ข้อความโดย: ฐิตา
« เมื่อ: มิถุนายน 15, 2011, 08:37:51 pm »มีเรื่องเล่าว่า เหล่าเทพบุตรเทพธิดากำลังเก็บดอกไม้บนสรวงสวรรค์ เทพธิดาตนหนึ่งลงมาเกิดเป็นมนุษย์ในตระกูลดี มีสามี มีลูก มีทรัพย์สมบัติมาก ทำบุญทำทาน รักษาศีล เจริญสมาธิปัญญาในพระพุทธศาสนา ทำประโยชน์ให้แก่แผ่นดินมาก เมื่ออายุได้ ๙๐ กว่า ก็สิ้นอายุ เธอไปเกิดเป็นเทพธิดาอีกครั้ง หัวหน้าเทพเมื่อเห็นเธอจึงถามว่า เมื่อเช้านี้เธอหายไปไหน
เธอก็เล่าให้ฟังว่า เธอไปเกิดในมนุษย์โลก มีครอบครัวแสวงหาสมบัติ เกลือกกลั้ว เกลื่อนกล่นอยู่กับการมี การเป็น มีสามี มีลูก มีเกียรติ มียศ มีเพื่อนฝูง มีบริวาร เลี้ยงลูกจนเติบโต มีหลาน มีเหลนไม่น้อย และเธอก็มีอายุยืนถึง ๙๐ ปี ด้วยอานิสงส์บุญเมื่อตายลงจึงมาเกิดที่นี่อีก
เทพบุตรฟังแล้วถึงกับตะลึงว่า ชีวิต ๙๐ ปีในโลกมนุษย์นั้นเป็นเพียงชั่วเวลาเช้าถึงเที่ยงของเทวโลกเท่านั้นหรือ
บางท่านอาจไม่เข้าใจ แต่เมื่อมองดูภพภูมิต่างมิติระหว่างมนุษย์เรากับสัตว์เดรัจฉานก็น่าจะเห็นได้ชัด สัตว์บางตัวมีอายุเพียง ๗ วัน ๑๕ วัน ๑ เดือน เขาก็เต็มที่แล้ว ขณะที่เรามีอายุขัย ๘๐ หรือ ๙๐ ปี หรือสัตว์เดรัจฉานบางชนิดก็มีอายุมากกว่าเราหลายเท่า เช่น เต่า ช้าง เป็นต้น
การเรียนรู้ชีวิต ต้องมองให้เห็นความจริงทั้งในภพกว้างและมุมแคบ เพื่อคลายความติดยึดอันรุนแรง ที่ท่านเรียกว่า "อุปทาน” ตัวติดยึดนี่เอง คือจุดกำเนิดแห่งทุกข์ทั้งปวง
เราอยู่ในโลกยุคเทคโนโลยี โลกทั้งโลกอยู่ในกำมือเราก็จริงแต่ไม่อาจกำทุกสิ่งไว้ในอำนาจ ทุกอย่างผ่านมาแล้วก็ผ่านไป
การมองชีวิตตามหลักสัจธรรม ตามธรรมชาติ แก้ทุกข์ได้ยิ่งคราที่ใจได้ทุกข์ถึงที่สุดเราต้องกล้าหาญ มองให้เห็นความจริง กล้าเผชิญรากแก้วความจริงอันประเสริฐ (อริยสัจ) นี้ให้ได้ เพราะความจริงทำให้คนฉุกคิดได้ ความจริงตามธรรมชาติไม่เคยทำร้ายใคร หรือทำลายใคร ท่านจึงบอกว่าประเสริฐ สิ่งที่ทำให้คนลุ่มหลงต่างหากที่ประทุษร้ายคน
ความตายไม่มี มีเพียงการปรับสภาพของธาตุขันธ์
เมื่อปรับเปลี่ยนได้ที่ ซ่อมแซมจุดบกพร่องได้แล้ว ก็มารวมตัวกันใหม่ เราก็สมมติว่า “เกิด” เมื่อเกิดแล้วโต แก่เฒ่า และทำงานหนัก เมื่อชำรุดทรุดโทรมก็จำเป็นต้องซ่อม หากซ่อมไม่ไหวก็แยกส่วน ซึ่งเราสมมติเรียกว่า “ตาย"” และก็วนเวียนกันอยู่เช่นนี้ เกิด-ตาย เกิด-ตาย เป็นวังวนแห่งสังสารวัฏ ชีวิตมีเท่านี้จริงๆ
“ความตายไม่มี มีแต่การปรับเปลี่ยนเพื่อความสมดุลของธรรมชาติเท่านั้น”
คำนี้สำคัญ ที่เราควรใคร่ครวญพิจารณาทุกเช้า หลังตื่นนอน ก่อนออกจากบ้าน แม้ในที่ทำงาน
ขณะที่ย่ำเท้าเปล่าลงบนยอดหญ้า ก่อนจะลงมือทำอะไรทั้งหมดในวันนั้น ให้พิจารณาความจริงตรงนี้ก่อน ให้รุ่งอรุณของแต่ละวันเป็นรุ่งอรุณที่สดใส เป็นรุ่งอรุณที่งดงามกับชิต
ขณะที่พระอาทิตย์ทอแสงส่องโลก ปัญญาต้องทอแสงส่องใจ การปรับเปลี่ยนชีวิตต้องการวิถีธรรมชาติ มิใช่เทคโนโลยี หมอที่ดีที่สุดที่จะปรับความสมดุลของธาตุ ๔ ขันธ์ ๕ คือธรรมชาติ
การเข้าใจระบบการทำงานของธรรมชาติ ต้องเท้าเปล่าสัมผัสดิน ต้องทำใจให้อยู่เหนืออารมณ์ มองโลกตามความเป็นจริง เมื่อเข้าใจธรรมชาติ ก็จะเข้าใจสัจธรรม และการกล้าเผชิญความจริงของชีวิตเท่านั้น ที่จะช่วยรักษาเยียวยาคราวที่ทุกข์สัมผัสใจ
โอกาสตรงนี้ ทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะอยู่ในภาวะหรือฐานะใด เพียงแต่ใครจะเริ่มต้นเรียนรู้ก่อนใครเท่านั้นเอง...
ที่มาบทความ : หนังสือ อภัยทาน รักบริสุทธิ์
โดย ปิยโสภณ วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก
12 กรกฏาคม 2549
เวลา 06:46 น. [A-131]
ขอบพระคุณที่มาจาก : http://www.dhammasavana.or.th/article.php?a=131
Credit by :http://www.doohoon.com/smf/index.php?topic=11221.13800
Pics by : Google
อกาลิโกโฮม * สุขใจดอทคอม
ใต้ร่มธรรมดอทเน็ต
อนุโมทนาสาธุที่มาทั้งหมดมากมายค่ะ
โดย ปิยโสภณ วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก
12 กรกฏาคม 2549
เวลา 06:46 น. [A-131]
ขอบพระคุณที่มาจาก : http://www.dhammasavana.or.th/article.php?a=131
Credit by :http://www.doohoon.com/smf/index.php?topic=11221.13800
Pics by : Google
อกาลิโกโฮม * สุขใจดอทคอม
ใต้ร่มธรรมดอทเน็ต
อนุโมทนาสาธุที่มาทั้งหมดมากมายค่ะ