ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 500 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

Verification:
ระหว่างความดีกับความไม่ดี เราจะเลือกทำสิ่งใดจึงจะสามารถบรรลุธรรมได้จริง ( เลือกตอบแค่ ความดี กับ ความไม่ดี ครับผม):
กัน-ละ-ยา-นะ-มิด เขียนเป็นภาษาไทยที่ถูกต้องว่าอย่างไรครับ:
คุณเชื่อในศรัทธาของความดีไหมครับ ( เลือกตอบแค่ เชื่อ กับ ไม่เชื่อ ครับผม):
คิดว่าความดีทำยากไหม( เลือกตอบแค่ ยาก กับ ไม่ยาก ครับผม):
ถ้าเราโกรธใคร ธรรมะจะเป็นหนทางผ่อนคลายความโกรธนั้นลงได้ใช่ไหม ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม ):
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า แสงธรรมนำใจ:
การแสดงความชื่นชมยินดีในบุญหรือความดีที่ผู้อื่นทำ นิยมใช้คำว่า (อนุโมทนา) กรุณาพิมพ์คำนี้ครับ อนุโมทนา:
ท่านจะปฏิบัติตามกฏระเบียบข้อตกลงของเว็บใต้ร่มธรรมทุกประการหรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
ใต้ร่มธรรม เป็น แค่เว็บไซต์และจินตนาการทางจิต การทำดี สำคัญที่ใจเรา เริ่มความดีที่ใจเราก่อนเสมอ พิมพ์คำว่า "เริ่มความดีที่ใจเราก่อนเสมอ":
คุณพ่อคุณแม่เปรียบดั่งพระอรหันต์ในบ้าน พิมพ์คำว่า "คุณพ่อคุณแม่ฉันรักและเคารพท่านดุจพระอรหันต์":
เมื่อให้ท่านเลือก ระหว่าง (หนังสือเก่าๆเล่มหนึ่งที่เรารัก) กับ (มิตรแท้ที่รักเรา) คุณจะะเลือก:
บุคคลที่ไปหลายๆเว็บไซต์ โดยที่สวมบทบาทเป็นหลายๆคน โดยที่ไม่รู้ว่า แท้จริงใจเราต้องการอะไร เพื่อน หรือ ชัยชนะ:
กล่าวคำดังนี้  "ขอโทษนะ":
ในโลกออนไลน์หรือโลกแห่งจิต ไม่มีใครทำอะไรเราได้ นอกเสียไปจาก (คนพาล) หรือ (ใจของเราเอง):
เคยนวดฝ่าเท้าให้ คุณพ่อคุณแม่บ้างไหม ถ้ามีโอกาส เราควรทำหรือไม่ (ควรกระทำอย่างยิ่ง หรือ ไม่ควรทำ):
ธรรมะคือ ธรรมชาติ พิมพ์คำว่า (ธรรมะชาติ) ครับ:
พิมพ์คำว่า (แสงธรรมนำทางธรรมะนำใจ) ครับ:
สำนวนไทยที่ว่า แต่ละคนต่างมีรสนิยมแตกต่างกัน หรือไม่ตรงกัน  พิมพ์สำนวนต่อไปนี้ครับ (ลางเนื้อชอบลางยา):
ผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ ผู้ที่ทำตนให้เล็กที่สุด ผู้ที่เล็กที่สุดก็จะกลายเป็นผู้ที่ใหญ่ที่สุด ผู้ที่มีเกียรติคือผู้ที่ให้เกียรติผู้อื่น ฉะนั้นสมาชิกใต้ร่มธรรมควรให้เกียรติกันและกัน พิมพ์คำว่า (ฉันจะให้เกียรติสมาชิกทุกๆท่านในใต้ร่มธรรมเสมอด้วยวาจาสุภาพอ่อนน้อม):
ผู้ที่ไม่เคยรับรู้รสของความขมขื่น จะไม่รู้ว่าความหวานชื่นคืออะไร พิมพ์เป็นประโยคภาษาอังกฤษครับ เป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมดนะครับ เว้นวรรคคำด้วยครับ (He who has never tasted bitterness does not know what is sweet):

