ข้อความโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2012, 10:30:26 pm »กรณีนี้เวลาโทรศัพท์เราหาย เราก็แจ้งเลข IMEI (อีมี่) เราที่ศูนย์บริการ เครื่องก็จะโดนล๊อคไม่ให้ใช้งานได้เลยครับ
อ้างอิงจาก
http://www.fortuner-club.com/index.php?topic=3069.0;wap2
ขอบคุณครับ
อ้างถึง
iamPUK48:
ขออนุญาตเจ้าของกระทู้ ผมขอเอารายละเอียดมาเพิ่มเติมด้วยครับ
เผื่อจะทำให้เพื่อนสมาชิกเข้าใจได้มากขึ้น และน่าจะเป็นประโยชน์ โดยเฉพาะท่านที่ใช้เครื่องแพงๆครับ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
มือ ถือระบบ GSM หรือ ดิจิตอล (Digital) ในระยะแรก เพื่อต้องการให้เป็นระบบที่สามารถใช้ได้ทั่วโลก โดยสามารถใช้อุปกรณ์จากที่ต่างๆ ได้โดยไม่มีข้อจำกัด ดังนั้นระบบ GSM จึงมีอุปกรณ์ที่เรียกว่า SIM card แยกออกต่างหากจากเครื่องโทรศัพท์มือถือ โดยที่เราสามารถนำ SIM card ไปใส่ที่เครื่องโทรศัพท์มือถือเครื่องใดก็ได้ เป็นอิสระต่อกัน
SIM card หรือ Subscriber Identity Module นั้น คือบัตรที่ผู้ให้บริการเครือข่าย สามารถบรรจุข้อมูลต่างๆลงไป ซึ่งรวมถึงรหัสประจำตัวของ SIM card ใบนั้นด้วย โดยข้อมูลเหล่านี้จะถูกส่งไปยังโครงข่ายเพื่อทำการระบุว่าผู้ใช้ผู้นั้นมี สิทธิ์ที่จะใช้บริการหรือไม่ ส่วนทางด้านเครื่องโทรศัพท์มือถือก็จะมีรหัสประจำตัวเช่นกัน
IMEI (อีมี่) หรือ International Mobile Station Equipment Identity เป็นรหัสประจำตัวเครื่องโทรศัพท์แต่ละเครื่องที่มีจำนวน 15 หลัก ท่านสามารถเช็ครหัสอีมี่ได้ด้วยการกดแป้น *#06# หลังจากนั้น จะได้ชุดตัวเลขซึ่งแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่
กลุ่มที่หนึ่ง TAC (Type Approval Code) ประกอบด้วยตัวเลข 6 ตัวแรก ที่ระบุที่อยู่ของโทรศัพท์ โดยสองตัวแรกจะเป็นรหัสประเทศนั้นๆ อาทิ ประเทศไทยจะเป็นเลข 49 เป็นต้น
กลุ่มที่สอง FAC (Final Assembly Code) ตัวเลขลำดับที่ 7-8 จะระบุถึงโรงงานประกอบโทรศัพท์ เช่น โนเกีย จะเป็นเลข 30
กลุ่มที่สาม SNR (Serial Number) ตัวเลขลำดับที่ 9-14 เป็นหมายเลขประจำเครื่อง
กลุ่มสุดท้าย หรือ กลุ่มที่ 4 SP (Spare) ตัวเลขลำดับที่ 15 เป็นตัวเลขสำรองหลักสุดท้าย
สำหรับ หน้าที่ของอีมี่นั้น คือ หมายเลขที่เป็นรหัสประจำตัวในเครื่องโทรศัพท์มือถือ โดย IMEI (อีมี่) แต่ละเครื่องไม่สามารถซ้ำกับ IMEI (อีมี่) ของโทรศัพท์เครื่องอื่นๆได้ ซึ่งจะถูกลงทะเบียนไว้ในเครือข่ายของผู้ให้บริการ โดยผู้ให้บริการจะแบ่งการลงทะเบียน IMEI (อีมี่) เป็น 3 แบบ คือ
