ตอบ

ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

Verification:
ระหว่างความดีกับความไม่ดี เราจะเลือกทำสิ่งใดจึงจะสามารถบรรลุธรรมได้จริง ( เลือกตอบแค่ ความดี กับ ความไม่ดี ครับผม):
คนที่มีจิตใจอ่อนโยนส่วนใหญ่มัก คิดถึงสิ่งใดก่อนเสมอ  ( เลือกตอบแค่ ตัวเอง กับ คนอื่น ครับผม ):
กัน-ละ-ยา-นะ-มิด เขียนเป็นภาษาไทยที่ถูกต้องว่าอย่างไรครับ:
คิดว่าความดีทำยากไหม( เลือกตอบแค่ ยาก กับ ไม่ยาก ครับผม):
ถ้าเราโกรธใคร ธรรมะจะเป็นหนทางผ่อนคลายความโกรธนั้นลงได้ใช่ไหม ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม ):
ชีวิตบางครั้งก็เหมือนเหรียญสองด้านใช่หรือไม่ครับบางครั้งก็หัวบางครั้งก็ก้อย( เลือกตอบแค่ ใช่ กับไม่ใช่ครับผม):
เว็บใต้ร่มธรรมเป็นเว็บเล็กๆแนวธรรมะในจิตใช่หรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า แสงธรรมนำใจ:
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า ความดีนำทาง:
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า ใต้ร่มธรรม:
เปล่งวาจาว่าสาธุ เป็นการอนุโมทนาต่อพระสงฆ์ที่วัด หรือมีใครทำบุญแล้วมาบอกให้ทราบ ทราบแล้วยกมือขึ้น (สาธุ) กรุณาพิมพ์คำนี้ครับ  สาธุ:
ใต้ร่มธรรม เป็น แค่เว็บไซต์และจินตนาการทางจิต การทำดี สำคัญที่ใจเรา เริ่มความดีที่ใจเราก่อนเสมอ พิมพ์คำว่า "เริ่มความดีที่ใจเราก่อนเสมอ":
คุณพ่อคุณแม่เปรียบดั่งพระอรหันต์ในบ้าน พิมพ์คำว่า "คุณพ่อคุณแม่ฉันรักและเคารพท่านดุจพระอรหันต์":
เมื่อให้ท่านเลือก ระหว่าง (หนังสือเก่าๆเล่มหนึ่งที่เรารัก) กับ (มิตรแท้ที่รักเรา) คุณจะะเลือก:
กล่าวคำดังนี้  "ขอโทษนะ":
เคยนวดฝ่าเท้าให้ คุณพ่อคุณแม่บ้างไหม ถ้ามีโอกาส เราควรทำหรือไม่ (ควรกระทำอย่างยิ่ง หรือ ไม่ควรทำ):
พิมพ์คำว่า (แสงธรรมนำทางธรรมะนำใจ) ครับ:
ขนทรายเข้าวัดคือ พิมพ์สำนวนต่อไปนี้ครับ (ทำบุญทำกุศลโดยวิธีนำหรือหาประโยชน์เพื่อส่วนรวมมิได้ทำเพื่อตนเอง):
ผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ ผู้ที่ทำตนให้เล็กที่สุด ผู้ที่เล็กที่สุดก็จะกลายเป็นผู้ที่ใหญ่ที่สุด ผู้ที่มีเกียรติคือผู้ที่ให้เกียรติผู้อื่น ฉะนั้นสมาชิกใต้ร่มธรรมควรให้เกียรติกันและกัน พิมพ์คำว่า (ฉันจะให้เกียรติสมาชิกทุกๆท่านในใต้ร่มธรรมเสมอด้วยวาจาสุภาพอ่อนน้อม):
ผู้ที่ไม่เคยรับรู้รสของความขมขื่น จะไม่รู้ว่าความหวานชื่นคืออะไร พิมพ์เป็นประโยคภาษาอังกฤษครับ เป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมดนะครับ เว้นวรรคคำด้วยครับ (He who has never tasted bitterness does not know what is sweet):

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: ฐิตา
« เมื่อ: สิงหาคม 11, 2011, 10:39:21 am »




         



                 

เจ้าลูกรัก.. เอย...
เจ้าลูกรัก.. ของแม่.. เอ๋ย....
แม่คิดถึงเจ้า........