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: ฐิตา
« เมื่อ: มิถุนายน 26, 2011, 01:28:07 pm »






ข้อความโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน
« เมื่อ: ธันวาคม 20, 2010, 09:42:40 pm »

:13: อนุโมทนาครับ ขอบคุณครับพี่มด
ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: ธันวาคม 20, 2010, 09:07:09 am »





พระสูตรสัทธรรมปุณฑรีกะ
วัดโพธิ์แมนคุณาราม
นายชะเอม แก้วคล้าย แปลจากต้นฉบับสันสกฤต
บทที่ 24
สมัตมุขปริวรรต
ว่าด้วยการสำแดงร่างของพระอวโลกิเตศวร


        ครั้งนั้น พระอักษยมติ โพธิสัตว์มหาสัตว์ ได้ลุกจากอาสนะ ห่มผ้าอุตตราสงค์เฉวียงบ่า คุกเข่าขวาลงที่พื้นดิน ประคองอัญชลีต่อพระผู้มีพระภาค แล้วกราบทูลว่า "ข้าแต่พระผู้มีพระภาค เพราะเหตุไรจึงเรียก พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์ ว่าอวโลกิเตศวร เมื่อพระโพธิสัตว์ได้กราบทูลดังนั้น พระผู้มีพระภาค จึงตรัสกับพระอักษยมติโพธิสัตว์มหาสัตว์ ว่า ดูก่อนกุลบุตร สัตว์จำนวนหลายร้อยพันหมื่นโกฏิ ที่รวมกันอยู่ในที่นี้ ย่อมคล้อยตามความทุกข์สัตว์เหล่านั้นทั้งหมด ถ้าได้ฟังชื่อของ พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์ ก็จะหลุดพ้นจากกองทุกข์นั้นได้ ดูก่อนกุลบุตร สัตว์เหล่าใด ท่องจำ นามของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์  ถ้าสัตว์เหล่านั้น ตกลงในกองไฟใหญ่ เขาทั้งหมดจะรอดพ้นจากกองไฟใหญ่นั้นได้ด้วยเดชของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์ ดูก่อนกุลบุตร ถ้าสัตว์ทั้งหลาย ถูกกระแสน้ำพัดพาไป พึงกระทำการเพรียกพระนาม ของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์ แม่น้ำทั้งปวงเหล่านั้น จะให้ความรักเอ็นดูแก่สัตว์เหล่านั้น ดูก่อนกุลบุตร ถ้าสัตว์จำนวนร้อยพันหมื่นโกฏิ ลงเรือไปในท่ามกลางมหาสมุทร ทรัพย์สินที่สร้างไว้ เช่น เงิน ทอง แก้วมณี มุกดา เพชร ไพฑูรย์ สังข์ ประพาฬ มรกต สุมาร์คลวะ และมุกแดง เป็นต้น (จะเสียหาย) เรือของเขาถูกพายุพัดไปติดเกาะของรากษส ถ้าในเรือนั้น พึงมีสัตว์ผู้หนึ่ง กระทำการเพรียกพระนามของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์ เขาเหล่านั้นทั้งหมด จะรอดพ้นจากเกาะของรากษสนั้น ดูก่อนกุลบุตร เพราะเหตุนี้เอง พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์ จึงได้ชื่อว่า "อวโลกิเตศวร"

        ดูก่อนกุลบุตร ถ้าผู้ต้องโทษประหาร เอ่ยพระนามของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์ อาวุธทั้งหลายของเพชฌฆาตเหล่านั้น จะแตกกระจาย ดูก่อนกุลบุตร ถ้าโลกธาตุทั้งสามพันน้อยใหญ่ เต็มไปด้วยปีศาจและยักษ์ เมื่อมีผู้เอ่ยนามพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์ ปีศาจและยักษ์ทั้งหลายที่คิดชั่ว จะไม่สามารถมองเห็นได้ ดูก่อนกุลบุตร สัตว์บางคน ถูกจองจำด้วยเครื่องพันธนาการ ขื่อคา โซ่ตรวน ที่ทำด้วยไม้และเหล็ก เขาจะมีความผิด หรือไม่มีความผิดก็ตาม ขื่อและโซ่ตรวนเหล่านั้น จะคลายออกทันที ด้วยการเอ่ยพระนามของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์นั้น ดูก่อนกุลบุตร ประถมเหตุของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์ เป็นอย่างนี้

