ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: เมษายน 14, 2011, 04:52:00 pm »หญิงสาวผู้มี 17 คนในร่างเดียว
ในทีแรก คาเรน โอเวอร์ฮิลล์ (Karen Overhill) เข้ารับการรักษาจากจิตแพทย์ของเธอด้วยอาการหดหู่ซึมเศร้า แต่ไม่นานต่อมาเธอก็พูดถึงการถูกทำร้ายในวัยเด็ก และอาการความจำเสื่อมของเธอ เธอบอกว่าเธอมักจะไม่รู้ว่าจู่ๆเธอมาที่นี่ได้อย่างไร
จิตแพทย์ของเธอสังเกตอาการอยู่ถึงสี่ปี จนกระทั่งวันหนึ่งที่มีจดหมายจากคาเรนจ่าหน้าซองถึงเขา และเขียนด้วยลายมือเด็ก
"หนูชื่อแคลร์ หนูอายุเจ็ดขวบ และหนูอาศัยอยู่ภายในตัวของคาเรน"
นี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวความแปลกประหลาดทางจิตวิทยาของหญิงที่เป็นโรคบุคลิกภาพแตกแยก หรือ Dissociation identity disorder (DID) เธอได้บอกเล่าถึง "คนอื่น" ทั้งหญิง ชาย และเด็ก รวมทั้งหมด 17 คนที่อาศัยอยู่ในจิตใจของเธอ ทั้ง 17 คนต่างมีบุคลิกภาพ ประวัติส่วนตัว ปัญหาทางจิต รวมไปถึงลายมือที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ซึ่งแม้แต่จิตแพทย์ของเธอต้องทำความรู้จักกับบุคลิกทั้ง 17 ตัวตนของเธอระหว่างการรักษา
อาการบุคลิกภาพแตกแยกนั้นมักจะถูกมองว่าเป็นเพียงอาการทางประสาทธรรมดาๆ อย่างหนึ่ง ซึ่งเกิดจากการต้องการเรียกร้องความสนใจของสังคม นอกจากนี้กรณีของผู้ที่มีอาการนี้อย่างชัดเจนก็ยังพบได้ยากเสียจนไม่สามารถ จะศึกษาถึงสาเหตุที่แท้จริงได้ แต่ในกรณีของคาเรนและบุคลิกทั้งสิบเจ็ดของเธอนั้นเป็นกรณีที่โดดเด่นมาก เนื่องจากสิ่งที่เธอแสดงออกมานั้นเกินกว่าที่ใครจะคิดได้ว่าเป็นเพียงการ แสดงเรียกร้องความสนใจ
สมมติฐานหนึ่งที่คาดว่าจะเป็นต้นตอของอาการบุคลิกภาพแตกแยกนี้คือการถูกทำ ร้ายทางจิตใจอย่างรุนแรงในวัยเด็ก จนจิตใจสร้าง"ตัวตน"อีกตัวตนหนึ่งขึ้นมาเพื่อรับมือกับความเสียหายทางจิต อย่างไรก็ตาม กลไกของการสร้างบุคลิกภาพนั้นยังคงเป็นสิ่งที่มืดแปดด้านสำหรับวง การจิตวิทยา
ในกรณีของคาเรนนั้นอาจเรียกได้ว่าตรงกับสมมติฐานนี้อย่างชัดเจน ในวัยเด็กของเธอนั้นถูกทำร้ายจากปู่และพ่อของเธอที่นับถือลัทธิพิสดาร และยังถูกล่วงละเมิดทางเพศอีกด้วย จึงไม่แปลกใจนักที่จิตใจของเธอจะ "แตกเป็นเสี่ยง" จากประสบการณ์ในวัยเด็ก และรอยแตกนี้ยังส่งผลกระทบมาจนถึงในวัยผู้ใหญ่ด้วย