ข้อความโดย: กระตุกหางแมว
« เมื่อ: กรกฎาคม 30, 2010, 02:11:38 pm »

อ่านแล้วอยากมีลูก(ล้อเล่นครับ)
ผมไม่ค่อยได้กอดแม่นัก..สงสัยต้องไปกอดสักทีนึงละ
 :27:
ข้อความโดย: ฐิตา
« เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2010, 03:55:44 am »

ผมกำลังจะเขียนเรื่องแนวนี้อยู่พอดีเลยครับพี่แป๋ม
จะใช้ชื่อเรื่องว่า ขอให้พ่อได้สอนลูก..
ตอนนี้กำลังหาข้อมูลและเรียบเรียงเรื่องราวอยู่
กะว่าจะพิมพ์รวมเล่มเลยเชียวแหละ.  :06:


 :25: :02: :07:

แทบจะรอไม่ไหว.. ถึงอย่างไรก็รอค่ะ น้องเพียว..
ขอบคุณไว้ก่อนเป็นการ ผูกมัด..
 :06:
ขอบคุณค่ะ.. ขอบคุณนะคะ.. ขอบคุณมากๆเลยน่ะค่ะ...


 :13: :25: :43:
ข้อความโดย: แก้มโขทัย
« เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2010, 12:33:32 am »

 :15: :15: :15: :15:
ข้อความโดย: Pure+
« เมื่อ: กรกฎาคม 26, 2010, 10:37:42 pm »

ผมกำลังจะเขียนเรื่องแนวนี้อยู่พอดีเลยครับพี่แป๋ม
จะใช้ชื่อเรื่องว่า ขอให้พ่อได้สอนลูก..
ตอนนี้กำลังหาข้อมูลและเรียบเรียงเรื่องราวอยู่
กะว่าจะพิมพ์รวมเล่มเลยเชียวแหละ.  :06:
ข้อความโดย: Plusz
« เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2010, 11:38:47 pm »

ขอบคุณค่ะ ถ่ายทอดอารมณ์ได้ชัดเจนมาก :23:
ข้อความโดย: สายลมที่หวังดี
« เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2010, 10:52:09 pm »

อ่านแล้วเหมือนกำลังนั่งฟังหัวใจของแม่เลยค่ะ อยากกอดๆๆๆแม่อ่ะ
ข้อความโดย: ฐิตา
« เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2010, 11:10:42 pm »






ด้วยความยินดีค่ะ กำลังใจจากน้องๆ ทำให้มี"กำลัง" น่ะค่ะ...
ข้อความโดย: ฐิตา
« เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2010, 11:03:39 pm »







อย่าไปสำคัญว่าตนจะเป็นคนเหลวเปล่าไป กลายเป็นคนยอมคนอื่น เป็นคนอ่อนแอ...แต่ความจริงคนที่จะยอมรับความจริงได้โดยจิตใจที่ไม่เดือดร้อนนั้นแหละ  เป็นผู้กล้าหาญ ...เขาย่อมกำจัดเสียซึ่งความหวั่นไหวของกิเลสโทสะในตนออกได้สิ้น เขาจึงหาใช่ผู้แพ้  หรือแหยต่อคนอื่นไม่.....

เพราะเขาคือผู้ชนะ...  คือผู้ชนะกิเลสภายในตนได้

“ผู้ชนะตน ย่อมได้ชื่อว่า เป็นผู้ชนะในที่ทั้งปวง”

เพราะไม่ว่าจะเป็นขุนศึกผู้กรำศึกน้อยใหญ่มาราบคาบแล้วสักปานใด  แม้จะเป็นผู้ชนะอย่างนั้น เขาก็หาได้ชื่อว่า เป็นผู้ชนะไม่หรอก....... เพราะเขาไม่อาจจะกำจัดความเดือดร้อนแห่งจิตใจตนเพราะอำนาจโทสะ หรืออำนาจราคะได้เลย 

