์ให้เห็นเป็นครั้งสุดท้าย แถมสรรพสัตว์ในวัดส่งเสียงร้องระงม “พระราชินี-ฟ้าหญิง” เสด็จพระราชทานเพลิง ส่งดวงวิญาณอริยสงฆ์แห่งวัดป่าบ้านตาดสู่สรวงสวรรค์ ท่ามกลางสาธุชนนับล้านร่วมอาลัยล้นวัด นายกฯนำคณะรัฐมนตรีร่วมในพิธีด้วย ขณะที่ตำรวจ-ทหารนับหมื่นนายกระจายกำลังดูแลความปลอดภัยและอำนวยการจราจร เผยเก็บอัฐิอังคารในผอบทองคำ-เตรียมบรรจุในเจดีย์ ส่วนยอดเงินบริจาคพุ่ง 330 ล้าน สื่อนอกตีข่าวแพร่ไปทั่วโลก
ฟ้าหญิงฯทรงตักบาตร
เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 5 มี.ค. ที่วัดป่าบ้านตาด (วัดเกษรศีลคุณ) อ.เมือง จ.อุดรธานี บริเวณประตูทางเข้าหน้าวัดฯ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จฯทรงตักบาตร พระสงฆ์ สามเณร อุทิศถวายแด่หลวงตามหาบัว ญาณสัมปัน (พระธรรมวิสุทธิมงคล) โดยมีพุทธศาสนิกชนนับแสนที่ปักหลักค้างแรมอยู่รอบๆอาณาบริเวณวัด ได้ตื่นเช้าขึ้นมาร่วมตักบาตรพระภิกษุสงฆ์ด้วยเช่นกัน
คลื่นมหาชนกว่าล้านคน
สำหรับบรรยากาศที่วัดป่าบ้านตาด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คราคร่ำไปด้วยคลื่นมหาชนที่หลั่งไหลมาที่วัดอย่างแน่นขนัด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารจึงต้องระดมกำลังจัดระเบียบอย่างเข้มงวด ห้ามนำรถเข้ามาในพื้นที่เส้นทางที่จะเข้าไปในวัดป่าบ้านตาด ส่วนลานจอดรถทั้ง 20 แห่งก็เต็มหมดมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา ทำให้รถยนต์ทุกคันต้องจอดอยู่ด้านนอกหรือขอจอดตามบ้านเรือนประชาชน แล้วเดินเท้าเข้ามาเป็นระยะทางประมาณ 4-5 กม. ทั้งนี้ คาดการว่าจะมีคนมาร่วมพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขารหลวงตามหาบัวครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน นอกจากนี้ช่วงเช้าที่ผ่านมา พระเอกหนุ่มรุ่นใหญ่ สรพงศ์ ชาตรี พร้อมด้วยภรรยา ดวงเดือน จิตไธสงค์ ก็เดินทางมาร่วมงานด้วย
ตรวจหาวัตถุระเบิดรอบวัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้นช่วงเช้าเวลา 06.00 น. ร.ท.อุดม คงฤทธิ์ หัวหน้าชุดตรวจคันวัตถุระเบิด กองพันทหารช่างที่ 23 พร้อมเจ้าหน้าที่ในสังกัดได้ออกตรวจค้นหาวัตถุระเบิดรอบบริเวณศาลาใหญ่ จิตกาธาน และรอบบริเวณวัด อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น นอกจากนี้กองอำนวยการรักษาความปลอดภัยร่วมทหารตำรวจ ในวัดป่าบ้านตาด ได้แจ้งว่าสัญญาณโทรศัพท์จะใช้ในบริเวณวัดได้บางเครือข่ายเท่านั้น เพราะต้องการรักษาความปลอดภัยในงานพิธีพระราชทานเพลิง ถวายแก่สรีระสังขารหลวงตามหาบัวให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ตร.-ทหารพรึ่บคอยดูแล
นายคมสัน เอกชัย ผวจ.อุดรธานี เปิดเผยว่า พี่น้องจากทั่วสารทิศเดินทางหลั่งไหลมาร่วมงานด้วยความศรัทธาหลวงตามหาบัว คาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่าล้านคน ส่วนการเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย มีกำลังตำรวจภูธรภาค 4 ตำรวจภูธรภาค 3 กำลัง อพปร.จาก จ.อุดรธานี และจังหวัดใกล้เคียง มาช่วยอำนวยความสะดวกในงานจราจรมากกว่า 10,000 นาย นอกจากนี้ยังมีกำลังทหารจากกองทัพภาคที่ 2 อีก 2,000 นายเพื่อดูแลการจราจรและความปลอดภัยในงานพิธีครั้งนี้ด้วย
ตร.พร้อมรับมือจราจร
พล.ต.ต.บุญจันทร์ นวลสาย ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้มีความพร้อมในการจัดการจราจรภายในงานพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขารหลวงตามหาบัว เป็นอย่างดี ภาพรวมยังไม่มีปัญหา แต่ของให้ประชาชนเชื่อฟังเจ้าหน้าที่ในการเข้าจุดจอด โดยได้กำหนดการเดินรถออกเป็น 3 โซนหลักๆ คือ โซนใน โซนกลาง และโซนนอก ซึ่งขณะนี้ประชาชนทยอยเดินทางมาอย่างเนืองแน่น แต่พื้นที่จอดรถที่จัดไว้ยังคงเพียงพอต่อจำนวนประชาชน สำหรับการเดินทางเข้าวัดป่าบ้านตาด ได้มีการจัดบริการรถฟรีบริการรับ-ส่งประชาชน เป็นรถสองแถวจำนวน 150 คัน รถ อบจ.อุดรธานี และเทศบาลนครอุดรธานี 20 คัน และรถตู้เจ้าหน้าที่ตำรวจ 161 คัน
แทงหยวก-แกะสลัก
ส่วนที่บริเวณบนเมรุชั่วคราว (จิตกาธาน) ตั้งแต่ช่วงกลางดึกเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง 45 คน ยังได้ร่วมกันนำหยวกกล้วยแกะสลักลวดลายไทยรวมทั้งดอกไม้สด ขึ้นไประดับบริเวณจิตกาธาน โดยการแทงหยวกครั้งนี้เป็นการผสานวัฒนธรรมท้องถิ่น และศิลปะวังหลวงเข้าด้วยกัน นำมะละกอดิบมาใช้แกะสลักเป็นรูปดอกบัวขาว 50 ดอก ติดประดับหน้าหยวกกล้วย นับเป็นครั้งแรกที่แกะสลักเป็นรูปดอกบัวขาว มีวัตถุประสงค์เพื่อสื่อถึงความบริสุทธิ์ของพระสายกรรมฐาน ประกอบกับหลวงตามหาบัว มีสมณศักดิ์ชั้นธรรม สำนักพระราชวังจึงสร้างเมรุเบญจา มีทั้งหมด 5 ชั้น โดยรอบๆพื้นที่จิตกาธาน เจ้าหน้าที่ยังคงปิดกั้นไม่ให้เข้า แต่ก็มีชาวบ้านมาปักหลักนอนเฝ้ารอกันตั้งแต่กลางดึกในจุดที่เจ้าหน้าที่่อนุญาต
พลังศรัทธาปักหลักแน่นวัด
หลังจากได้มีพลังศรัทธาคลื่นมหาชนนับล้านมุ่งหน้ามาร่วมงานพระราชทานเพลิงสรีระสังขารหลวงตามหาบัว เพียงแค่ไม่ถึงครึ่งวัน ในพื้นที่ด้านในวัดป่าบ้านตาดก็แน่นไปด้วยประชาชน เนื่องจากมีการมาจับจองพื้นที่รอบๆลานเมรุกันตั้งแต่กลางดึก โดยเฉพาะคนเฒ่าคนแก่ต่างเฝ้านอนจองที่เอาไว้ ทางกองอำนวยการวัดต้องประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงอยู่ตลอดเวลาว่าพื้นที่เต็มแล้ว หากเข้าไม่ได้ก็ให้อยู่ด้านนอกรั้ววัดหรือตามลานจอดรถ ซึ่งบางจุดมีการตั้งจอโปรเจกเตอร์ถ่ายทอดสดบรรยากาศภายในงานอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชม. บรรยากาศจึงค่อนข้างแออัด ทางเต็นท์พยาบาลต้องคอยบริการยาดม ยาหม่องไม่ขาดสายเช่นกัน
