ข้อความโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน
« เมื่อ: เมษายน 26, 2012, 09:59:36 pm »
เครื่องผมจะติดไวรัสบ้างไหมน๊า 55+ขอบคุณครับพี่หนุ่ม
ขอให้ศรัทธาในความดี ตราบใดที่หัวใจยังมีธรรมะ ธรรมะในใจเราจะส่งเสริมความดีให้คงไว้ซึ่งศรัทธา..
ข่าว:
เว็บใต้ร่มธรรม ตั้งขึ้นเพื่อการรวมตัวของสมาชิกและทีมงานเว็บอกาลิโก ให้มาปรึกษาพบปะพูดคุยกันก่อนเดินทางสู่เส้นทางเดิมของอกาลิโกครับ พร้อมที่จะสานต่อความดีบนโลกออนไลน์ใบเล็กๆนี้ ทุกเรื่องราวมีความเป็นไป หากพี่ๆทุกท่านได้รับข่าวสารฉบับนี้ ถ้ามีเวลา..ก็ขอให้แวะมา พักคุยธรรมะปรึกษาหารือกันเช่นกัลยาณมิตรเหมือนที่เคยมา.."ด้วยความคิดถึงอย่างยิ่ง..ถึงที่สุด ธรรมะอวยพรครับ"
เครื่องผมจะติดไวรัสบ้างไหมน๊า 55+ขอบคุณครับพี่หนุ่ม
ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: เมษายน 26, 2012, 06:19:34 am »FBI เผยคอมพ์ 3 แสนเครื่อง ติดมัลแวร์ ใช้เน็ตไม่ได้ ก.ค.นี้
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
-http://men.kapook.com/view40066.html-
FBI เตรียมปิดเซิร์ฟเวอร์ทำความสะอาด เดือน ก.ค. ส่งผลให้คอมพิวเตอร์ที่ติดมัลแวร์ เข้าอินเทอร์เน็ตไม่ได้ราว 3 แสนเครื่องทั่วโลก
เมื่อวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ในจำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์หลายล้านเครื่องทั่วโลก จะมีคอมพิวเตอร์ประมาณ 3 แสนเครื่อง ที่จะไม่สามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ ในช่วงหน้าร้อนนี้ เนื่องจากมีการระบาดของมัลแวร์อย่างหนัก โดยผู้ใช้ที่มีมัลแวร์อยู่ในเครื่องจะไม่สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลง นอกจากตัวมัลแวร์เองจะทำให้อินเตอร์เน็ตช้าลง และผู้ใช้ไม่สามารถเข้าไปอัพเดตแอนตี้ไวรัสได้
ทั้งนี้ เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ชาวเอสโตเนีย 6 คน ถูกจับกุมในข้อหาฉ้อโกง หลังจากที่ทางสำนักงานสืบสวนกลาง หรือ เอฟบีไอ ของสหรัฐอเมริกา ได้ทำการสืบสวนสอบสวนกลุ่มโอเปอเรชั่น โกสท์ คลิก (Operation Ghost Click) ซึ่งทางกลุ่มถูกกล่าวหาว่า ได้ปล่อยมัลแวร์ที่มีชื่อว่า DNS Changer เข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วโลก โดยมัลแวร์ชนิดนี้ จะสามารถเชื่อมเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้กับเซิร์ฟเวอร์ได้โดยตรง แล้วจัดการส่งโฆษณาออนไลน์ ซึ่งทำเงินผิดกฏหมายได้ถึง 14 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 433 ล้านบาท
ด้านเอฟบีไอ ออกมาระบุว่า ทางกลุ่มได้จัดการเรื่องนี้ให้คล้ายกับธุรกิจทั่วไป และธุรกิจนี้สามารถสร้างกำไรเเบบผิดกฏหมายออกมาในรูปแบบของมัลแวร์ และมันก็ค่อนข้างซับซ้อนเป็นอย่างมาก ทางตำรวจเองก็ไม่เคยรู้จักมาก่อน
ก่อนหน้านี้ เอฟบีไอคาดการณ์ว่า มีเครื่องคอมพิวเตอร์หลายล้านเครื่องที่ติดมัลแวร์ชนิดนี้ จนถึงตอนนี้ คงมีคอมพิวเตอร์จำนวนหลายหมื่นล้านเครื่องที่ติดเชื้อมัลแวร์ไปแล้ว แต่ในขณะเดียวกันนั้นเอง แอนตี้ไวรัสต่าง ๆ ก็เริ่มออกโปรแกรมมาเพื่อกำจัดมัลแวร์เช่นกัน ตอนนี้ ทางตำรวจคิดว่า อาจยังคงมีเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ยังไม่กำจัดมัลแวร์ชนิดนี้ออกจากเครื่องประมาณ 3.5 แสนเครื่อง รวมไปถึง 85,000 เครื่องในสหรัฐอเมริกา ที่หนึ่งในจำนวนนั้นมีเครื่องคอมพิวเตอร์ของรัฐบาล และองค์การนาซ่า รวมอยู่ด้วย
เมื่อประมาณเดือนก่อน ทางเอฟบีไอ ได้ประกาศว่า จะมีการทำความสะอาดเครื่องเซิร์ฟเวอร์ชั่วคราว ซึ่งจะมีการปิดเซิร์ฟเวอร์ ในวันที่ 9 กรกฏาคม และคนที่ยังมีมัลแวร์ชนิดนี้อยู่ในเครื่องจะไม่สามารถเข้าใช้งานอินเตอร์เน็ตได้
อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้สามารถตรวจสอบได้ว่า เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้อยู่นั้น มีมัลเเวร์ชนิดนี้หรือไม่ โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ http://www.dcwg.org/detect/ แล้วคลิกที่เว็บไซต์ด้านล่าง หากภาพพื้นหลังเป็นสีเขียว แสดงว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณไม่มีมัลแวร์ชนิดนี้ แต่หากเป็นสีแดง แสดงว่ามีมัลแวร์ซ่อนอยู่ จากนั้นทางเว็บไซต์จะเชื่อมต่อกับลิงค์ที่สอนวิธีลบมัลแวร์ออกจากเครื่อง
.
