ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 500 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

Verification:
ระหว่างความดีกับความไม่ดี เราจะเลือกทำสิ่งใดจึงจะสามารถบรรลุธรรมได้จริง ( เลือกตอบแค่ ความดี กับ ความไม่ดี ครับผม):
คิดว่าความดีทำยากไหม( เลือกตอบแค่ ยาก กับ ไม่ยาก ครับผม):
เว็บใต้ร่มธรรมเป็นเว็บเล็กๆแนวธรรมะในจิตใช่หรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า แสงธรรมนำใจ:
เปล่งวาจาว่าสาธุ เป็นการอนุโมทนาต่อพระสงฆ์ที่วัด หรือมีใครทำบุญแล้วมาบอกให้ทราบ ทราบแล้วยกมือขึ้น (สาธุ) กรุณาพิมพ์คำนี้ครับ  สาธุ:
เว็บใต้ร่มธรรมเป็นเว็บเล็กๆในโลกออนไลน์ใช่หรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
ท่านจะปฏิบัติตามกฏระเบียบข้อตกลงของเว็บใต้ร่มธรรมทุกประการหรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
ใต้ร่มธรรม เป็น แค่เว็บไซต์และจินตนาการทางจิต การทำดี สำคัญที่ใจเรา เริ่มความดีที่ใจเราก่อนเสมอ พิมพ์คำว่า "เริ่มความดีที่ใจเราก่อนเสมอ":
บุคคลที่ไปหลายๆเว็บไซต์ โดยที่สวมบทบาทเป็นหลายๆคน โดยที่ไม่รู้ว่า แท้จริงใจเราต้องการอะไร เพื่อน หรือ ชัยชนะ:
กล่าวคำดังนี้  "ขอโทษนะ":
ระหว่าง (ผู้ที่เรียนรู้ธรรมะเพื่อเอาชนะผู้อื่น) กับ (ผู้ที่เรียนรู้ธรรมะเพื่อเอาชนะตัวเอง)  ท่านจะเลือกเป็น:
กล่าวคำดังนี้  "ให้อภัยนะ":
กล่าวคำดังนี้  "ขออโหสิกรรม":
หากมีคน บอกว่า เราไม่ดีเราเลว แต่ใจเรารู้ว่าไม่เป็นเช่นนั้น เราจะใช้วิธีใดจัดการกับเรื่องนี้  (โต้เถียงให้แรงกว่าที่เค้าว่ามา) หรือ (เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ความดีของเราเองไม่ต้องทำอะไร):
เคยนวดฝ่าเท้าให้ คุณพ่อคุณแม่บ้างไหม ถ้ามีโอกาส เราควรทำหรือไม่ (ควรกระทำอย่างยิ่ง หรือ ไม่ควรทำ):
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ใต้ร่มธรรมเองก็จะเป็นไปตามวัฐจักรนี้ ฉันท์ใดก็ฉันท์นั้น (เป็นจริง) หรือ (ไม่จริง):
สำนวนไทยที่ว่า แต่ละคนต่างมีรสนิยมแตกต่างกัน หรือไม่ตรงกัน  พิมพ์สำนวนต่อไปนี้ครับ (ลางเนื้อชอบลางยา):
ขนทรายเข้าวัดคือ พิมพ์สำนวนต่อไปนี้ครับ (ทำบุญทำกุศลโดยวิธีนำหรือหาประโยชน์เพื่อส่วนรวมมิได้ทำเพื่อตนเอง):
ไม่มีอะไรสายสำหรับการเริ่มต้น พิมพ์เป็นประโยคภาษาอังกฤษครับ เป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมดนะครับ เว้นวรรคคำด้วยครับ (It is never too late to mend):
ผู้ที่ไม่เคยรับรู้รสของความขมขื่น จะไม่รู้ว่าความหวานชื่นคืออะไร พิมพ์เป็นประโยคภาษาอังกฤษครับ เป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมดนะครับ เว้นวรรคคำด้วยครับ (He who has never tasted bitterness does not know what is sweet):

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: โทนาล
« เมื่อ: กรกฎาคม 05, 2011, 01:18:09 pm »

(ต่อ) 

