ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: กันยายน 27, 2011, 11:34:28 am »Memories of Matsuko หนังโศกนาฎกรรมหรรษา
ใครๆก็มีฝัน แต่กี่คนที่จะสามารถทำให้ฝันเป็นจริง
เรื่องราวชีวิตของมัตสึโก๊ะ หญิงสาวแสนซื่อ ที่มีชีวิตที่รันทดหดหู่ ชวนให้น้ำตาไหล แต่ผลงานการกำกับของผู้กำกับของ เท็ตสึยะ นากาชิมะ ไม่ได้ทำให้เรื่องราวของมัตสึโก๊ะดูสิ้นหวังอย่างสิ้นเชิง หนังเต็มไปด้วยความฝัน และความหวัง ด้วยภาพที่สดใส และ เพลงอันไพเราะตลอดทั้งเรื่อง ทำให้เรื่องราวของมัตสึโก๊ะ ที่มีชีวิตที่ผกผัน มีสีสรรค์ ตลอดทั้งเรื่อง
ภาพจากหนังเรื่อง Kamikaze Girls ของ เท็ตสึยะ นากาชิมะ
ผมรู้จักผู้กำกับของ เท็ตสึยะ นากาชิมะ จากการที่เพื่อนแนะนำให้ดูหนังเรื่อง Kamikaze Girls เป็นหนังวัยรุ่นสีจัดจ้านและมีสไตล์เป็นของตัวเอง ผมชอบหนังเรื่องนี้มาก และเมื่อได้รู้ว่าเขากำกับ Memories of Matsuko ผมจึงไม่ลังเลที่จะดู อีกทั้ง House โรงหนัง อาร์ต ในบ้านเรานำเรื่องนี้เข้ามาฉาย แต่หลายๆคนคงพลาดชม เพราะ โรงหนังฉายเพียงที่เดียว ตอนนี้ก็มี VCD ออกมาจำหน่ายแล้วครับ
ก่อนจะเข้าสู่เนื้อเรื่อง ซึ่งผมคงจะเล่าละเอียดหน่อย เพราะคิดว่าหลายคนคงไม่ได้ดู ขอเอ่ยถึงรางวัลและความน่าสนใจของหนังญี่ปุ่นเรื่องนี้ครับ
เรื่องราวชีวิตของมัตสึโก๊ะ หญิงสาวแสนซื่อ ที่มีชีวิตที่รันทดหดหู่ ชวนให้น้ำตาไหล แต่ผลงานการกำกับของผู้กำกับของ เท็ตสึยะ นากาชิมะ ไม่ได้ทำให้เรื่องราวของมัตสึโก๊ะดูสิ้นหวังอย่างสิ้นเชิง หนังเต็มไปด้วยความฝัน และความหวัง ด้วยภาพที่สดใส และ เพลงอันไพเราะตลอดทั้งเรื่อง ทำให้เรื่องราวของมัตสึโก๊ะ ที่มีชีวิตที่ผกผัน มีสีสรรค์ ตลอดทั้งเรื่อง
ภาพจากหนังเรื่อง Kamikaze Girls ของ เท็ตสึยะ นากาชิมะ
ผมรู้จักผู้กำกับของ เท็ตสึยะ นากาชิมะ จากการที่เพื่อนแนะนำให้ดูหนังเรื่อง Kamikaze Girls เป็นหนังวัยรุ่นสีจัดจ้านและมีสไตล์เป็นของตัวเอง ผมชอบหนังเรื่องนี้มาก และเมื่อได้รู้ว่าเขากำกับ Memories of Matsuko ผมจึงไม่ลังเลที่จะดู อีกทั้ง House โรงหนัง อาร์ต ในบ้านเรานำเรื่องนี้เข้ามาฉาย แต่หลายๆคนคงพลาดชม เพราะ โรงหนังฉายเพียงที่เดียว ตอนนี้ก็มี VCD ออกมาจำหน่ายแล้วครับ
ก่อนจะเข้าสู่เนื้อเรื่อง ซึ่งผมคงจะเล่าละเอียดหน่อย เพราะคิดว่าหลายคนคงไม่ได้ดู ขอเอ่ยถึงรางวัลและความน่าสนใจของหนังญี่ปุ่นเรื่องนี้ครับ
*Memories of Matsuko สร้างจากนิยายขายดีติดอันดับของ มุนากิ ยามาดะ
*Memories of Matsuko เข้าชิงรางวัลเจแปน ฟิล์ม อวอร์ดส์ ถึง 9 รางวัลด้วยกัน (รวมทั้งสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและผู้กำกับยอดเยี่ยม) และสามารถคว้ามาได้ 3 รางวัล คือ ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม (แกเบรียล โรแบร์โต และ ซึโยชิ ชิบูยะ), ลำดับภาพยอดเยี่ยม (โยชิยูกิ โคอิเกะ) และ รางวัลนักแสดงนำหญิง ของ มิกิ นากาตานิ ซึ่งได้รับการลงมติว่าเป็นบทนำหญิงที่มีสีสันที่สุดในปี 2006
