ข้อความโดย: lek
« เมื่อ: สิงหาคม 19, 2011, 04:44:48 am »กรรม คือ การกระทำ(ลงไปแล้ว) โดยเจตนา
กรรมที่ผู้อื่น(คนทั่วไป) รับรู้ ได้ คือ กรรมทางวาจา และกรรมทางกาย
กรรมทางใจของเธอ ผู้อื่น(คนทั่วไป)จะรับรู้ได้ต่อเมื่อเธอแสดงออกทางวาจา หรือ ทางกาย
ส่วนความคิดก่อนเกิด กรรม หากหยุดหรือตัด สังขาร(การปรุงแต่งจิต) ลงไปได้ การสร้างกรรม-
ไม่ว่า เลว หรือ ดี ก็หยุดลง เช่นกัน
.................................................................................................
ส่วน บาปกรรมทางวาจา
หรือ บาปกรรมจากการเขียน
หรือ บาปกรรมจากVDO
ผมเชื่อว่า เป็นบาปกรรม ทั้งสิ้น
..................................................................................................
เพียงแต่ เขา ผู้ซึ่งรับรู้จากกรรมของเธอ
เป็นผู้มีจิตใจระดับใด
เป็นผู้สนใจ ใส่ใจกับกรรมของเธอ เพียงใด
เป็นผู้ให้อภัย มากน้อยเพียงใด
เป็นผู้เข้าใจธรรมชาติของเด็ก ผู้ใหญ่ หรือวุฒิภาวะ เพียงใด
เราคงเคยเห็น พระพุทธเจ้า ได้ทรงสอนไว้ ว่า
ความโกรธ มีหลายระดับ คือ
โกรธ เหมือนใช้ไม้ เขียนตัวอักษร ไว้บน สายน้ำ (คือ เขียนแล้ว ก็หายไป)
(เสมือนหนึ่ง บาปกรรมที่พูดออกไป)
โกรธ เหมือน ใช้เหล็ก สลัก ตัวอักษร ไว้บนหินผา (คือ เขียนไว้เป็นสาปแช่ง)
(เสมือนหนึ่ง บาปกรรมที่เขียนออกไป บาปกรรมที่ทำ VDOออกไป)
แต่สำหรับผู้รับสาร หรือ ผู้รับรู้ กรรมที่เธอ กระทำออกไป นั้น
การตอบรับของเขา เหล่านั้น คงมีอยู่ 3 ประเภท คือ
1.ใส่ใจ คือ โกรธ ถึง โกรธแค้นมาก (เพราะเหตุใดก็ตาม)
2.ไม่ได้ใส่ใจ ไม่ติดใจอะไร เพียงแต่รับรู้ อ่าน หรือ ดู ผ่านไป (เพราะเหตุใดก็ตาม)
3.นิ่งสงบ (รู้สึกแบบพระอรหันต์ คือ รู้ว่า เํธอ ผู้ยังไม่รู้ ผู้ยังไม่ตื่น)
..................................................................................................
คนประเภทแรก จึงเป็นประเภทที่น่าเป็นห่วงที่สุด หากยังคงใส่ใจ จนถึงปัจจุบันนี้
เพราะเขาคนนั้น ยังคงโกรธต่อไป แม้นว่า เป็นเพียง วาจา คำพูด ที่ไม่มีการบันทึกใดๆไว้เป็นหลักฐาน
แต่ยังคง ฝังใจ อยู่ พร้อมที่จะระบายเป็นบาปกรรมอื่น ต่อไป
...
ดังนั้น บาปกรรมทางวาจา ก็ไม่ควรสร้างไว้
แม้นจะเห็นว่า ไม่เป็นไร เพราะเขาคง จดจำ ไม่ได้
แต่หารู้ไม่ว่า จิต เป็นเครื่องบันทึกกรรมจากผู้อื่น ได้ดี เช่นกัน
ขึ้นอยู่กับ จิต จะให้ความสนใจ ใส่ใจ นานเพียงใด
...
บาปกรรมของเขา ผู้นั้น คง คลาย ลงได้ ต่อเมื่อ "ให้อภัย" และ กลับมาสู่ "ความสงบใจ" ดังเดิม
.....................................................