        ดูก่อนกุลบุตร ถ้าโลกธาตุทั้งสามพันน้อยใหญ่นั้น เต็มไปด้วยทุรชน ศัตรู โจรผู้ร้ายและศาสตราวุธ หัวหน้าพ่อค้าคนหนึ่ง นำพ่อค้าจำนวนมาก ที่มั่งคั่งด้วยรัตนะอันหาค่ามิได้ไปด้วย เมื่อเขากำลังเดินทางอยู่ ได้พบโจรทุรชนผู้เป็นศัตรูเหล่านั้น ซึ่งมีอาวุธครบมือ ครั้นพบแล้วก็จะสะดุ้งกลัว เกิดความรู้สึกว่า ตนเองหมดที่พึ่งแล้ว ครั้นผู้นำพ่อค้าวาณิชผู้นั้น กล่าวกับพ่อค้าว่า ดูก่อนกุลบุตรทั้งหลาย ท่านทั้งหลาย จงอย่ากลัวไปเลย ท่านทั้งหลายจงอย่ากลัวท่านทั้งปวง จงเอ่ยพระนามพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์ ผู้ประทานความไม่มีภัย ด้วยเสียงอันดังเพียงครั้งเดียว ลำดับนั้น ท่านทั้งหลายจะรอดพ้นจากภัยคือโจรและภัยคือศัตรูในทันที ครั้งนั้น พ่อค้าทั้งปวงนั้น ได้เอ่ยพระนามพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์ ด้วยเสียงอันดังพร้อมกันว่า ขอนมัสการ นอบน้อม ต่อพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์ ผู้ประทานความไม่มีภัย (นโม นมสฺตสฺไม อภยํ ททายาวโลกิเตศฺวราย โพธิสตฺตฺวาย มหาสตฺตฺวาย) พ่อค้านั้นได้รอดพ้นแล้วจากภัยทั้งปวง พร้อมกับการเอ่ยพระนามเท่านั้น ดูก่อนกุลบุตร อภินิหาร(อำนาจ) ของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์เป็นอย่างนี้

        ดูก่อนกุลบุตร สัตว์ทั้งหลายผู้มีราคะจริต เมื่อ
ได้นมัสการพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์แล้ว ก็จะเป็นผู้ปราศจากราคะ สัตว์ทั้งหลายผู้มีโทสจริต เมื่อได้นมัสการพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์แล้ว ก็จะเป็นผู้ปราศจากโทสะ สัตว์ทั้งหลายผู้มีโมหจริต เมื่อได้นมัสการพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์แล้ว ก็จะเป็นผู้ปราศจากโมหะ ดูก่อนกุลบุตรพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์ เป็นผู้มีฤทธิ์มากอย่างนี้

        ดูก่อนกุลบุตร หากสตรีใด ปรารถนาจะมีบุตร แล้วนมัสการพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์ เธอจะได้บุตรที่มีรูป สง่างาม น่าชมยิ่งนัก บุตรของนางจะประกอบด้วยลักษณะแห่งบุตร อันเป็นทีรักของชนส่วนมาก เป็นทีน่าปลื้มใจ เป็นผู้สร้างกุศลมูลไว้ดีแล้ว สตรีใดปรารถนาจะได้บุตรี สตรีนั้นจะได้บุตรีที่มีรูปงาม สง่า น่าชมยิ่งนัก ประกอบด้วยผิวพรรณอันงดงาม ประกอบด้วยลักษณะที่สมบูรณ์ของเด็กหญิง เป็นที่รักของชนจำนวนมาก เป็นผู้สะสมกุศลมูลไว้ดีแล้ว ดูก่อนกุลบุตร อภินิหารของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์เป็นอย่างนี้