   ผมลงจากรถ เธอเหมือนจะจำผมได้ ความสง่างามแผ่รัศมีจากร่างของเธอ และเธอวิ่งมาหาผม ผมครุ่นคิดว่าเธอน่าจะงีบหลับพักกลางวัน และเสียงรถของผมปลุกให้เธอตื่น และเธอจึงออกมาดูว่าเกิดอะไรขณะที่เธอกำลังวิ่งมานั้นก็ไม่น่าระรู้ว่าเป็นใครตั้งแต่แรก ออกจะไม่เหมาะนักที่ผุ้หยิงวิ่งเข้ามาหาผม แล้วแสร้งยิ้ม เธอหยุดลง ชั่วขณะหนึ่งผมสงสัยว่าทำไม  เธอจึงคล่องแคล่วปานนี้ เธอดูไม่เหมือนมารดาของปาลิโตเลย

     "พระคุณเจ้า  อะไรจะวิเศษอย่างนี้! " เธอ อุทาน
     "โดน่า  โซเลเด๊ด?" ผมถาม แสงความสงสัย
    "ทำไมคุณจำฉันได้ละ?" เธอกล่าว พลางหัวเราะ
     
      ผมคงทำเรื่องโง่ ๆ เกี่ยวกับการวิจารณ์เธออย่างรวเร็ว
      "ทำไมคุณถึงมาขอความช่วยเหลือจากผู้หญิงแก่ ๆ อย่างฉันเสมอเลยน่ะ?" นางถาม จ้องผมอย่างล้อเลียน ท้าทาย
      นางค่อนข้างจะขวานผ่าซากที่กล่าวต่อผม ผมเคยตั้งชื่อเล่นเธอว่า "คุณนายปิรามิด" ผมนึกถึงว่าครั้นหนึ่งเคยบอกกับเนสเตอร์ถึงรูปร่างทรง 3 เหลื่ยมของนางให้ฟัง นางตัวใหญ่ ศรีษะเล็กและเทอทะ ว่าตามปกติ
     "มองที่ฉัน"  เธอพูด " ฉันเหมือนปิรามิดหรือไงกัน?"
    เธอ กำลังยิ้ม กระทั้งสายตาของเธอทำให้ผมรู้สึกอึดอัดอย่างมาก  ผมพยายามที่จะป้องกันตัวด้วยการพูดหยอกเธอ กระทั้งเธอละผมออก และมีน้ำอดน้ำทนต่อผม ผมรู้สึกสำนึกผิดที่เรียกเธออย่างนั้น ผมทำให้เธอมั่นใจขึ้น ผมไม่เคยชัดเจนอย่างนี้ และแน่วแน่
     ขณะหนึ่งเธอเอนตัวออกจการูปร่างปิดรามิดให้มากที่สุด

     "บังเอิญหรืออย่างไร โดน่า โซเลเด๊ด " ผมถาม  "คุณเปลี่ยนไปน่ะ"
     "คุณพูดว่า.." เธอตอบด้วยความแข็งกร้าวในน้ำเสียง "ฉันเปลี่ยนไปงั้น"

     ผมตั้งใจจะเปรียบเทียบเท่านั้น  อย่างไรก็ตามละการพิจารณาได้จบลง ผมเพียงแค่อุปมาอุปไมยไปเท่านั้นเอง นางดูจริงจังกับการเปลี่ยนร่างกายตัวเอง  ทันใดนั้นผมรู้สึกเบื่อเหมือนโลหะเย็น ๆ ผมรู้สึกเสียใจอย่างมาก
     เธอวางกำปั้นบนสะโพกเป็นครั้งแรก  และยืดตัวขาเล็กน้อย แล้วหันหน้ามาทางผม  เธอปล่อยเวลาผ่านไปดั่งแสงสีเขียวของสีกระโปรง และเสื้อเช็ตสีขาวซีด ๆ  เธอรวบกระโปรงขึ้นมาเล็กน้อย ผมเห็นผมบนหัวเธอ เธอโพกผ้าพันรอบศรีษะหนา ๆ ซึ่งชาวอินเดียนสวมกัน เธอย่ำเท้าเปล่าตามจังหวะ ตอบเท้าเบา ๆด้วยเท้าอันใหญ่ของเธอ เธอยิ้มอย่างเปิดเผยของหญิงมีอายุ  ผมไม่เคยเห็นอย่างนี้มาก่อน ราวกับสิ่งแปลกประหลาดต่อการกระทำของเธอ ผมรู้สึกเหมือนมีแสงเรือง ๆ แวบหนึ่งในประกายแววตาของเธอ มันได้รบกวนให้น่าตกใจ ผมคิดว่าบางที ผมไม่เคยรับรู้ว่าแท้จริงแล้วเธอปรากฏออกมาอย่างนี้ ท่ามกลางบางสิ่ง ผมรู้สึกผิดต่อแววตาภายในของพวกเขาตลอดหลายปีของผมกับดอนฮวน บังคับให้เวลาเหมือนรุดหน้าอย่างเต็มกำลัง ทุกฅนคงทำให้มันเกิดขึ้น และไม่มีความสำคัญอะไรเลย
     