ของแจกที่ระลึกสารพัด
นอกจากจะมีทั้งพลังศรัทธาประชาชนจากทั่วสารทิศแล้ว ยังมีบรรดาสื่อมวลชนทุกแขนงทั้งหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ มาเกาะติดรายงานข่าวเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน ช่วงบ่ายอากาศค่อนข้างร้อนอบอ้าวประชาชนที่มาเฝ้ารอก็ไม่ได้ย่อท้อ ต่างก็พกพาร่มกันแดดมากางกันหลากสีสันรอบๆพื้นที่เมรุชั่วคราว ซึ่งมีแนวลวดหนามและกำลังทหารคอยมายืนปิดกั้นเอาไว้ ขณะที่ประชาชนบางส่วนที่มาถึงแล้วไม่สามารถเข้าไปภายในวัดได้ ก็จะยืนกราบสรีระสังขารอยู่แต่ด้านนอก พร้อมรับของแจกที่ระลึกมากมาย ซึ่งมีทางวัดต่างๆ รวมไปถึงหน่วยงานเอกชน จัดทำหนังสือประวัติ รูปภาพโปสการ์ด แผ่นซีดี ฯลฯ มาแจกจ่ายมากมาย โดยเฉพาะภาพโปสเตอร์ของหลวงตามหาบัวบางจุดต้องเข้าคิวยาวเหยียด
ทยอยวาง"ไม้จิก"หน้าเมรุ
ในช่วงบ่ายทางวัดได้ทยอยแจกดอกไม้จิก ที่ทำเป็นลักษณะฟืนแท่งเล็กๆ เนื่องจากทางวัดไม่อนุญาตให้นำไม้จันทร์หรือไม้ขนิดอื่นๆ มาใช้ในพิธีพระราชทานเพลิงถวายสรีระสังขาร หลวงตามหาบัว โดยประชาชนทุกเพศทุกวัยนับล้านคนได้ พร้อมใจกันนั่งสมาธิอย่างสงบ เพื่อตั้งจิตอธิษฐานภาวนาถวายแด่หลวงตามหาบัว ก่อนที่จะมีพระราชทานเพลิงถวายสรีระสังขารหลวงตามหาบัวในช่วงเย็น โดยประชาชนส่วนใหญ่ที่ได้รับไม้จิกแล้ว ได้ทยอยต่อแถวนำไม้จิกไปวางไว้ในหีบที่ทางวัดได้จัดไว้ให้ บริเวณด้านหน้าจิตกาธาน ก่อนพิธีพระราชทานเพลิงถวายสรีระสังขารหลวงตามหาบัว จะเริ่มต้นขึ้น อีกทั้งประชาชนยังได้รับแจกธงสีฟ้าที่มีพระนามาภิไธย ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ บริเวณหน้างาน เพื่อใช้ใน
การเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จฯด้วย
โรงทานบริการไม่อั้น
ขณะที่ตามเต็นท์โรงทานกว่า 1500 โรง ซึ่งมีตั้งเรียงรายเป็นแนวยาวรอบพื้นที่วัดและตามลานจอดรถ จนชาวบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าน่าจะใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งแต่ช่วงเช้าทุกเต็นท์มีการบริการทั้งอาหารคาวหวานและเครื่องดื่มทุกชนิดแบบไม่อั้น มีให้เลือกรับประทานสารพัดทุกรูปแบบครบทุกภาค เรียกว่าประชาชนที่มาร่วมงานครั้งนี้ไม่ต้องจัดเตรียมอะไรมาเลย ทั้งนี้นายสมโภช ทองเสริม อายุ 42 ปี ชาว จ.พังงา เดินทางมาพร้อมกับบรรดาศิษยานุศิษย์จาก จ.พังงา ภูเก็ต กระบี่ และชุมพร ได้ร่วมกันตั้งเต็นท์บริการก๋วยเตี๋ยวไก่รสเด็ด ทั้งรอบเช้า-เย็น โดยจัดทำหม้อใหญ่วันละ 2-4 หม้อ มาตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา
อากาศร้อน-เป็นลมเพียบ
ทางด้าน นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ รมช.สาธารณสุข กล่าวหลังตรวจเยี่ยมให้กำลังใจทีมแพทย์พยาบาลที่ออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ เพื่อให้บริการดูแลสุขภาพคลื่นมหาชน ที่เดินทางเข้าร่วมพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขารหลวงตาพระมหาบัว ที่วัดป่าบ้านตาด ว่ากระทรวงสาธารณสุขได้ระดมกำลังแพทย์พยาบาล จากสถานพยาบาลทั้งในและนอกสังกัด ที่อยู่ใน จ.อุดรธานี และจังหวัดใกล้เคียง รวมกว่า 1,000 คน เพื่อกระจายให้บริการประชาชนอย่างทั่วถึงที่สุด จากการให้บริการตั้งแต่ 07.00 น. จนถึงเวลา 13.00 น. มีประชาชนเจ็บป่วยเข้ารับบริการ รวมประมาณ 31,000 คน ส่วนใหญ่เป็นลมแดด เนื่องจากสภาพอากาศค่อนข้างร้อน และยังพบไข้หวัด วิงเวียนศีรษะ และปวดท้อง โดยมีผู้ป่วยที่นำส่งรักษาต่อที่ รพ.อุดรธานี 6
ราย เป็นผู้ป่วยถูกไฟฟ้าช๊อต 1 ราย และป่วยเป็นโรคไตวายเรื้อรังอยู่แล้วเพื่อล้างไต ทั้งหมดอาการปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยที่อาการไม่รุนแรง แต่แพทย์ให้นอนสังเกตอาการ 45 ราย ส่วนใหญ่มีอาการไข้ ระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบ และท้องเสีย
หนุ่มเดนมาร์คร่วมพิธี
ด้านนายฟาร์มา จอห์น อายุ 69 ปี ชาวเดนมาร์ค อดีตกัปตันเดินเรือสมุทร ซึ่งหลังจากเกษียณการทำงานก็มาตั้งรกรากใช้ชีวิตอยู่ในเมืองไทย ที่ จ.บุรีรัมย์ มานานกว่า 7 ปีแล้ว ให้สัมภาษณ์ว่า เดินทางมาปักหลักอยู่ที่วัดป่าบ้านตาด ตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อร่วมงานพระราชทานเพลิงสรีระสังขารหลวงตามหาบัว เนื่องจากตนเคยมาร่วมงานทำบุญข้าวเปลือกที่วัดป่าบ้านตาดหลายครั้งแล้วประทับใจมาก โดยเฉพาะเรื่องธรรมคำสั่งสอนของท่าน และจะขออยู่ร่วมงานจนเสร็จสิ้นแล้วจึงจะเดินทางกลับบ้าน จ.บุรีรัมย์
พระจากอิเหนาบินมางาน
พระครูประกาศธรรมนิเทศ อายุ 55 ปี เจ้าอาวาสวัดวิปัสสนาคราหะ ถนนคอลอเนล มัสตูรี เลขที่ 69 เล็มบัง-บันดุง อินโดนีเซีย ในฐานะประธานกรรมการบริหารคณะสงฆ์ธรรมยุต ในประเทศอินโดนีเซีย พร้อมคณะสงฆ์จากวัดเกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย ได้เดินทางมาร่วมพิธี กล่าวว่า อาตมาไปจำวัดในประเทศอินโดนีเซียนานกว่า 10 ปี รู้สึกเลื่อมใสศรัทธาหลวงตามหาบัว จึงได้ปรึกษาหารือร่วมกับคณะสงฆ์แล้วขึ้นเครื่องบินเดินทางมากราบสรีระหลวงตามหาบัว เมื่อเสร็จงานงานพระราชทานเพลิงแล้วจึงจะเดินทางกลับวัดที่ประเทศอินโดนีเซีย
