ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 500 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

Verification:
กัน-ละ-ยา-นะ-มิด เขียนเป็นภาษาไทยที่ถูกต้องว่าอย่างไรครับ:
คิดว่าความดีทำยากไหม( เลือกตอบแค่ ยาก กับ ไม่ยาก ครับผม):
ถ้าเราโกรธใคร ธรรมะจะเป็นหนทางผ่อนคลายความโกรธนั้นลงได้ใช่ไหม ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม ):
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า ความดีนำทาง:
เว็บใต้ร่มธรรมเป็นเว็บเล็กๆในโลกออนไลน์ใช่หรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
โดยปกติชน นิ้วมือของคนเรา มีกี่นิ้ว (ตอบเป็นภาษาไทยครับ):
วัฒนธรรมไทยเมื่อเห็นผู้ใหญ่ท่านจะทำความเคารพ ด้วยการไหว้ท่านก่อนเสมอใช่หรือไม่:
คุณพ่อคุณแม่เปรียบดั่งพระอรหันต์ในบ้าน พิมพ์คำว่า "คุณพ่อคุณแม่ฉันรักและเคารพท่านดุจพระอรหันต์":
เมื่อให้ท่านเลือก ระหว่าง (หนังสือเก่าๆเล่มหนึ่งที่เรารัก) กับ (มิตรแท้ที่รักเรา) คุณจะะเลือก:
กล่าวคำดังนี้  "ขอโทษนะ":
กล่าวคำดังนี้  "ให้อภัยนะ":
กล่าวคำดังนี้  "ขออโหสิกรรม":
หากมีคน บอกว่า เราไม่ดีเราเลว แต่ใจเรารู้ว่าไม่เป็นเช่นนั้น เราจะใช้วิธีใดจัดการกับเรื่องนี้  (โต้เถียงให้แรงกว่าที่เค้าว่ามา) หรือ (เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ความดีของเราเองไม่ต้องทำอะไร):
เคยนวดฝ่าเท้าให้ คุณพ่อคุณแม่บ้างไหม ถ้ามีโอกาส เราควรทำหรือไม่ (ควรกระทำอย่างยิ่ง หรือ ไม่ควรทำ):
ธรรมะคือ ธรรมชาติ พิมพ์คำว่า (ธรรมะชาติ) ครับ:
รู้สึกระอายใจไหมที่เราทำร้ายคนอื่นด้วยวาจาหรือสำนวนที่ไม่สุภาพ โดยที่คนคนนั้นเค้าเคยเป็นผู้มีพระคุณต่อเรามา (ไม่ละอายใจ)หรือ(ละอายใจ):
สำนวนไทยที่ว่า แต่ละคนต่างมีรสนิยมแตกต่างกัน หรือไม่ตรงกัน  พิมพ์สำนวนต่อไปนี้ครับ (ลางเนื้อชอบลางยา):
ขนทรายเข้าวัดคือ พิมพ์สำนวนต่อไปนี้ครับ (ทำบุญทำกุศลโดยวิธีนำหรือหาประโยชน์เพื่อส่วนรวมมิได้ทำเพื่อตนเอง):
ไม่มีอะไรสายสำหรับการเริ่มต้น พิมพ์เป็นประโยคภาษาอังกฤษครับ เป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมดนะครับ เว้นวรรคคำด้วยครับ (It is never too late to mend):
ผู้ที่ไม่เคยรับรู้รสของความขมขื่น จะไม่รู้ว่าความหวานชื่นคืออะไร พิมพ์เป็นประโยคภาษาอังกฤษครับ เป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมดนะครับ เว้นวรรคคำด้วยครับ (He who has never tasted bitterness does not know what is sweet):

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2011, 12:28:19 am »

<a href="http://www.youtube.com/v/Lhgq_GLYLfQ" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">http://www.youtube.com/v/Lhgq_GLYLfQ</a>

<a href="http://www.youtube.com/v/qzoun-H-Arg" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">http://www.youtube.com/v/qzoun-H-Arg</a>