* Memories of Matsuko ได้รับคัดเลือกจาก บลู ริบบอน อวอร์ดส์ (เวทีประกวดภาพยนตร์ที่น่าเชื่อถืออีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น) ให้เป็น 1 ใน 10 ภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่ดีที่สุดในปี 2006 ที่ผ่านมา เคียงข้างหนังอย่าง Hula Girls ซึ่งเป็นตัวแทนญี่ปุ่นไปชิงรางวัลออสการ์
* นิตยสารคีเนมะ จุนโป (Kinema Junpo) นิตยสารภาพยนตร์ที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น และเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ยกให้ Memories of Matsuko เป็นหนัง 1 ใน 10 ภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่ดีที่สุดในปี 2006
* ด้วยความที่เคยกำกับมิวสิค วิดีโอมาก่อน ผู้กำกับ เทตสึยะ นากาชิมะ เลยสร้างโลกของมัตสึโกะใน Memories of Matsuko ให้ออกมาสวยเหมือนนั่งดูมิวสิค วิดีโอสีฉูดฉาด และสอดแทรกด้วยงานศิลปะแบบป๊อบอาร์ตที่ถึงใจ ตามความตั้งใจของนากาชิมะที่อยากให้หนังเรื่องนี้เป็นที่รวบรวม “งานพาณิชย์ศิลป์” ของญี่ปุ่นทุกอย่างมาใส่ไว้ด้วยกัน ตั้งแต่เพลงญี่ปุ่น การ์ตูนญี่ปุ่น แฟชั่นแบบญี่ปุ่น ฯลฯ
* แกรดี เฮนดริกซ์ นักวิจารณ์จากนิวยอร์ก ซัน ยกให้ Memories of Matsuko เป็นหนังต่างประเทศที่ดีที่สุดที่ยังไม่ได้รับการจัดจำหน่ายในอเมริกา ประจำปี 2006
* Memories of Matsuko ติด 1 ใน 10 บนตารางทำเงินทั้งๆ ที่ตัวหนังออกฉายไปแล้วเป็นจำนวน 5 สัปดาห์ และออกฉายด้วยจำนวนโรงที่น้อยกว่าหนังใหญ่ๆ เรื่องอื่นๆ นอกจากนี้ Memories of Matsuko ยังสร้างปรากฏการณ์กับคนดูด้วยการทำให้คนดูบางคนร้องไห้ แต่บางคนกลับหัวเราะออกมาในฉากเดียวกัน
มาดูเรื่องราวของมัตสึโก๊ะกันต่อครับ
ในภาพเป็น โช กับ ชายเพี้ยนข้างห้องมัตสึโก๊ะ
เริ่มเรื่องจาก “โช “ชายหนุ่มที่ผิดหวังในชีวิต เขาออกจากบ้านมาแสวงหาเส้นทางของตัวเองตั้งแต่อายุ 18 ปี ด้วยความอยากเป็นนักดนตรี เมื่อถูกแฟนสาวตัดเยื่อใย และต้องออกจากวง เขาจมตัวเองอยู่กับเหล้า และวีดีโอโป๊ ภายในห้องเช่าสุดรก เมื่อเช้าวันหนึ่ง พ่อของเขามาหา พร้อมกับกล่องกระดูกคนตาย เขาถามว่าเป็นใคร พ่อบอกว่า นี่คือกระดูกของ มัตสึโก๊ะ ซึ่งเป็นป้าของเจ้า เขามีชีวิตที่ไร้ค่า เมื่อ 2 วันที่ผ่านมานี้เอง ที่มีข่าวออกว่า พบศพหญิงคนหนึ่ง ถูกทุบตีตายริมแม่น้ำ พ่อต้องรีบกลับบ้านที่ต่างจังหวัด จึงให้เขาไปช่วยเก็บบ้านพัก
ไม่น่าเชื่อว่า ป้ามัตสึโก๊ะที่เขาไม่คุ้นเคยพบเลย จะทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยนแปลงตลอดไป เรื่องราวของมัตสึโก๊ะ ถูกถ่ายทอดจากบุคคลหลายคน ผ่านมายัง โช ให้รับรู้ไปพร้อมกับเรา ผู้ชม
“ฉันเกิดมาทำไม?" เชื่อว่าหลายคนเคยตั้งคำถามนี้กับตัวเองอย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต ในขณะที่มีความทุกข์หรือมีความผิดปกติในชีวิตเท่านั้นแหละ ที่เราสงสัยกันเหลือเกินว่า พระเจ้า โชคชะตา หรือเวรกรรม ส่งข้าพเจ้ามาลืมตาบนโลกนี้ด้วยเหตุผลกลใด คำถามนี้เกิดขึ้นเพราะขณะนั้น เรากำลังขาดทั้ง "เครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ" และขาด "เป้าหมายในชีวิต"
