พระมหาสมัยอบายมุข คือทางแห่งความเสื่อม ประกอบไปด้วยดื่มน้ำเมา เที่ยวกลางคืน เที่ยวดูการละเล่น เล่นการพนัน คบคนชั่วเป็นมิตร เกียจคร้านการงาน
พระมหาสมัย จินฺตโฆสโก เลขานุการมูลนิธิกลุ่มแสงเทียน วัดบางไส้ไก่ กทม. บอกว่า คนใดเข้าไปเกี่ยวข้องมีแต่ความเสื่อมและความหายนะ ไม่มีความเจริญ ขัดกับหลักคำสอนของพระพุทธศาสนาอย่างชัดเจน ทางพระท่านเรียกว่าเป็น “ผีนรก”
“ผีนรกที่...ทำลายคุณธรรม คุณภาพชีวิตของพุทธศาสนิกชน”
การรณรงค์งดการดื่มของมึนเมาก็ได้ผลระดับหนึ่งโดยเฉพาะในเทศกาลประเพณีอันสำคัญของประเทศ ไม่ว่าเทศกาลขึ้นปีใหม่ ตรุษจีน สงกรานต์ เข้าพรรษา ทอดกฐิน งานบุญกุศลต่างๆ จนสามารถออกกฎหมายขึ้นมาบังคับให้การดื่มสุราต้องอยู่ในขอบเขตจำกัดอย่างได้ผล
ซึ่งก่อนหน้านี้ แทนที่การห้ามดื่มสุราของมึนเมาควรจะเป็น “สำนึก” ของผู้คนในสังคม แต่สำนึกดังกล่าวไม่ได้ผลเสียแล้ว จึงได้ออกกฎหมายมาบังคับ นั่นแสดงให้เห็นว่าคุณธรรมและจริยธรรม ศีลธรรมของผู้คนในสังคมได้เริ่มเสื่อมลงไปเรื่อยๆ การดื่มของมึนเมาจึงถูกควบคุมด้วยกฎหมาย
“สำนึกถึงความดี หรือความชั่วของผู้คนในสังคม...ไม่สามารถยับยั้งชั่งใจได้เสียแล้ว”
คราวนี้ก็มาถึง...การพนันที่ถูกต้องตามกฎหมายไม่ว่าสลากกินแบ่งรัฐบาล การแข่งขันเล่นมวย ม้า บ่อนชนไก่ พระมหาสมัย บอกว่า เหล่านี้ก็ล้วนเป็นอบายมุขที่ได้ครอบงำผู้คนในสังคมอยู่มากแล้ว ปัญหาทางสังคมยังมีให้เห็นจนเกิดความวุ่นวายมากพอดู ยังมีความคิดความเห็นที่จะเปิดบ่อนการพนันขึ้นมาในท้องทุ่งกุลาร้องไห้อันเวิ้งว้างขึ้นมาเสียอีก
เพียงคาดหวังว่า...จะให้พื้นที่อันด้อยค่า ด้อยประโยชน์ได้เกิดมีคุณค่ามากขึ้นโดยการใช้การพนันมาเป็นจุดขายซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำอย่างยิ่ง
“ยังชื่นใจอยู่บ้าง...เมื่อนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทยที่กำลังบริหารชาติบ้านเมืองอยู่ในขณะนี้ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์อย่างชัดเจนว่า ไม่มีแนวความคิดหรือนโยบายดังกล่าว ถ้าจะมีหรือให้เกิดคงจะต้องฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย มีประชาพิจารณ์ ฟังข้อดี ข้อเสียให้รอบคอบเสียก่อน...