"หลวงปู่ลี"ถวายทองคำ
หลวงปู่ลี กุสธโร วัดถ้ำผาแดง จ.อุดรธานี ได้น้อมถวายทองคำ 14 กิโล 49 บาท 25 สตางค์ เงินสด 12,140,000 บาท เช็ค 3,646,462 บาท ผ้าขาว 197 พับ ในงานพระราชทานเพลิงสรีระสังขารหลวงตามหาบัว ส่วนยอดเงินรับเงินบริจาค3 ธนาคาร( กสิกร,ไทยพาณิชย์,กรุงไทย) ตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค. – 4 มี.ค.54 เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 330,527,589.74 บาท ทองคำ 78 กก. 29 บาท 13 สต. ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.อารี สินธุรา ผกก.สส. ภ.จว.อุดธานี พร้อมด้วยชุดสืบสวนคมประจักษ์ สามารถร่วมกันจับกุมคนร้ายล้วงกระเป๋าประชาชนภายในงานไว้ได้ 1 คน นำส่ง สภ.เมืองอุดธานีดำเนินคดี
เก็บอัฐิอังคารในผอบทอง
พระอาจารย์นพดล นันทะโน เจ้าอาวาสวัดป่าดอยลับงา อ.เมือง จ.กำแพงเพชร กล่าวว่า ภายหลังพระราชทานเพลิงสรีระสังขารหลวงตามหาบัว หลังไฟมอดแล้วในคืนเดียวกันนี้ ทางคณะสงฆ์จะจัดเก็บอัฐิอังคารขององค์หลวงตาทันที โดยจะนำไปบรรจุในหีบเหล็กแล้วล็อคด้วยกุญแจ 8 ดอก โดยหีบเหล็กที่ใช้จัดเก็บอัฐิอังคารดังกล่าว ทางศิษยานุศิษย์ได้จัดทำให้กับทางคณะสงฆ์ไว้ทั้งหมด 4 หีบแต่จะเลือกหีบที่คิดว่าดีและเหมาะสมที่สุด สำหรับจัดเก็บอัฐิอังคารขององค์หลวงตาเพียงหีบเดียว
เตรียมสร้างเจดีย์เก็บอัฐิ
ขณะที่พิธีสามหาบจัดเก็บอัฐิตามประเพณีในเช้าของวันที่ 6 มี.ค.นี้ ยังมีตามกำหนดการเช่นเดิมในเวลา 06.00 น.โดยจะมีพระผู้ใหญ่ 3 ท่านเป็นผู้ทำพิธีจัดเก็บ คือพระอุดมญาณโมลีหรือหลวงปู่จันทร์ศรี จันททีโป พระอาจารย์บุญเพ็ง เขมาถิรโต วัดถ้ำกองเพล และพระอาจารย์ธวัชชัย สุตธิมาโม วัดป่าน้ำตกจำปาทอง จ.พะเยา หลังจากนี้สักระยะจะมีการจัดแบ่งอัฐิอังคารหลวงตามหาบัว ออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือการคัดสรรอัฐิอังคารขององค์หลวงตาส่วนที่สมบูรณ์และสวยที่สุด บรรจุไว้ในผอบทองคำหนัก 1 กิโลกรัม เพื่อเตรียมไว้บรรจุในเจดีย์ที่อาจจะมีการจัดสร้างขึ้นในอนาคต ให้ญาติธรรมประชาชนได้กราบสักการะ รำลึกถึงพระคุณขององค์หลวงตา ซึ่งผอบที่ทำด้วยทองคำดังกล่าวทางลูกศิษย์ลูกหาขององค์หลวงตาเป็นผู้จัดทำขึ้นด้วยความศรัทธา สำหรับอัฐิอังคารอีกส่วนที่เหลือก จะแบ่งมอบให้กับวัดป่าต่างๆ ทั่วประเทศที่พระลูกศิษย์หลวงตาไปปกครอง หรือวัดป่าที่องค์หลวงตามหาบัวเคยไปตั้งกองทุนผ้าป่าทองคำช่วยชาติไว้ก่อนหน้านี้ เพื่อให้ญาติธรรมในพื้นที่นั้นๆ ได้สักการบูชาและรำลึกถึงคำเทศนาสั่งสอนของท่าน
นายกฯ-นำครม.ร่วมพิธี
กระทั่งเวลา 14.00 น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เดินทางมาถึงวัดป่าบ้านตาด เพื่อร่วมพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขารหลวงตามหาบัว โดยมีสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง 11 เป็นแม่ข่ายถ่ายทอดสดงานพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขารไปทั่วประเทศ รวมทั้งมีการถ่ายทอดเสียงผ่านทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยทุกเครือข่าย รวมถึงสถานีวิทยุชุมชนท้องถิ่น และเคเบิลทีวีเพื่อรายงานให้คนไทยทั่วประเทศได้รับทราบอย่างทั่วถึงพร้อมกัน
พระราชินีเสด็จฯถึงวัด
เมื่อเวลา 17.15 น. สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งถึงวัดป่าบ้านตาด โดยตลอดสองฟากฝั่งเส้นทางเข้าวัดป่าบ้านตาด ได้มีพสกนิกรโบกธงชาติและธงตราสัญลักษณ์ พร้อมเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกระหึ่มกึกก้องตลอดเวลา การนี้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ โดยเสด็จในการนี้ด้วย พร้อมกันนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายคมสัน เอกชัย ผวจ.อุดรธานี พลโทธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 พล.ท.ธวัช สุกปลั่ง ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 3 เฝ้าฯรับเสด็จทรงทอดผ้าไตรบนจิตกาธาน ในเวลา 17.20 น. สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ เข้าประทับพระราชอาสน์ จากนั้นทรงพระดำเนินขึ้นเมรุ (ชั่วคราว) ทรงทอดผ้าไตร 10 ไตรบนจิตกาธานรอบโกศสรีระสังขาร ที่ถูกตกแต่งโดยฝีมือฝ่ายพัฒนาบุคลากร ด้านศิลปะจากสำนักพระราชวัง และโรงเรียนช่างฝีมือในวังชาย โดยใช้ฝีมือบรรจงแต่งดอกไม้สด ประกอบด้วยดอกรักและดอกกล้วยไม้สีขาว มาร้อยถักตาข่าย สื่อถึงความบริสุทธิ์ของพระกัมถาร นอกจากนี้ยังบรรจงแกะสลักดอกไม้อ่อนประเภทผัก ผลไม้ เป็นรูปดอกบัวสีขาว รวมถึงการใช้เนื้อมะละกอแกะเป็นกลีบบัว ประกอบกันเป็นดอกบัว จำนวน 50 ดอก และมีการแทงหยวกกล้วยประดับตกแต่งโดยรอบจิตกาธาน ซึ่งกางกั้นด้วยกลดประดับดอกไม้ประเภทดอกพุทธ ดอกจำปา และดอกบัว ซึ่งพุทธศาสนิกชนร่วมแรงร่วมใจกันทำด้วยจิตศรัทธา
พระสมณศักดิ์สวดบังสุกุล
จากนั้นพระราชาคณะ พระสงฆ์สมณศักดิ์ 10 รูป ประกอบด้วย สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดสัมพันธวงศ์, สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ วัดราชบพิธฯ, สมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศวิหาร, พระพรหมวชิรญาณ วัดยานนาวา, พระพรหมมุนี วัดราชบพิธฯ, พระธรรมวราภรณ์ วัดเครือวัลย์, พระธรรมเจติยาจารย์ วัดพระศรีมหาธาตุ, พระธรรมบัณฑิต วัดพระรามเก้ากาญจนาภิเษก, พระธรรมดิลก วัดป่าแสงอรุณ จ.ขอนแก่น, และพระญาณสิทธาจารย์ วัดสามัคคีอุปถัมภ์ จ.หนองคาย ขึ้นสวดบังสุกุลที่รอบโกฏิสรีระสังขาร พิจารณาผ้าไตร