บุคลิกภาพแต่ละบุคลิกภาพของเธอนั้นถูกสร้างขึ้นเพื่อ "แบ่งแยก" ความทรงจำของเธอออกเป็นส่วนๆ คล้ายกับเป็นหนังคนละม้วน จิตแพทย์ของเธอได้บันทึกจากการบอกเล่าของเธอว่า บุคลิกภาพ "แคลร์" ซึ่งเป็นเด็กเจ็ดขวบจะปรากฏขึ้นในขณะที่เธอถูกปลุกจากเตียงกลางดึกเพื่อ "เข้าพิธีกรรม" ในขณะที่เธอกำลังถูกทำร้าย บุคลิกภาพ
"ไมลส์" ซึ่งเป็นเด็กผู้ชายจะเข้ามาแทนที่เพื่อปิดกั้นตัวตนของเธอออกจากความเจ็บปวด ที่ได้รับ ในเช้าวันรุ่งขึ้น เธอจะกลายเป็น "เอ ลิเซ่" ที่ทำตัวปรกติธรรมดาเมื่ออยู่ที่โรงเรียน และเมื่อกลับมาบ้าน เธอจะกลายเป็น "ซิดนีย์" ซึ่งสามารถอยู่กับพ่อของเธอได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อเธอโตเป็นผู้ใหญ่ เธอยังสร้างตัวตนของ"แค ทเธอรีน" และ "โฮลดอน" ซึ่งเป็นบุคลิกภาพของผู้ใหญ่ที่เธอได้รับจากซิทคอมทีวี บุคลิกภาพเหล่านี้ล้วนแต่เป็นเอกเทศ และเมื่อบุคลิกของเธอเปลี่ยนจากคนหนึ่งไปอีกคนหนึ่ง เธอจะไม่รับรู้เรื่องราวว่าก่อนหน้านี้เธอทำอะไรไว้เลย
เป็นโชคดีสำหรับคาเรนที่จิตแพทย์ของเธอทุ่มเทเวลาถึงสิบเจ็ดปีในการพยายาม รวมบุคลิกภาพทั้ง 17 บุคลิกภาพเข้าด้วยกันให้เป็น "คาเรน" แม้ว่ายังคงต้องอาศัยการบำบัดทางจิตอีกหลายปี แต่คาเรนก็สามารถใช้ชีวิตได้เช่นคนทั่วไป มีอารมณ์และความทรงจำที่เป็นหนึ่งเดียวมากขึ้น
แต่เหนือสิ่งอื่นใด การกลับมาเป็นตัวเองอีกครั้งของคาเรนคงเป็นสิ่งที่เธอและคนทั้งสิบเจ็ดในตัว เธอปรารถนามานาน
ที่มาของเรื่อง : newsweek (Oct 29, 2007)
http://koykoykoykoy.blogspot.com/2010/03/17.html
จิตแพทย์ของเธอสังเกตอาการอยู่ถึงสี่ปี จนกระทั่งวันหนึ่งที่มีจดหมายจากคาเรนจ่าหน้าซองถึงเขา และเขียนด้วยลายมือเด็ก
"หนูชื่อแคลร์ หนูอายุเจ็ดขวบ และหนูอาศัยอยู่ภายในตัวของคาเรน"
นี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวความแปลกประหลาดทางจิตวิทยาของหญิงที่เป็นโรคบุคลิกภาพแตกแยก หรือ Dissociation identity disorder (DID) เธอได้บอกเล่าถึง "คนอื่น" ทั้งหญิง ชาย และเด็ก รวมทั้งหมด 17 คนที่อาศัยอยู่ในจิตใจของเธอ ทั้ง 17 คนต่างมีบุคลิกภาพ ประวัติส่วนตัว ปัญหาทางจิต รวมไปถึงลายมือที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ซึ่งแม้แต่จิตแพทย์ของเธอต้องทำความรู้จักกับบุคลิกทั้ง 17 ตัวตนของเธอระหว่างการรักษา
อาการบุคลิกภาพแตกแยกนั้นมักจะถูกมองว่าเป็นเพียงอาการทางประสาทธรรมดาๆ อย่างหนึ่ง ซึ่งเกิดจากการต้องการเรียกร้องความสนใจของสังคม นอกจากนี้กรณีของผู้ที่มีอาการนี้อย่างชัดเจนก็ยังพบได้ยากเสียจนไม่สามารถ จะศึกษาถึงสาเหตุที่แท้จริงได้ แต่ในกรณีของคาเรนและบุคลิกทั้งสิบเจ็ดของเธอนั้นเป็นกรณีที่โดดเด่นมาก เนื่องจากสิ่งที่เธอแสดงออกมานั้นเกินกว่าที่ใครจะคิดได้ว่าเป็นเพียงการ แสดงเรียกร้องความสนใจ