<a href="http://www.youtube.com/v/AdadR9Z3dOY" target="_blank" rel="noopener noreferrer" class="bbc_link bbc_flash_disabled new_win">http://www.youtube.com/v/AdadR9Z3dOY</a>
ข้อความโดย: ฐิตา
« เมื่อ: ตุลาคม 05, 2011, 09:59:32 am »



:43:        :02: ๆๆๆๆๆ

 :25: :45:




ข้อความโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน
« เมื่อ: ตุลาคม 04, 2011, 11:40:13 pm »

อนุโมทนาครับพี่มด :13:
ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: ตุลาคม 03, 2011, 08:53:57 pm »

คำคมๆ ประโยคโดนๆ จาก twitter ของ roundpoetry
อ่านในวันที่หัวใจสลาย เราอาจจะได้ข้อคิดดีๆ เพื่อบำรุงหัวใจ
อ่านในวันที่อารมณ์ดีมีความสุข ก็ยังได้ข้อคิดดีๆ สำหรับหัวใจอีกเช่นเคย


1อยากเข้าใจสิ่งใด, ต้องเริ่มจากการยอมรับ, ว่าเราไม่เข้าใจสิ่งนั้น.
2ความเหงา, มิได้ขึ้นอยู่กับความกว้างใหญ่ของพื้นที่รอบตัว, มันขึ้นอยู่กับพื้นที่ว่างเล็กเล็กข้างข้างตัว.
3ทุกที่มีความเศร้า, ตราบที่เรา, พกมันไปด้วย.
4เมื่อความรักหมดลง, สิ่งที่เหลือ, คือความพยายาม.
5บางครั้ง, เรายอมแพ้, เพราะแค่กลัวว่าจะไม่ชนะ.
6เรื่องเกิดขึ้นมานานแค่ไหน, ไม่สำคัญเท่า, มันยังคงอยู่หรือเปล่า, ในวันนี้.
7บางที, เราบอกรักเพื่อความสบายใจ, มิใช่ต้องการคำตอบ.
8ยิ่งพยายามรักกันมากเท่าไร, ความจริงก็ค่อยค่อยเผยตัวออกมา, ว่าเราไม่ได้รักกันแล้ว.
9น้ำตาของจริง, มักไหลออกมาโดยที่เราไม่รู้ตัว, รอยยิ้มของจริงก็เช่นกัน.
10ความทรงจำที่หล่นหาย, ไม่มีใครเก็บมาคืนเราได้, แต่ไม่เป็นไร, มันคงไม่ค่อยสำคัญ.





11การลืม, ทำได้ยาก, ที่พอทำได้คือ, ไม่เพิ่มความทรงจำ.
12ความทรงจำยังคงอยู่กับฉัน, คนในความทรงจำ, หายไป.
13ความอึดอัด, ไม่ต้องการคนจำนวนมากในที่แคบ, บางครั้งมันเกิดขึ้นขณะที่คนสองคนอยู่ในที่ล่งกว้าง.
14หลังคำว่ารักถูกเอ่ยออกมา, ทุกอย่างก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป, ไม่ใกล้กันมากขึ้น, ก็ห่างกันมากขึ้น.
15ทุกคน, ล้วนต้องการ, บางคน.
16ผิดหวังกับใครคนหนึ่งซ้ำแล้วซ้ำเล่า, แปลว่าเขา, สำคัญกับเราพอสมควร.
17เราต่างกลัวความผิดหวัง, แต่เมื่อผิดหวังแล้ว, ก็ไม่มีอะไรให้กลัวอีก.
18ปลอบตัวเอง, ว่าเธอไม่ใช่, คือวิธีทำให้เจ็บปวดน้อยลง.
19คำว่าจบ, ที่สมบูรณ์, ต้องจบทั้งสองคน.
20บางครั้ง, เราอดไม่ได้ที่จะเดินไปตามทางเส้นนั้น, แม้รู้ว่ามันเป็นทางตันก็ตาม.