เด็กหญิงมัตสึโกะรู้สึกว่าตนได้รับความรักไม่เพียงพอ เธอเห็นว่าพ่อมัวแต่เอาใจใส่น้องสาวที่กำลังป่วยมากกว่าจะสนใจให้ความอบอุ่นเด็กแข็งแรงอย่างเธอ กระนั้น มัตสึโกะก็ยังไม่ยอมแพ้ โดยเฉพาะเมื่อเธอค้นพบว่าอะไรที่ทำให้พ่อยิ้มได้ เด็กหญิงก็จะทำสิ่งนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อเอาชนะผู้ชายคนนี้ แม้ว่าวิธีที่ว่าจะใช้ไม่ได้ผลทุกครั้งไปก็ตาม
ในวัยสาวสะพรั่ง ความน้อยใจที่มีให้ครอบครัว ผสมกับการบาดเจ็บจากเรื่องเข้าใจผิดที่เกิดขึ้นในโรงเรียนที่เธอเป็นครูอยู่ จากการต้องการช่วยเหลือเด็กเกเรที่เธอเป็นครูประจำชั้น ทำให้เธอต้องถูกไล่ออกจากโรงเรียน เธอทำร้ายน้องสาวที่ป่วยและหนีออกจากบ้านถูกตัดญาติขาดมิตรและต้องเดินด้วยลำแข้งของตัวเอง แต่ด้วยความที่มีพื้นฐานจิตใจไม่แข็งแรง เนื่องจากไม่ได้รับความอบอุ่นมากพอ มัตซึโกะจึงกลายเป็นหญิงขี้เหงา ที่ต้องการใครสักคนมาอยู่ข้างกายตลอดเวลา
มัตสึโก๊ะ กับชายนักเขียน
ชีวิตของเธอ ต้องผ่านความบอบช้ำมาอย่างเหลือทน ผู้ชายคนแรกเป็นนักเขียนผู้ชอบตบตีทำร้ายเธอ และขี้เหล้า แต่เธอก็ยังอดทนต่อเขา เขาบังคับให้เธอไปทำงานอาบอบนวด แต่เธอก็ใจไม่กล้าพอ ได้แต่ขอยืมเงินจากน้องชายมาประทังความเป็นอยู่ในครอบครัวขณะนั้น จนกระทั่งเขาฆ่าตัวตาย
มัตสึโก๊ะ กับ ชายที่มีภรรยาแล้ว
ชายคนต่อมา เป็นคนที่มีครอบครัวแล้ว เขาทำให้ มัตสึโก๊ะ สดใสขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เจาจะมาหาเธอทุกวันพุธ ทำให้วันพุธเป็นวันที่เธอรอคอย จนกระทั่งเธอสะกดรอยตามเขาไปที่บ้าน และเขาโกรธมาก จึงเลิกกับเธอ
เธอหันหน้ากลับไปสู่การเป็นหมดนวดด้วยความสมัครใจ ทำให้ครอบครัวยิ่งรับเธอไม่ได้ เธอกลายเป็นดาวเด่นในเรื่องเซ็กซ์ และมีแฟนเป็นแมงดา จนในที่สุด เธออดทนต่อผู้ชายคนนี้ไม่ไหว และกลายเป็นฆาตกร
มัตสึโก๊ะ กับชายช่างตัดผม
เธอตั้งใจจะฆ่าตัวตายตาม แต่ด้วยยังไม่ถึงที่ เธอได้รับการช่วยเหลือจากผู้ชายช่างตัดผมที่แสนจะธรรมดาคนหนึ่ง เธอตั้งใจเริ่มต้นชีวิตใหม่กับเขา แต่ก็เหมือนมีกรรม ตำรวจมาจับกุมเธอได้ เธอต้องโทษในคุกหลายปี
ในคุกนี้ เธอดูแตกต่างจาก ผู้หญิงคนอื่นๆ และเป็นที่จับตามองของหญิงเลสเบี้ยน ซึ่งต่อมากลายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ เรื่องถูกเล่าด้วยเพลง และภาพเป็นช่วงๆในแต่ละช่วงชีวิตของมัตสึโก๊ะ ซึ่งเพลงที่อยู่ในคุกชื่อเพลง ฉันเกิดมาทำไม สะท้อนเรื่องได้ดีทีเดียว และก็ถึงวันที่เธอออกจากคุก
แต่คนที่เธอรอคอย ไม่ได้คอยเธอเสียแล้ว ชายช่างตัดผม เขาแต่งงานใหม่ และมีลูกไปเสียแล้ว มัตสึโก๊ะต้องหอบเอาความผิดหวัง และเริ่มต้นใหม่ในชีวิตอีกครั้ง เธอไปเป็นลูกจ้างในร้านทำผม และมีโอกาสได้มาพบกับเพื่อนรักของเธอในคุก ซึ่งตอนนี้มีสามีเป็นเจ้าพ่อหนังโป๊ และเธอก็เล่นหนังโป๊ด้วย
