ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 500 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

Verification:
ระหว่างความดีกับความไม่ดี เราจะเลือกทำสิ่งใดจึงจะสามารถบรรลุธรรมได้จริง ( เลือกตอบแค่ ความดี กับ ความไม่ดี ครับผม):
กัน-ละ-ยา-นะ-มิด เขียนเป็นภาษาไทยที่ถูกต้องว่าอย่างไรครับ:
คุณเชื่อในศรัทธาของความดีไหมครับ ( เลือกตอบแค่ เชื่อ กับ ไม่เชื่อ ครับผม):
คิดว่าความดีทำยากไหม( เลือกตอบแค่ ยาก กับ ไม่ยาก ครับผม):
เว็บใต้ร่มธรรมเป็นเว็บเล็กๆแนวธรรมะในจิตใช่หรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
การแสดงความชื่นชมยินดีในบุญหรือความดีที่ผู้อื่นทำ นิยมใช้คำว่า (อนุโมทนา) กรุณาพิมพ์คำนี้ครับ อนุโมทนา:
โดยปกติชน นิ้วมือของคนเรา มีกี่นิ้ว (ตอบเป็นภาษาไทยครับ):
วัฒนธรรมไทยเมื่อเห็นผู้ใหญ่ท่านจะทำความเคารพ ด้วยการไหว้ท่านก่อนเสมอใช่หรือไม่:
เมื่อให้ท่านเลือก ระหว่าง (หนังสือเก่าๆเล่มหนึ่งที่เรารัก) กับ (มิตรแท้ที่รักเรา) คุณจะะเลือก:
ระหว่าง (ผู้ที่เรียนรู้ธรรมะเพื่อเอาชนะผู้อื่น) กับ (ผู้ที่เรียนรู้ธรรมะเพื่อเอาชนะตัวเอง)  ท่านจะเลือกเป็น:
กล่าวคำดังนี้  "ให้อภัยนะ":
กล่าวคำดังนี้  "ขออโหสิกรรม":
ในโลกออนไลน์หรือโลกแห่งจิต ไม่มีใครทำอะไรเราได้ นอกเสียไปจาก (คนพาล) หรือ (ใจของเราเอง):
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ใต้ร่มธรรมเองก็จะเป็นไปตามวัฐจักรนี้ ฉันท์ใดก็ฉันท์นั้น (เป็นจริง) หรือ (ไม่จริง):
ธรรมะคือ ธรรมชาติ พิมพ์คำว่า (ธรรมะชาติ) ครับ:
รู้สึกระอายใจไหมที่เราทำร้ายคนอื่นด้วยวาจาหรือสำนวนที่ไม่สุภาพ โดยที่คนคนนั้นเค้าเคยเป็นผู้มีพระคุณต่อเรามา (ไม่ละอายใจ)หรือ(ละอายใจ):
สำนวนไทยที่ว่า แต่ละคนต่างมีรสนิยมแตกต่างกัน หรือไม่ตรงกัน  พิมพ์สำนวนต่อไปนี้ครับ (ลางเนื้อชอบลางยา):
ขนทรายเข้าวัดคือ พิมพ์สำนวนต่อไปนี้ครับ (ทำบุญทำกุศลโดยวิธีนำหรือหาประโยชน์เพื่อส่วนรวมมิได้ทำเพื่อตนเอง):
ผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ ผู้ที่ทำตนให้เล็กที่สุด ผู้ที่เล็กที่สุดก็จะกลายเป็นผู้ที่ใหญ่ที่สุด ผู้ที่มีเกียรติคือผู้ที่ให้เกียรติผู้อื่น ฉะนั้นสมาชิกใต้ร่มธรรมควรให้เกียรติกันและกัน พิมพ์คำว่า (ฉันจะให้เกียรติสมาชิกทุกๆท่านในใต้ร่มธรรมเสมอด้วยวาจาสุภาพอ่อนน้อม):
ผู้ที่ไม่เคยรับรู้รสของความขมขื่น จะไม่รู้ว่าความหวานชื่นคืออะไร พิมพ์เป็นประโยคภาษาอังกฤษครับ เป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมดนะครับ เว้นวรรคคำด้วยครับ (He who has never tasted bitterness does not know what is sweet):

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: ต๊ะติ้งโหน่ง
« เมื่อ: ตุลาคม 26, 2011, 07:47:50 pm »

มท.1 ยันน้ำไม่ท่วมกรุงเทพ ปภ.เผยจ่ายเงินช่วยน้ำท่วมแล้วแสนกว่าครัวเรือน ศอส.รายงานน้ำยังท่วม 26 จังหวัด เสียชีวิตทั้งสิ้น 112 ราย สูญหายอีก 2 ราย พร้อมเตือนระวังมรสุมเข้า 20-23 ก.ย.นี้...


เมื่อวันที่ 19 ก.ย. ที่กระทรวงมหาดไทย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯว่า ภายหลังจากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ไปลงเรือตรวจสภาพน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ร่วมกับผู้ว่าฯ กทม. เมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา มีการหารือแผนงาน การตรวจสอบมวลน้ำไปจนถึงแผนเผชิญเหตุ และการแก้ไขปัญหาร่วมกัน ทำให้มั่นใจว่าปัญหาน้ำท่วมจะไม่ส่งผลกระทบกับ กทม. ซึ่งเป็นศูนย์กลางของประเทศอย่างแน่นอน ขอให้ประชาชนอุ่นใจได้

ด้านนายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวถึงความคืบหน้าในการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยครัวเรือนละ 5,000 บาทว่า ได้จัดส่งข้อมูลให้ธนาคารออมสินแล้ว 107,122 ครัวเรือน เป็นเงิน 535,610,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 61.18 คงเหลือข้อมูลครัวเรือนที่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ 67,966 ครัวเรือน เป็นเงิน 339,830,000 บาท ทั้งนี้สำหรับจังหวัดที่ได้จัดส่งข้อมูลให้ธนาคารออมสินเรียบร้อยแล้ว ขอให้รายงานรัฐมนตรีที่รับผิดชอบในพื้นที่ เพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยอย่างรวดเร็ว ส่วนจังหวัดที่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล ขอให้เร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอตรวจสอบข้อมูลให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อรวบรวมจัดส่งให้ธนาคารออมสินดำเนินการจ่ายเงินแก่ผู้ประสบภัยตามระยะเวลาที่กำหนด สำหรับผู้ประสบภัยต้องเตรียมบัตรประชาชนและลงลายมือชื่อรับเงินต่อเจ้าหน้าที่ธนาคารออมสิน กรณีไม่สามารถมารับเงินได้ด้วยตนเอง ต้องมีหนังสือมอบฉันทะและบัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริงของผู้มอบและผู้รับมอบ