21การพยายามทำทุกสิ่งให้ปกติ, ไม่ปกติอย่างยิ่ง.
22สิ่งใดที่ต้องพยายามจำ, สิ่งนั้นไม่สำคัญจริง.
23สิ่งที่บอกไม่เคยจริง, สิ่งที่จริงไม่เคยบอก.
24ที่ใดมีรัก, ที่นั่นไม่มีสมาธิ.
25การพูดคำว่ารัก, ในบางกรณี, มีความหมายว่าลาก่อน.
26สิ่งที่ไม่บอก, สำคัญกว่า, สิ่งที่บอกออกมา.
27คนที่ทำให้เรามีพลัง, คนที่ทำให้เราหมดพลัง, คนเดียวกัน.
28บางความรักจบลง, เพราะความไม่รู้จบ, ของความรัก.
29สิ่งมีค่าของบางคน, เป็นเพียงของเล่น, ของบางคน.
30สิ่งที่โหดร้ายกว่าการไม่รัก, คือ, รักที่ไม่จริง.




นี่เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนเท่านั้น หากอยากอ่านเพิ่ม คลิกไปที่
ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: ตุลาคม 03, 2011, 08:47:56 pm »



ผลงานล่าสุดของนักเขียนอารมณ์ดี “นิ้วกลม” รวบรวมจาก Twitter บทกวีสั้นๆนี้เขาเรียกว่า “อุนนุน”ไม่มีความหมายอะไร แต่เป็นคำที่เกิดขึ้น “ระหว่างที่นั่งเฉยเฉย” มีถ้อยความมากมายเกิดขึ้น ทั้งการมองโลกอย่างสนุกสนาน โรแมนติก และอีกหลายอารมณ์ ไม่แน่...คุณอาจค้นพบว่า “อุนนุน” หมายความว่าอะไร


"อุนนุน" อาจไม่ใช่บทกวี
และมันก็ไม่มีลักษณะอะไรที่ตายตัว
แต่มันคือห้วงอารมณ์ ห้วงความรู้สึก ห้วงความคิด
ที่ผุดขึ้นมาในบางเวลาของวัน
บ้างจากเรื่องราวในปัจจุบัน บ้างจากเมล็ดพันธุ์ของอดีต
ความรู้สึกเก่า ๆ วนกลับมาหาเราเสมอ
และความรู้สึกเช่นนั้นมันช่าง "อุนนุน" เสียเหลือเกิน



อุนนุนหมายเลข ๒

กาลครั้งหนึ่ง ทุกสถานที่ เคยมีความรัก
กาลครั้งหนึ่ง เคยมีหนังสือ บนโลกใบนี้ 

"นิ้วกลม"


ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: ตุลาคม 03, 2011, 08:46:22 pm »



ไฮกุ แคนโต้ อุนนุน ( 2 )

โอ้พระเป็นเจ้า
ฉันอยู่เพื่อรอการพิสูจน์
ว่าฉันมาจากไหน

.....

สำหรับแคนโต้
มันไม่ใช่ท่วงทำนองของเสียง
แต่มันคือท่วงทำนองของอารมณ์

.....

สำหรับไฮกุ
มันคือบทกวีแสนสั้น
สื่อจังหวะแห่งจิต

.....

สำหรับอุนนุน
คือการปลดปล่อยจินตนาการ
ผ่านบทกวีสั้นๆธรรมดาๆ
แต่มีความหมายเป็นพิเศษ

.....

ผมเคยคิดว่าถ้าแต่งสามแบบให้ได้ความหมายเดียวกันจะทำได้มั้ย

แบบไฮกุ

แคนโต้เป็นทำนอง
ไฮกุเปรียบได้เช่นจังหวะ
อุนนุนคือเนื้อร้อง

.....

แบบอุนนุน

หากแคนโต้คือท่วงทำนอง
ส่วนไฮกุคงเป็นเช่นจังหวะ
อุนนุนก็เปรียบดังเนื้อร้อง
เป็นบทเพลงที่บรรเลงผ่านเครื่องดนตรีที่เรียกว่า จิตใจ

.....

แบบแคนโต้ (สำหรับผมแคนโต้เป็นอะไรที่แต่งยากมาก)

ท่วงทำนองที่ไร้เสียง...แคนโต้
จังหวะที่เงียบงัน...ไฮกุ
บทกวีไร้ลักษณะ...อุนนุน

.....