ทรงพระราชทานเพลิง
ลำดับนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงหยิบกระทงข้าวตอกดอกไม้จากเจ้าพนักงานพระราชพิธีวางข้างโกศสรีระสังขาร ทรงหยิบธูปเทียนดอกไม้จันทน์ จากเจ้าพนักงานพระราชพิธี ทรงจุดไฟที่โคมตำรวจวังชูถวาย พระราชทานเพลิง ชาวพนักงานประโคมปี่ กลองชนะ ทรงพระดำเนินลงจากเมรุ ไปประทับพระราชอาส์นตามเดิม จากนั้นเวลา 17.28 น. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ประทับรถเข็นพระที่นั่ง เสด็จขึ้นสู่เมรุเพื่อทรงวางธูปเทียนดอกไม้จันทน์ รอบโกศศพ การนี้พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ โดยเสด็จด้วยพร้อมทรงวางดอกไม้จันทน์ตามลำดับ
ทรงพูดคุยกับโยมน้องสาว
ในเวลา 17.30 น.พระเถระชั้นผู้ใหญ่และพระสงฆ์ที่ใกล้ชิด หลวงตามหาบัว ประกอบด้วย พระเถระ 52 รูป และพระสงฆ์ที่จำพรรษาวัดป่าบ้านตาดจำนวน 61 รูป รวม 113 รูป ขึ้นสู่เมรุเพื่อวางไม้จิก ซึ่งตามความโบราณการใช้ไม้จิกเป็นเชื้อเพลิง มีความเชื่อว่าอัฐิจะออกเป็นสีขาวนวล ระหว่างที่พระเถระชั้นผู้ใหญ่ขึ้นไปวางไม้จิกบนเมรุนั้น สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถทรงมีพระราชปฎิสันธารอย่างใกล้ชิดกับ คุณยายจันดี โลหิต ผู้เป็นโยมน้องสาววัยประมาณ 80 ปีของหลวงตามหาบัว
นายกฯนำคณะวางไม้จิก
จากนั้นเวลา 17.35 น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นำคณะรัฐมนตรีประกอบด้วย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ นายกรณ์ จาติกวณิช นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ นายสุวิทย์ คุณกิตติ ขึ้นไปยังเมรุเพื่อวางไม้จิกประชุมเพลิง นอกจากนี้ยังมี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี พร้อมด้วยท่านผู้หญิงจิตรวดี จุลานนท์ ภริยา นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย พร้อมด้วยท่านผู้หญิงสุธาวัลย์ เสถียรไทย ภริยา นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการการธนาคารแห่งประเทศไทย ตลอดจนศิษยานุศิษย์ ทยอยขึ้นวางไม้จิกประชุมเพลิงด้วยจิตศรัทธาและความเคารพในหลวงตามหาบัว
เสด็จกลับพระตำหนัก
ต่อมาเวลา 17.45 น. สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ ประทับรถยนต์พระที่นั่งไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 23 เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่งไปยังท่าอากาศยานกองบัญชาการกองทัพอากาศ เสด็จฯ กลับพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต โดยก่อนเสด็จฯ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงใช้พระหัตถ์สัมผัสพระพาหุ (ต้นแขน) ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี
สุดอาลัยน้ำตาท่วมวัด
ภายหลังจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯกลับแล้ว ทางคณะสงฆ์สายธรรมยุติได้ทยอยขึ้นไปวางไม้จิก กระทั่งเวลา 18.00 น. จึงประชุมเพลิงตามกำหนดเวลา ท่ามกลางศิษยานุศิษย์และประชาชนที่อยู่ในบริเวณวัดป่าบ้านตาด ต่างพากันไว้อาลัย พนมมือสาธุ นั่งสงบนิ่งตั้งจิตอธิษฐาน สวดส่งดวงวิญญาณให้ขึ้นสู่สรวงสวรรค์ นอกจากนี้หลายคนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ รอบบริเวณเมรุ ซึ่งมีโอกาสเห็นการประชุมเพลิงอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา พอเปลวไฟลุกโชนกลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นท้องฟ้า ทั้งประชาชนและพระภิกษุบางรูปก็ถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหว ร้องไห้น้ำตารินเป็นจำนวนมาก บรรยากาศช่วงค่ำจึงเต็มไปด้วยความโศกเศร้าอาลัย
ปาฏิหาริย์ปรากฏดวงไฟ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.00 น. ขณะพระราชทานเพลิงศพหลวงตามหาบัว (เผาจริง) ควันไฟได้พวยพุ่งจากเมรุเป็นสีขาวนวล มีรูปร่างคล้ายดอกบัวลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า ขณะเดียวกันท้องฟ้าภายในบริเวณวัดเปล่งรัศมีเป็นสีทอง และมีดวงไฟขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นเหนือเมรุนานประมาณ 10 วินาที ก่อนจะหายวับไป สร้างความอัศจรรย์ใจให้กับสาธุชนนับล้านคนที่อยู่ในพิธี ต่างพากันก้มกราบ 3 ครั้ง พร้อมกล่าวสาธุ 3 ครั้ง โดยต่างเชื่อว่าเป็นบุญบารมีของหลวงตาที่แสดงปาฏิหาริย์ให้ญาติธรรมเห็นเป็นครั้งสุดท้าย ขณะที่สรรพสัตว์ในวัดป่าบ้านตาด เช่น นกยูง ไก่ฟ้า กระรอก ที่มาอาศัยในบริเวณวัดต่างส่งเสียงร้องระงม ประหนึ่งร่วมอาลัยต่อการจากไปของหลวงตามหาบัวด้วย
สื่อนอกตีข่าวแพร่ทั่วโลก
ด้านสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานข่าวเผยแพร่ไปทั่วโลกในวันเดียวกันนี้ว่า ประชาชนผู้มีจิตศรัทธาจำนวนมากเดินทางไปร่วมพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขาร หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี หนึ่งในพระเกจิอาจารย์ที่ได้รับความเคารพนับถือจากพุทธศาสนิกชนในประเทศไทย ซึ่งได้ละสังขารไปเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา รายงานข่าวระบุว่า ยังคงมีประชาชนร่วมบริจาคทองคำและเงินหลายล้านดอลลาร์เข้าคลังหลวงเป็นกองทุนช่วยชาติ และตำรวจประเมินว่ามีประชาชนมาร่วมพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขารของหลวงตามหาบัวประมาณ 5 แสนคน โดยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนารถ เสด็จพระราชดำเนินเป็นประธานประกอบพิธี