ด้านนายประทีป กีรติเรขา รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะประธานการประชุมศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.) กล่าวว่า ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 26 จังหวัด มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 112 ราย สูญหาย 2 ราย ขณะที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยามีปริมาณน้ำไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ 3,935 ลบ.ม.ต่อวินาที เขื่อนเจ้าพระยาปริมาณน้ำไหลผ่าน 3,706 ลบ.ม.ต่อวินาที ส่งผลให้มีน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำ บริเวณ 8 จังหวัดได้รับผลกระทบ ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนนทบุรี

ในส่วนของสถานการณ์น้ำในเขื่อนต่างๆ อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ โดยเฉพาะเขื่อนขนาดใหญ่ ได้แก่ เขื่อนภูมิพล มีปริมาณน้ำร้อยละ 88 ของความจุอ่าง เขื่อนสิริกิติ์มีปริมาณน้ำ ร้อยละ 96 เขื่อนแควน้อยบำรุงแดนมีปริมาณน้ำมากเกินความจุร้อยละ 102 และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณน้ำมากเกินความจุร้อยละ 109 ต้องปล่อยน้ำออกจากเขื่อนอย่างต่อเนื่องเพื่อเร่งระบายน้ำ ส่งผลให้พื้นที่ท้ายเขื่อนและชุมชนริมฝั่งแม่น้ำได้รับผลกระทบจากระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น จึงขอแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่ดังกล่าว ให้ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงและเสริมแนวกระสอบทรายกั้นน้ำ

ส่วนกรุงเทพมหานครพื้นที่ด้านตะวันออกนอกคันกั้นน้ำ บริเวณเขตมีนบุรี หนองจอก และเขตลาดกระบัง ยังมีน้ำท่วมในบางพื้นที่ ระดับน้ำมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง

นายประทีป กล่าวว่า จะมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ในช่วงวันที่ 20 – 23 ก.ย.นี้ ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีฝนเพิ่มมากขึ้น ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ตอนบนของประเทศระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนักในระยะนี้ไว้ด้วย รวมถึงประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ในเขตจังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนนทบุรี ยังต้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในวันที่ 19-20 ก.ย.นี้ เนื่องจากระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ในวันที่ 23 ก.ย. ร่องมรสุมอาจเคลื่อนตัวผ่านและส่งผลกระทบต่อพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและจังหวัดโดยรอบอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ประกอบกับแหล่งน้ำของชลประทานในพื้นที่มีระดับเก็บกักสูงอยู่แล้ว จึงขอให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด โครงการชลประทานจังหวัด สถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัด ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อผู้ว่าราชการจังหวัดทุกวัน
http://oknews.exteen.com/20110919/entry-77
ข้อความโดย: ต๊ะติ้งโหน่ง
« เมื่อ: ตุลาคม 26, 2011, 07:44:30 pm »

ประชา ยังมั่นใจ กทม.ไม่ท่วม ย้ำ อย่าตระหนกไปก่อน
ข่าวทั่วไป หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- อังคารที่ 18 ตุลาคม 2554 10:53:40 น.
พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้ ที่ล่าสุดได้ท่วมนิคมอุตสาหกรรมนวนคร และหวั่นว่าจะลามเข้ามาใน กทม.ยืนยันว่า ในพื้นที่กรุงเทพฯ ขณะนี้ยังไม่มี และมั่นใจว่าจะไม่มีน้ำท่วมใน กทม.แน่นอน เราอย่าเพิ่งไปคิด หรือตระหนกไปก่อน "ฝนยังไม่ตก อย่าเพิ่งกางร่ม" แต่อย่างไรก็ตาม หากเกิดไหลเข้ามาใน กทม.จริงๆ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็มีแผนเตรียมการไว้อยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่า หากเกิดอะไรขึ้นมาใครเป็นผู้รับผิดชอบ โดยเฉพาะในเขตอุตสาหกรรม พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ในทุกพื้นที่ ทุกจังหวัดจะเป็นผู้รับผิดชอบ

ทั้งนี้ พล.ต.อ.ประชา ยังกล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย ว่า ขณะนี้สิ่งที่จำเป็นสำหรับประชาชนที่ประสบอุทกภัย และมีความต้องการมากที่สุด คือ ไฟฉาย รวมถึงเทียนไข ไฟแช็ก ตลอดจนถุงขยะ ถุงดำ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน สบู่ และนมผงเด็ก
http://www.ryt9.com/s/nnd/1261194
ข้อความโดย: ต๊ะติ้งโหน่ง
« เมื่อ: ตุลาคม 26, 2011, 07:42:41 pm »

ศปภ.ยืนยันน้ำไม่ท่วม กทม.
 
การประชุมศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย มีการทราบแนวทางการผลักดันน้ำลงสู่ทะเล ยันกรุงเทพมหานครจะไม่ถูกน้ำท่วม

 

การประชุมศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ.ในวันนี้(16 ต.ค. 54) มีการทราบแนวทางการผลักดันน้ำลงสู่ทะเล พร้อมยืนยันว่า กรุงเทพมหานครจะไม่ถูกน้ำท่วม เนื่องจากมวลน้ำก้อนใหญ่ที่สุดได้ไหลลงสู่ทะเลไปแล้ว แต่ก็ได้สั่งเปิดประตูระบายน้ำเชียงรากน้อย เพื่อระบายน้ำได้เร็วขึ้น

 

นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า สถานการณ์น้ำล่าสุดมีทิศทางดีขึ้น เนื่องจากเขื่อนทางเหนือลดระดับการปล่อยน้ำลงไปมากแล้ว ประกอบกับมวลน้ำก้อนใหญ่ที่สุดจากนครสวรรค์ได้ผ่านไปแล้ว ส่วนระดับน้ำทั้งที่ สิงห์บุรี อ่างทอง และอยุธยา ก็ลดลงเรื่อยๆ ดังนั้น ปริมาณน้ำตั้งแต่นครสวรรค์ถึงกรุงเทพนับแต่นี้จะไม่สูงกว่านี้ และจะไม่ท่วมคันกั้นน้ำของกรุงเทพฯอย่างแน่นอน เพราะกรุงเทพฯมีคันกั้นน้ำหลายจุดหลายชั้น


ด้าน นายวิม รุ่งวัฒนะจินดา โฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ. กล่าวว่า ศปภ.ได้สั่งเปิดประตูระบายน้ำเชียงรากน้อย เพื่อระบายน้ำเข้าสู่จังหวัดปทุมธานีและจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งอาจมีน้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่บางส่วน แต่เมื่อบวกกับแรงผลักดันน้ำของเรือ จะทำให้น้ำไหลลงบางปะกงเร็วขึ้น

 

อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกกับข่าวลือว่าน้ำจะเข้าสู่ตอนบนของกรุงเทพฯ เพราะไม่เป็นความจริง เนื่องจาก ศปภ.มีมาตราการปิดประตูระบายน้ำ และมีถนนเป็นพนังกั้นน้ำอีกชั้นหนึ่งแล้ว ส่วนน้ำที่ล้นออกจากคันกั้นน้ำคลองเปรมประชากรนั้น ได้ประสานไปยัง กทม.ให้ระบายน้ำทั้งหมด คือน้ำเข้า 50 ล้านลูกบาศก์เมตร ก็ต้องระบายออก 50 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อไม่ให้น้ำท่วมเพิ่มเติม 



นอกจากนี้ พลตำรวจเอกพงศพัศ พงษ์เจริญ ในฐานะโฆษก ศปภ. ระบุว่า ศปภ.ได้สั่งการให้กองทัพไทยรับผิดชอบสถานการณ์น้ำที่นครสวรรค์ อยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี และนนทบุรี ส่วนจังหวัดที่เหลือให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ดูแล



แม้ว่ามวลน้ำก้อนใหญ่ได้ไหลลงทะเลไปแล้ว แต่ระดับน้ำจะยังทรงตัว เพราะน้ำที่ท่วมขังอยู่จะไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาอย่างช้าๆ โดยเฉพาะที่นิคมอุตสาหกรรมไฮเทคและโรจนะ ประกอบกับน้ำทะเลจะหนุนอีกครั้งในช่วงปลายเดือนตุลาคม จึงขอร้องประชาชน อย่าทำลายคันกั้นน้ำ และขอให้เชื่อฟังคำแนะนำของผู้ว่าราชการอย่างเคร่งครัด

 

Produced by Voice TV

by VoiceNews

16 ตุลาคม 2554 เวลา 21:25 น.

http://news.voicetv.co.th/thailand/20816.html
ข้อความโดย: ต๊ะติ้งโหน่ง
« เมื่อ: ตุลาคม 26, 2011, 07:40:38 pm »

ศปภ. แถลงยืนยัน พื้นที่กทม. ไม่เผชิญสถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงเพราะเร่งระบายน้ำ 3 ทาง คาดน้ำหนุนต่ำกว่าระดับคันกั้นน้ำ

วันนี้ (14 ต.ค. 54) นายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน แถลงยืนยันว่า พื้นที่กรุงเทพมหานคร จะไม่เผชิญกับสถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงอย่างแน่นอน เนื่องจากปริมาณน้ำเหนือที่จะไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาจากนครสวรรค์ถึงชัยนาทจะมีปริมาณ 3,600 ลบ.เมตร ซึ่งน้อยกว่าที่คาดไว้ที่ 3,800 ลบ.เมตร ประกอบกับหลายเขื่อนได้เริ่มลดการระบายน้ำลงแล้ว

ดังนั้น จึงส่งผลให้ปริมาณน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่จะเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพฯ ในช่วงวันที่ 15-16 ต.ค.นี้ คาดว่าจะต่ำกว่าระดับคันกั้นน้ำที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) เตรียมรับมือไว้ คาดว่าปริมาณน้ำจะอยู่ที่ 2.3-2.4 เมตรจากระดับน้ำทะเล ขณะที่คันกั้นน้ำของ กทม.มีระดับความสูง 2.5 เมตร

อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวอีกว่า "น้ำจะมาถึง กทม.15-16 ต.ค.นี้ ที่ระดับ 2.3-2.4 เมตรเมื่อผ่าน กทม.ซึ่งจะไม่เกินนี้ ขณะที่คันกั้นน้ำของกทม.อยู่ที่ 2.5 เมตร เพราะฉะนั้น กทม.รอดแน่ ผมยืนยัน"

ด้านพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฎิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ยืนยันว่า กทม.จะไม่ถูกกระทบแน่นอน โดย ศปภ.ให้ความสำคัญกับทางกรุงเทพมหานครขั้นสูงสุดเนื่องจากเป็นเมืองหลวง จากการเอาน้ำลง 3 ทาง ได้แก่ ทางตะวันออก ทางเจ้าพระยา และทางตะวันตก

สำหรับแนวป้องกัน กทม.ปัจจุบันมี 3 แนว คือ หลัก 6 อ.เมือง ปทุมธานี บริเวณเมืองเอก ทางผบ.ทบ.และแม่ทัพภาค 1 ได้ลงพื้นที่ไปตรวจแนวคันกั้นน้ำวานนี้ มั่นใจว่าสามารถรองรับได้อย่างมีประสิทธิภาพ, คลองทวีวัฒนาเชื่อมนครปฐม ซึ่งดำเนินการแล้วเสร็จแล้ว และในวันนี้ได้ขยายฐาน เพิ่มความสูง คันกั้นน้ำบริเวณรังสิตตั้งแต่คลอง 1- คลอง 8 และทำเพิ่มอีกบริเวณคลองรพีพัฒน์แยกตะวันตก ตั้งแต่ประตูน้ำพระอินทร์ถึงคลองรพีพัฒน์ ระยะทาง 24 กม. คาดว่าใช้เวลา 2 วันแล้วเสร็จ แต่พื้นที่บริเวณรอบนอกกทม. และปริมณฑล ปทุมธานี นนทบุรี ฉะเชิงเทรา ถูกกระทบแน่นอน



http://www.tnnthailand.com/news/details.php?id=32475
ข้อความโดย: ต๊ะติ้งโหน่ง
« เมื่อ: ตุลาคม 26, 2011, 07:39:24 pm »

