ศิลปิน พานทอง แสนจันทร์
พระสูตรสัทธรรมปุณฑรีกะวัดโพธิ์แมนคุณาราม
นายชะเอม แก้วคล้าย แปลจากต้นฉบับสันสกฤต บทที่ 10
ธรรมภาณกปริวรรต
ว่าด้วยผู้สอนธรรม ขณะนั้น พระผู้มีพระภาคตรัสกับพระโพธิสัตว์ 8 หมื่นองค์ โดยปรารภพระโพธิสัตว์มหาสัตว์ไภษัชยราชว่า "ดูก่อนไภษัชยราช ในบริษัทนี้ ท่านจงมองดู เทพ นาค ยักษ์ คนธรรพ์ อสูร ครุฑ กินนร มโหรคะ มนุษย์ อมนุษย์ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ผู้เป็นสาวกยาน ปัจเจกพุทธยาน และโพธิสัตวยาน จำนวนมาก ใครเล่า ได้ฟังคำบรรยายนี้ ต่อเบื้องพระพักตร์ของพระตถาคต (พระไภษัชยราชโพธิสัตว์) กราบทูลว่า "ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ข้าพระองค์ย่อมเห็น ข้าแต่พระสุคต ข้าพระองค์ย่อมเห็น พระผู้มีพระภาคจึงตรัสว่า "ดูก่อนไภษัชยราช ได้ยินว่า พระโพธิสัตว์มหาสัตว์ทั้งปวง ที่อยู่ในบริษัทนี้ มีใครบ้าง ที่เคยสดับแม้คาถาหนึ่ง บทหนึ่ง หรือแม้ผู้ที่เคยอยู่มาก่อน ใครบ้างที่ได้สดับพระสูตรนี้แล้วยังจิตดวงหนึ่ง ให้เกิดขึ้นด้วยความยินดี ดูก่อนไภษัชยราย เราจักกระทำบริษัท 4 เหล่านี้ทั้งหมด ไว้ในอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ดูก่อนไภษัชยราช เขาทั้งหลายบางพวก จักได้สดับการบรรยายธรรมเช่นนี้ ของบพระตถาคต ผู้เสด็จปรินิพพานไปแล้ว แม้ได้ฟังเพียงคาถาเดียวแล้วยินดี ด้วยจิตที่เกิดขึ้นแม้เพียงครั้งเดียว ดูก่อนไภษัชยราช เราจักกระทำชนเหล่านั้น ผู้เป็นกุลบุตร กุลธิดาไว้ในสัมมาสัมโพธิญาณ ดูก่อนไภษัชยราช กุลบุตรหรือกุลธิดาเหล่านั้น จักได้เป็นผู้บูชาพระพุทธเจ้า จำนวนพันร้อยหมื่นโกฏิอย่างสมบูรณ์ ดูก่อนไภษัชยราช กุลบุตรหรือกุลธิดาทั้งหลายเหล่านั้น จักตั้งประณิธานต่อพระพุทธเจ้าจำนวนร้อยพันหมื่นโกฏิ เพราะความอนุเคราะห์ต่อสัตว์ทั้งหลายพึงทราบเถอะว่า เขาเหล่านั้นจะเกิดเป็นมนุษย์ในชมพูทวีปอีก
ถ้าเขาได้ทรงจำ ท่อง เผยแพร่รวบรวม และจารึกไว้แม้เพียงคาถาเดียว จากธรรมบรรยายนี้ ครั้นจารึกแล้วจะระลึกถึงและพิจารณาตามกาลเวลา เขาทั้งหลาย จักยังความเคารพในพระตถาคตให้เกิดขึ้น จักสักการะด้วยความเคารพในพระศาสดา และจักทำความเคารพนับถือบูชาในคัมภีร์เล่มนี้ เขาเหล่านั้นจักบูชาคัมภีร์นั้นด้วยดอกไม้ ธูป พวงมาลัย ผงลูบไล้ จีวร ฉัตร และธงปฏาก เป็นต้น และด้วยกรรมคือการกราบไหว้ ดูก่อนไภษัชยราช กุลบุตรหรือกุลธิดาเหล่าใด จักทรงจำหรือยินดีแม้เพียงคาถาเดียว จากธรรมบรรยายนี้ ดูก่อนไภษัชยราช เราจักกระทำซึ่งกุลบุตรเหล่านั้นทั้งหมด ให้ดำรงอยู่ในอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ
ดูก่อนไภษัชยราช หากบุรุษหรือสตรีคนใดก็ตามพึงกล่าวว่า "สัตว์ทั้งหลายผู้เป็นเช่นไร จักเป็นพระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคต ดูก่อนไภษัชยราช กุลบุตรหรือกุลธิดา ที่บุรุษหรือสตรีนั้น พึงดูเป็นตัวอย่างคือ บุคคลใดทรงจำ สวด สอนซึ่งคาถาที่มีเพียง 4 บาท จากธรรมบรรยายนี้ ผู้นั้นเป็นผู้เคารพในคำบรรยายนี้ กุลบุตรหรือกุลธิดานี้นั้นจักได้เป็นพระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคต ท่านจงดูเถิด ข้อนั้นเป็นเพราะเหตุไร ดูก่อน ไภษัชยราช เพราะกุลบุตรหรือกุลธิดานั้น อันชาวโลกรวมทั้งเทวโลกพึงทราบว่า คือพระตถาคต บุคคลพึงสักการะต่อพระตถาคตด้วยประการฉะนี้ สาวกใดพึงจดจำ แม้เพียงคาถาเดียวจากธรรมบรรยายนี้ ยิ่งกว่านั้น พระสาวกพึงรวบรวม จดจำ ท่อง เผยแพร่ ประกาศ จารึก ให้จารึกซึ่งธรรมบรรยายนี้ ที่เข้าใจแล้วทั้งหมด(ที่บรรลุแล้วทั้งหมด) ครั้นจารึกแล้วพึงพิจารณาอยู่เสมอ เขาพึงทำความเคารพ สักการะ นับถือ บูชา นอบน้อมในพระสูตรนั้น ด้วยการสักการะ ด้วยดอกไม้ ธูป คันธมาลา ผงเครื่องลูบไล้ จีวร ฉัตร ธงปฏาก เครื่องดนตรี และนอบน้อมด้วยการอัญชลี ดูก่อนไภษัชยราช กุลบุตรหรือกุลธิดาเช่นนี้พึงทราบว่า เป็นผู้สมบูรณ์(ถึงพร้อม) ในอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ และถึงทราบว่า เป็นผู้พบเห็นพระตถาคคต เขาเป็นผู้อนุเคราะห์ประโยชน์แก่ชาวโลก จึงเกิดในชมพูทวีปนี้
ด้วยอำนาจของประณิธานนั้น เพื่อประกาศธรรมบรรยายนี้ แก่มนุษย์ทั้งหลาย บุคคลใด ยังมีความเอื้อเฟื้อของตน ความเอื้อเฟื้อในการสักการะ ต่อพระธรรมและการเข้าถึงพุทธเกษตรให้เกิดขึ้น ครั้นเมื่อ เราปรินิพพานแล้วพึงทราบว่า เขาเป็นผู้เข้าถึงประโยชน์เกื้อกูลของสัตว์ทั้งหลาย และอนุเคราะห์ประโยชน์แก่มนุษย์โลกนี้ ดูก่อนไภษัชยราช กุลบุตรและกุลธิดาเช่นนี้ ที่ควรทราบว่า คือ ตัวแทนของพระตถาคต ดูก่อนไภษัชยราช พึงทราบว่ากุลบุตรและกุลธิดาผู้นั้น เป็นผู้ได้พบพระตถาคต และได้ทำความเคารพพระตถาคตแล้ว ผู้ใดประกาศธรรมบรรยายนี้ ของพระตถาคตผู้ปรินิพพานแล้ว แม้กระทั่ง พึงประกาศหรือกล่าวแก่สัตว์เพียงบางคน ด้วยอาการหลบซ่อนในที่ลับ(ไม่เปิดเผย)
ดูก่อนไภษัชยราช ได้ยินว่า สัตว์บางคนมีจิตทราม ชั่ว และน่ากลัว กล่าวคำคล้ายกับ ดูหมิ่น ต่อเบื้องพระพักตร์ของพระตถาคต ผู้ใดพึงได้ฟังคำหยาบ (วาจํ+อปริยำ) จะเป็นจริงหรือไม่จริงก็ตาม ของผู้สอนธรรม หรือผู้ทรงจำพระสูตรเหล่านั้น จะเป็นคฤหัสถ์หรือบรรพชิตก็ตาม เรากล่าวว่า "การกระทำอย่างนี้ เป็นบาปอย่างมหันต์ ดูก่อนไภษัชยราช เพราะเหตุไรเล่า เพราะพึงทราบว่า กุลบุตรหรือกุลธิดานั้น เป็นผู้ประดับด้วยเครื่องประดับของพระตถาคต ดูก่อนไภษัชยราช เมื่อเขานำพระตถาคตไปด้วยบ่า เขาได้คัดลอกธรรมบรรยายนี้ ทำให้เป็นหนังสือนำไปด้วยบ่า เขาก้าวไปทางใด สัตว์ทั้งหลายรวมทั้งเทวดาและมนุษย์ควรกราบไหว้เคารพ สักการะ นับถือ ยกย่อง บุชา เทิดทูนเขา ด้วยดอกไม้ ธูป คันธมาลา ผลลูบไล้ จีวร ฉัตร ธงปฏาก ดนตรี ขาทนียะ โภชนียะ ข้า น้ำ ยาน อันเลิศ และรัตนะ อันเป็นทิพย์ เขาซึ่งเป็นผู้บรรยายธรรมที่ทุกคนควรสักการะเคารพนับถือบูชา