เรื่องราวน่าจะเป็นไปด้วยดี ถ้ามัตสึโก๊ะไม่พบกับ ริวโยอิจิ ลูกศิษย์ที่ทำให้เธอต้องถูกไล่ออกจากโรงเรียน ขณะนี้กลายเป็นลูกน้องของยากูซ่า เธอไม่ได้โกรธเขาเลย เช่นเดียวกับเขา ที่หลงรักครูมานาน ภาพของครูสาวเสียงใสใจดี ยังอยู่ในใจเขาเสมอ และเมื่อคนเหงาและขาดที่ยึดเหนี่ยว 2 คนมาเจอกัน เธอก็ตกลงไปอยู่กับเขาอย่างรวดเร็ว เธอพูดซ้ำซาก ขอให้เขาอย่าทิ้งเธอไป และขอให้เลิกอาชีพยากูซ่า แต่เขาไม่ยอม และบางครั้งก็ถึงขั้นตบตี แต่เธอก็ยังรักเขา
*Memories of Matsuko เข้าชิงรางวัลเจแปน ฟิล์ม อวอร์ดส์ ถึง 9 รางวัลด้วยกัน (รวมทั้งสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและผู้กำกับยอดเยี่ยม) และสามารถคว้ามาได้ 3 รางวัล คือ ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม (แกเบรียล โรแบร์โต และ ซึโยชิ ชิบูยะ), ลำดับภาพยอดเยี่ยม (โยชิยูกิ โคอิเกะ) และ รางวัลนักแสดงนำหญิง ของ มิกิ นากาตานิ ซึ่งได้รับการลงมติว่าเป็นบทนำหญิงที่มีสีสันที่สุดในปี 2006
* Memories of Matsuko ได้รับคัดเลือกจาก บลู ริบบอน อวอร์ดส์ (เวทีประกวดภาพยนตร์ที่น่าเชื่อถืออีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น) ให้เป็น 1 ใน 10 ภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่ดีที่สุดในปี 2006 ที่ผ่านมา เคียงข้างหนังอย่าง Hula Girls ซึ่งเป็นตัวแทนญี่ปุ่นไปชิงรางวัลออสการ์
* นิตยสารคีเนมะ จุนโป (Kinema Junpo) นิตยสารภาพยนตร์ที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น และเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ยกให้ Memories of Matsuko เป็นหนัง 1 ใน 10 ภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่ดีที่สุดในปี 2006
* ด้วยความที่เคยกำกับมิวสิค วิดีโอมาก่อน ผู้กำกับ เทตสึยะ นากาชิมะ เลยสร้างโลกของมัตสึโกะใน Memories of Matsuko ให้ออกมาสวยเหมือนนั่งดูมิวสิค วิดีโอสีฉูดฉาด และสอดแทรกด้วยงานศิลปะแบบป๊อบอาร์ตที่ถึงใจ ตามความตั้งใจของนากาชิมะที่อยากให้หนังเรื่องนี้เป็นที่รวบรวม “งานพาณิชย์ศิลป์” ของญี่ปุ่นทุกอย่างมาใส่ไว้ด้วยกัน ตั้งแต่เพลงญี่ปุ่น การ์ตูนญี่ปุ่น แฟชั่นแบบญี่ปุ่น ฯลฯ
* แกรดี เฮนดริกซ์ นักวิจารณ์จากนิวยอร์ก ซัน ยกให้ Memories of Matsuko เป็นหนังต่างประเทศที่ดีที่สุดที่ยังไม่ได้รับการจัดจำหน่ายในอเมริกา ประจำปี 2006
* Memories of Matsuko ติด 1 ใน 10 บนตารางทำเงินทั้งๆ ที่ตัวหนังออกฉายไปแล้วเป็นจำนวน 5 สัปดาห์ และออกฉายด้วยจำนวนโรงที่น้อยกว่าหนังใหญ่ๆ เรื่องอื่นๆ นอกจากนี้ Memories of Matsuko ยังสร้างปรากฏการณ์กับคนดูด้วยการทำให้คนดูบางคนร้องไห้ แต่บางคนกลับหัวเราะออกมาในฉากเดียวกัน
มาดูเรื่องราวของมัตสึโก๊ะกันต่อครับ
ในภาพเป็น โช กับ ชายเพี้ยนข้างห้องมัตสึโก๊ะ