นายกรัฐมนตรี ย้ำอีกครั้ง กทม. น้ำไม่ท่วมแน่นอน หวังป้องกันนวนครได้ เสริมคันดินสุวรรณภูมิอีก



น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า พื้นที่กรุงเทพมหานครจะไม่ถูกน้ำท่วมอย่างแน่นอน เพราะจากรายงานของกรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็ระบุเช่นกันว่า พื้นที่กรุงเทพมหานคร จะปลอดภัย ส่วนพื้นที่รอบนอกกรุงเทพมหานครนั้น ต้องขอความร่วมมือจากประชาชนให้ช่วยทำแนวกั้นน้ำ

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี หวังว่ านิคมอุตสาหกรรมนวนครจะไม่ถูกน้ำท่วม โดยจะให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง พยายามป้องกันพื้นที่ดังกล่าวอย่างอย่างเต็มที่ และรัฐบาลยังเร่งทำระบบระบายน้ำลงสู่ทะเล เช่น กรณีการใช้เรือดันน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาลงสู่ทะเล ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้ ส่วนท่าอากาศยานสวรรณภูมินั้น ไม่ต้องเป็นห่วง อีกทั้งจะทำคันดินเพิ่มขึ้นอีกด้วย


Link : http://www.innnews.co.th/นายกฯย้ำกทม-น้ำไม่ท่วมหวังป้องนวนครได้--314870_01.html


ข้อความโดย: ต๊ะติ้งโหน่ง
« เมื่อ: ตุลาคม 26, 2011, 07:38:21 pm »

ศปภ.เฮ-น้ำเหนือแผ่ว กทม.รอด!

ประชา-กรมชลฯ ร่วมแถลงยืนยัน แตˆอยุธยาหนัก นิคมบางปะอิน เริ่มมิดอีกแหˆง ปลานับแสนช็อก

น้ำทะลักเข้านิคมอุตสาหกรรมบางปะอินแล้วสูงกว่า 30 ซ.ม. รองแม่ทัพภาค 1 คุมซ่อมคันดินหวั่นซ้ำรอยโรจนะ-ไฮเทค วังน้อยยังเละ มหาจุฬาฯท่วมเพิ่มสูง 2 เมตร สายเอเชียปิดสนิท "ปทุม"น้ำทะลักเข้าเมือง ท่วมศาลากลางแล้ว ผู้ว่าฯขอ "ปู" ปิดคลอง 1 รังสิตกันน้ำท่วมเมือง ส่วนซ่อมประตูน้ำคลองบ้านพร้าว คืบหน้าด้วยดี ศปภ. มั่วอีกรอบ ศูนย์ปชส.เอาข่าวเก่าประกาศเขตภัยพิบัติ 17 เขตกทม.แจกซ้ำ เล่นเอาแตกตื่นไปทั่ว "ประชา" ต้องแถลงแก้อีก มั่นใจกทม.ปลอดภัยแน่ นอน เผยสถานการณ์ดีขึ้นมาก ระบายน้ำได้วันละ 550 ล้านลบ.ม. ส่วนน้ำเขื่อนและน้ำเหนือลดระดับต่อเนื่อง ย้ำข่าวศปภ.จะแถลงเอง "ปู"ย้ำหากเตือนภัยจะออกทีวีพูลเท่านั้น อย่าฟังข่าวแหล่งอื่น ผู้ว่าฯกทม.เชื่อไม่ท่วม แต่ไม่ประมาทสั่งวอร์รูมประชุมติดตามทุก 6 ชั่วโมง ทบ.เร่งขุด 3 คลองระบายเพิ่ม เชื่อเสร็จใน 5 วัน "ปากน้ำโพ"ยังอ่วม ขาดน้ำ-อาหาร พนังพังเพิ่ม น้ำสูงอีกกว่าเมตร

"ปู"รับปรับวิธีแจ้งเตือน

เวลา 09.00 น. เมื่อวันที่ 14 ต.ค. ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ดอนเมือง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แถลงให้ประชาชนรอบชานเมืองกทม.อพยพ จนทำให้เกิดความตื่นตระหนก ว่า นายปลอดประสพ เพียงชี้แจงข้อมูลล่าสุดที่ได้รับรายงานเข้ามา แต่ยังไม่ได้สรุป ไม่ใช่การแถลงอย่างเป็นทางการของศปภ. ถ้าเป็นแถลงเป็นทางการ ต้อง มีพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ผอ.ศปภ.ร่วม อยู่ด้วย แต่ยอมรับว่าน้ำเสียงของนายปลอดประสพ อาจทำให้คนวิตกกังวล จึงให้ศปภ. ชี้แจงข้อเท็จจริงอีกครั้ง เพื่อยืนยันว่าไม่มีอะไร ทุกอย่างเป็นปกติ

เมื่อถามว่าได้ปรามนายปลอดประสพในการให้ข่าวหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า นายปลอดประสพมีเจตนาดี เพราะมีโอกาสที่น้ำจะเข้า จึงอยากให้ประชาชนระวัง อย่างไรก็ตามถ้าน้ำจะเข้ามาจริง จะมีเจ้าหน้าที่คอยประสานงานอยู่แล้ว และหลังจากนี้ จะต้องปรับวิธีการแจ้งเตือน เพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนกและข้อมูลคลาดเคลื่อน

ใช้ทีวีพูลสื่อสารประชาชน

"เหตุการณ์นี้เพิ่งเกิดเพียงครั้งเดียว แต่จะไปพูดคุยกันภายในให้ชัดเจน แต่ยืนยันว่าข้อมูลศปภ.เชื่อถือได้ หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้นจริง หรือมีความจำเป็น ศปภ.จะใช้โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยชี้แจงให้ชัดเจน จึงไม่คิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะทำลายความเชื่อมั่นของ ศปภ." น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีที่ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตรผู้ว่าฯกทม.ระบุหากเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น กทม.จะเป็นผู้ชี้แจงเอง สรุปแล้วเป็นอำนาจของ กทม.หรือ ศปภ. น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่าอำนาจในภาพรวมเป็นของศปภ. ส่วนพื้นที่ด้านในจะส่งต่อให้กทม. ชี้แจง