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=561&contentID=125099
ฟ้าหญิงฯทรงตักบาตร
เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 5 มี.ค. ที่วัดป่าบ้านตาด (วัดเกษรศีลคุณ) อ.เมือง จ.อุดรธานี บริเวณประตูทางเข้าหน้าวัดฯ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จฯทรงตักบาตร พระสงฆ์ สามเณร อุทิศถวายแด่หลวงตามหาบัว ญาณสัมปัน (พระธรรมวิสุทธิมงคล) โดยมีพุทธศาสนิกชนนับแสนที่ปักหลักค้างแรมอยู่รอบๆอาณาบริเวณวัด ได้ตื่นเช้าขึ้นมาร่วมตักบาตรพระภิกษุสงฆ์ด้วยเช่นกัน
คลื่นมหาชนกว่าล้านคน
สำหรับบรรยากาศที่วัดป่าบ้านตาด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คราคร่ำไปด้วยคลื่นมหาชนที่หลั่งไหลมาที่วัดอย่างแน่นขนัด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารจึงต้องระดมกำลังจัดระเบียบอย่างเข้มงวด ห้ามนำรถเข้ามาในพื้นที่เส้นทางที่จะเข้าไปในวัดป่าบ้านตาด ส่วนลานจอดรถทั้ง 20 แห่งก็เต็มหมดมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา ทำให้รถยนต์ทุกคันต้องจอดอยู่ด้านนอกหรือขอจอดตามบ้านเรือนประชาชน แล้วเดินเท้าเข้ามาเป็นระยะทางประมาณ 4-5 กม. ทั้งนี้ คาดการว่าจะมีคนมาร่วมพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขารหลวงตามหาบัวครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน นอกจากนี้ช่วงเช้าที่ผ่านมา พระเอกหนุ่มรุ่นใหญ่ สรพงศ์ ชาตรี พร้อมด้วยภรรยา ดวงเดือน จิตไธสงค์ ก็เดินทางมาร่วมงานด้วย
ตรวจหาวัตถุระเบิดรอบวัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้นช่วงเช้าเวลา 06.00 น. ร.ท.อุดม คงฤทธิ์ หัวหน้าชุดตรวจคันวัตถุระเบิด กองพันทหารช่างที่ 23 พร้อมเจ้าหน้าที่ในสังกัดได้ออกตรวจค้นหาวัตถุระเบิดรอบบริเวณศาลาใหญ่ จิตกาธาน และรอบบริเวณวัด อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น นอกจากนี้กองอำนวยการรักษาความปลอดภัยร่วมทหารตำรวจ ในวัดป่าบ้านตาด ได้แจ้งว่าสัญญาณโทรศัพท์จะใช้ในบริเวณวัดได้บางเครือข่ายเท่านั้น เพราะต้องการรักษาความปลอดภัยในงานพิธีพระราชทานเพลิง ถวายแก่สรีระสังขารหลวงตามหาบัวให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ตร.-ทหารพรึ่บคอยดูแล
นายคมสัน เอกชัย ผวจ.อุดรธานี เปิดเผยว่า พี่น้องจากทั่วสารทิศเดินทางหลั่งไหลมาร่วมงานด้วยความศรัทธาหลวงตามหาบัว คาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่าล้านคน ส่วนการเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย มีกำลังตำรวจภูธรภาค 4 ตำรวจภูธรภาค 3 กำลัง อพปร.จาก จ.อุดรธานี และจังหวัดใกล้เคียง มาช่วยอำนวยความสะดวกในงานจราจรมากกว่า 10,000 นาย นอกจากนี้ยังมีกำลังทหารจากกองทัพภาคที่ 2 อีก 2,000 นายเพื่อดูแลการจราจรและความปลอดภัยในงานพิธีครั้งนี้ด้วย
ตร.พร้อมรับมือจราจร
พล.ต.ต.บุญจันทร์ นวลสาย ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้มีความพร้อมในการจัดการจราจรภายในงานพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขารหลวงตามหาบัว เป็นอย่างดี ภาพรวมยังไม่มีปัญหา แต่ของให้ประชาชนเชื่อฟังเจ้าหน้าที่ในการเข้าจุดจอด โดยได้กำหนดการเดินรถออกเป็น 3 โซนหลักๆ คือ โซนใน โซนกลาง และโซนนอก ซึ่งขณะนี้ประชาชนทยอยเดินทางมาอย่างเนืองแน่น แต่พื้นที่จอดรถที่จัดไว้ยังคงเพียงพอต่อจำนวนประชาชน สำหรับการเดินทางเข้าวัดป่าบ้านตาด ได้มีการจัดบริการรถฟรีบริการรับ-ส่งประชาชน เป็นรถสองแถวจำนวน 150 คัน รถ อบจ.อุดรธานี และเทศบาลนครอุดรธานี 20 คัน และรถตู้เจ้าหน้าที่ตำรวจ 161 คัน
แทงหยวก-แกะสลัก
ส่วนที่บริเวณบนเมรุชั่วคราว (จิตกาธาน) ตั้งแต่ช่วงกลางดึกเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง 45 คน ยังได้ร่วมกันนำหยวกกล้วยแกะสลักลวดลายไทยรวมทั้งดอกไม้สด ขึ้นไประดับบริเวณจิตกาธาน โดยการแทงหยวกครั้งนี้เป็นการผสานวัฒนธรรมท้องถิ่น และศิลปะวังหลวงเข้าด้วยกัน นำมะละกอดิบมาใช้แกะสลักเป็นรูปดอกบัวขาว 50 ดอก ติดประดับหน้าหยวกกล้วย นับเป็นครั้งแรกที่แกะสลักเป็นรูปดอกบัวขาว มีวัตถุประสงค์เพื่อสื่อถึงความบริสุทธิ์ของพระสายกรรมฐาน ประกอบกับหลวงตามหาบัว มีสมณศักดิ์ชั้นธรรม สำนักพระราชวังจึงสร้างเมรุเบญจา มีทั้งหมด 5 ชั้น โดยรอบๆพื้นที่จิตกาธาน เจ้าหน้าที่ยังคงปิดกั้นไม่ให้เข้า แต่ก็มีชาวบ้านมาปักหลักนอนเฝ้ารอกันตั้งแต่กลางดึกในจุดที่เจ้าหน้าที่่อนุญาต
พลังศรัทธาปักหลักแน่นวัด
หลังจากได้มีพลังศรัทธาคลื่นมหาชนนับล้านมุ่งหน้ามาร่วมงานพระราชทานเพลิงสรีระสังขารหลวงตามหาบัว เพียงแค่ไม่ถึงครึ่งวัน ในพื้นที่ด้านในวัดป่าบ้านตาดก็แน่นไปด้วยประชาชน เนื่องจากมีการมาจับจองพื้นที่รอบๆลานเมรุกันตั้งแต่กลางดึก โดยเฉพาะคนเฒ่าคนแก่ต่างเฝ้านอนจองที่เอาไว้ ทางกองอำนวยการวัดต้องประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงอยู่ตลอดเวลาว่าพื้นที่เต็มแล้ว หากเข้าไม่ได้ก็ให้อยู่ด้านนอกรั้ววัดหรือตามลานจอดรถ ซึ่งบางจุดมีการตั้งจอโปรเจกเตอร์ถ่ายทอดสดบรรยากาศภายในงานอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชม. บรรยากาศจึงค่อนข้างแออัด ทางเต็นท์พยาบาลต้องคอยบริการยาดม ยาหม่องไม่ขาดสายเช่นกัน