เริ่มเรื่องจาก “โช “ชายหนุ่มที่ผิดหวังในชีวิต เขาออกจากบ้านมาแสวงหาเส้นทางของตัวเองตั้งแต่อายุ 18 ปี ด้วยความอยากเป็นนักดนตรี เมื่อถูกแฟนสาวตัดเยื่อใย และต้องออกจากวง เขาจมตัวเองอยู่กับเหล้า และวีดีโอโป๊ ภายในห้องเช่าสุดรก เมื่อเช้าวันหนึ่ง พ่อของเขามาหา พร้อมกับกล่องกระดูกคนตาย เขาถามว่าเป็นใคร พ่อบอกว่า นี่คือกระดูกของ มัตสึโก๊ะ ซึ่งเป็นป้าของเจ้า เขามีชีวิตที่ไร้ค่า เมื่อ 2 วันที่ผ่านมานี้เอง ที่มีข่าวออกว่า พบศพหญิงคนหนึ่ง ถูกทุบตีตายริมแม่น้ำ พ่อต้องรีบกลับบ้านที่ต่างจังหวัด จึงให้เขาไปช่วยเก็บบ้านพัก
ไม่น่าเชื่อว่า ป้ามัตสึโก๊ะที่เขาไม่คุ้นเคยพบเลย จะทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยนแปลงตลอดไป เรื่องราวของมัตสึโก๊ะ ถูกถ่ายทอดจากบุคคลหลายคน ผ่านมายัง โช ให้รับรู้ไปพร้อมกับเรา ผู้ชม
“ฉันเกิดมาทำไม?" เชื่อว่าหลายคนเคยตั้งคำถามนี้กับตัวเองอย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต ในขณะที่มีความทุกข์หรือมีความผิดปกติในชีวิตเท่านั้นแหละ ที่เราสงสัยกันเหลือเกินว่า พระเจ้า โชคชะตา หรือเวรกรรม ส่งข้าพเจ้ามาลืมตาบนโลกนี้ด้วยเหตุผลกลใด คำถามนี้เกิดขึ้นเพราะขณะนั้น เรากำลังขาดทั้ง "เครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ" และขาด "เป้าหมายในชีวิต"
เด็กหญิงมัตสึโกะรู้สึกว่าตนได้รับความรักไม่เพียงพอ เธอเห็นว่าพ่อมัวแต่เอาใจใส่น้องสาวที่กำลังป่วยมากกว่าจะสนใจให้ความอบอุ่นเด็กแข็งแรงอย่างเธอ กระนั้น มัตสึโกะก็ยังไม่ยอมแพ้ โดยเฉพาะเมื่อเธอค้นพบว่าอะไรที่ทำให้พ่อยิ้มได้ เด็กหญิงก็จะทำสิ่งนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อเอาชนะผู้ชายคนนี้ แม้ว่าวิธีที่ว่าจะใช้ไม่ได้ผลทุกครั้งไปก็ตาม
ในวัยสาวสะพรั่ง ความน้อยใจที่มีให้ครอบครัว ผสมกับการบาดเจ็บจากเรื่องเข้าใจผิดที่เกิดขึ้นในโรงเรียนที่เธอเป็นครูอยู่ จากการต้องการช่วยเหลือเด็กเกเรที่เธอเป็นครูประจำชั้น ทำให้เธอต้องถูกไล่ออกจากโรงเรียน เธอทำร้ายน้องสาวที่ป่วยและหนีออกจากบ้านถูกตัดญาติขาดมิตรและต้องเดินด้วยลำแข้งของตัวเอง แต่ด้วยความที่มีพื้นฐานจิตใจไม่แข็งแรง เนื่องจากไม่ได้รับความอบอุ่นมากพอ มัตซึโกะจึงกลายเป็นหญิงขี้เหงา ที่ต้องการใครสักคนมาอยู่ข้างกายตลอดเวลา
มัตสึโก๊ะ กับชายนักเขียน
ชีวิตของเธอ ต้องผ่านความบอบช้ำมาอย่างเหลือทน ผู้ชายคนแรกเป็นนักเขียนผู้ชอบตบตีทำร้ายเธอ และขี้เหล้า แต่เธอก็ยังอดทนต่อเขา เขาบังคับให้เธอไปทำงานอาบอบนวด แต่เธอก็ใจไม่กล้าพอ ได้แต่ขอยืมเงินจากน้องชายมาประทังความเป็นอยู่ในครอบครัวขณะนั้น จนกระทั่งเขาฆ่าตัวตาย
มัตสึโก๊ะ กับ ชายที่มีภรรยาแล้ว
ชายคนต่อมา เป็นคนที่มีครอบครัวแล้ว เขาทำให้ มัตสึโก๊ะ สดใสขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เจาจะมาหาเธอทุกวันพุธ ทำให้วันพุธเป็นวันที่เธอรอคอย จนกระทั่งเธอสะกดรอยตามเขาไปที่บ้าน และเขาโกรธมาก จึงเลิกกับเธอ