เผยขุดเสร็จ 2 คลองระบายน้ำ

นายกฯกล่าวถึงสถานการณ์ล่าสุดที่คลองบ้านพร้าว อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ว่า ภาพรวมน้ำจากตอนเหนือเริ่มทรงตัว แต่มีปัญหาในช่วงแนวรอยต่อที่กั้นไม่อยู่ จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปรักษาแนวรอยต่อไว้ แม้ว่าน้ำจะล้นแต่เรามีแนวคลองอยู่ข้างๆ น้ำจะไม่ลามกินพื้นที่บริเวณกว้าง และในกทม.น้ำจะไม่สูงมากนัก เพราะมีคันกั้นน้ำปกป้องกทม. ชั้นในอยู่ ส่วนนอกแนวคันกั้นน้ำมีคลองรองรับ

นอกจากนี้ความคืบหน้าในการขุดคลองเพื่อระบายน้ำลงแม่น้ำเจ้าพระยาเสร็จแล้ว 2 คลอง ซึ่งจะเริ่มระบายน้ำออกไปได้ สถาน การณ์ในภาคกลางจะเริ่มทุเลาลง ผลกระทบที่จะเกิดกับกทม. จะเป็นเฉพาะพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำเท่านั้นและไม่ส่งผลกระทบในวงกว้าง

ส่วนการทำแนวคันกั้นน้ำชั้นที่สองเพื่อรองรับกรณีแนวคันกั้นน้ำชั้นแรกไม่สามารถต้านกระแสน้ำได้ในส่วนของกทม.นั้น ตอนนี้กำลังสำรวจอยู่

มั่วซ้ำ-"ประชา"แถลงแก้ทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุโกลาหลในการเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ของศปภ.อีกครั้ง เมื่อฝ่ายประชาสัมพันธ์ศปภ.นำเอกสารข่าวฉบับที่ 2 ประจำวันที่ 14 ต.ค. ระบุว่ากรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินเฉพาะหน้า 17 เขตกทม.เป็นเวลา 3 เดือน โดยเมื่อข่าวเผยแพร่ออกไปทำให้ประชาชนตื่นตระหนกและไม่สบายใจ ทำให้พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในฐานะผอ.ศปภ. ต้องแถลงแก้ข่าวโดยด่วน โดยมีนายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าฯกทม.ร่วมแถลงด้วย

โดยพล.ต.อ.ประชาแถลงว่า ต่อไปนี้ข่าวที่จะออกจากศปภ.ตนจะเป็นคนแถลงด้วยตัวเองรวมถึงการประกาศเตือนภัยด้วย หาก เป็นเอกสารต้องผ่านการลงนามจากตนก่อน หากเป็นเรื่องสถานการณ์น้ำ ก็จะเป็นรมว. เกษตรฯและอธิบดีกรมชลประทาน เนื่องจากช่วงเช้ามีข่าวเสนอการประกาศพื้นที่ภัยพิบัติ 17 เขตในกทม. สร้างความตระหนกให้ประชาชน ขอยืนยันว่าไม่ใช่เอกสารของศปภ. และไม่ทราบว่าใครนำมาแจก

ยันกทม.ปลอดภัยแน่

พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า ขณะนี้ศปภ. พยายามป้องกันเขตเศรษฐกิจกทม. ด้วยการระบายน้ำออกทางซีกตะวันออก และตะวันตกของกทม. โดยระบายทั้งแม่น้ำท่าจีน บางปะกง และเจ้าพระยา โดยระบายได้วันละ 550 ล้านลบ.ม. ถือเป็นผลดี ยืนยันว่ากทม.ไม่ท่วมแน่นอน แต่กระทบบ้างในพื้นที่รอบกทม.ปริมณฑล รวมทั้งคันกั้นน้ำ 3 แนวที่หลักหก เมืองเอก จ.ปทุมธานี และที่ศาลายา จ.นครปฐม ที่ทำเสร็จและเพิ่มความแข็งแรงมากขึ้น รวมทั้งได้สั่งการให้ทำคันกั้นน้ำเพิ่มที่คลองระพีพัฒน์แยกตก จากช่วงประตูน้ำพระอินทร์ถึงคลองระพีพัฒน์ ระยะทาง 24 ก.ม. คาดว่าอีก 2 วันเสร็จ เพื่อให้คันกั้นนี้เป็นคันที่สองซ้อนขึ้นมาอีก

จากนั้นนายชลิตกล่าวว่า การบริหารจัดการน้ำช่วงวันที่ 13-18 ต.ค. ซึ่งระดับน้ำทะเลจะหนุนสูงและน้ำเหนือไหล จึงต้องตัดยอดน้ำด้านบน ด้วยการลดการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพล เพื่อให้น้ำลงมาที่จ.นครสวรรค์ น้อยที่สุด และระบายน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์และเขื่อนแควน้อยให้น้อยลง จะส่งผลให้น้ำที่จ.นครสวรรค์ จะอยู่ที่ 4,686 ลบ.ม.ต่อวินาที น้ำจากนครสวรรค์มาที่เขื่อนชัยนาท คาดว่าไม่เกิน 3,600 ลบ.ม.ต่อวินาที ดังนั้นน้ำจะมาถึงกทม.วันที่ 15-16 ต.ค.นี้ มีระดับสูง 2.3-2.4 เมตร ในขณะที่คันกั้นน้ำกทม.อยู่ที่ 2.5 เมตร ดังนั้นกทม.รอดแน่นอนhttp://www.muslimthaipost.com/hot/content.php?page=sub&category=88&id=9179

ข้อความโดย: ต๊ะติ้งโหน่ง
« เมื่อ: ตุลาคม 26, 2011, 07:36:42 pm »