        ดูก่อนกุลบุตร ชนเหล่าใด นมัสการ เอ่ยพระนามพระอวโลกิเตศวร ผลการกระทำของเขาจะไม่สูญเปล่า(ไม่เป็นโมฆะ) ดูก่อนกุลบุตร ชนใด นมัสการและเอ่ยพระนามพระอวโลกิเตศวรและชนใดนมัสการ เอ่ยพระนามพระผู้มีพระภาคพุทธเจ้า ซึ่งมีจำนวนเท่ากับเมล็ดทรายใน 62 แม่น้ำคงคา ชนใดทำการบูชา พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้า ที่ดำรงพระชนม์อยู่ตลอดไป ด้วยการ ถวายจีวร บิณฑบาต ที่นอน ที่นั่งและเภสัชแก่ผู้ป่วย ดูก่อนกุลบุตร ท่านคิดว่า ข้อนั้นเป็นอย่างไร กุลบุตร หรือกุลธิดา ได้สะสมบุญญาธิการอันบริสุทธิ์จากกรรมนั้นหรือไม่ เมื่อกล่าวอย่างนั้นแล้ว พระอักษยมติโพธิสัตว์มหาสัตว์ กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาค มาก ข้าแต่พระสุคต มาก กุลบุตร หรือกุลธิดา ได้สะสมบุญญาธิการ อันบริสุทธิ์จากกรรมนั้นไว้จำนวนมาก พระผู้มีพระภาคจึงตรัสว่า ดูก่อนกุลบุตร บุคคลใด กระทำสักการะต่อพระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าถึงเพียงนั้น ชื่อว่า เป็นผู้ได้กระทำบุญไว้แล้ว บุคคลใด ทำการนอบน้อม เอ่ยนามพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์ โดยที่สุดแม้เพียงครั้งเดียว บุคคลนั้น ชื่อว่า เป็นผู้กระทำบุญที่เสมอกัน ไม่ยิ่งไปเกินกว่าทั้งสองประการนั้น บุคคลใด ทำสักการะ เอ่ยพระนามของพระผู้มีพระภาคพุทธเจ้า ซึ่งมีจำนวนมากเท่ากับเมล็ดทรายใน 62 แม่น้ำคงคา และบุคคลใด พึงกระทำการนอบน้อม เอ่ยนามพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์ ผู้กระทำกองบุญทั้งสองอย่างนั้น ใครๆก็ไม่อาจทำลายลงได้ ตลอดร้อยพันหมื่นโกฏิกัลป์ ดูก่อนกุลบุตร บุญที่เกิดจากการเอ่ยพระนามพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์นั้น ประมาณมิได้ด้วยประการฉะนี้



        ครั้งนั้น พระอักษยมติโพธิสัตว์มหาสัตว์ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาค เหตุใดพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์ จึงต้องท่องไปในสหาโลกธาตุนี้ ทำไมจึงต้องแสดงธรรมแก่สัตว์ทั้งหลาย และอุบายโกศลวิสัยของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์เป็นอย่างไร? เมื่อกราบทูลดังนั้นแล้ว พระผู้มีพระภาคจึงตรัสกับพระอักษยมติโพธิสัตว์มหาสัตว์ว่า ดูก่อนกุลบุตร พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์ ได้แสดงธรรมแก่สัตว์ทั้งหลาย ในโลกธาตุปัจจุบัน ด้วยรูปของพระพุทธเจ้า พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์ แสดงธรรมแก่สัตว์ทั้งหลาย ในโลกธาตุอื่น ด้วยรูปของพระโพธิสัตว์ พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์ แสดงธรรมแก่สัตว์บางจำพวก ด้วยรูปของพระปัจเจกพุทธเจ้า พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์ แสดงธรรมแก่สัตว์บางจำพวก ด้วยรูปของพระสาวก พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์ แสดงธรรมแก่สัตว์บางจำพวกด้วยรูปของพระพรหม พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์ แสดงธรรมแก่สัตว์บางจำพวก ในรูปของท้าวสักกะ พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์ แสดงธรรมแก่สัตว์บางจำพวก ในรูปของคนธรรพ์ แสดงธรรมแก่สัตว์ทั้งหลายที่ยักษ์พอแนะนำได้ ในรูปยักษ์