...ส่วนที่เคยมีความคิดจากผู้นำของประเทศในอดีตว่า ควรจะให้มีบ่อนการพนันที่ทุ่งกุลาร้องไห้นั้น บัดนี้กาลเวลาได้เปลี่ยนไปแล้ว จึงยังไม่มีความคิดในขณะนี้ นี่คือเสียงผู้หญิงคนหนึ่งที่มีคุณธรรมและมีพระพุทธศาสนาในดวงใจอย่างแท้จริง”
ทว่า...เรื่องใหญ่ทางโลกนั้น ผลประโยชน์ไม่เคยเข้าใครออกใคร คนที่จะได้ผลประโยชน์ก็ย่อมคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีด้วยการโน้มน้าวต่างๆ นานาเพื่อให้ประโยชน์ได้เกิดขึ้นกับตัวเอง พวกพ้องของตนเองและธุรกิจของตนเอง บนคราบน้ำตาของผู้คนในท้องถิ่นและในสังคม
“ส่วนคนที่ไม่เห็นด้วยหรือคัดค้าน ก็มักจะถูกโยนของเสียใส่ด้วยเหตุผลว่า ไม่เข้าใจที่แท้จริง ไม่มีข้อมูล ถูกชักจูงให้คัดค้าน สูญเสียผลประโยชน์เหล่านี้เป็นต้น จึงได้ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วย”
สำหรับ พระมหาสมัย จินฺตโฆสโก เลขานุการมูลนิธิกลุ่มแสงเทียน วัดบางไส้ไก่ มีชาติกำเนิดที่ทุ่งกุลาร้องไห้ของจังหวัดร้อยเอ็ด ยืนยันหนักแน่นว่าจะไม่ยอมให้ความคิด ความตั้งใจหรือนโยบายนี้เกิดขึ้นโดยเด็ดขาด
“อาตมาจะรณรงค์ จะต่อสู้ จะคัดค้าน จะชี้แจง จะเดินหน้าชนทุกรูปแบบภายใต้กฎหมายและกติกาทางสังคมจนกว่าชีวิตจะหาไม่”
เหตุผลสำคัญเป็นเพราะว่า ชีวิตของคนภาคตะวันออกเฉียงเหนือถึงแม้ว่าจะยากจน จะขัดสน จะต่ำต้อย จะไร้เสียง จะน้อยสิทธิ์ จะถูกมองข้ามและเย้ยหยันมาโดยตลอดก็ตาม แต่ก็ยังจะใช้สิทธิ์ของการเป็นพลเมืองของประเทศ คัดค้านความคิดดังกล่าวอย่างสุดความรู้ความสามารถ
เพื่อไม่ให้อบายมุข...สิ่งชั่วร้ายครอบงำคนภาคนี้ อย่างน้อยๆก็ประมาณหกจังหวัดที่เรียงรายอยู่รอบๆทุ่งกุลาร้องไห้ นับตั้งแต่ ร้อยเอ็ด สุรินทร์ มหาสารคาม บุรีรัมย์ นครราชสีมา ยโสธร
การที่จะสร้างเศรษฐกิจและหารายได้มาช่วยผู้คนในชาติบ้านเมืองโดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย พระมหาสมัย มองว่า ไม่น่าจะเอาการพนันมาสร้างการอยู่ดีกินดี มันเป็นการดูถูกเหยียดหยามผู้คนในท้องถิ่นอย่างมาก
“อย่า...ได้คิดว่าคนในภูมิภาคดังกล่าวจะไม่มีความคิด จะไม่มีหัวใจ จะขี้ขลาดตาขาว แล้วจะทำอะไรก็ได้ในภูมิภาคของเขา”
เจตนาของ พระมหาสมัย หมายถึงการไม่ควรนำเอาความเสื่อมทางศีลธรรมและความหายนะทางสังคมไปหยิบยื่นให้กับคนเหล่านั้น กลับกันควรจะส่งเสริมความขยันในการทำมาหาเลี้ยงชีพที่ถูกต้องตามหลักคำสอนของศาสนา สนับสนุนให้เกิดความขยันหมั่นเพียรในอาชีพและหน้าที่การงาน
“รายได้น้อยก็ขอให้สุจริต ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น ไม่สร้างปัญหาให้กับสังคม...ประเทศชาติบ้านเมือง”
อบายมุขไม่ว่าจะรูปแบบใดอย่านำไปทำร้ายคนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ใครจะไปสมอ้างว่าขณะนี้ผู้คนภาคนี้พอว่างเว้นจากการทำไร่ทำนาแล้วก็มักจะหารายได้ด้วยการ “เดินขายสลากกินแบ่งรัฐบาล” อยู่แล้ว...ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้คนยากจนมีรายได้ดำรงชีพเสียอีก