สมมติฐานหนึ่งที่คาดว่าจะเป็นต้นตอของอาการบุคลิกภาพแตกแยกนี้คือการถูกทำ ร้ายทางจิตใจอย่างรุนแรงในวัยเด็ก จนจิตใจสร้าง"ตัวตน"อีกตัวตนหนึ่งขึ้นมาเพื่อรับมือกับความเสียหายทางจิต อย่างไรก็ตาม กลไกของการสร้างบุคลิกภาพนั้นยังคงเป็นสิ่งที่มืดแปดด้านสำหรับวง การจิตวิทยา
ในกรณีของคาเรนนั้นอาจเรียกได้ว่าตรงกับสมมติฐานนี้อย่างชัดเจน ในวัยเด็กของเธอนั้นถูกทำร้ายจากปู่และพ่อของเธอที่นับถือลัทธิพิสดาร และยังถูกล่วงละเมิดทางเพศอีกด้วย จึงไม่แปลกใจนักที่จิตใจของเธอจะ "แตกเป็นเสี่ยง" จากประสบการณ์ในวัยเด็ก และรอยแตกนี้ยังส่งผลกระทบมาจนถึงในวัยผู้ใหญ่ด้วย
บุคลิกภาพแต่ละบุคลิกภาพของเธอนั้นถูกสร้างขึ้นเพื่อ "แบ่งแยก" ความทรงจำของเธอออกเป็นส่วนๆ คล้ายกับเป็นหนังคนละม้วน จิตแพทย์ของเธอได้บันทึกจากการบอกเล่าของเธอว่า บุคลิกภาพ "แคลร์" ซึ่งเป็นเด็กเจ็ดขวบจะปรากฏขึ้นในขณะที่เธอถูกปลุกจากเตียงกลางดึกเพื่อ "เข้าพิธีกรรม" ในขณะที่เธอกำลังถูกทำร้าย บุคลิกภาพ
"ไมลส์" ซึ่งเป็นเด็กผู้ชายจะเข้ามาแทนที่เพื่อปิดกั้นตัวตนของเธอออกจากความเจ็บปวด ที่ได้รับ ในเช้าวันรุ่งขึ้น เธอจะกลายเป็น "เอ ลิเซ่" ที่ทำตัวปรกติธรรมดาเมื่ออยู่ที่โรงเรียน และเมื่อกลับมาบ้าน เธอจะกลายเป็น "ซิดนีย์" ซึ่งสามารถอยู่กับพ่อของเธอได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อเธอโตเป็นผู้ใหญ่ เธอยังสร้างตัวตนของ"แค ทเธอรีน" และ "โฮลดอน" ซึ่งเป็นบุคลิกภาพของผู้ใหญ่ที่เธอได้รับจากซิทคอมทีวี บุคลิกภาพเหล่านี้ล้วนแต่เป็นเอกเทศ และเมื่อบุคลิกของเธอเปลี่ยนจากคนหนึ่งไปอีกคนหนึ่ง เธอจะไม่รับรู้เรื่องราวว่าก่อนหน้านี้เธอทำอะไรไว้เลย
เป็นโชคดีสำหรับคาเรนที่จิตแพทย์ของเธอทุ่มเทเวลาถึงสิบเจ็ดปีในการพยายาม รวมบุคลิกภาพทั้ง 17 บุคลิกภาพเข้าด้วยกันให้เป็น "คาเรน" แม้ว่ายังคงต้องอาศัยการบำบัดทางจิตอีกหลายปี แต่คาเรนก็สามารถใช้ชีวิตได้เช่นคนทั่วไป มีอารมณ์และความทรงจำที่เป็นหนึ่งเดียวมากขึ้น
แต่เหนือสิ่งอื่นใด การกลับมาเป็นตัวเองอีกครั้งของคาเรนคงเป็นสิ่งที่เธอและคนทั้งสิบเจ็ดในตัว เธอปรารถนามานาน
ที่มาของเรื่อง : newsweek (Oct 29, 2007)
http://koykoykoykoy.blogspot.com/2010/03/17.html