สรุป

แคนโต้...(ตั้งใจแต่ง ไม่ออก)
อุนนุน...(ตั้งใจ ไม่ตั้งใจ ก็แต่ง)
ไฮกุ...(----ตั้งไม่ตั้งก็ออก----)

งงมั้ยครับ

สวัสดี

http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=polarbee&month=28-07-2011&group=2&gblog=37

ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: ตุลาคม 03, 2011, 08:44:05 pm »



ไฮกุ แคนโต้ อุนนุน


ถึงท่านฟาร์
ท่านฟาร์สามารถหาข้อมูลการแต่งไฮกุได้จากวิกิพิเดียนะครับ ภาษาไทยก็มีอ่านได้ง่ายไม่ซับซ้อน เนื้อหาของไฮกุนั้น ดั้งเดิมจะกล่าวถึงปรัญชญาเซน
แน่นอนว่าภาษานั้นจะเรียบง่าย แต่แฝงด้วยแนวคิดอันลึกซึ้ง ปัจจุบันไฮกุมีคนนิยมแต่งกันมากขึ้นเนื้อหาก็หลากหลายขึ้น
สำหรับแนวทางของผมแล้ว ลักษณะที่ต้องการคือแฝงด้วยแง่คิดและปรัชญาเซน แม้ไม่มาก แต่ก็พยายามทำอยู่ครับ


ไปตามลิงค์นี้เลยก็ได้ครับ
ไฮกุ

ยกตัวอย่างไฮกุที่ผมเคยแต่งไว้

พระโพธิสัตว์ยิ้ม
เปี่ยมด้วยเมตตากรุณา
สั่งสอนด้วยความเงียบ

ตอนแต่งนึกถึงรูปสลักของพระโพธิสัตว์ ที่สวยงาม มีรอยยิ้มเปี่ยมด้วยเมตตากรุณา รอยยิ้มของพระโพธิสัตว์สอนเราถึงสิ่งใดกัน
คงมีแต่ความเงียบที่ทิ้งไว้เป็นปริศนาธรรม
ท่านอาจไม่สอนสิ่งใดเลย หรือสอนให้เราอดทนกันแน่ ทั้งนี้ผมเองก็ไม่ได้สรุปไว้ ปล่อยให้คนอ่านคิดเอาเอง

แบบนี้คือการแสดงปมขัดแย้งแล้วทิ้งคำถามให้ขบคิดครับ ไฮกุแบบนี้จบในบทเดียวนานๆถึงจะแต่งแบบนี้ออกมาได้ครับ

ยังมีอีกหลายแนวครับ ไฮกุชมธรรมชาติก็มี เช่น

มองดูรั้วเก่าๆ
เห็นตำลึงไต่ไปไต่มา
กายกรรมพืชน้อย

ไฮกุบทนี้ไม่ได้ซ่อนปริศนาธรรมใด แต่เป็นบทบรรยายธรรมชาติเฉยๆ ผมเลือกใช้คำว่ากายกรรมพืชน้อย เพราะมันสื่อให้เห็นภาพที่สนุกสนานดีครับ

อีกแบบผมเรียกว่าการบรรยายความทั่วไป เช่น

วัยเยาว์ไร้เดียงสา
เติบโตและเรียนรู้ชีวิต
จบลงด้วยการลืม

เป็นการบรรยาความอย่างธรรมดา แนวคิดก็ธรรมดา

สิ่งที่ท้าทายสำหรับการแต่งไฮกุ คือการเข้าถึงเซน การบรรยายความด้วยความเรียบง่ายและสั้นกระชับ แต่ให้อารมณ์ความรู้สึกที่ทรงพลัง

บางครั้งผมก็แต่งไฮกุหลายๆบทนำมาต่อกัน แต่ละบทก็จบความในบทนั้นแต่นำมาต่อกันหลายๆบทโดยมีความหมายเกี่ยวเนื่องกัน หรือไม่เี่กี่ยวเนื่องกันก็ได้ แต่หากลองสังเกตดู อารมณ์ของไฮกุจะไหลไปเหมือนจิตที่กำลังพิจารณาสิ่งเดียวกันอยู่

ผมจะลองยกตัวอย่างแคนโต้ ที่นำมาจากไทยแคนโต้ แต่งโดยผู้ใดผมจำไม่ได้แล้ว แต่ประทับตราตรึงอยู่ในใจของผมมาก