แก่สัตว์ทั้งหลายที่พระอิศวรพอจะแนะนำได้ ในรูปของพระอิศวร แก่สัตว์ทั้งหลายที่พระมเหศวรพอจะแนะนำได้ ในรูปของพระมเหศวร สัตว์ทั้งหลายที่พระเจ้าจักรพรรดิพอจะแนะนำได้ จะแสดงธรรมในรูปของพระจักรพรรดิ สัตว์ทั้งหลาย ที่ปีศาจพอจะแนะนำได้ ก็จะแสดงธรรมในรูปของปีศาจ สัตว์ทั้งหลาย ที่ท้าวกุเวรพอจะแนะนำได้ ก็จะแสดงธรรมในรูปของท้าวกุเวร สัตว์ทั้งหลายที่เสนาบดีพอจะแนะนำได้ ก็จะแสดงธรรมในรูปของเสนาบดี สัตว์ที่พราหมณ์พอจะแนะนำได้ ก็จะแสดงธรรมในรูปของพราหมณ์ สัตว์ที่พระวัชรปาณีพอจะแนะนำได้ ก็จะแสดงธรรมในรูปของพระวัชรปาณี ดูก่อนกุลบุตร เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลาย ควรบูชาพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์ เสียตั้งแต่บัดนี้ ดูก่อนกุลบุตร พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์ ย่อมประทานความปลอดภัยแก่หมู่สัตว์ ผู้มีความกลัว เพราะเหตุนี้ ในสหาโลกธาตุ จึงเรียกพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์ว่า "พระอภยัททะ" (ผู้ประทานความปลอดภัย)

        ครั้งนั้น พระอักษยมติโพธิสัตว์มหาสัตว์ ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ข้าพระองค์ทั้งหลาย ควรให้รางวัลเพื่อธรรมและเครื่องนุ่งห่มเพื่อธรรม แก่พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์ พระผู้มีพระภาค จึงตรัสว่า ดูก่อนกุลบุตร ท่านทั้งหลายย่อมสมหวัง ณ บัดนี้ ขณะนั้น พระอักษยมติโพธิสัตว์มหาสัตว์ได้ปลดมุกดาหาร มีค่าร้อยพัน จากศอของตนเอง ให้เป็นรางวัลแห่งธรรม แด่พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์ว่า ดูก่อนสัตบุรุษ ขอท่านจงรับรางวัลแห่งธรรมนี้ จากข้าพเจ้าด้วยเถิด พระอวโลกิเตศวร ไม่ทรงรับ

        ครั้งนั้น พระอักษยมติโพธิสัตว์มหาสัตว์ได้ตรัสกับพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์ว่า
ดูก่อนกุลบุตร ขอท่านจงรับมุกดาหารนี้เถิด เพื่ออนุเคราะห์แก่พวกเรา ครั้งนั้น พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์ ทรงรับมุกดาหารนั้น จากพระอักษยมติโพธิสัตว์มหาสัตว์ เพื่อให้ความอนุเคราะห์แก่พระอักษยมติโพธิสัตว์มหาสัตว์ แก่บริษัทสี่ แก่เทวดา นาค ยักษ์ คนธรรพ์ กินนร มโหรคะ มนุษย์และอมนุษย์ ครั้นรับแล้ว พระองค์ได้แบ่งมุกดาหารนั้นออกเป็นสองส่วน ครั้นแบ่งแล้ว ได้ถวายส่วนหนึ่งแก่พระผู้มีพระภาคศากยมุนี ได้ถวายส่วนที่สองไว้ที่รัตนสถูปของพระผู้มีพระภาคตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าประภูรัตนะ ดูก่อนกุลบุตร พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์ ย่อมท่องไปในสหาโลกธาตุนี้ ด้วยการแปลงร่างต่างๆ(ด้วยการกระทำต่างๆ) เช่นนี้



        ในเวลานั้น พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระคาถาเหล่านี้ว่า

