ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: เมษายน 13, 2012, 12:05:40 pm »สหรัฐ ห้ามใช้ "ทัลคัม" ผลิตแป้งเด็ก
แป้งฝุ่น (Skin powder) หมายถึง สิ่งปรุงที่มีลักษณะเป็นผงละเอียด หรือคอลลอยด์ของสารอินทรีย์ หรืออนินทรีย์ที่ไม่ละลายน้ำผสมเป็นเนื้อเดียวกันและไม่ระคายผิว อาจแต่งกลิ่นหรือสี หรือแต่งทั้งกลิ่นและสี เพื่อใช้แก่ร่างกายหรือเพื่อเสริมความงาม แบ่งเป็น 3 ชนิด ได้แก่
1.แป้งฝุ่นโรยตัว (body powders)2.แป้งฝุ่นโรยตัวเด็ก (baby powder)
3.แป้งฝุ่นผัดหน้า (face powder) ซึ่งมีความละเอียดมากกว่าแป้งฝุ่นโรยตัว
แป้งฝุ่นโรยตัวที่นิยมใช้กันทั่วไปในปัจจุบันนี้ผลิตจากแร่หินชนิดหนึ่งได้มาจากการทำเหมืองหิน ทัลค์ (Talc) ซึ่งเป็นสารอนินทรีย์มีชื่อเคมีว่า hydrated magnesium silicate และนำมาโม่บดให้ละเอียดและอบให้แห้ง แล้วแยกสิ่งแปลกปลอมออก แต่ก็อาจจะยังไม่สามารถแยกสิ่งแปลกปลอมออกได้หมด สารแปลกปลอมที่คงเหลืออยู่ที่มีคุณสมบัติคล้ายแอสเบสตอส (Asbestos) ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) และ U.S. Environmental Protection Agency จัดให้เป็น Unclassifiable Carcinogen (สารก่อมะเร็งที่ไม่สามารถจัดจำพวกได้)
แป้งฝุ่นทัลคัมมีคุณสมบัติ ช่วยผสมผสานและดูดซึมซับความชื้นทำให้ผิวหนังเนียนลื่น จึงเป็นที่นิยมใช้ตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึงผู้สูงอายุ การทาแป้งโดยเฉพาะตอนโรยแป้ง ผงแป้งจะล่องลอยในอากาศ ถ้าสูดเข้าทางเดินหายใจทีละเล็กละน้อยเป็นเวลานานๆ ก็จะเกิดการสะสมในปอดเนื่องจากหินแร่ทัลคัมเป็นสารอนินทรีย์ไม่สามารถย่อยสลายเองได้ โดยที่เซลส์บุผิวปอดจะดักจับแป้งไว้เป็นก้อน เรียกว่า ภาวะ “pneumoconiosis” ทำให้มีปัญหากับการหายใจ (Talcosis) ถ้าเป็นเด็กทารกทำให้ปอดอักเสบและตายได้
สำหรับการใช้แป้งที่ก้นกับอวัยวะเพศซึ่งเป็นที่นิยมใน ยุคปี ค.ศ.1970 มีการศึกษาวิจัยพบว่า ผู้ที่ใช้แป้งกับอวัยวะเพศ มีอัตราเสี่ยงจากการจะเป็นมะเร็งในช่องคลอด (Ovarian Cancer) โดยอาจเป็นไปได้ที่แป้งสามารถหลงเข้าไปในร่างกายผ่านช่องคลอดมดลูกและท่อนำไข่เข้าไปสู่ช่องท้อง และสารทัลค์ ไม่สามารถย่อยสลายได้ในคน การทาแป้งส่วนต่างๆ ของร่างกาย ทั้งของเด็กและผู้ใหญ่ ควรทาแป้งครั้งละน้อยๆ และทาในบริเวณที่เหมาะสม พยายามอย่าให้ฟุ้งในอากาศ ไม่ควรทาบริเวณก้นและอวัยวะเพศของเด็กทีละมากๆ เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ
ในบางประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา มีการห้ามใช้ทัลคัมในการผลิตแป้งฝุ่นสำหรับเด็กแล้ว และผู้ผลิตเหล่านั้นก็เลือกใช้วัตถุดิบจากแป้งข้าวโพด ทดแทนหินแร่ทัลคัม ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค โดยแป้งที่ผลิตจากข้าวโพดจัดเป็นสารอินทรีย์ สามารถย่อยสลายเองได้ (bio degradable) โดยจุลินทรีย์ที่มีตามธรรมชาติในปอดและในร่างกายของมนุษย์ โดยกระบวนการผลิตแป้งข้าวโพดจะเลือกใช้เฉพาะจุดสีขาวด้านในของเม็ดข้าวโพด (Corn Starch) ในการผลิตไม่ผ่านการฟอกสี แล้วนำไปอบสเตอริไรซ์ฆ่าเชื้อโรคต่างๆ ก่อนที่จะนำมาผลิตหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Pharma Grade (เกรดที่ใช้ในการผลิตยา) ดังนั้นผู้บริโภคจึงมั่นใจได้ในความปลอดภัย และจะไม่เป็นเชื้อราหรือมีการเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์แม้ในสภาพอากาศร้อนชื้นอย่างประเทศไทยเรา
บริษัท อินเตอร์วิชั่น ซัพพลายส์ จำกัด
โทร. 0-2732-1787-8
http://www.komchadluek.net/detail/20090909/27742/%E0%B8%AA%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%A5%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81.html
.