กองรัตนะอันเป็นทิพย์บุคคลพึงน้อมถวายแก่ผู้กล่าวธรรมนั้น เพราะเหตุไร เพราะผู้ใด ยังสัตว์ทั้งหลายให้ฟังธรรมบรรยายนี้ แม้เพียงครั้งเดียว สัตว์ทั้งหลาย ที่ประมาณไม่ได้ นับไม่ได้ จะตั้งอยู่ในพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณอย่างรวดเร็ว ขณะนั้นพระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระคาถาเหล่านี้ว่า1 สัตว์ทั้งหลายผู้ปรารถนา พระสวยัมภูญาณ ด้วยความปรารถนา ที่จะดำรงอยู่ในพุทธภาวะ พึงทำความเคารพ ผู้ทรงจำพระสูตรนี้ด้วย
2 ผู้ใด ปรารถนาพระโพธิญาณ แล้วคิดว่าทำอย่างไรหนอ พวกเราจะบรรลุพระโพธิญาณได้อย่างรวดเร็ว เขาควรท่องจำพระสูตรนี้ และควรเคารพบูชาผู้ทรงจำพระสูตรนี้
3 บุคคลที่พระโลกนาถส่งไป เพราะเหตุแห่งการสอน สรรพสัตว์ พึงท่องจำพระสูตรนี้ ที่มีประโยชน์เกื้อกูลแก่สัตว์ทั้งหลาย
4 บุคคลใน พึงทรงจำซึ่งพระสูตรนี้ ที่เป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่สัตว์ทั้งหลาย บุคคลนั้นผู้เป็นปราชญ์ ได้สละการอุบัติที่ดีเสีย แล้วมาสู่โลกนี้
5 บุคคลผู้สอน (กล่าว) พระสูตรอันประเสริฐนี้ ในภายหลังตามความปรารถนาที่เกิดขึ้น ย่อมเป็นที่ปรากฏในโลกนี้
6 บุคคลพึงสักการะ เคารพ ผู้กล่าวธรรม ด้วยดอกไม้ทิพย์และของหอมทั้งปวงอันเป็นของมนุษย์ พึงประดับด้วยเสื้อผ้าอันเป็นทิพย์และรัตนะทั้งหลาย
7 บุคคล พึงประคองอัญชลีเป็นนิตย์ ต่อผู้ทรงจำพระสูตรนี้ของพระตถาคต ผู้ปรินิพพานแล้ว ในกาลสุดท้ายอันน่ากลัวนี้ ราวกับว่าเขาคือพระชินเจ้าและพระสวยัมภู
8 บุคคลพึงถวายวัตถุเครื่องบูชา คือขาทนียะ โภชนียะ ข้าว น้ำ วิหาร ที่นอน ที่นั่งและผ้า(จีวร) จำนวนโกฏิ แก่พระชินบุตร ผู้กล่าวพระสูตรนี้ แม้เพียงครั้งเดียว9 ผู้ใดพึงเขียน ท่อง และฟังพระสูตรนี้ในกาลสุดท้าย ผู้นั้น เราได้ส่งมาสู่โลกมนุษย์เพื่อทำงานให้แก่พระตถาคต
10 บุคคล ผู้มีจิตวิปริต ทำหน้านิ่วคิ้วหมวด ยืนอยู่เบื้องพระพักตร์ของพระชินเจ้า พึงกล่าวคำตำหนิ จะเป็นผู้เสวยบาปกรรมอย่างหนัก ตลอดหนึ่งกัลป์เต็ม
11 บุคคลใดโกรธ พึงกล่าวคำตำหนิ ผู้ทรงจำพระสูตรที่กำลังแสดงพระสูตรนี้อยู่ เรากล่าวว่า บาปกรรมของบุคคลนั้นหนักยิ่งกว่า
12 บุคคล ผู้แสวงหาพระสัมมาสัมโพธิญาณ อันประเสริฐนี้ พึงประคองอัญชลีกล่าวสดุดีเราต่อหน้า สิ้นหนึ่งกัลป์บริบูรณ์ ด้วยคาถาจำนวนหมื่นโกฏิมิใช่น้อย
13 บุคคลผู้มีจิตยินดี สรรเสริญเรา พึงได้บุญเป็นอย่างมาก แต่บุคคล (มนุษย์) ผู้กล่าวคำสรรเสริญผู้บรรยายธรรม ย่อมได้บุญมากกว่า
14 บุคคลที่ทำการบูชา ณ ปูชนียวัตถุ ด้วยศัพท์(เสียง) รูป(กาย) รส(ของถวาย)ของหอมอันเป็นทิพย์และสัมผัสอันเป็นทิพย์ตลอด 28000โกฏิกัลป์นั้น
15 แต่ผู้ที่ได้ฟังพระสูตรนี้ แม้เพียงครั้งเดียว จะมีลาภอันประเสริฐ และยิ่งใหญ่กว่า ผู้ทำการบูชา ที่ปุชนียวัตถุสิ้น 18,000โกฏิกัลป์นั้น