ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: เมษายน 04, 2011, 08:35:17 am »
กลายเป็นอีก 1 ที่พึ่งไปแล้วสำหรับงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งนี้ โดยเฉพาะหนังสือที่่เกี่ยวกับการให้กำลังใจและหนังสือธรรมะ ซึ่งเห็นทีจะเป็นพระเอกเสียแล้ว...
ยังคงอยู่ในช่วงที่ประเทศไทย ไม่พ้นเรื่องวุ่นวายเสียที ปีนี้ว่าเรื่องปัญหาการเมืองจะดูไม่ร้อนแรงเหมือนปีก่อน แต่ก็ดันมาเจอเรื่องภัยธรรมชาติที่มาแบบไม่ทันตั้งตัว อีกทั้งยังเรื่องปัญหาสังคมอื่นๆ ที่มีไม่รู้จักหมดสิ้น ซึ่งก็ทำให้หลายๆ คนรู้สึกหมดกำลังใจ ท้อถอยกับสิ่งที่ต้องเจอ แต่ถึงอย่างไรก็แล้วแต่ สิ่งที่ทำให้อย่างเดียวในตอนนี้ก็คือทำใจ และพยายามอยู่กับมันให้ได้คงเป็นทางออกที่ดีที่สุด ซึ่งใครที่กำลังหดหู่อยู่กับตัวเองจนมีความคิดฟุ้งซ่าน บางทีถ้าลองได้อ่านหนังสือที่มีข้อคิดสักเล่ม ก็สามารถเป็นที่พึ่งทางจิตใจที่ดีได้เหมือนกัน
งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติก็เหลืออีกไม่กี่วันแล้ว ที่บรรดาหนอนนักอ่านจะได้ไปหาซื้อหนังสือเล่มโปรดกัน ปีนี้สังเกตได้ชัดว่าส่วนใหญ่บรรดาคนที่มาในงาน เริ่มหันมาสนใจหนังสือที่มีเนื้อหาการให้กำลังใจตัวเองกันมากขึ้น อาจเพราะด้วยสภาพสังคมในปัจจุบัน อีกทั้งยังภัยธรรมชาติที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ อย่างเช่นครอบครัวนี้ ที่มากันอย่างอบอุ่นแบบแม่ลูก คุณสุพรรณแข สมะลาภา สองมือไม่ว่างเพราะต้องจูงลูกชายและลูกสาวมาหาซื้อหนังสือเพื่อฝึกให้ลูกๆ รักการอ่าน แต่เจ้าตัวก็ไม่ลืมที่จะหาหนังสือธรรมะมาด้วย
"มีงานสัปดาห์หนังสือทีไรก็พาลูกๆ มาตลอดค่ะ หลักๆที่ซื้อก็เป็นหนังสือที่ให้ลูกๆอ่านพวกการ์ตูนที่สอดแทรกความรู้ ส่วนตัวเองช่วงนี้จะเน้นหนักเรื่องหนังสือเกี่ยวกับการดูแลลูก จะได้เข้าใจพฤติกรรมเขามากขึ้นด้วย นอกจากนี้แล้วก็จะเป็นหนังสือธรรมะค่ะที่อ่านเป็นประจำ โดยเฉพาะของคุณดังตฤณ เขาเขียนเชิงสมัยใหม่ดี อ่านแล้วไม่เบื่อ บางทีลูกๆก็อ่านด้วย จะได้เป็นการปลูกฝังเขาอีกทาง สอนให้เขารู้จักเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์ ว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ดังนั้นเรื่องไหนที่เป็นนาคตข้างหน้าก็อย่าไปคิดมาก แค่เตรียมตัวไว้ก็พอแล้วค่ะ"
ด้านสาวสวยคุณอุ้ม-จิรพรรณ สนแจ้ง สาวช่างฝันที่ชื่นชอบกับการอ่านนิยายเป็นชีวิตจิตใจ แต่ก็ไม่เคยปิดกั้นตัวเองที่จะหาหนังสือธรรมะมาอ่านกับเขาเหมือนกัน