สมอ้างแบบนี้...ยิ่งเป็นการมอมเมาประชาชนคนยากจนในทางที่ผิด...จนชาวบ้านหลงผิด เข้าใจผิดไปกันใหญ่
พระมหาสมัย แนะว่า การเข้าไปตั้งโรงงานอุตสาหกรรมชนิดต่างๆ ในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้เพื่อให้ชาวบ้านได้มีอาชีพ มีรายได้ มีความมั่นคงในชีวิต มีการงานทำ ไม่จำเป็นต้องอพยพไปหางานทำในถิ่นอื่นอันเป็นการปลูกฝังให้รักพื้นที่ รักแผ่นดิน รักบ้านเกิดโดยที่ไม่ก่อปัญหาทางสังคมด้วยเป็นสิ่งที่ควรกระทำอย่างยิ่ง
“ควรเอาสิ่งที่ดีๆไปให้ชาวบ้าน เพราะถ้าเอาอบายมุข...ปัญหาสังคมด้านต่างๆ ไปให้คนยากจนและผู้ด้อยโอกาส...การศาสนา การศึกษา วัฒนธรรม ประเพณีในท้องถิ่นก็จะถูกทำลายลงไป”
“การพนันที่ถูกต้องตามกฎหมาย บนทุ่งกุลาร้องไห้” ก็จะเป็นการทำลายสังคมและชาติบ้านเมืองได้อย่างชัดเจน
คนที่เคยเล่นการพนัน ถือว่าการพนันเป็นความชอบส่วนตัวก็ขอให้ออกไปเล่นที่ประเทศเพื่อนบ้าน ความเสื่อมหรือความหายนะในชีวิตของคุณ คนในครอบครัวของคุณก็เกิดขึ้นจากการกระทำของคุณนั่นเอง...
อย่าได้เอานิสัยส่วนตัวที่ฝังรากลึกมาครอบงำชีวิตลูกหลานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็แล้วกัน หรือถ้าคิดว่าแห่งหนตำบลใดของประเทศไทย ควรจะมีให้เปิดบ่อนการพนันที่ถูกต้องตามกฎหมายขึ้นเป็นแห่งแรกก็ต้องไม่มามองที่...ทุ่งกุลาร้องไห้”
การเปิดบ่อนการพนัน ไม่ว่าจะใช้ชื่อว่าอย่างไรก็ตามมันเป็นบ่อนการพนันอยู่ดี อบายมุขมิใช่ทางเจริญ มิใช่ทางแห่งความสุข...แต่เป็นทางแห่งความเสื่อมและหายนะ พระมหาสมัย ขอวิงวอน ขอบิณฑบาตกับรัฐบาล นักการเมือง ผู้บริหารสังคม ผู้กุมชะตาบ้านเมืองว่าอย่าได้สนับสนุนให้มีบ่อนการพนันที่ทุ่งกุลาร้องไห้
หรือ...ยิ่งไม่ให้มีในพื้นที่ประเทศไทยเลยก็จะยิ่งดี อย่าให้ลูกหลานของเราต้องรับชะตากรรมในสิ่งที่ไม่ดีที่พวกเราได้สร้างตราบาปให้กับพวกเขา เลิกคิดและเลิกล้มที่จะให้อบายมุขครองเมือง
ความคิดเห็นทั้งหมดเหล่านี้ พระมหาสมัยบอกว่ามิได้เกิดขึ้นจากการสนับสนุน การชักจูงหรือผลักดันจากใครๆทั้งสิ้น หากแต่เกิดขึ้นจาก “จิตสำนึก” ที่จะปกป้องคุ้มครอง “แผ่นดินเกิด” ที่เกิดบนทุ่งกุลาร้องไห้
ตำนานทุ่งกุลาร้องไห้ที่เคยเล่าขานกันมาในอดีต...ขอให้เป็นเพียงตำนานเท่านั้น สำหรับวันข้างหน้าลูกหลานรอบๆทุ่งกุลาร้องไห้จะต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีการศึกษาที่ดีขึ้น มีอนาคตที่ดีขึ้น มีศีลธรรมและมีพระพุทธศาสนาครองใจ ไม่ก่อให้เกิดปัญหากับตนเอง กับครอบครัว หรือกับท้องถิ่น
พระมหาสมัย จินฺตโฆสโก เลขานุการมูลนิธิกลุ่มแสงเทียน ทิ้งท้ายว่า ลูกหลานทุ่งกุลาร้องไห้...จะต้องเติบโตขึ้นมาอย่างมีศักดิ์ศรี มีอนาคตที่ดี จนกลายเป็นพลเมืองที่ดีให้กับสังคม...ชาติบ้านเมือง.
http://www.thairath.co.th/column/pol/page1scoop/207431