1      ดูก่อนจิตรธวัช ท่านจงถามเนื้อความจากเหตุกับพระอักษยมติ ดูก่อนพระชินบุตร เพราะเหตุไรเขาจึงเรียกว่า พระอวโลกิเตศวร

2      พระอักษยมติ ผู้มีปัญญา ที่กว้างไกล ดุจมหาสมุทร ผู้มีวิจารณญาณมากเช่นนั้น ได้กล่าวว่า พระจิตรธวัช จงฟังจรรยาวัตรของพระอวโลกิเตศวร

3      พระจิตรธวัช จงฟังประณิธาน ที่ทำให้พระพุทธเจ้าจำนวนพันโกฏิบริสุทธิ์ตลอดเวลาหลายร้อยโกฏิกัลป์ จนนับมิได้ จาการชี้แจงของเรา

4      ผู้ได้ยิน ได้เห็น และได้ระลึกถึง (พระองค์) อยู่เสมอ ชื่อว่า เป็นผู้ไม่สูญเปล่า ขอสัตว์ทั้งหลาย ในโลกนี้ จงเป็นผู้ทำลายความทุกข์โศกทั้งปวงเสียได้

5      ถ้าศัตรู (ผู้มีใจประทุษร้าย) ทำให้เขาตกลงไปในกองไฟ เพื่อหวังจะฆ่าให้ตาย เมื่อเขาระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร ไฟก็จะมอดดับไป เหมือนกับถูกน้ำราด


6      ถ้าว่า  บุคคลทำให้เขาตกไปในมหาสมุทร ที่ลึกยิ่ง (ยากที่จะหยั่งถึง) อันเป็นที่อยู่ของนาค สัตว์น้ำและปีศาจ เมื่อเขาระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร เขาก็จะไม่จมลงไปในทะเลหลวง

7      ถ้าศัตรู ทำให้เขาตกจากยอดเขาสุเมรุ เพื่อหวังจะฆ่าให้ตาย เมื่อเขาระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร เขาจะลอยอยู่ในท้องฟ้าดุจพระอาทิตย์

8      ถ้าบุคคลใดปาเขาที่ศีรษะ ด้วยก้อนเพชร หวังฆ่าให้ตาย เมื่อเขาระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร สิ่งเหล่านั้น ไม่สามารถเบียดเบียนได้ แม้ปลายเส้นผมของเขา

9      ถ้าบุคคล ถูกหมู่ศัตรูที่มีอาวุธครบมือล้อมไว้ ด้วยจิตคิดจะเบียดเบียน เมื่อเขาระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร ศัตรูก็จะเกิดจิตเมตตาขึ้นในขณะนั้น

10    ถ้าบุคคล ต้องโทษจองจำอยู่ในหลักประหาร เมื่อเขาระลึกถึงพระอวโลกิเตศวรอาวุธ(ของเพชฌฆาต) ก็จะแตกละเอียด (เป็นท่อนเล็กท่อนใหญ่)

11    ถ้าเขาถูกจองจำด้วยเครื่องพันธนาการ ที่เป็นไม้ก็ได้ เหล็กก็ดี ขื่อคาและโซตรวนก็ดี เมื่อเขาระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร เครื่องพันธนาจะคลายออกในทันที

12    เวทมนต์คาถา วิทยาของผู้มีพลัง ยาพิษ ภูต เวตาล ที่ทำให้ร่างกายถึงความหายนะได้ เมื่อเขาระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร สิ่งเหล่านั้นจะเสื่อมไปในทันที

13    ถ้าบุคคลถูกนาค ยักษ์ เปรต และรากษส ล้อมจับตัวไป เมื่อเขาระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร ศัตรูเหล่านั้น ไม่สามารถเบียดเบียนได้แม้ปลายเส้นผม

14    ถ้าบุคคล ถูกสัตว์ร้าย ที่มีเขี้ยวเล็บแหลมคม น่ากลัวยิ่ง ห้อมล้อมอยู่ เมื่อเขาระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร สัตว์เหล่านั้นจะวิ่งหนีไป คนละทิศทาง ในทันที