อริยมรรคมีองค์ 8 คือ สูตรสำเร็จแห่งการดับทุกข์
ขอบพระคุณที่มาจากคุณbad&good
กรรมที่ผู้อื่น(คนทั่วไป) รับรู้ ได้ คือ กรรมทางวาจา และกรรมทางกาย
กรรมทางใจของเธอ ผู้อื่น(คนทั่วไป)จะรับรู้ได้ต่อเมื่อเธอแสดงออกทางวาจา หรือ ทางกาย
ส่วนความคิดก่อนเกิด กรรม หากหยุดหรือตัด สังขาร(การปรุงแต่งจิต) ลงไปได้ การสร้างกรรม-
ไม่ว่า เลว หรือ ดี ก็หยุดลง เช่นกัน
.................................................................................................
ส่วน บาปกรรมทางวาจา
หรือ บาปกรรมจากการเขียน
หรือ บาปกรรมจากVDO
ผมเชื่อว่า เป็นบาปกรรม ทั้งสิ้น
..................................................................................................
เพียงแต่ เขา ผู้ซึ่งรับรู้จากกรรมของเธอ
เป็นผู้มีจิตใจระดับใด
เป็นผู้สนใจ ใส่ใจกับกรรมของเธอ เพียงใด
เป็นผู้ให้อภัย มากน้อยเพียงใด
เป็นผู้เข้าใจธรรมชาติของเด็ก ผู้ใหญ่ หรือวุฒิภาวะ เพียงใด
เราคงเคยเห็น พระพุทธเจ้า ได้ทรงสอนไว้ ว่า
ความโกรธ มีหลายระดับ คือ
โกรธ เหมือนใช้ไม้ เขียนตัวอักษร ไว้บน สายน้ำ (คือ เขียนแล้ว ก็หายไป)
(เสมือนหนึ่ง บาปกรรมที่พูดออกไป)
โกรธ เหมือน ใช้เหล็ก สลัก ตัวอักษร ไว้บนหินผา (คือ เขียนไว้เป็นสาปแช่ง)
(เสมือนหนึ่ง บาปกรรมที่เขียนออกไป บาปกรรมที่ทำ VDOออกไป)
แต่สำหรับผู้รับสาร หรือ ผู้รับรู้ กรรมที่เธอ กระทำออกไป นั้น
การตอบรับของเขา เหล่านั้น คงมีอยู่ 3 ประเภท คือ
1.ใส่ใจ คือ โกรธ ถึง โกรธแค้นมาก (เพราะเหตุใดก็ตาม)
2.ไม่ได้ใส่ใจ ไม่ติดใจอะไร เพียงแต่รับรู้ อ่าน หรือ ดู ผ่านไป (เพราะเหตุใดก็ตาม)
3.นิ่งสงบ (รู้สึกแบบพระอรหันต์ คือ รู้ว่า เํธอ ผู้ยังไม่รู้ ผู้ยังไม่ตื่น)
..................................................................................................
คนประเภทแรก จึงเป็นประเภทที่น่าเป็นห่วงที่สุด หากยังคงใส่ใจ จนถึงปัจจุบันนี้
เพราะเขาคนนั้น ยังคงโกรธต่อไป แม้นว่า เป็นเพียง วาจา คำพูด ที่ไม่มีการบันทึกใดๆไว้เป็นหลักฐาน
แต่ยังคง ฝังใจ อยู่ พร้อมที่จะระบายเป็นบาปกรรมอื่น ต่อไป
...
ดังนั้น บาปกรรมทางวาจา ก็ไม่ควรสร้างไว้
แม้นจะเห็นว่า ไม่เป็นไร เพราะเขาคง จดจำ ไม่ได้
แต่หารู้ไม่ว่า จิต เป็นเครื่องบันทึกกรรมจากผู้อื่น ได้ดี เช่นกัน
ขึ้นอยู่กับ จิต จะให้ความสนใจ ใส่ใจ นานเพียงใด
...
บาปกรรมของเขา ผู้นั้น คง คลาย ลงได้ ต่อเมื่อ "ให้อภัย" และ กลับมาสู่ "ความสงบใจ" ดังเดิม
.....................................................
อริยมรรคมีองค์ 8 คือ สูตรสำเร็จแห่งการดับทุกข์
ขอบพระคุณที่มาจากคุณbad&good