ผาแกร่ง
อ่อนโยน
ต่อรากไม้

อ่านแล้วทรงพลังมากๆด้วยคำไม่กี่คำ ไม่กี่พยางค์ ให้ความหมายได้ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ หลายคนอาจสงสัยว่าแคนโต้คืออะไรไปตามนี้ครับ

ไทยแคนโต้

แคนโต้คือบทกวีสามบรรทัดครับ ไม่บังคับพยางค์เหมือนไฮกุ และไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงเซน แคนโต้นั้นมีอะไรดีกว่าบทกวีบรรยายความรู้สึกธรรมดาก็ต้องลองแต่งดูครับ อย่างว่าผมไม่ใช่เจ้าตำรับแคนโต้คงอธิบายไม่ได้(ขออภัยจริงๆครับ)

ถามว่าแต่งไฮกุกับแคนโต้แล้วได้อะไร
สำหรับผมรู้สึกว่าการแต่งไฮกุเหมือนกับการรำดาบญี่ปุ่น ช่วงเวลาที่แต่งสมองจะโล่งว่าง มีอารมณ์สงบ เหมือนกำลังใช้สติปัญญาขบคิดบางสิ่งให้แตกออก

ส่วนแคนโต้นั้นต่างออกไป ถ้าให้ท่าน ฟ้า พูล วรลักษณ์มาอธิบายได้คงดีไม่น้อย
เวลาที่ผมแต่งเหมือนการหยิบฉวยอารณ์ที่ตราตรึงในจิตขณะนั้น บันทึกลงในกระดาษไม่ว่าจะเป็นสุขหรือเศร้าหรือใดๆ
แคนโต้ที่ผมเคยแต่งไว้

ทำไม
เสียงหัวเราะทีหลัง
ดังขึ้น

อ่านปุ๊บรู้ปั๊บว่าไม่ใช่ไฮกุ
หลังจากแคนโต้เกิดแล้ว อุนนุนก็เกิดขึ้นครับ
แล้วอุนนุนคืออะไรกันแน่เนี่ย

คงต้องให้ ท่านนิ้วกลมมาอธิบายผมเองก็เคยอ่านผ่านตาแต่ยังไม่เคยแต่งอุนนุนเลย หรือว่าเคยแต่ไม่รู้ว่ามันคืออุนนุน แต่เท่าที่รู้สึก สำหรับผมการแต่งแคนโต้ยากกว่าอุนนุนมั้งครับ(นานาจิตตังนะครับ)

ทั้งหลายทั้งปวงที่บรรยายมามิได้คิดที่จะมาอวดภูมิแต่อย่างใดครับ
แค่บรรยายความชอบส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็น ไฮกุ แคนโต้ หรืออุนนุน ก็ไพเราะต่างกันไป ว่าไปแล้วก็อย่าผูกขาดจินตนาการไว้กับชื่อเรียกเลยครับ
ใครถนัดอย่างไรก็แต่งแบบนั้น แล้วนำมาแบ่งบันกันอ่านบ้างนะครับ
ตอนนี้ขอไปทำธุระก่อนอาจจะมาเพิ่มเรื่องอุนนุนอีกนิดครับ

http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=polarbee&month=04-2011&date=20&group=2&gblog=25
ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: ตุลาคม 03, 2011, 08:39:02 pm »



สั้นสั้น ง่ายง่าย อารมณ์ อุนนุน ..

ตอนนี้รู้สึกชีวิตได้รับอิทธิพลอะไรง๊ายง่าย ..

 

รู้สึกจิตใจโอนเอน ได้ไม่เคลื่อนไหว งงมั้ย?

อารมณ์คงคล้ายๆต้นมะพร้าวลมพัดก็โอน โดนพายุก็เอน แต่ก็ไม่ได้ขยับขับเคลื่อนไปที่ไหน

 

อิทธิพลล่าสุดในชีวิต คือหนังสือเล่มเล็กแต่ไม่เล็กมาก ที่ชื่อ

"สิ่งที่ค้นพบระหว่างนั่งเฉยเฉย อุนนุน หมายเลข ๑"

 

เหตุของการได้หนังสือเล่มนี้มาก็แสนง่าย .. คือไม่มีอะไรทำ แล้วแวะเข้าไปในร้านหนังสือนายอิน(ตัวอะไรการันต์ไม่รู้ ลืม ขออภัย ..)