15    ถ้าบุคคล ถูกงูพิษที่โหดร้ายทารุณมีเปลวไฟเรืองแสง ห้อมล้อมอยู่ เมื่อเขาระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร งูเหล่านั้นก็จะหมดพิษไปในทันที



16    เมื่อฝนตก ย่อมปรากฏสายฟ้า ฟ้าร้อง ฟ้าแลบ และฟ้าผ่า เมื่อเขาระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร เหตุการณ์เหล่านั้น ก็จะสงบลง ในครู่เดียวเท่านั้น

17    พระองค์ (อวโลกิเตศวร) ผู้มีกำลังญาณ อันบริสุทธิ์ ทรงพิจารณาเห็นสัตว์ทั้งหลาย ที่ถูกความทุกข์หลายร้อยประการกดขี่ เบียดเบียน จึงเป็นผู้คุ้มครองสัตว์โลกทั้งหลาย รวมทั้งเทวดา ให้รอดพ้นจากความทุกข์นั้น

18    พระองค์ (อวโลกิเตศวร) เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยบารมีแห่งกำลังอิทธิฤทธิ์ ทรงศึกษาในวิทยาและอุบายอย่างกว้างขวาง ทรงปรากฏในโลกทุกส่วน จากทุกทิศและในพุทธเกษตรทั้งปวง

19    ภัยคือชาติ ชราและพยาธิ ที่เบียดเบียน ภัยคือการไปสู่ทุคติเป็นเวลานาน ตามคำสั่งยมบาลแห่งสัตว์นรก ภัยของสัตว์ทั้งหลาย จะสงบไปตามลำดับ

        ขณะนั้น พระอักษยมติ มีจิตยินดียิ่งนัก จึงได้กล่าวคาถาเหล่านี้ว่า

20    ข้าแต่ท่านผู้มีพระเนตรอันสดใส มีพระเนตรประกอบด้วยเมตตา มีพระเนตรที่เลิศด้วยปัญญาและวิทยา มีพระเนตรประกอบด้วยความกรุณาและบริสุทธิ์ พระองค์มีพระพักตร์และพระเนตรงดงาม น่าชื่นชมยิ่งนัก

21    พระองค์มีรัศมีที่สะอาดบริสุทธิ์ ปราศจากมลทิน มีวิทยาปราศจากความมัวหมอง ดุจแสงสว่างของดวงอาทิตย์ มีรัศมีดุจเปลวไฟที่ปราศจากพายุ เมื่อส่องประกายย่อมสว่างไสวไปทั่วโลก

22    พระองค์ผู้เจริญด้วยเมตตาและกรุณาธิคุณ ทรงเป็นมหาเมฆแห่งคุณธรรมอันงดงามและเมตตาจิต ทรงยังไฟคือกิเลสของสัตว์ทั้งหลายให้ดับไป ทรงโปรยน้ำอมฤตคือหยาดฝนแห่งธรรมแก่สัตว์ทั้งหลาย

23    ถ้าบุคคลอยู่ในการทะเลาะวิวาท การสู้รบและการสงคราม ที่เป็นภัยอันใหญ่หลวง เมื่อเขาระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร พระองค์จะขจัดคนชั่ว ที่เป็นหมู่ศัตรูให้พ่ายแพ้ไป

24    บุคคลพึงระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร ผู้มีพระสุรเสียงดุจเมฆและกลอง ดังกึกก็องดุจเมฆฝน ไพเราะดุจเสียงพรหม ที่เข้าถึงบารมีมณฑลเสียง(ทั้งปวง)

25    ท่านทั้งหลายจงอย่าสงสัยไปเลย จงระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร ผู้บริสุทธิ์ พระองค์จะเป็นผู้คุ้มครอง เป็นที่พึ่ง เป็นผู้ทำให้ปราศจากความตาย ความวิบัติและการเบียดเบียน


26    พระอวโลกิเตศวร เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยคุณธรรมทั้งปวง มีพระเนตรที่ประกอบด้วยเมตตากรุณาต่อสัตว์ทั้งปวง เป็นผู้มีพระคุณดุจมหาสาคร ที่มีคุณอย่างมหาศาล เป็นผู้ที่ใครๆก็ควรไหว้