เธอหันหน้ากลับไปสู่การเป็นหมดนวดด้วยความสมัครใจ ทำให้ครอบครัวยิ่งรับเธอไม่ได้ เธอกลายเป็นดาวเด่นในเรื่องเซ็กซ์ และมีแฟนเป็นแมงดา จนในที่สุด เธออดทนต่อผู้ชายคนนี้ไม่ไหว และกลายเป็นฆาตกร
มัตสึโก๊ะ กับชายช่างตัดผม
เธอตั้งใจจะฆ่าตัวตายตาม แต่ด้วยยังไม่ถึงที่ เธอได้รับการช่วยเหลือจากผู้ชายช่างตัดผมที่แสนจะธรรมดาคนหนึ่ง เธอตั้งใจเริ่มต้นชีวิตใหม่กับเขา แต่ก็เหมือนมีกรรม ตำรวจมาจับกุมเธอได้ เธอต้องโทษในคุกหลายปี
ในคุกนี้ เธอดูแตกต่างจาก ผู้หญิงคนอื่นๆ และเป็นที่จับตามองของหญิงเลสเบี้ยน ซึ่งต่อมากลายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ เรื่องถูกเล่าด้วยเพลง และภาพเป็นช่วงๆในแต่ละช่วงชีวิตของมัตสึโก๊ะ ซึ่งเพลงที่อยู่ในคุกชื่อเพลง ฉันเกิดมาทำไม สะท้อนเรื่องได้ดีทีเดียว และก็ถึงวันที่เธอออกจากคุก
แต่คนที่เธอรอคอย ไม่ได้คอยเธอเสียแล้ว ชายช่างตัดผม เขาแต่งงานใหม่ และมีลูกไปเสียแล้ว มัตสึโก๊ะต้องหอบเอาความผิดหวัง และเริ่มต้นใหม่ในชีวิตอีกครั้ง เธอไปเป็นลูกจ้างในร้านทำผม และมีโอกาสได้มาพบกับเพื่อนรักของเธอในคุก ซึ่งตอนนี้มีสามีเป็นเจ้าพ่อหนังโป๊ และเธอก็เล่นหนังโป๊ด้วย
เรื่องราวน่าจะเป็นไปด้วยดี ถ้ามัตสึโก๊ะไม่พบกับ ริวโยอิจิ ลูกศิษย์ที่ทำให้เธอต้องถูกไล่ออกจากโรงเรียน ขณะนี้กลายเป็นลูกน้องของยากูซ่า เธอไม่ได้โกรธเขาเลย เช่นเดียวกับเขา ที่หลงรักครูมานาน ภาพของครูสาวเสียงใสใจดี ยังอยู่ในใจเขาเสมอ และเมื่อคนเหงาและขาดที่ยึดเหนี่ยว 2 คนมาเจอกัน เธอก็ตกลงไปอยู่กับเขาอย่างรวดเร็ว เธอพูดซ้ำซาก ขอให้เขาอย่าทิ้งเธอไป และขอให้เลิกอาชีพยากูซ่า แต่เขาไม่ยอม และบางครั้งก็ถึงขั้นตบตี แต่เธอก็ยังรักเขา
"จะให้ไปลงเหวหรือตกนรกที่ไหนฉันก็ยอม ขอแค่ให้ได้อยู่กับผู้ชายคนนี้" มัตสึโกะกล่าวกับเพื่อนสาวที่เข้ามาห้ามไม่ให้เธอคบกับ "ผู้ชายเลวๆ"
"จะถูกเขาตี หรือถูกฆ่าก็ไม่เป็นไร" เธอว่า "ยังไงก็ดีกว่าอยู่คนเดียว"
ชีวิตมัตสึโกะมักจะเกี่ยวข้องกับผู้ชายที่รักการใช้กำลังกับเธออยู่เสมอ แต่หนังก็ไม่ทำให้ผู้ชมเกลียดคนเหล่านี้ไปเสียทีเดียว เพราะยังแสดงให้เราเห็นว่า แท้จริงแล้วพวกเขาก็ป่วยไข้ และขาดเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจไม่ต่างกับเธอ
ริวโยอิจิ ผู้เติบโตมาอย่างไร้รัก มีเพียง มัตสึโก๊ะ คนเดียวที่รักเขาอย่างจริงใจ เขาต้องติดคุก ทำให้เขาจากกับเธอไป การรอคอยของมัตสึโก๊ะ กับ สิ่งที่เขาคิดคือ สิ่งดีๆ ในชีวิตประการเดียวที่เขาจะให้ผู้หญิงคนนี้ได้ คือการไปจากชีวิตเธอ ริวโยอิจิ ทำไปโดยที่ไม่รู้เลยว่า มันยิ่งทำให้หญิงสาวเจ็บปวดขึ้นอีกเท่าทวีคูณ และในที่สุด เขาก็รู้แล้วว่า เธอคือพระเจ้าของเขา เขาตามหาเธอ ในขณะที่มันสายเกินไป