White List คือ รายการ IMEI (อีมี่) เครื่องโทรศัพท์มือถือทุกเครื่องที่สามารถใช้งานในเครือข่ายได้
Black List คือ รายการ IMEI (อีมี่) เครื่องโทรศัพท์มือถือที่ผู้ให้บริการไม่ต้องการให้ใช้งานในเครือข่าย เช่น โทรศัพท์มือถือที่มีผู้แจ้งหายหรือถูกขโมย
Grey List คือ รายการ IMEI (อีมี่) เครื่องโทรศัพท์มือถือที่ต้องการให้โครงข่ายส่งรายงานไปที่ผู้ควบคุมระบบทุก ครั้งที่มีการใช้ งานเช่น เครื่องที่มีซอฟต์แวร์เวอร์ชันเก่ามากๆหรือเครื่องที่ได้รับการร้องเรียนจาก ผู้ใช้งานว่าใช้ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง เพื่อที่จะติดตามหาสาเหตุเหล่านั้น
โดย ปกติแล้ว ผู้ให้บริการจะลงทะเบียน IMEI (อีมี่) ของเครื่องโทรศัพท์มือถือทุกเครื่องไว้ใน White List และจะลงทะเบียนเครื่องที่ได้รับแจ้งหายหรือถูกขโมยไว้ใน Black List และจะส่ง Black List นี้ไปยังผู้ให้บริการต่างๆ เพื่อแจ้งว่า รหัส IMEI (อีมี่) ของเครื่องโทรศัพท์มือถือเหล่านี้ เป็นเครื่องที่ถูกขโมยหรือแจ้งหายไว้ หากมีการนำไปใช้งานในเครือข่ายของผู้ให้บริการรายอื่นก็จะสามารถติดตามได้ เครื่องโทรศัพท์มือถือที่ไม่ได้ถูกลงทะเบียนไว้ใน White List หรือถูกลงทะเบียนไว้ใน Black List ก็จะไม่สามารถใช้งานได้ในเครือข่ายนั้นๆ
ส่วน การปลดล็อก IMEI (อีมี่) ไม่ได้หมายความว่า เครือข่ายของผู้ให้บริการ จะไม่ตรวจสอบ IMEI (อีมี่) การปลดล็อก IMEI (อีมี่) หมายถึง การที่ผู้ให้บริการได้บอกให้ระบบไม่ต้องตรวจสอบ IMEI (อีมี่) ใน White List เท่านั้น ส่วนการตรวจสอบใน Black List และ Grey List ยังมีตามปกติ นั่นหมายความว่าผู้ใช้บริการสามารถที่จะนำ SIMcard ของตนไปใช้ในเครื่องโทรศัพท์มือถือเครื่องใดก็ได้ อย่างไรก็ดี หากผู้ใช้บริการได้ขโมยเครื่องโทรศัพท์มือถือมาจากผู้อื่น และผู้นั้นได้แจ้งไว้ที่ผู้ให้บริการแล้ว เครื่องโทรศัพท์มือถือเครื่องนั้นก็ไม่สามารถใช้งานได้อยู่ดี เนื่องจากผู้ให้บริการจะบันทึก IMEI (อีมี่) ของเครื่องที่ถูกขโมยไว้ใน Black List
จะเห็นได้ว่าการปลดล็อก IMEI (อีมี่) ไม่ได้ทำให้ความปลอดภัยของระบบ GSM ลดลงไปเลย นอกจาก IMEI แล้ว ระบบ GSM ยังมีระบบรักษาความปลอดภัยอื่นๆ อีก เช่น การล็อก SIM card เข้ากับเครื่องโทรศัพท์มือถือ ซึ่งทำให้เครื่องโทรศัพท์มือถือไม่ยอมรับ SIM card ที่มาจากผู้ให้บริการรายอื่น เป็นต้นครับ
อ้างอิงจาก
http://www.fortuner-club.com/index.php?topic=3069.0;wap2
ขอบคุณครับ