27    พระองค์เป็นผู้อนุเคราะห์ต่อชาวโลก จึงไม่ต้องการเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต ข้าพระองค์ จึงขอนอบน้อมพระอวโลกิเตศวร ผู้ทำลายความทุกข์ ภัยและความโศกเศร้า ของสัตว์ทั้งปวง

28    พระองค์เป็นผู้ยิ่งใหญ่ในโลก เป็นผู้นำแห่งพระราชา เป็นบ่อเกิดแห่งธรรมของภิกษุ เป็นผู้อันชาวโลกบูชาแล้ว เป็นผู้ท่องเที่ยวไปหลายร้อยกัลป์ ได้บรรลุอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ที่ปราศจากมลทิน

29    ครั้งหนึ่ง (พระองค์) ประทับอยู่เบื้องขวา ครั้งหนึ่งประทับอยู่เบื้องซ้าย อยู่ถวายพัดพระอมิตาภนายกะ ได้ปรากฏภาพมายาโดยสมาธิ จึงไปบูชาพระชินเจ้าในพุทธเกษตรทั้งปวง

30    ในทิศตะวันตก มีโลกธาตุ อันเป็นบ่อเกิดของความสุข ชื่อสุขาวดี ที่ปราศจากมลทิน ซึ่งเป็นที่ประทับของพระอมิตาภนายกะ ผู้ฝึกสัตว์ทั้งปวง

31    ไม่มีสตรีเพศ ไม่มีเมถุนธรรม โดยประการทั้งปวง ณ ที่นั้น พระชินบุตรทั้งหลายผู้ปราศจากมลทิน ได้ปรากฏขึ้นประทับนั่งบนใจกลางดอกบัว

32    ส่วนพระอมิตาภนายกะนั้น ประทับนั่งบนสิงหาสน์ ในใจกลางดอกบัว อันปราศจากมลทิน และน่ารื่นรมย์ ทรงรุ่งโรจน์ราวกับพระศาลราช

33    ผู้ที่เป็นเช่นนั้น คือผู้ที่เหมือนกับพระโลกนาถ ย่อมไม่มีในโลกทั้งสาม ข้าแต่พระองค์ ผู้ประเสริฐกว่านรชน ข้าพระองค์ ขอสรรเสริญบุญที่พระองค์สะสมไว้และขอเป็นเช่นกับพระองค์ ในอนาคตอันใกล้นี้


        ครั้งนั้น พระธรณีนธรโพธิสัตว์มหาสัตว์ ลุกจากอาสนะ ห่มผ้าอุตตราสงค์เฉวียงบ่า คุกเข่าข้างขวาลงบนพื้นดิน ประคองอัญชลีต่อพระผู้มีพระภาค แล้วกราบทูลว่า  "ข้าแต่พระผู้มีพระภาค สัตว์เหล่าใด ได้ฟังบทธรรมบรรยายนี้ ที่เป็นอภินิหารแห่งการเปลี่ยนร่าง (นิรมาณกาย) ชื่อว่า สมันตมุขปริวรรต ที่แสดงการเปลี่ยนร่าง (นิรมาณกาย) ของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มหาสัตว์ สัตว์เหล่านั้น มิใช่เป็นผู้มีกุศลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น"

        ขณะนั้น เมื่อพระผู้มีพระภาคทรงแสดงบทที่ว่าด้วยการเปลี่ยนพระพักตร์ของพระอวโลกิเตศวรอยู่นั้น จิตของสัตว์ทั้งหลายจำนวน 84,000 คนในบริษัทนั้น ได้เข้าถึงอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ที่ไม่มีสิ่งอื่นเสมอได้


บทที่ 24 สมันตมุขปริวรรต ว่าด้วยการสำแดงร่างของพระอวโลกิเตศวร
ในธรรมบรรยาย ศรีสัทธรรมปุณฑรีกสูตร
มีเพียงเท่านี้



http://www.mahayana.in.th/tmayana/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%9B%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%91%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%81/สัทธรรมปุณทรีกะบท24-25-26-27.htm