มัตสุโก๊ะ ในวัยกลางคน เธอเก็บตัวเอง เอาแต่กินอยู่ในห้องโกโรโกโส เธอไม่เคยทิ้งขยะ ปล่อยตัวเองให้อ้วน ไม่ยอมอาบน้ำ ไม่สนใจตัวเอง เธอปล่อยให้ตัวเองไร้ค่า และสัญญาว่าจะไม่มีความรักอีก แต่กลับกลายเป็นคนคลั่งดารา เธอเขียนจดหมายถึงนักร้องหนุ่ม เป็นเล่ม และรอการตอบจดหมายของเขา แต่ไม่มีจดหมายตอบกลับ บางครั้งเธอก็คลั่ง จนต้องเข้าโรงพยาบาลประสาท ที่โรงพยาบาล เธอได้พบกับเพื่อนรักอีกครั้ง แต่เธอปฏิเสธที่จะคุยกับเพื่อน เก็บไว้เพียงนามบัตรของเพื่อน
แม้ในที่สุดดูเหมือนแสงสว่างเล็กๆจะมาจุดประกายให้เธอมีความหวังขึ้นอีกครั้ง เธอไปค้นหานามบัตรที่โยนทิ้งไปที่ริมแม่น้ำ ก่อนจะถูกกลุ่มวัยรุ่นลอบทำร้าย จากความหวังดีของเธอ ไม่น่าเชื่อว่า เธอจบชีวิตเศร้าๆลงแบบนี้
สำหรับ โช ได้รู้ว่าป้าของตัวเป็นผู้ที่รักการร้องเพลง เหมือนกับว่ามัตสึโก๊ะต้องการจะบอกอะไรกับเขา แม้ในสายตาของพ่อ ป้ามัตสึโก๊ะ จะเป็นเพียง หมอนวด ฆาตกร คนขี้คุก คนบ้า และคนไร้ค่า แต่สำหรับ โช มันได้เปลี่ยนแปลงบางอย่างในตัวเขา ก่อนที่เขาจะกลายเป็นคนไร้ค่าในสายตาของสังคม
Memories of Matsuko นั้นมีเนื้อเรื่องที่รันทดหดหู่ แต่แทนที่จะทำหนังบีบเค้นน้ำตาขยี้หัวใจผู้ชม นากาชิมะกลับเลือกที่จะทำให้ Memories of Matsuko มีรูปลักษณ์หวือหวา สไตล์จัดจ้าน สีสันสดใส ด้วยการผสมผสานศิลปะสไตล์ไซคีเดลิค(ศิลปะที่เกิดในยุคบุปผาชน) และ pop Art กับ หนังเพลงเข้าไว้อย่างโดดเด่น ที่สำคัญคือ เรื่องเศร้าทั้งหมดในหนังได้รับการบอกเล่าด้วยน้ำเสียง ‘เฮฮา’ ราวกับกำลังเล่าเรื่องตลก และมีมุขตลกสอดแทรกอยู่ตลอดเรื่อง
เช่น การเล่าถึงการที่มัตสึโก๊ะเรียกร้องความสนใจจากพ่อของเธอ ด้วยการเลียนแบบตัวตลกโดยการทำหน้าตาบูดเบี้ยว จนติดเป็นนิสัย เมื่อใดที่เกิดวิกฤตในชีวิต เธอมักจะทำหน้าแบบนั้น คิดดูสิ เวลาที่เธอจะถูกไล่ออกจากครู เธอทำหน้าแบบนั้น
และตอนที่ โช ได้รับรู้เรื่องราวของมัตสึโก๊ะจากเพื่อนรักของเธอที่เป็นเจ้าแม่หนังโป๊ ก่อนลา เธอจูบเขาอย่างดูดดื่ม และแถมวีดีโอโป๊ที่เธอเล่นให้เขาอีก 3 ม้วนเป็นของที่ระลึก
ส่งผลให้ผู้ชมเกิดความขัดแย้งในใจระหว่างที่รับชม หลายคนถึงกับบอกว่า ดูแล้วอยากร้องไห้ แต่รู้สึกจุกและร้องไม่ออก และบางตอนเราก็หัวเราะทั้งน้ำตา อาจเรียกว่า เป็นหนัง‘โศกนาฏกรรมหรรษา’ ก็คงไม่ผิดนัก
"จะถูกเขาตี หรือถูกฆ่าก็ไม่เป็นไร" เธอว่า "ยังไงก็ดีกว่าอยู่คนเดียว"
ชีวิตมัตสึโกะมักจะเกี่ยวข้องกับผู้ชายที่รักการใช้กำลังกับเธออยู่เสมอ แต่หนังก็ไม่ทำให้ผู้ชมเกลียดคนเหล่านี้ไปเสียทีเดียว เพราะยังแสดงให้เราเห็นว่า แท้จริงแล้วพวกเขาก็ป่วยไข้ และขาดเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจไม่ต่างกับเธอ
ริวโยอิจิ ผู้เติบโตมาอย่างไร้รัก มีเพียง มัตสึโก๊ะ คนเดียวที่รักเขาอย่างจริงใจ เขาต้องติดคุก ทำให้เขาจากกับเธอไป การรอคอยของมัตสึโก๊ะ กับ สิ่งที่เขาคิดคือ สิ่งดีๆ ในชีวิตประการเดียวที่เขาจะให้ผู้หญิงคนนี้ได้ คือการไปจากชีวิตเธอ ริวโยอิจิ ทำไปโดยที่ไม่รู้เลยว่า มันยิ่งทำให้หญิงสาวเจ็บปวดขึ้นอีกเท่าทวีคูณ และในที่สุด เขาก็รู้แล้วว่า เธอคือพระเจ้าของเขา เขาตามหาเธอ ในขณะที่มันสายเกินไป