         ผมบอกเธอว่าผมสร้างภาพสมมุติว่าเธอน่าจะเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ด้วยความสะเพร่าอย่างใหญ่หลวงซึ่งผมควรได้รับคำติเตียนต่อความผิดที่ไม่ได้รู้จักเธอเลย  และไม่สงสัยว่าผมจะพบเธออีกครั้ง

         เธอหยุดลง เธอแย้มยิ้มและเธอคว้าแขนผมไว้อย่างสุภาพ
         "นั่นคือหลักประกัน" เธอกระซิบบอกข้างหูผม
 
        เธอยิ้มอย่างเยือกเย็น และ ดวงตาเธอเป็นประกาย เธอสะกดผมไว้ ผมรู้สึกได้ถึงหน้าอกที่เธอแนบชิดแขนของผม ผมเริ่มไม่สบายใจขึ้นเรื่อย ๆ ผมอยากให้แน่ใจด้วยเหตุผลมากกว่าความกลัว ผมย้ำเสมอว่าร่างกายของผมนั่นจะมากขึ้นและมากขึ้น ขณะที่ผมเข้าใจความจริงอย่างที่ไม่เคยรู้มาก่อนถึงมารดาของปาลิโต และทั้ง ๆ ที่ มันออกจะแปลกเกินไป บางทีเธออาจมีพฤติกรรมอย่างนี้อยู่แล้ว บางอย่างทำให้ผมกลัว ผมรู้ถึงสิ่งเหล่านั้น เพียงแต่ต้องมั่นคงในความคิดต่อเหตุผลทั้งหมด เพราะไม่มีเนื้อหาใดมากไปกว่านี้ ผม
     


(ต่อ)
ข้อความโดย: โทนาล
« เมื่อ: กรกฎาคม 04, 2011, 05:06:03 pm »

(ต่อ )


        ภายหลัง ชั่วครู่หนึ่ง  ผมได้ละทิ้งโอกาสของผมไป ผมครุ่นคิด แม้ผมจะต้องเริ่มต้นเปลี่ยนสถานที่ ผมออกเดินทางอย่างไม่มีเหตุผล
ถึงออกจะเสี่ยงที่ผมต้องผ่านอดีตที่ผ่านมาแล้วนับจำนวนไม่น้อยในสถานที่แห่งนี้

         ผมอยากกลับห้องพักที่โรงแรมเพื่อผักผ่อน และ ในตอนนั้น ผมต้องการจะเดินทางต่ออีกครั้งสู่ถนนอย่างไร้จุดหมาย ผมไม่ได้มีความหวัง
เท่าไรที่จะพบดอนฮวน แม้ผมจะอยู่ที่นี่ตลอดทั้งบ่าย ผมก็ไม่เลิกทำต่อไป ผมต้องการกลับไปที่ห้องพักในโรงแรมอีกครั้งเพื่อนอนหลับในค่ำคืน
ที่แสนหมองหม่น

        ก่อนที่ผมจะมุ่งหน้าสู่เนินเขาในตอนเช้า ผมขับรถเข้าไปและขึ้นสู่ถนนใหญ่ ด้วยเหตุผลบางประการ ผมรับรู้ว่าผมสูญเปล่าตลอดเวลา
ดอนฮวนไม่ได้อยู่ที่นี่.

