ข้อความโดย: ฐิตา
« เมื่อ: มิถุนายน 14, 2011, 11:06:33 am »[๔๐๓] ได้ยินว่าพระผู้มีพระภาค ทรงกล่าวสอนนางมุตตาสิกขมานาเนืองๆ ด้วยพระคาถา
นี้ อย่างนี้ว่า
ดูกรนางมุตตา เธอจงเปลื้องจิตจากกิเลสเครื่องประกอบทั้งหลาย ดุจ
พระจันทร์ถูกราหูจับแล้วพ้นจากเครื่องเศร้าหมอง ฉะนั้น เธอมีจิตหลุด
พ้นแล้ว จงไม่มีหนี้บริโภคก้อนข้าวเถิด.
อภินิหารตัวจริง อยู่ที่จิตหลุด
http://www.oknation.net/blog/tocare/2008/04/30/entry-1
ปญฺญาย อตฺถํ ปชานาติ ความว่า บุคคลผู้เป็นพหูสูตตั้งอยู่ในสุตมยญาณ
(ญาณอันสำเร็จด้วยการฟัง) แล้วปฏิบัติอยู่ซึ่งข้อปฏิบัตินั้น ย่อมรู้และแทงตลอด
อรรถอันต่างด้วยโลกิยะและโลกุตระ จำแนกออกเป็นทิฏฐธรรมเป็นต้นและจำแนกออกโดยอริยสัจ
มีทุกขสัจเป็นต้น ด้วยการสอบสวนข้อความตามที่ได้ฟังมาและด้วยภาวนาคือการเข้าไปเพ่งธรรม.
ญาโต อตฺโถ สุขาวโห ความว่า ประโยชน์มีทิฏฐธรรมิกัตถประโยชน์เป็นต้นก็ดี
ประโยชน์ในทุกขสัจเป็นต้นก็ดี ตามที่กล่าวแล้วที่ตนรู้แล้ว คือบรรลุแล้วตามความเป็นจริง
ย่อมนำมาคือให้สำเร็จความสุขต่างโดยโลกิยสุขและโลกุตรสุข.
ประโยชน์ย่อมไม่มี แก่ผู้ที่มีปัญญาภาวนาตามที่ตนทรงไว้ ด้วยเหตุเพียงการฟังอย่างเดียวเท่านั้น
เพราะฉะนั้น พระเถระเมื่อจะแสดงถึงวิธีปฏิบัติแห่งภาวนาปัญญานั้น จึงกล่าวว่า
ภิกษุควรซ่องเสพเสนาสนะอันสงัด ควรประพฤติธรรมอันเป็นเหตุให้จิตหลุดจากสังโยชน์
กาม
" บรรดาครูอาจารย์เหล่านั้น ที่สึกออกไป ล้วนแต่เพราะกามทั้งสิ้น
เป็นไปตามอำนาจของกาม กามนี้เป็นอุปสรรคเครื่องขัดขวางบุคคลผู้มุ่งมั่นต่อความดี
ในแนวทางของพระพุทธศาสนา บรรดาสัตว์ทั้งหลายยอมตาย ก็เพราะกามนี้มามากต่อมาก
เพราะความสำคัญผิด ไม่รู้จักโทษของกามที่แท้จริง ปล่อยใจปล่อยกาย
ให้ตกไปสู่อำนาจของกามเข้า
เมื่อถูกกามครอบงำจิตแล้ว ก็ยังไม่รู้สึก สำคัญผิดคิดว่าดี จึงยอมตัวลงบำรุงบำเรอ
ท้ายที่สุด ก็ถอนตัวไม่ออก”
หลวงปู่แหวน
อุบายภาวนาอย่างอิสระ
หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน นครราชสีมา เมื่อครั้งท่านเป็นเณรใหญ่
อยู่ที่วัดปทุมวนาราม กรุงเทพฯ
เวลานั่งสมาธิ ก็เห็นแต่ใบหน้าของหญิงสาว เวลาบริกรรม ว่า พูทโธ ก็กลายเป็น
ว่าชื่อผู้หญิงแทน
ท่านจึงตัดสินใจ ใช้ชื่อผู้หญิงเป็นคำบริกรรมแทนคำว่า พุทโธ ก็ทำให้จิตสงบ
เกิดสมาธิ ได้เหมือนกัน
หลวงพ่อ จึงได้หลักว่า การภาวนา จะใช้คำบริกรรมอะไรก็ได้ เป็นอุบาย