มัตสุโก๊ะ ในวัยกลางคน เธอเก็บตัวเอง เอาแต่กินอยู่ในห้องโกโรโกโส เธอไม่เคยทิ้งขยะ ปล่อยตัวเองให้อ้วน ไม่ยอมอาบน้ำ ไม่สนใจตัวเอง เธอปล่อยให้ตัวเองไร้ค่า และสัญญาว่าจะไม่มีความรักอีก แต่กลับกลายเป็นคนคลั่งดารา เธอเขียนจดหมายถึงนักร้องหนุ่ม เป็นเล่ม และรอการตอบจดหมายของเขา แต่ไม่มีจดหมายตอบกลับ บางครั้งเธอก็คลั่ง จนต้องเข้าโรงพยาบาลประสาท ที่โรงพยาบาล เธอได้พบกับเพื่อนรักอีกครั้ง แต่เธอปฏิเสธที่จะคุยกับเพื่อน เก็บไว้เพียงนามบัตรของเพื่อน
แม้ในที่สุดดูเหมือนแสงสว่างเล็กๆจะมาจุดประกายให้เธอมีความหวังขึ้นอีกครั้ง เธอไปค้นหานามบัตรที่โยนทิ้งไปที่ริมแม่น้ำ ก่อนจะถูกกลุ่มวัยรุ่นลอบทำร้าย จากความหวังดีของเธอ ไม่น่าเชื่อว่า เธอจบชีวิตเศร้าๆลงแบบนี้
สำหรับ โช ได้รู้ว่าป้าของตัวเป็นผู้ที่รักการร้องเพลง เหมือนกับว่ามัตสึโก๊ะต้องการจะบอกอะไรกับเขา แม้ในสายตาของพ่อ ป้ามัตสึโก๊ะ จะเป็นเพียง หมอนวด ฆาตกร คนขี้คุก คนบ้า และคนไร้ค่า แต่สำหรับ โช มันได้เปลี่ยนแปลงบางอย่างในตัวเขา ก่อนที่เขาจะกลายเป็นคนไร้ค่าในสายตาของสังคม
Memories of Matsuko นั้นมีเนื้อเรื่องที่รันทดหดหู่ แต่แทนที่จะทำหนังบีบเค้นน้ำตาขยี้หัวใจผู้ชม นากาชิมะกลับเลือกที่จะทำให้ Memories of Matsuko มีรูปลักษณ์หวือหวา สไตล์จัดจ้าน สีสันสดใส ด้วยการผสมผสานศิลปะสไตล์ไซคีเดลิค(ศิลปะที่เกิดในยุคบุปผาชน) และ pop Art กับ หนังเพลงเข้าไว้อย่างโดดเด่น ที่สำคัญคือ เรื่องเศร้าทั้งหมดในหนังได้รับการบอกเล่าด้วยน้ำเสียง ‘เฮฮา’ ราวกับกำลังเล่าเรื่องตลก และมีมุขตลกสอดแทรกอยู่ตลอดเรื่อง
เช่น การเล่าถึงการที่มัตสึโก๊ะเรียกร้องความสนใจจากพ่อของเธอ ด้วยการเลียนแบบตัวตลกโดยการทำหน้าตาบูดเบี้ยว จนติดเป็นนิสัย เมื่อใดที่เกิดวิกฤตในชีวิต เธอมักจะทำหน้าแบบนั้น คิดดูสิ เวลาที่เธอจะถูกไล่ออกจากครู เธอทำหน้าแบบนั้น
และตอนที่ โช ได้รับรู้เรื่องราวของมัตสึโก๊ะจากเพื่อนรักของเธอที่เป็นเจ้าแม่หนังโป๊ ก่อนลา เธอจูบเขาอย่างดูดดื่ม และแถมวีดีโอโป๊ที่เธอเล่นให้เขาอีก 3 ม้วนเป็นของที่ระลึก
ส่งผลให้ผู้ชมเกิดความขัดแย้งในใจระหว่างที่รับชม หลายคนถึงกับบอกว่า ดูแล้วอยากร้องไห้ แต่รู้สึกจุกและร้องไม่ออก และบางตอนเราก็หัวเราะทั้งน้ำตา อาจเรียกว่า เป็นหนัง‘โศกนาฏกรรมหรรษา’ ก็คงไม่ผิดนัก
ถ้าท้องหิวก็กลับบ้านเราเถอะ" เพลงที่มัตสึโกะร้องมีเนื้อหาอย่างนั้น แต่เธอไม่ได้ทำตาม แม้เธอจะรักพ่อมาก และเธอมารู้ทีหลังจากพ่อตายว่า พ่อก็รอการกลับมาของเธอ แม้ว่าเธอถวิลหาการกลับบ้านอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเหตุที่ไม่กล้ากลับไป ก็อาจเป็นเพราะเธอคิดว่าตัวเองไม่มีค่าพอสำหรับใครก็ได้
"ขอโทษที่ฉันเกิดมา" เธอจารึกคำนั้นไว้บนกำแพง "บ้าน" หลังสุดท้ายของชีวิต
"ขอโทษที่ฉันเกิดมา" เธอจารึกคำนั้นไว้บนกำแพง "บ้าน" หลังสุดท้ายของชีวิต
http://www.oknation.net/blog/moviehall/2007/12/16/entry-1