แป้งฝุ่น (Skin powder) หมายถึง สิ่งปรุงที่มีลักษณะเป็นผงละเอียด หรือคอลลอยด์ของสารอินทรีย์ หรืออนินทรีย์ที่ไม่ละลายน้ำผสมเป็นเนื้อเดียวกันและไม่ระคายผิว อาจแต่งกลิ่นหรือสี หรือแต่งทั้งกลิ่นและสี เพื่อใช้แก่ร่างกายหรือเพื่อเสริมความงาม แบ่งเป็น 3 ชนิด ได้แก่
1.แป้งฝุ่นโรยตัว (body powders)2.แป้งฝุ่นโรยตัวเด็ก (baby powder)
3.แป้งฝุ่นผัดหน้า (face powder) ซึ่งมีความละเอียดมากกว่าแป้งฝุ่นโรยตัว
แป้งฝุ่นโรยตัวที่นิยมใช้กันทั่วไปในปัจจุบันนี้ผลิตจากแร่หินชนิดหนึ่งได้มาจากการทำเหมืองหิน ทัลค์ (Talc) ซึ่งเป็นสารอนินทรีย์มีชื่อเคมีว่า hydrated magnesium silicate และนำมาโม่บดให้ละเอียดและอบให้แห้ง แล้วแยกสิ่งแปลกปลอมออก แต่ก็อาจจะยังไม่สามารถแยกสิ่งแปลกปลอมออกได้หมด สารแปลกปลอมที่คงเหลืออยู่ที่มีคุณสมบัติคล้ายแอสเบสตอส (Asbestos) ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) และ U.S. Environmental Protection Agency จัดให้เป็น Unclassifiable Carcinogen (สารก่อมะเร็งที่ไม่สามารถจัดจำพวกได้)
แป้งฝุ่นทัลคัมมีคุณสมบัติ ช่วยผสมผสานและดูดซึมซับความชื้นทำให้ผิวหนังเนียนลื่น จึงเป็นที่นิยมใช้ตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึงผู้สูงอายุ การทาแป้งโดยเฉพาะตอนโรยแป้ง ผงแป้งจะล่องลอยในอากาศ ถ้าสูดเข้าทางเดินหายใจทีละเล็กละน้อยเป็นเวลานานๆ ก็จะเกิดการสะสมในปอดเนื่องจากหินแร่ทัลคัมเป็นสารอนินทรีย์ไม่สามารถย่อยสลายเองได้ โดยที่เซลส์บุผิวปอดจะดักจับแป้งไว้เป็นก้อน เรียกว่า ภาวะ “pneumoconiosis” ทำให้มีปัญหากับการหายใจ (Talcosis) ถ้าเป็นเด็กทารกทำให้ปอดอักเสบและตายได้
สำหรับการใช้แป้งที่ก้นกับอวัยวะเพศซึ่งเป็นที่นิยมใน ยุคปี ค.ศ.1970 มีการศึกษาวิจัยพบว่า ผู้ที่ใช้แป้งกับอวัยวะเพศ มีอัตราเสี่ยงจากการจะเป็นมะเร็งในช่องคลอด (Ovarian Cancer) โดยอาจเป็นไปได้ที่แป้งสามารถหลงเข้าไปในร่างกายผ่านช่องคลอดมดลูกและท่อนำไข่เข้าไปสู่ช่องท้อง และสารทัลค์ ไม่สามารถย่อยสลายได้ในคน การทาแป้งส่วนต่างๆ ของร่างกาย ทั้งของเด็กและผู้ใหญ่ ควรทาแป้งครั้งละน้อยๆ และทาในบริเวณที่เหมาะสม พยายามอย่าให้ฟุ้งในอากาศ ไม่ควรทาบริเวณก้นและอวัยวะเพศของเด็กทีละมากๆ เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ
ในบางประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา มีการห้ามใช้ทัลคัมในการผลิตแป้งฝุ่นสำหรับเด็กแล้ว และผู้ผลิตเหล่านั้นก็เลือกใช้วัตถุดิบจากแป้งข้าวโพด ทดแทนหินแร่ทัลคัม ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค โดยแป้งที่ผลิตจากข้าวโพดจัดเป็นสารอินทรีย์ สามารถย่อยสลายเองได้ (bio degradable) โดยจุลินทรีย์ที่มีตามธรรมชาติในปอดและในร่างกายของมนุษย์ โดยกระบวนการผลิตแป้งข้าวโพดจะเลือกใช้เฉพาะจุดสีขาวด้านในของเม็ดข้าวโพด (Corn Starch) ในการผลิตไม่ผ่านการฟอกสี แล้วนำไปอบสเตอริไรซ์ฆ่าเชื้อโรคต่างๆ ก่อนที่จะนำมาผลิตหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Pharma Grade (เกรดที่ใช้ในการผลิตยา) ดังนั้นผู้บริโภคจึงมั่นใจได้ในความปลอดภัย และจะไม่เป็นเชื้อราหรือมีการเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์แม้ในสภาพอากาศร้อนชื้นอย่างประเทศไทยเรา
บริษัท อินเตอร์วิชั่น ซัพพลายส์ จำกัด
โทร. 0-2732-1787-8
http://www.komchadluek.net/detail/20090909/27742/%E0%B8%AA%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%A5%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81.html
.