ของแจกที่ระลึกสารพัด
นอกจากจะมีทั้งพลังศรัทธาประชาชนจากทั่วสารทิศแล้ว ยังมีบรรดาสื่อมวลชนทุกแขนงทั้งหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ มาเกาะติดรายงานข่าวเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน ช่วงบ่ายอากาศค่อนข้างร้อนอบอ้าวประชาชนที่มาเฝ้ารอก็ไม่ได้ย่อท้อ ต่างก็พกพาร่มกันแดดมากางกันหลากสีสันรอบๆพื้นที่เมรุชั่วคราว ซึ่งมีแนวลวดหนามและกำลังทหารคอยมายืนปิดกั้นเอาไว้ ขณะที่ประชาชนบางส่วนที่มาถึงแล้วไม่สามารถเข้าไปภายในวัดได้ ก็จะยืนกราบสรีระสังขารอยู่แต่ด้านนอก พร้อมรับของแจกที่ระลึกมากมาย ซึ่งมีทางวัดต่างๆ รวมไปถึงหน่วยงานเอกชน จัดทำหนังสือประวัติ รูปภาพโปสการ์ด แผ่นซีดี ฯลฯ มาแจกจ่ายมากมาย โดยเฉพาะภาพโปสเตอร์ของหลวงตามหาบัวบางจุดต้องเข้าคิวยาวเหยียด
ทยอยวาง"ไม้จิก"หน้าเมรุ
ในช่วงบ่ายทางวัดได้ทยอยแจกดอกไม้จิก ที่ทำเป็นลักษณะฟืนแท่งเล็กๆ เนื่องจากทางวัดไม่อนุญาตให้นำไม้จันทร์หรือไม้ขนิดอื่นๆ มาใช้ในพิธีพระราชทานเพลิงถวายสรีระสังขาร หลวงตามหาบัว โดยประชาชนทุกเพศทุกวัยนับล้านคนได้ พร้อมใจกันนั่งสมาธิอย่างสงบ เพื่อตั้งจิตอธิษฐานภาวนาถวายแด่หลวงตามหาบัว ก่อนที่จะมีพระราชทานเพลิงถวายสรีระสังขารหลวงตามหาบัวในช่วงเย็น โดยประชาชนส่วนใหญ่ที่ได้รับไม้จิกแล้ว ได้ทยอยต่อแถวนำไม้จิกไปวางไว้ในหีบที่ทางวัดได้จัดไว้ให้ บริเวณด้านหน้าจิตกาธาน ก่อนพิธีพระราชทานเพลิงถวายสรีระสังขารหลวงตามหาบัว จะเริ่มต้นขึ้น อีกทั้งประชาชนยังได้รับแจกธงสีฟ้าที่มีพระนามาภิไธย ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ บริเวณหน้างาน เพื่อใช้ใน
การเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จฯด้วย
โรงทานบริการไม่อั้น
ขณะที่ตามเต็นท์โรงทานกว่า 1500 โรง ซึ่งมีตั้งเรียงรายเป็นแนวยาวรอบพื้นที่วัดและตามลานจอดรถ จนชาวบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าน่าจะใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งแต่ช่วงเช้าทุกเต็นท์มีการบริการทั้งอาหารคาวหวานและเครื่องดื่มทุกชนิดแบบไม่อั้น มีให้เลือกรับประทานสารพัดทุกรูปแบบครบทุกภาค เรียกว่าประชาชนที่มาร่วมงานครั้งนี้ไม่ต้องจัดเตรียมอะไรมาเลย ทั้งนี้นายสมโภช ทองเสริม อายุ 42 ปี ชาว จ.พังงา เดินทางมาพร้อมกับบรรดาศิษยานุศิษย์จาก จ.พังงา ภูเก็ต กระบี่ และชุมพร ได้ร่วมกันตั้งเต็นท์บริการก๋วยเตี๋ยวไก่รสเด็ด ทั้งรอบเช้า-เย็น โดยจัดทำหม้อใหญ่วันละ 2-4 หม้อ มาตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา
อากาศร้อน-เป็นลมเพียบ
ทางด้าน นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ รมช.สาธารณสุข กล่าวหลังตรวจเยี่ยมให้กำลังใจทีมแพทย์พยาบาลที่ออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ เพื่อให้บริการดูแลสุขภาพคลื่นมหาชน ที่เดินทางเข้าร่วมพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขารหลวงตาพระมหาบัว ที่วัดป่าบ้านตาด ว่ากระทรวงสาธารณสุขได้ระดมกำลังแพทย์พยาบาล จากสถานพยาบาลทั้งในและนอกสังกัด ที่อยู่ใน จ.อุดรธานี และจังหวัดใกล้เคียง รวมกว่า 1,000 คน เพื่อกระจายให้บริการประชาชนอย่างทั่วถึงที่สุด จากการให้บริการตั้งแต่ 07.00 น. จนถึงเวลา 13.00 น. มีประชาชนเจ็บป่วยเข้ารับบริการ รวมประมาณ 31,000 คน ส่วนใหญ่เป็นลมแดด เนื่องจากสภาพอากาศค่อนข้างร้อน และยังพบไข้หวัด วิงเวียนศีรษะ และปวดท้อง โดยมีผู้ป่วยที่นำส่งรักษาต่อที่ รพ.อุดรธานี 6
ราย เป็นผู้ป่วยถูกไฟฟ้าช๊อต 1 ราย และป่วยเป็นโรคไตวายเรื้อรังอยู่แล้วเพื่อล้างไต ทั้งหมดอาการปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยที่อาการไม่รุนแรง แต่แพทย์ให้นอนสังเกตอาการ 45 ราย ส่วนใหญ่มีอาการไข้ ระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบ และท้องเสีย
หนุ่มเดนมาร์คร่วมพิธี
ด้านนายฟาร์มา จอห์น อายุ 69 ปี ชาวเดนมาร์ค อดีตกัปตันเดินเรือสมุทร ซึ่งหลังจากเกษียณการทำงานก็มาตั้งรกรากใช้ชีวิตอยู่ในเมืองไทย ที่ จ.บุรีรัมย์ มานานกว่า 7 ปีแล้ว ให้สัมภาษณ์ว่า เดินทางมาปักหลักอยู่ที่วัดป่าบ้านตาด ตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อร่วมงานพระราชทานเพลิงสรีระสังขารหลวงตามหาบัว เนื่องจากตนเคยมาร่วมงานทำบุญข้าวเปลือกที่วัดป่าบ้านตาดหลายครั้งแล้วประทับใจมาก โดยเฉพาะเรื่องธรรมคำสั่งสอนของท่าน และจะขออยู่ร่วมงานจนเสร็จสิ้นแล้วจึงจะเดินทางกลับบ้าน จ.บุรีรัมย์
พระจากอิเหนาบินมางาน
พระครูประกาศธรรมนิเทศ อายุ 55 ปี เจ้าอาวาสวัดวิปัสสนาคราหะ ถนนคอลอเนล มัสตูรี เลขที่ 69 เล็มบัง-บันดุง อินโดนีเซีย ในฐานะประธานกรรมการบริหารคณะสงฆ์ธรรมยุต ในประเทศอินโดนีเซีย พร้อมคณะสงฆ์จากวัดเกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย ได้เดินทางมาร่วมพิธี กล่าวว่า อาตมาไปจำวัดในประเทศอินโดนีเซียนานกว่า 10 ปี รู้สึกเลื่อมใสศรัทธาหลวงตามหาบัว จึงได้ปรึกษาหารือร่วมกับคณะสงฆ์แล้วขึ้นเครื่องบินเดินทางมากราบสรีระหลวงตามหาบัว เมื่อเสร็จงานงานพระราชทานเพลิงแล้วจึงจะเดินทางกลับวัดที่ประเทศอินโดนีเซีย
"หลวงปู่ลี"ถวายทองคำ