      มันนำผมขับรถไปตลอดทั้งเช้ายังเมืองเล็ก ๆ ที่นี่ ที่ซึ่งปาลิโตและเนสเตอร์อาศัยอยู่
       ผมขึ้นไปด้านบนในช่วงเช้า ที่ดอนฮวนเคยฝึกสอน ผมไม่เคยขับรถเข้ามาถึงที่นี่โดยตรง เมืองนี้เหมือนไม่มีสิ่งเร้าใจใด ๆ ในอยากรู้อยากเห็น
ของผู้มาเยือน   ทุก ๆ เวลา ผมอยากมาที่นี่อยู่เสมอจึงขับรถออกห่างจากถนน
       
      กระทั้ง ก่อนที่จะไปยังเมือง ไปสู่พื้นที่ราบของทุ่งนา ที่นี่มีเด็กหนุ่มหลายคนเล่นช็อกเกอร์ ความสกปรกถูกอัดแน่นตามทางที่มองเห็น มากพอที่จะสังเกต
ผ่าน โดยปาลิโตดั่งที่ผมที่ต้องขับรถอยู่ริมขอบถนนของทุ่งนา  ผมพบว่าขณะที่เคลื่อนผ่านถนนก้อนกรวด
     
      ผมตรึกตรองอยู่ว่าจะไปบ้านเนวเตอร์ หรือ ปาลิโต ดี กระทั่งความรูสึกบอกว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ที่นี่
แม้กระนั้นก็ยังมุ่งหน้าไป ผมเลือกที่จะไปยังบ้านปาลิโตที่
เขาอาศัยอยู่กับมารดาและพี่สาวทั้งสี่ฅน  ถ้าเขาไม่ได้อยู่ที่นั่นจริง ก็ยังมีเหล่าผู้หญิงที่พอให้ความช่วยเหลือเขาอยู่ 
ดังนั้นผมจึงสิ้นสุดยังบ้านของเขา ผมสังเกตถนนที่สำคัญเพื่อขึ้นไปยังบ้านซึ่งมีอาณาเขตกว้างขวาง
ผมแลดูมันเหมือนพื้นจะเกยขึ้นมา และใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ มากพอที่จะเห็นรถของผม  ผมขับมาเกือบจะถึงหน้าประตู
ทางระเบียงที่มีหลังคากับกระเบื้องมุ่งหลังคาที่ทำจากอิฐตากแห้งต่อเข้ากับตัวบ้าน ที่นี่ไม่มีเสียงสุนัขเห่า
กระนั้นผมประติดประต่อความใหญ่โตของที่นั่งชุดหนึ่ง  ด้านหลังที่ล้อมรั้วรอบบริเวณ
ผมเฝ้าดูอย่างระแวดระวัง ฝูงแม่ไก่จับกลุ่ม ที่ถูกปล่อยทิ้งอยู่หน้าบ้าน และส่งเสียงร้อง  ผมดึงคันเบรกมือและยืดบริเวณคอและ
ศรีษะด้วยร่างกายที่เมื่อยตึง

       บ้านหลังนี้ดูท่าทางจะร้าง ไม่แน่ใจว่าปาลิโตและครอบครัวจะอยู่หรือเปล่า และบางครั้งก็เหมือนว่าจะอยู่ที่นี่ ทันใดนั้น ประตู
หน้าบ้านก็เปิดออกอย่างว่าง่าย และมารดาของปาลิโตก็ก้าวเท้าออกมาราวกับเชิญชวน นางเหมือนนักแสดงที่อยู่ในบทบาทขี้หลง
ขี้ลืม 

   
       
ข้อความโดย: โทนาล
« เมื่อ: กรกฎาคม 04, 2011, 02:44:56 pm »

:06:
บทแรกก็เล่นเอาน่วมเลย นึกว่าน้อยแผ่น ตั้ง 20 หน้าแหน่ะ  :09:
 


วงเเหวนที่สองแห่งพลัง ; การเปลี่ยนแปลงของ โดน่า โซเลเด็ด




       ผมแทบไม่ทันรู้ตัวว่าทำไมเนสเตอร์และปาลิโตไม่ได้อยู่บ้าน ในความแน่ใจของผมสัมผัสบางอย่างว่าผมต้องหยุดรถ