ศึกภายใน ย่อมชื่อว่าใหญ่หลวงนัก 

ผู้ชนะตน เขาจึงไม่ใช่ผู้แพ้ ผู้แหย หรือผู้อ่อนแอแต่อย่างใด..เขาย่อมเป็นผู้กล้าด้วยปัญญาโดยแท้

เมื่อตนยังชนะกิเลสภายในตนได้แล้ว จะป่วยกล่าวไปใยในบุคคลอื่น... กิเลสคนอื่น.... ความชั่วของคนอื่นที่ปรากฏขึ้นแล้วด้วยเล่า?.... ย่อมไม่อาจจะกระทำความหวั่นไหวให้แก่เขาได้เลย

ลูกจึงสมควรหันมาฟังไว้บ้าง พอเป็นปัจจัยแก่ปัญญาตน

เมื่อคราวใด ลูกรู้สึกถึงความเดือดร้อนในใจ กระสับกระส่ายขึ้นมา....ลูก ก็จงถามตนว่า....นี่ เราเดือดร้อน เพราะความอยากได้ หรือความไม่อยากได้ในสิ่งอันใดเล่า?

เพราะหากมีปัญญาเกิดแล้ว ลูกย่อมรู้ว่า ธรรมทั้งหลายปรากฏโดยความเป็นผลต่อตนเองแล้ว ก็รู้ทันทีว่า นี้เกิดขึ้นเพราะอำนาจกรรม..... หาได้อยู่ในอำนาจแห่งตนที่จะบังคับบัญชาเอาได้เลย...

ไม่อยากได้ ก็ต้องได้รับ.... ไม่อยากเห็น ก็ต้องเห็น.... ไม่อยากประสบพบเจอ ก็ต้องพบเจอ..เราหรือบังคับเอาได้ตามใจปรารถนา?

และในธรรมบางอย่าง แม้เราอยากจะได้สักปานไหน หากกรรมไม่สมควรแก่ผลนั้นๆ ไม่ว่า ใครๆในโลกนี้ก็ไม่สามารถบังคับเอาได้เลย..ไม่ว่าจะเป็นพระราชาในแว่นแคว้นใดๆในโลก หรือขุนศึกผู้ยิ่งใหญ่ ก็ไม่อาจจะกระทำความปรารถนาให้เกิดทุกอย่างแก่ตนได้เลย

เขาย่อมไม่สามารถบังคับเอาว่า... ขอความแก่ อย่าเกิดแก่เรา.... ขอความเจ็บอย่าเกิดแก่เรา... ขอความทุกข์กายทุกข์ใจอย่าเกิดแก่เรา... ขอความตายอย่างเกิดแก่เรา...ได้เลย

ดังนั้น การที่ลูกได้เจอคนไม่ดี และเสียทรัพย์ไปนั้น  จงกระทำความร่าเริงใจให้เกิดภายในตนเถิด

คนมีปัญญา ยามได้รับก็รับเป็น...ในยามเสีย ก็เสียเป็น  เขาจึงเป็นผู้สงบ เป็นผู้ชนะตน

ลูกจงพิจารณาให้เกิดความร่าเริงอย่างนี้ว่า..เพราะความไม่แยบคายของเราทำให้ให้เกิดการศึกษาเรียนรู้ต่อไป....เพราะไม่แยบคาย ผลอันเกิดแต่กรรมชั่วก็ได้ปัจจัยมาส่งผลทำให้เสียทรัพย์ไป...... เอาละ ดีแล้วที่เราไม่เจ็บป่วยกาย......ดีละที่เราไม่ได้ประสบเภทภัยอันใด...ดีละเราได้รู้จักคนพาลที่เราพึงหลีกเลี่ยงไปเสีย

แม้บทเรียนที่เกิดราคาความเสียหายครั้งนี้ ชื่อว่าดีนัก..... เพราะย่อมปรากฏเสมือนของราคาถูก..... การเรียนรู้จักคนพาลอย่างนี้ ราคาไม่แพงอย่างที่คิด....... เพราะบางคนในโลกถึงกับหมดเนื้อหมดตัว เสียทั้งกายและใจเพราะหลงคบคนพาล  ราคาค่าเสียหายเห็นปานฉะนั้นไม่เกิดแก่เรา..เรานี้ช่างบุญดีนัก

ก็เมื่อลูกปรารภอย่างนี้ ลูกย่อมสงบภายในใจ อภัยในความชั่วของคนอื่นเพราะยอมรับ  และเพิ่มความระมัดระวังตนในคราวต่อไป...