"จริงๆวันนี้นอกจากมาดูนิยายไปอ่านแล้ว ก็มีหนังสือธรรมะด้วยค่ะ เพราะรู้สึกว่าอ่านแล้วทำให้คิด และเข้าใจชีวิตได้มากขึ้น อย่างหนังสือของท่าน ว. วชิรเมธี ซึ่งท่านสนทนาธรรมกับช่างแต่งหน้าของเมืองไทย (พี่เป็ด-อภิชาติ นรเศรษฐาภรณ์) จะชอบมาก ใช้ภาษาอ่านง่าย และดำเนินเรื่องสนุกดี และเป็นอะไรที่ใกล้ตัวกับชีวิตตัวเอง เพราะยังไงแล้วการเดินทางสายกลางเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้วค่ะ ไม่ว่าจะต้องเจอปัญหารูปแบบไหนก็ตาม"
มาที่สาวลำปางที่วันนี้เจาะจงมาซื้อการให้กำลังใจโดยเฉพาะ น้องหทัยชนก วรมงคล ซึ่งเธอบอกว่าอ่านหนังสือประเภทนี้มานานมากแล้ว และล่าสุดก็โปรดปรานหนังสือชีวิตนี้ไม่มีทางตัน
"ส่วนใหญ่เวลามาจะซื้อพ็อกเก็ตบุ๊คส์ และหนังสือให้กำลังใจค่ะ โดยเฉพาะที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับชีวิตผู้เขียน อย่างเรื่องล่าสุดที่ชอบมากๆก็ชีวิตนี้ไม่มีทางตันค่ะ อ่านแล้วรู้สึกว่าคนเขียนเขามีวิธีคิดที่แตกต่างจากคนอื่นๆ เป็นคนที่แก้ไขปัญหาตัวเองได้เก่ง อ่านแล้วก็ได้ข้อคิดเอามาให้กำลังใจตัวเองได้เสมอ ว่าปัญหามันมีทางออกเสมอ เพราะตัวหนูก็ยังอยู่ในวัยเรียนด้วย"
มาทางด้านกลุ่มน้องๆ ที่เพิ่งเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยหมาดๆ ซึ่งวันนี้มาซื้อหนังสือ Cook Book เพราะชอบทำอาหารกันมาก แต่นอกจากนั้นก็จะซื้อหนังสือที่ให้กำลังใจ หรือเชิงปรัชญามาอ่านด้วยเหมือนกัน
"วันนี้มาซื้อหนังสือทำอาหาร นิยายแปล แต่ที่เจาะจงมาวันนี้เลยก็มาดูของนิ้วกลมด้วยค่ะ เพราะเคยอ่านของเขามา 2 เรื่องแล้ว อย่างเรื่องความสุขโดยสังเกต และสิ่งมหัศจรรย์ธรรมดา เป็นเรื่องที่อ่านแล้วทำให้มีความสุขได้เลยนะคะ สอนให้รู้จักมองสิ่งเล็กๆ ที่คนอื่นอาจคิดว่าไม่มีค่า ให้มันกลายเป็นสิ่งที่เพิ่มรอยยิ้มให้กับเราได้ หนูว่าอ่านง่ายดี อาจไม่ใช่หนังสือที่สอนชัดเจนในเรื่องธรรมะ แต่ความหมายที่คนเขียนเขาอยากสื่อสารออกมามันก็คือเรื่องเดียวกัน"
ท้ายสุดที่น้องจรัชยา พวงดี สาวจากรั้วมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่เพิ่งจบปริญญาตรี วันนี้มาหาซื้อหนังสือภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมสอบภาษา ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าไม่ค่อยอ่านหนังสือธรรมะเท่าไรนัก แต่ก็มีหนังสือที่ช่วยให้กำลังใจ และคลายเครียดที่ตัวเองชอบเหมือนกัน ก็คือหนังสือการ์ตูน
"ปกติถ้าไม่ใช่หนังสือเรียน เวลารู้สึกไม่สบายใจ ก็จะอ่านหนังสือการ์ตูนค่ะ อย่างเรื่องโคนัน โดเรมอน หนูว่ามันไม่ใช่หนังสือธรรมะก็จริงนะ แต่บางช่วง บางตอนมันก็มีสาระ ให้ข้อคิดเหมือนกัน และมันก็เพลินดีด้วยค่ะ อย่างน้อยก็ทำให้ยิ้ม และขำได้".
http://www.thairath.co.th/content/life/160810