หลวงปู่ลี กุสธโร วัดถ้ำผาแดง จ.อุดรธานี ได้น้อมถวายทองคำ 14 กิโล 49 บาท 25 สตางค์ เงินสด 12,140,000 บาท เช็ค 3,646,462 บาท ผ้าขาว 197 พับ ในงานพระราชทานเพลิงสรีระสังขารหลวงตามหาบัว ส่วนยอดเงินรับเงินบริจาค3 ธนาคาร( กสิกร,ไทยพาณิชย์,กรุงไทย) ตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค. – 4 มี.ค.54 เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 330,527,589.74 บาท ทองคำ 78 กก. 29 บาท 13 สต. ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.อารี สินธุรา ผกก.สส. ภ.จว.อุดธานี พร้อมด้วยชุดสืบสวนคมประจักษ์ สามารถร่วมกันจับกุมคนร้ายล้วงกระเป๋าประชาชนภายในงานไว้ได้ 1 คน นำส่ง สภ.เมืองอุดธานีดำเนินคดี
เก็บอัฐิอังคารในผอบทอง
พระอาจารย์นพดล นันทะโน เจ้าอาวาสวัดป่าดอยลับงา อ.เมือง จ.กำแพงเพชร กล่าวว่า ภายหลังพระราชทานเพลิงสรีระสังขารหลวงตามหาบัว หลังไฟมอดแล้วในคืนเดียวกันนี้ ทางคณะสงฆ์จะจัดเก็บอัฐิอังคารขององค์หลวงตาทันที โดยจะนำไปบรรจุในหีบเหล็กแล้วล็อคด้วยกุญแจ 8 ดอก โดยหีบเหล็กที่ใช้จัดเก็บอัฐิอังคารดังกล่าว ทางศิษยานุศิษย์ได้จัดทำให้กับทางคณะสงฆ์ไว้ทั้งหมด 4 หีบแต่จะเลือกหีบที่คิดว่าดีและเหมาะสมที่สุด สำหรับจัดเก็บอัฐิอังคารขององค์หลวงตาเพียงหีบเดียว
เตรียมสร้างเจดีย์เก็บอัฐิ
ขณะที่พิธีสามหาบจัดเก็บอัฐิตามประเพณีในเช้าของวันที่ 6 มี.ค.นี้ ยังมีตามกำหนดการเช่นเดิมในเวลา 06.00 น.โดยจะมีพระผู้ใหญ่ 3 ท่านเป็นผู้ทำพิธีจัดเก็บ คือพระอุดมญาณโมลีหรือหลวงปู่จันทร์ศรี จันททีโป พระอาจารย์บุญเพ็ง เขมาถิรโต วัดถ้ำกองเพล และพระอาจารย์ธวัชชัย สุตธิมาโม วัดป่าน้ำตกจำปาทอง จ.พะเยา หลังจากนี้สักระยะจะมีการจัดแบ่งอัฐิอังคารหลวงตามหาบัว ออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือการคัดสรรอัฐิอังคารขององค์หลวงตาส่วนที่สมบูรณ์และสวยที่สุด บรรจุไว้ในผอบทองคำหนัก 1 กิโลกรัม เพื่อเตรียมไว้บรรจุในเจดีย์ที่อาจจะมีการจัดสร้างขึ้นในอนาคต ให้ญาติธรรมประชาชนได้กราบสักการะ รำลึกถึงพระคุณขององค์หลวงตา ซึ่งผอบที่ทำด้วยทองคำดังกล่าวทางลูกศิษย์ลูกหาขององค์หลวงตาเป็นผู้จัดทำขึ้นด้วยความศรัทธา สำหรับอัฐิอังคารอีกส่วนที่เหลือก จะแบ่งมอบให้กับวัดป่าต่างๆ ทั่วประเทศที่พระลูกศิษย์หลวงตาไปปกครอง หรือวัดป่าที่องค์หลวงตามหาบัวเคยไปตั้งกองทุนผ้าป่าทองคำช่วยชาติไว้ก่อนหน้านี้ เพื่อให้ญาติธรรมในพื้นที่นั้นๆ ได้สักการบูชาและรำลึกถึงคำเทศนาสั่งสอนของท่าน
นายกฯ-นำครม.ร่วมพิธี
กระทั่งเวลา 14.00 น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เดินทางมาถึงวัดป่าบ้านตาด เพื่อร่วมพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขารหลวงตามหาบัว โดยมีสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง 11 เป็นแม่ข่ายถ่ายทอดสดงานพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขารไปทั่วประเทศ รวมทั้งมีการถ่ายทอดเสียงผ่านทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยทุกเครือข่าย รวมถึงสถานีวิทยุชุมชนท้องถิ่น และเคเบิลทีวีเพื่อรายงานให้คนไทยทั่วประเทศได้รับทราบอย่างทั่วถึงพร้อมกัน
พระราชินีเสด็จฯถึงวัด
เมื่อเวลา 17.15 น. สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งถึงวัดป่าบ้านตาด โดยตลอดสองฟากฝั่งเส้นทางเข้าวัดป่าบ้านตาด ได้มีพสกนิกรโบกธงชาติและธงตราสัญลักษณ์ พร้อมเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกระหึ่มกึกก้องตลอดเวลา การนี้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ โดยเสด็จในการนี้ด้วย พร้อมกันนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายคมสัน เอกชัย ผวจ.อุดรธานี พลโทธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 พล.ท.ธวัช สุกปลั่ง ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 3 เฝ้าฯรับเสด็จทรงทอดผ้าไตรบนจิตกาธาน ในเวลา 17.20 น. สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ เข้าประทับพระราชอาสน์ จากนั้นทรงพระดำเนินขึ้นเมรุ (ชั่วคราว) ทรงทอดผ้าไตร 10 ไตรบนจิตกาธานรอบโกศสรีระสังขาร ที่ถูกตกแต่งโดยฝีมือฝ่ายพัฒนาบุคลากร ด้านศิลปะจากสำนักพระราชวัง และโรงเรียนช่างฝีมือในวังชาย โดยใช้ฝีมือบรรจงแต่งดอกไม้สด ประกอบด้วยดอกรักและดอกกล้วยไม้สีขาว มาร้อยถักตาข่าย สื่อถึงความบริสุทธิ์ของพระกัมถาร นอกจากนี้ยังบรรจงแกะสลักดอกไม้อ่อนประเภทผัก ผลไม้ เป็นรูปดอกบัวสีขาว รวมถึงการใช้เนื้อมะละกอแกะเป็นกลีบบัว ประกอบกันเป็นดอกบัว จำนวน 50 ดอก และมีการแทงหยวกกล้วยประดับตกแต่งโดยรอบจิตกาธาน ซึ่งกางกั้นด้วยกลดประดับดอกไม้ประเภทดอกพุทธ ดอกจำปา และดอกบัว ซึ่งพุทธศาสนิกชนร่วมแรงร่วมใจกันทำด้วยจิตศรัทธา
พระสมณศักดิ์สวดบังสุกุล
จากนั้นพระราชาคณะ พระสงฆ์สมณศักดิ์ 10 รูป ประกอบด้วย สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดสัมพันธวงศ์, สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ วัดราชบพิธฯ, สมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศวิหาร, พระพรหมวชิรญาณ วัดยานนาวา, พระพรหมมุนี วัดราชบพิธฯ, พระธรรมวราภรณ์ วัดเครือวัลย์, พระธรรมเจติยาจารย์ วัดพระศรีมหาธาตุ, พระธรรมบัณฑิต วัดพระรามเก้ากาญจนาภิเษก, พระธรรมดิลก วัดป่าแสงอรุณ จ.ขอนแก่น, และพระญาณสิทธาจารย์ วัดสามัคคีอุปถัมภ์ จ.หนองคาย ขึ้นสวดบังสุกุลที่รอบโกฏิสรีระสังขาร พิจารณาผ้าไตร
ทรงพระราชทานเพลิง
ลำดับนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงหยิบกระทงข้าวตอกดอกไม้จากเจ้าพนักงานพระราชพิธีวางข้างโกศสรีระสังขาร ทรงหยิบธูปเทียนดอกไม้จันทน์ จากเจ้าพนักงานพระราชพิธี ทรงจุดไฟที่โคมตำรวจวังชูถวาย พระราชทานเพลิง ชาวพนักงานประโคมปี่ กลองชนะ ทรงพระดำเนินลงจากเมรุ ไปประทับพระราชอาส์นตามเดิม จากนั้นเวลา 17.28 น. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ประทับรถเข็นพระที่นั่ง เสด็จขึ้นสู่เมรุเพื่อทรงวางธูปเทียนดอกไม้จันทน์ รอบโกศศพ การนี้พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ โดยเสด็จด้วยพร้อมทรงวางดอกไม้จันทน์ตามลำดับ
ทรงพูดคุยกับโยมน้องสาว
ในเวลา 17.30 น.พระเถระชั้นผู้ใหญ่และพระสงฆ์ที่ใกล้ชิด หลวงตามหาบัว ประกอบด้วย พระเถระ 52 รูป และพระสงฆ์ที่จำพรรษาวัดป่าบ้านตาดจำนวน 61 รูป รวม 113 รูป ขึ้นสู่เมรุเพื่อวางไม้จิก ซึ่งตามความโบราณการใช้ไม้จิกเป็นเชื้อเพลิง มีความเชื่อว่าอัฐิจะออกเป็นสีขาวนวล ระหว่างที่พระเถระชั้นผู้ใหญ่ขึ้นไปวางไม้จิกบนเมรุนั้น สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถทรงมีพระราชปฎิสันธารอย่างใกล้ชิดกับ คุณยายจันดี โลหิต ผู้เป็นโยมน้องสาววัยประมาณ 80 ปีของหลวงตามหาบัว
นายกฯนำคณะวางไม้จิก
จากนั้นเวลา 17.35 น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นำคณะรัฐมนตรีประกอบด้วย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ นายกรณ์ จาติกวณิช นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ นายสุวิทย์ คุณกิตติ ขึ้นไปยังเมรุเพื่อวางไม้จิกประชุมเพลิง นอกจากนี้ยังมี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี พร้อมด้วยท่านผู้หญิงจิตรวดี จุลานนท์ ภริยา นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย พร้อมด้วยท่านผู้หญิงสุธาวัลย์ เสถียรไทย ภริยา นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการการธนาคารแห่งประเทศไทย ตลอดจนศิษยานุศิษย์ ทยอยขึ้นวางไม้จิกประชุมเพลิงด้วยจิตศรัทธาและความเคารพในหลวงตามหาบัว
เสด็จกลับพระตำหนัก
ต่อมาเวลา 17.45 น. สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ ประทับรถยนต์พระที่นั่งไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 23 เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่งไปยังท่าอากาศยานกองบัญชาการกองทัพอากาศ เสด็จฯ กลับพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต โดยก่อนเสด็จฯ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงใช้พระหัตถ์สัมผัสพระพาหุ (ต้นแขน) ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี
สุดอาลัยน้ำตาท่วมวัด
ภายหลังจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯกลับแล้ว ทางคณะสงฆ์สายธรรมยุติได้ทยอยขึ้นไปวางไม้จิก กระทั่งเวลา 18.00 น. จึงประชุมเพลิงตามกำหนดเวลา ท่ามกลางศิษยานุศิษย์และประชาชนที่อยู่ในบริเวณวัดป่าบ้านตาด ต่างพากันไว้อาลัย พนมมือสาธุ นั่งสงบนิ่งตั้งจิตอธิษฐาน สวดส่งดวงวิญญาณให้ขึ้นสู่สรวงสวรรค์ นอกจากนี้หลายคนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ รอบบริเวณเมรุ ซึ่งมีโอกาสเห็นการประชุมเพลิงอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา พอเปลวไฟลุกโชนกลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นท้องฟ้า ทั้งประชาชนและพระภิกษุบางรูปก็ถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหว ร้องไห้น้ำตารินเป็นจำนวนมาก บรรยากาศช่วงค่ำจึงเต็มไปด้วยความโศกเศร้าอาลัย
ปาฏิหาริย์ปรากฏดวงไฟ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.00 น. ขณะพระราชทานเพลิงศพหลวงตามหาบัว (เผาจริง) ควันไฟได้พวยพุ่งจากเมรุเป็นสีขาวนวล มีรูปร่างคล้ายดอกบัวลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า ขณะเดียวกันท้องฟ้าภายในบริเวณวัดเปล่งรัศมีเป็นสีทอง และมีดวงไฟขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นเหนือเมรุนานประมาณ 10 วินาที ก่อนจะหายวับไป สร้างความอัศจรรย์ใจให้กับสาธุชนนับล้านคนที่อยู่ในพิธี ต่างพากันก้มกราบ 3 ครั้ง พร้อมกล่าวสาธุ 3 ครั้ง โดยต่างเชื่อว่าเป็นบุญบารมีของหลวงตาที่แสดงปาฏิหาริย์ให้ญาติธรรมเห็นเป็นครั้งสุดท้าย ขณะที่สรรพสัตว์ในวัดป่าบ้านตาด เช่น นกยูง ไก่ฟ้า กระรอก ที่มาอาศัยในบริเวณวัดต่างส่งเสียงร้องระงม ประหนึ่งร่วมอาลัยต่อการจากไปของหลวงตามหาบัวด้วย
สื่อนอกตีข่าวแพร่ทั่วโลก
ด้านสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานข่าวเผยแพร่ไปทั่วโลกในวันเดียวกันนี้ว่า ประชาชนผู้มีจิตศรัทธาจำนวนมากเดินทางไปร่วมพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขาร หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี หนึ่งในพระเกจิอาจารย์ที่ได้รับความเคารพนับถือจากพุทธศาสนิกชนในประเทศไทย ซึ่งได้ละสังขารไปเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา รายงานข่าวระบุว่า ยังคงมีประชาชนร่วมบริจาคทองคำและเงินหลายล้านดอลลาร์เข้าคลังหลวงเป็นกองทุนช่วยชาติ และตำรวจประเมินว่ามีประชาชนมาร่วมพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขารของหลวงตามหาบัวประมาณ 5 แสนคน โดยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนารถ เสด็จพระราชดำเนินเป็นประธานประกอบพิธี
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=561&contentID=125099