เมื่อเป็นดังนี้ ก็ดุจบุคคลผู้ฉลาด.....ไม่หลงหอบหิ้วของอันไม่เป็นประโยชน์วางไว้บนบ่าของตน ไม่หลงสะพาย ไม่หลงแบกความไม่สบายใจหรือความกลัดกลุ้มใดๆไว้อีก.......เขาย่อมเบากายเบาใจ ดุจบุรุษผู้วางของของที่หนักบนบ่าของตนไว้กับพื้น..ก็ของหนักนั้น ย่อมไม่ผุดขึ้นมาเป็นอารมณ์แก่ความขัดเคือง คับข้องใจอีกต่อไป  การไม่หลงคบคนชั่วเป็นมิตรต่อไป ย่อมเป็นความโปร่งใจ สบายใจ...เมื่อปรารภอย่างนี้ ลูกย่อมเข้าถึงความร่าเริงใจ ในบัดนั้น  ดุจบุคคลผู้ชำระหนี้ของตนหมดในงวดสุดท้ายนั่นเทียว 

แม่ขอฝากข้อความนี้ไว้เป็นปัจจัยแก่ปัญญาของลูก เพื่อให้ระลึกรู้ถึงความจริงได้ เพื่อประโยชน์ต่อไปในภายภาคหน้า ไม่ให้เป็นผู้หลงโลก หลงอารมณ์ ต่อสู้เอาผิดเอาถูกตลอดเวลา  จนทำให้ใจเดือดร้อน.... เพราะหลงว่าตนมีอำนาจบังคับบัญชาอะไรๆได้ จึงเป็นผู้เหนื่อยเปล่า อ่อนล้า หาสาระอะไรไม่ได้เลย

แม้ลูกไม่เชื่อ ไม่ปฏิบัติตาม ก็ไม่เป็นไร .....เพราะแม่คงไม่มีสิทธิไปสอนลูก...ลูกต้องมีปัญญาขึ้นมาสอนตนเองให้เป็น........แต่ก็จงพิจารณาให้ดีเถิด    เพราะในที่สุด ความทุกข์ภายในใจของลูก ย่อมจะเป็นครูสอนตนเอง

เป็นผู้ประกาศความจริงกับลูกในวันหนึ่งข้างหน้า...

ลูกย่อมสามารถนำข้อความทั้งหมดนี้  ไปพิจารณาถึงเหตุผลความจริง  เพื่อเป็นปัจจัยแก่ปัญญาลูก ..ต่อไป    ลูกย่อมคิด ...ย่อมพูด... ย่อมทำตามวิสัยของผู้มีปัญญาได้..

ผู้มีปัญญาย่อมเป็นผู้สงบ เป็นสุข ปราศจากเครื่องเดือดร้อนในชีวิต         ซึ่งทั้งหลายทั้งปวง  ลูกต้องตัดสินด้วยปัญญาของลูกเอง..ใครก็ทำแทนให้ก็ไม่ได้  และความสุขความทุกข์ต่อไปเบื้องหน้าของลูก   ตนก็ย่อมต้องเสวยผลที่ตนกระทำลงไปทั้งสิ้น  นี้เป็นสัจจะโดยแท้!

ด้วยรักและห่วงใย
แม่ของลูก







 :19:http://www.raksa-dhamma.com/topic_66.php
          : http://www.sookjai.com/index.php?topic=992.0#top
อนุโมทนาสาธุค่ะ
ข้อความโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน
« เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2010, 10:49:28 pm »

 :12: กอดด้วยคนครับ 55+ ขอบคุณครับพี่แป๋ม