 

ตอนแรกว่าจะเข้าไปหาซื้อหนังสือเกี่ยวกับลอนดอน แต่ก็พับโครงการเพราะไม่เจอที่ถูกใจ

จนจะเดินออกจากร้านอยู่แหละ สายตาเจ้ากรรมดันป๊าดดดดดดไปเห็นหนังสือเล่มเล็กเล็ก แต่ไม่เล็กมากเล่มนึง

ถูกตั้งโชว์ไว้ที่บูธหนังสือใหม่+หนังสือขายดี

 

เป็นหนังสือเล่มเล็กเล็ก แต่ไม่เล็กมาก ขนาดพอดีมือ สีครีม หน้าปกมีสีน้ำเปรอะเปรอะ แต่ดูแล้วสบายใจสบายตาแบบแปลกแปลกดี

 

เลยหยิบขึ้นมาอ่าน แว่บแรก หนังสือไรวะ หน้านึงโล่งโจ้งซะ ตัวหนังสือมีอยู่นิดนึง

แต่พอได้อ่าน ก็รู้ว่า ตัวหนังสือนิดนึงนั้นน่ะ อัดแน่นจริงจริง

 

เพียงตัวหนังสือไม่กี่คำ ทำให้เราต้องก้มก้ม เงยเงย เพื่อดูสันของหนังสือเล่มนี้ที่กองที่ตั้งอยู่

เพื่อ .. หา "พิมพ์ครั้งที่ ๑" .... อันนี้เป็นความชอบส่วนตัวที่ถ้ามีโอกาส ก็อยากจะเก็บหนังสือที่เป็นการพิมพ์ครั้งแรกเอาไว้

 

เพราะอะไร? เคยมีคนถาม แต่จำไม่ได้ว่าใคร ถามว่าทำไมต้องซื้อพิมพ์ครั้งที่ ๑ ด้วย

คำผิดก็เยอะ ตำหนิก็แยะ

ก็เพราะมันเป็นแบบนั้นน่ะสิ ถึงได้อยากได้

เพราะมัน สด และเป็นอะไรที่เดิมเดิม มากที่สุด

แล้วก็ ภูมิใจ อยากได้ แค่นั้นเอง

 

ได้นั่งอ่านหนังสือเล่มนี้หลายที่ทีเดียว

ทั้งบนรถไฟฟ้า รถไฟฟ้าใต้ดิน ในห้าง

แต่ละที่ คนเยอะแยะมากมาย

แต่พอได้เปิดอ่าน หน้ากระดาษสีอ่อนสบายตา

ตัวหนังสือน้อยน้อย แต่สื่อถึงความคิด และอารมณ์ของผู้เขียน ซึ่งก็คือพี่เอ้ นิ้วกลม

ทำให้รู้ว่า อืม .. พื้นที่ว่างๆในแต่ละหน้า ไม่ได้มีไว้เพื่อให้หนังสือมันดูหนา เอาไว้ขายได้ราคา

แต่มันเอาไว้สำหรับ "รองรับ" อารมณ์ที่เกิดขึ้นจากตัวอักษรไม่กี่ตัวในหน้านั้นต่างหาก

 

--- --- --- --- ---

ตัวอย่างอุนนุนในเล่ม ..

--- --- --- --- ---

ความสุขคนเดียว

อายุสั้น

ความสุขที่แบ่งปัน

อายุยืน.

--- --- --- --- ---

ความพ่ายแพ้เป็นเรื่องชั่วคราว

มันจะถาวร

เมื่อยอมแพ้.

--- --- --- --- ---

 

เป็น "อุนนุน" ที่ทำให้เข้าใจ สนใจ อุ่นใจ เหงาใจ ปวดใจ และยอมรับโลกที่หัวใจอยู่ได้อย่างแท้จริง

จากมุมมองของคนคนนึง ที่ดูแล้ว อุนนุน จริงจริง

http://stol2my.diaryis.com/2010/10/21