        ผมจึงไปยังสถานที่ที่ซึ่งลาดยาดมะตอย(asphalt)โดยทันที และ ผมต้องการพิจราณาเรื่องนี้ใหม่ไม่ว่าจะต้องทำต่อไป 
วันที่ยาวนานและยากลำบากได้ผลักดันสู่ในความเศร้าสลด  ก้อนกรวดที่หยาบกระด้างบนถนนนำไปสู่ที่ที่พวกเขาอาศัยอยู่ในยอดเขาในเม๊กซิโกกลาง 

          ผมเเล่นรถลงมาเปิดหน้าต่างรถ  สายลมภายนอกค่อนข้างแรงและหนาว  ผมออกไปเยียดแข้งขา 
ความตึงเครียดตลอดที่ขับรถมาหลายชั่วโมงทำให้ขาและคอของผมคัดยอก ผมออกเดินริมถนนที่ปูด้วยก้อนกรวด
บริเวณนี้เปียกชุ่มก่อนที่ห่าฝนจะตก น้ำฝนยังคนตกลงมาอย่างหนักบนยอดเนินเขาทางใต้ช่วงสั้น ๆ   ไม่ไกลออกไปจากที่นั่น
ผมอยู่ด้านหน้าของมันเลยทีเดียว ทางนั้นไปสู่ทิศตะวันออกและทิศเหนือ  ท้องฟ้าเริ่งแจ่มใส แน่นอนว่าจากจุดถนน
ผมสามารถเห็นยอดภูเขาสีน้ำเงินของเทือกเขาส่องสว่างอยู่ในแสงแดดที่แสนวิเศษอยู่ไกล ๆ


         ต่อมา ชั่วครู่เมื่อได้ไตร่ตรอง ผมตัดสินใจที่จะหันหลังกลับและไปยังเมืองเพราะผมรู้สึกแปลก ๆ ต่อความรู้สึก
ว่าผมต้องไปพบดอนฮวนที่ตลาดนัด ภายหลัง ผมคิดเสมอว่าจะพบเขาที่ตลาด

         นับตั้งแต่เริ่มต้นของการค้นหาร่วมกับเขา ราวกับเป็นสิ่งที่ต้องปฏิบัติ ถ้าผมไม่พบเขาในโซโนร่า 
ผมจะขับรถไปยังเม็กซิโกกลาง และ ไปถึงที่ตลาดในเมืองโดยเฉพาะ และไม่ช้าหรือเร็ว  ดอนฮวนจะปรากฏตัวขึ้นมา

        ตลอดเวลาที่ยาวนาน ผมเฝ้ารอคอยการมาของเขาถึงสองวัน ผมทำให้เคยชินถึงการพบปะในลักษณะนี้
 เมื่อผมสมบูรณ์มากกว่านี้ สิ่งที่ผมตั้งใจคือเจอเขาอีกครั้ง อย่างที่เกิดขึ้นเสมอมา

       ผมรอคอยที่ตลาดตลอดทั้งเช้า ผมเดินไปเดินมาขึ้นและลงระหว่างสองข้างที่ตั้งขายของ แกล้งทำเป็นกำลังมอง
หาซื้อของ ผมเฝ้าอยู่โดยรอบสวน ปัดฝุ่นขากางเกง ผมรู้ว่าเขาจะไม่กลับมา ผมในตอนนั้นแค่ความรู้สึกอันตื่นเต้นว่าเขาจะมาที่นี่ เมื่อผมหันมองไปด้านข้าง 
ผมลงนั่งในสวนที่ม้านั่ง ที่นั่น  ผมเคยนั่งกับเขาและผู้ในฐานะผู้ถูกทดสอบ วิเคาระห์หลักการ  ด้านบนในเมืองนี้ ผมกลับภาคภูมิใจกับเขาถึงความรู้อันกระจ่าง
แม้ดอนฮวนจะมาที่นี่ในถนนแห่งนี้  อะไรที่ผมรู้สึกมาก ๆ ในตอนนั้น ต่อความทรงจำของการมีเขาต่อที่นี่นับไม่ถ้วนตลอดเวลา  ร่างกายของผมรับรู้ว่าเขาเฝ้าดูผมอยู่
ผมแน่ใจในความกรุณาของพลังได้อย่างแท้จริง  ผมรู้ว่าเขาจะไม่มายังที่นี่อีกต่อไป เขาหันให้และผมก็พลาดจากเขาไปอย่างน่าเสียดาย

(ต่อ)