ศปภ. ยันกทม.ไม่ท่วม ชี้อุทกภัยทั่วไทยดีขึ้น   


ศปภ. ยันกทม.ไม่ท่วม ชี้อุทกภัยทั่วไทยดีขึ้น
ศปภ. ประเมินสถานการณ์อุทกภัยทั่วประเทศมีแนวโน้มดีขึ้น เชื่อกรุงเทพน้ำไม่ท่วมแน่นอน ขณะที่บุตรสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ร่วมแพ็คถุงยังชีพที่ศูนย์บริจาคของศปภ.
แม้จะมีฝนตกลงมาอย่างหนักเมื่อวานนี้ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ส่งผลให้ประชาชนเกิดความกังวลน้ำจะท่วมกรุงเทพมหานคร  ซึ่งวันนี้ศูนย์ปฎิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ. ยืนยัน น้ำไม่ท่วมกรุงเทพมหานครอย่างแน่นอน  โดยนายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่การกระทรวงเกษตร และสหกรณ์  เปิดเผยว่า จากการประเมินสถานการณ์อุทกภัยทั่วประเทศ พบว่า  เริ่มมีแนวโน้มลดลงและทรงตัว  แต่จะมีเพิ่มขึ้นบ้างในพื้นที่อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เนื่องมาจากน้ำทะเลหนุน

โดยกรมชลประทานประมาณการณ์น้ำจากทุกแหล่งที่จะไหลเข้า กทม.ในปริมาณสูงสุดระหว่างวันที่ 15-16 ตุลาคม ได้ผ่านกทม.ออกทะเลไปแล้ว  ประชาชนจึงสบายใจได้ เพราะระดับน้ำสูงสุดที่สะพานพุทธยอดฟ้าเมื่อเช้าวันที่ 15 ตุลาคมอยู่ที่ 2.29 เมตร ซึ่งต่ำกว่าที่กรมชลประทานคาดไว้ 1 เซนติเมตร  ด้านนายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน ระบุว่า สถานการณ์น้ำจากนี้ไประดับน้ำจะทรงตัว  เพราะตอนนี้น้ำจากท้องทุ่งกำลังจะไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาอย่างช้าๆ

ขณะเดียวกันน้ำจากพื้นที่เฝ้าระวัง คือ นิคมไฮเทคและนิคมโรจนะ ที่จะข้ามถนนมิตรภาพ อ.บางปะอินนั้น ขอบคุณประชาชนที่ยอมให้เปิดคลองแปดถึงคลองสิบ จนสามารถระบายน้ำและควบบคุมทิศทางน้ำไปสู่ทางตะวันออกได้  และพยายามให้มวลน้ำขนาดใหญ่ออกไปทางประตูระบายน้ำเชียงรากน้อย  หากน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับต่ำกว่าน้ำในคันกั้นน้ำก็จะเปิดประตูบานนี้  เพื่อปล่อยน้ำอีกทางหนึ่ง พร้อมระบุว่า คงต้องเฝ้าระวังอีกครั้งในช่วงวันที่ 28-30 ตุลาคม จึงเรียกร้องให้ประชานอย่าทำลายคันกั้นน้ำ ที่อาจทำให้น้ำเข้าสู่กรุงเทพมหานครได้

ขณะที่บรรยากาศบริเวณชั้น 1 ของอาคารผู้โดยสารภายในประเทศหลังเดิม ท่าอากาศย่านดอนเมือง  ซึ่งแม้วันนี้จะเป็นวันหยุด แต่ยังเนืองแน่นไปด้วยจิติอาสาจำนวนมาก ที่มาร่วมกันแพคถุงยังชีพให้กับผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ต่างๆ   รวมไปถึงนางสาวพินทองทา  ชินวัตร บุตรสาวพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร ที่ควงคู่มากับ นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ คู่หมั้น ที่มาร่วมบรรจุสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และให้กำลังใจกับอาสาสมัครที่ร่วมบรรจุสิ่งของใส่ถุงยังชีพ 

ทั้งนี้ยังได้นำเสื้อชูชีพ จำนวน  40 ตัว และไฟฉาย 400  กระบอก มามอบให้กับนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทั้งนี้นางสาวพิณทองทา ยังขอบคุณประชาชน และซึ่งในน้ำใจทุกคนที่มาช่วยผู้ประสบอุทกภัย

Tagged

http://www.springnewstv.tv/th/news/4-9877.html
ข้อความโดย: ต๊ะติ้งโหน่ง
« เมื่อ: ตุลาคม 26, 2011, 07:35:10 pm »

GOVT:ศปภ.ยืนยัน กทม.ไม่ท่วมแน่นอน-ชี้ปริมาณน้ำใน 15-16 ต.ค.จะต่ำกว่าแนวกั้น
14/10/2011 อ่าน 23 ครั้ง
Edit Title Edit Detail
xBR> GOVT:ศปภ.ยืนยัน กทม.ไม่ท่วมแน่นอน-ชี้ปริมาณน้ำใน 15-16 ต.ค.จะต่ำกว่าแนวกั้น
        กรุงเทพฯ--14 ต.ค.--รอยเตอร์

        นายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน หนึ่งในคณะกรรมการศูนย์ปฎิบัติการ
ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย(ศปภ.) ยืนยันว่า พื้นที่กรุงเทพมหานคร(กทม.) จะไม่เผชิญกับ
สถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงอย่างแน่นอน เพราะปริมาณน้ำเหนือที่จะไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา
จากนครสวรรค์มายังชัยนาท มีปริมาณต่ำกว่าที่คาดไว้ ทำให้ช่วงวันที่ 15-16 ต.ค.
ที่น้ำทะเลหนุนสูง ระดับน้ำก็ยังอยู่ในแนวคันกั้นน้ำของ กทม.
        "คิดว่า สถานการณ์โดยรวมดีขึ้น คาดว่า น้ำมาถึงกทม.ในวันที่ 15-16 ตุลาคม
น้ำจะอยู่ระดับ 2.3-2.4 เมตร ซึ่งยังไม่ผ่านคันกั้นน้ำของกทม.ที่อยู่ระดับ 2.5 เมตร
ผมยืนยันได้ว่า กทม.รอดแน่นอน" นายชลิต กล่าวแถลงข่าว
        เขากล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำใน จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลเข้าสู่จังหวัด
ราว 4,686 ลูกบาศก์เมตร/วินาที แต่ช่วง 3 วันที่ผ่านมา ไม่มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น ก็ถือว่า
สถานการณ์อยู่ในภาวะทรงตัว เมื่อน้ำมาถึงจ.ชัยนาท จะมีปริมาณ 3,600 ลบ.เมตร/วินาที
ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 3,800 ลบ.ม./วินาที
ดังนั้นเมื่อถึงกทม.ช่วงเวลาน้ำทะเลหนุน
จึงอยู่ต่ำกว่าคันกั้นน้ำของกทม.
       ด้าน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการ ศปภ.
กล่าวว่า ศปภ.ให้ความสำคัญที่จะป้องกันพื้นที่กทม. ซึ่งมั่นใจว่าควบคุมได้อย่างแน่นอน
       "การป้องกันเขตเศรษฐกิจของประเทศเป็นเรื่องสำคัญมาก เราให้ความสำคัญกับกทม.
ผมยืนยันว่า กทม.อยู่ในสถานการณ์ควบคุมได้ น้ำไม่ท่วมแน่นอน จากที่เราผันน้ำลงสู่ทะเล
ทั้งทางทิศตะวันออก ตอนกลาง และ ตะวันตก" พล.ต.อ.ประชา กล่าว
        เขายอมรับว่า พื้นที่ปริมณฑล อาจได้รับผลกระทบบ้าง โดยเฉพาะ จ.สมุทรปราการ,
นนทบุรี,ฉะเชิงเทรา และปทุมธานี ซึ่งรัฐบาลจะพยายามระบายน้ำลงสู่ทะเลให้เร็วที่สุด เพื่อ
ไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน
        เช้านี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าการกทม. ยืนยันว่า กทม.ยังรับมือกับ
สถานการณ์น้ำในขณะนี้ได้และระดับน้ำยังไม่ถึงขั้นวิกฤติ แต่ยอมรับว่าช่วงวันที่ 15-18
ต.ค.
เป็นช่วงอันตรายที่จะมีน้ำเหนือเข้ากทม. น้ำทะเลหนุนสูงและฝน ซึ่งได้ให้ทางสำนักงานเขต
ที่ดูแล 27 ชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำ เจรจาขอให้ชาวบ้านออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัย
        ขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณปากคลองตลาด ใน กทม. เช้านี้อยู่ที่ระดับ
สูง 2.13 เมตร ซึ่งทำลายสถิติของปีที่แล้วที่มีระดับสูงสุดที่ 2.10 เมตร แต่ผู้ว่า กทม.
ระบุว่า ระดับน้ำดังกล่าว ยังไม่ถึงขั้นปี 38 ที่สูง 2.20 เมตร--จบ--

 
http://www.centerstocks.com/index.php?mo=14&newsid=290984
ข้อความโดย: ต๊ะติ้งโหน่ง
« เมื่อ: ตุลาคม 26, 2011, 07:33:21 pm »

นายกรัฐมนตรีมั่นใจ กทม.น้ำไม่ท่วมแน่นอน

--------------------------------------------------------------------------------

วันอาทิตย์ ที่ 16 ต.ค. 2554    Video 
Photo 
ดอนเมือง 16 ต.ค.- นายกรัฐมนตรีเผย แม้กรุงเทพฯ จะมีปัญหาน้ำทะเลหนุน แต่มั่นใจว่าจะไม่เกิดวิกฤติน้ำท่วม วอนประชาชนอย่ารื้อแนวคันกั้นน้ำ.- สำนักข่าวไทย
http://www.mcot.net/cfcustom/cache_page/281822.html
ข้อความโดย: ต๊ะติ้งโหน่ง
« เมื่อ: ตุลาคม 26, 2011, 07:32:22 pm »

'ศปภ.'ยันน้ำไม่ท่วมกทม.แน่นอน
'ศปภ.'ยันน้ำไม่ท่วมกทม.แน่นอน วอนเอกชนช่วยบริจาคเครื่องสูบน้ำ 20-30 เครื่อง ด้านกปน.ยันผลิตน้ำประปาได้ตามปกติ

      นายวิม รุ่งวัฒนจินดา โฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือศปภ. แถลงความคืบหน้าสถานการณ์น้ำ และแสดงความเป็นห่วงประชาชนเกี่ยวกับประตูน้ำจุฬาลงกรณ์และแนวทางแก้ไขของศปภ. พร้อมกล่าวว่า ขณะนี้น้ำในคลองเปรมประชากรเรายังสามารถควบคุมได้ และวันนี้ทาง ศปภ.จะเร่งดำเนินการระบายน้ำตลอดทั้งวัน โดย พลเอกประชา พรมนอก จะเป็นคนสั่งการและขอความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ ให้ช่วยกันเร่งระบายน้ำด้วย

      นายประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ. กล่าวว่า การดำเนินการระบายน้ำที่ล้นเข้าคลองประปานั้น การประปานครหลวง ได้นำผู้เชี่ยวชาญดำเนินการปิดช่องประตูระบายน้ำไซฟ่อนที่บริเวณคลองรังสิต ซึ่งได้ดำเนินการ 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว ส่วนประตูน้ำจุฬาฯยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยจะให้นายธีระ วงศ์สมุทร เป็นผู้ควบคุมต่อไป

       สำหรับการแก้ปัญหาในคลองประปานั้น ได้มีการควบคุมประตูไซฟ่อนที่คลองรังสิตได้แล้ว โดยประตูที่ 6 คาดว่าจะดำเนินการให้เสร็จได้วันนี้ หรืออย่างช้าก็พรุ่งนี้ เพราะการปิดประตูน้ำนั้นจะต้องมีผู้เชี่ยวชาญและเครื่องมือพิเศษ ทั้งนี้ เพื่อให้สอดรับกับการแก้ไขปัญหาของกปน. จึงขอความร่วมมือไปยังกทม. ให้เร่งระบายน้ำที่เอ่อล้นที่หลักสี่ ดอนเมือง รวมทั้งขอความร่วมมือไปยังผู้ว่าฯจังหวัดนนทบุรี ให้เร่งระบายน้ำออกให้เร็วที่สุดเช่นกัน

       อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การแก้สถานการณ์เฉพาะหน้าเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทางศปภ. และกทม. จึงได้ให้มีการจัดตั้งศูนย์ ศปภ.ส่วนหน้าที่กทม. โดยมีนายพระนาย สุวรรณรัฐ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ควบคุมดูแล นอกจากนี้ ทางศปภ. อยากขอความร่วมมือไปยังเอกชน ที่มีเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ให้ช่วยบริจาคเครื่องสูบน้ำเพื่อที่ศปภ. จะนำมาติดตั้งและเร่งระบายน้ำออกทางฝั่งตะวันออก จำนวน 20 - 30 เครื่อง โดยสามารถติดต่อได้ที่ผู้ว่าฯหวัดปราจีนบุรี 0892030397 หรือเลขานุการผู้ว่าฯ 0818436736 และเลขานุการผู้ว่าฯสมุทปราการ 0892030483

       "ศปภ.ยืนยันว่ายังสามารถควบคุมน้ำได้ และน้ำจะไม่เข้ากทม.อย่างแน่นอน " พลเอกประชา กล่าว

       นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ กล่าวถึง การปล่อยน้ำจากเขื่อนต่างๆว่า ทั้งเขื่อนภูมิพล ขณะนี้มีระดับน้ำอยู่ที่ 100 เปอร์เซ็นต์ และมีน้ำไหลเข้าวันละ 65ลบ.ม..ต่อวัน และมีระบายออกวันละ 60 ลบ.ม.ต่อวัน ส่วนเขื่อนสิริกิตต์ มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 100 เปอร์เซ็นต์เช่นกัน และมีปริมาณน้ำไหลเข้าประมาณวันละ 25 ลบ.ม.ต่อวัน และระบายออกวันละ 11 ลบ.ม.ต่อวัน ส่วนเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีระดับน้ำอยู่ที่ 136 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมีระดับน้ำไหลเข้าเขื่อน 33 ลบ.ม.ต่อวัน และมีการระบาย ออกวันละ 30 ลบ.ม.ต่อวัน ขณะที่น้ำบริเวณแม่น้ำปิงและแม่น้ำน่านบริเวณจังหวัดนครนสรรค์มีระดับน้ำอยู่ที่ 4,272 ลบ.ม.ต่อวัน ซึ่งขณะนี้ปริมาณน้ำได้ลงลงเรื่อยๆแล้ว ทั้งนี้ยังพบว่าเมื่อคืนวันที่ 20  ได้มีการรื้อคันกันน้ำจึงทำให้น้ำที่ตลาดและคลองรัตเป็นเนื้อเดียวกัน  ส่วนบริเวณประตุน้ำจุฬาฯควบคุมได้ โดยน้ำที่อยู่ในด้านในประตูจุฬาฯสูงอยู่ที่ 3.2 เมตร ซึ่งต่ำกว่าคั้นกั้นน้ำ ส่วนน้ำบริเวณด้านเจ้าพระยาอยู่ที่ 3.93 เมตรซึ่งต่ำกว่าระดับคันกั้นน้ำเช่นเดียวกัน ขณะที่ตอนนี้ได้มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำเรียบร้อยแล้ว ส่วนทางตะวันตกได้สูบน้ำ และติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่ม ส่วนทางตะวันอกก็ได้มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำและสูบน้ำออกไปยังแม่น้ำนครนายกแล้ว

       อย่างไรก็ดี เหตุที่เขื่อนยังต้องระบายน้ำอยู่ เนื่องจากตามรายงานแต่ละเขื่อน ตัวอย่างเช่นเขื่อน ภูมิพลมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 5,600 ลบ.ม. แต่ปีนี้มีน้ำถึง 11,000 ลบ.ม.ซึ่งมากกว่าปกติถึงสองเท่า ดังนั้นเขื่อนจึงต้องมีการระบายน้ำเพื่อปรับลดออกมา ซึ่งอาจจะทำให้เกิดผลกระทบบ้าง

       “เรายืนยันว่าประตูน้ำจุฬาฯ ยังมีความมั่นคงดี และสามารถจัดการควบคุมได้ ” นายธีระ กล่าว

        สำหรับ น้ำที่บริเวณคลองเปรมประชากร น้ำส่วนที่อยู่ด้านเหนือก็จะมีประตูน้ำปิดกั้นน้ำอยู่ ซึ่งจะควบคุมน้ำและมีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ที่จะคอยระบายน้ำออก ส่วนคลองเปรมประชาด้านใต้ ที่จะควบคุมน้ำตั้งแต่คลองรังสิตที่จะเข้ามายังกทม. ก็ยังไม่มีการรับน้ำที่จะเข้ามาในกทม.แต่อย่างใด

       นายเจริญ ภัสระ ผู้ว่าการประปานครหลวง กล่าวว่า ขณะนี้ทางกปน. ได้ควบคุมระน้ำที่ไหลเข้าคลองประปาได้แล้ว 90 % แต่การดำเนินการอาจมีปัญหาบ้างในบางส่วนในการควบคุม และปิดประตูน้ำไซฟ่อนซึ่งอยู่เป็นท่อที่อยู่ได้คลองรังสิต ซึ่งประตูไซฟ่อนจะมีอยู่ 7 ช่อง โดยที่ผ่านมาเราได้ปิดประตูที่ 1 - 5 แล้ว 100 % แต่คงเหลือประตูที่ที่กำลังดำเนินการและคาดว่าจะปิดได้ในช่วงเวลา 20.00 น. ของวันนี้

       ทั้งนี้ หลังจากที่มีการปิดประตูระบายน้ำแล้ว ทำให้ระดับน้ำในคลองประปาลดลงไป 4 ซม. โดยเทียบกันตั้งแต่เมื่อเวลา 6 โมงเช้ากับตี 1 ขณะที่น้ำที่มีการเอ่อล้นก็จะเร่งระบายออกสู่คลองบางซื่อ บางเขน และสามเสน

       อย่างไรก็ดี สำหรับคุณภาพน้ำประปา ยังยืนยันว่า กปน. ยังสามารถผลิตน้ำได้ตามปกติและคุณภาพก็อยู่ในเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลก แต่น้ำที่ผลิตอาจจะมีสีเหลืองเพิ่มขึ้นบ้าง ซึ่งกปน.ก็ใช้สารพิเศษแก้ปัญหาอยู่ รวมถึงใช้ผงถ่านกัมมันต์ เพื่อแก้ปัญหาเรื่องกลิ่น

http://www.komchadluek.net/detail/20111022/112583/%E0%B8%A8%E0%B8%9B%E0%B8%A0.%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%A1.%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%99.html