หาสิ่งให้ใจมันยึดเกาะ พอจิตสงบ คำบริกรรมนั้น ก็หายไป
หลวงปู่ชา สุภทฺโท วัดหนองป่าพง อุบลราชธานี เวลาภาวนา จิตท่านวิตกเกี่ยวกับเรื่องกาม
ท่านก็แก้ได้โดยยกอวัยวะเพศและอุจจาระของผู้หญิงขึ้นมาพิจารณาในสมาธิ
พิจารณาให้เห็นธรรมชาติอย่างชัดเจน ทำให้พบว่าความงามเป็นภายนอกล่อลวงหลอก
ท่านจึงสามารถตัดขาดได้ คือตัดได้ด้วยปัญญาที่รู้เท่าทัน
เรื่องเล่าหลวงปู่แหวน
โอวาทธรรมที่องค์ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้ ให้เป็นคติแก่หลวงปู่แหวน สุจิณโณ....
จากการที่หลวงปู่แหวนท่านถามหลวงปู่มั่นว่า ทำไมจึงไม่อนุญาตให้
หลวงปู่ทองรัตน์(อาจารย์ของหลวงปู่ชา สุภัทโท)
ญัตติเป็นธรรมยุติ.ท่านตอบว่า"....ถ้าพากันมาญัตติเป็นธรรมยุติเสีย หมดแล้ว
ฝ่ายมหานิกายจะไม่มีใครแนะนำปฏิบัติ....." และตามด้วยคติธรรมที่ลึกซึ้งจับใจว่า
"....มรรคผลไม่ได้ขึ้นอยู่กับนิกาย
แต่มรรคผลขึ้นอยู่กับการปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ตามธรรมวินัยที่พระพุทธเจ้า
ได้ทรงแนะนำสั่งสอนไว้แล้ว
อยากเข้าใจ ก็ไม่เข้าใจ เมื่อทำนาบนแผ่นดิน อยู่บนแผ่นดิน
เมื่ออยู่กับฐาน ความเข้าใจโผล่ขี้นมา ก็ถอนรากความเข้าใจออกเสีย
วิสุทธิ วิมุติ คือรู้ที่จะกำจัดและคลายกำหนัดจากกริยา
ความรู้อันนี้ เป็นเรื่องเหนือความเข้าใจทั้งมวล
เมื่อเสวยความเข้าใจอย่างถูกมัดตัว เรียกว่าบุถุชนผู้มิได้เรียนรู้
ผู้ประกอบด้วยชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส
เราเรียกว่าผู้ประกอบด้วยทุกข์
นี้แลเป็นความพิเศษ เป็นความแปลก เป็นข้อแตกต่างระหว่างอริยสาวก
ผู้ได้เรียนรู้ กับปุถุชนผู้มิได้เรียนรู้
เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย สังขารจึงมี
เพราะสังขารเป็นปัจจัย วิญญาณจึงมี
เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย นามรูปจึงมี
เพราะนามรูปเป็นปัจจัย สฬายตนะจึงมี
เพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย ผัสสะจึงมี
เพราะผัสสะเป็นปัจจัย เวทนาจึงมี
เพราะเวทนาเป็นปัจจัย ตัณหาจึงมี
เพราะตัณหาเป็นปัจจัย อุปทานจึงมี
ปุถุชนผู้เรียนรู้ เพิ่มอีก 8 ตัว อริยะสาวกไม่เหลือสักตัว
Credit by : http://agaligohome.com
นำมาแบ่งปันโดย : miracle of love
Pics by : Google
อกาลิโกโฮม * สุขใจดอทคอม
ใต้ร่มธรรมดอทเน็ท
อนุโมทนาสาธุที่มาทั้งหมดมากมายค่ะ