http://men.kapook.com/view40066.html
http://www.dcwg.org/detect/
.
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
-http://men.kapook.com/view40066.html-
FBI เตรียมปิดเซิร์ฟเวอร์ทำความสะอาด เดือน ก.ค. ส่งผลให้คอมพิวเตอร์ที่ติดมัลแวร์ เข้าอินเทอร์เน็ตไม่ได้ราว 3 แสนเครื่องทั่วโลก
เมื่อวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ในจำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์หลายล้านเครื่องทั่วโลก จะมีคอมพิวเตอร์ประมาณ 3 แสนเครื่อง ที่จะไม่สามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ ในช่วงหน้าร้อนนี้ เนื่องจากมีการระบาดของมัลแวร์อย่างหนัก โดยผู้ใช้ที่มีมัลแวร์อยู่ในเครื่องจะไม่สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลง นอกจากตัวมัลแวร์เองจะทำให้อินเตอร์เน็ตช้าลง และผู้ใช้ไม่สามารถเข้าไปอัพเดตแอนตี้ไวรัสได้
ทั้งนี้ เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ชาวเอสโตเนีย 6 คน ถูกจับกุมในข้อหาฉ้อโกง หลังจากที่ทางสำนักงานสืบสวนกลาง หรือ เอฟบีไอ ของสหรัฐอเมริกา ได้ทำการสืบสวนสอบสวนกลุ่มโอเปอเรชั่น โกสท์ คลิก (Operation Ghost Click) ซึ่งทางกลุ่มถูกกล่าวหาว่า ได้ปล่อยมัลแวร์ที่มีชื่อว่า DNS Changer เข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วโลก โดยมัลแวร์ชนิดนี้ จะสามารถเชื่อมเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้กับเซิร์ฟเวอร์ได้โดยตรง แล้วจัดการส่งโฆษณาออนไลน์ ซึ่งทำเงินผิดกฏหมายได้ถึง 14 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 433 ล้านบาท
ด้านเอฟบีไอ ออกมาระบุว่า ทางกลุ่มได้จัดการเรื่องนี้ให้คล้ายกับธุรกิจทั่วไป และธุรกิจนี้สามารถสร้างกำไรเเบบผิดกฏหมายออกมาในรูปแบบของมัลแวร์ และมันก็ค่อนข้างซับซ้อนเป็นอย่างมาก ทางตำรวจเองก็ไม่เคยรู้จักมาก่อน
ก่อนหน้านี้ เอฟบีไอคาดการณ์ว่า มีเครื่องคอมพิวเตอร์หลายล้านเครื่องที่ติดมัลแวร์ชนิดนี้ จนถึงตอนนี้ คงมีคอมพิวเตอร์จำนวนหลายหมื่นล้านเครื่องที่ติดเชื้อมัลแวร์ไปแล้ว แต่ในขณะเดียวกันนั้นเอง แอนตี้ไวรัสต่าง ๆ ก็เริ่มออกโปรแกรมมาเพื่อกำจัดมัลแวร์เช่นกัน ตอนนี้ ทางตำรวจคิดว่า อาจยังคงมีเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ยังไม่กำจัดมัลแวร์ชนิดนี้ออกจากเครื่องประมาณ 3.5 แสนเครื่อง รวมไปถึง 85,000 เครื่องในสหรัฐอเมริกา ที่หนึ่งในจำนวนนั้นมีเครื่องคอมพิวเตอร์ของรัฐบาล และองค์การนาซ่า รวมอยู่ด้วย
เมื่อประมาณเดือนก่อน ทางเอฟบีไอ ได้ประกาศว่า จะมีการทำความสะอาดเครื่องเซิร์ฟเวอร์ชั่วคราว ซึ่งจะมีการปิดเซิร์ฟเวอร์ ในวันที่ 9 กรกฏาคม และคนที่ยังมีมัลแวร์ชนิดนี้อยู่ในเครื่องจะไม่สามารถเข้าใช้งานอินเตอร์เน็ตได้
อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้สามารถตรวจสอบได้ว่า เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้อยู่นั้น มีมัลเเวร์ชนิดนี้หรือไม่ โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ http://www.dcwg.org/detect/ แล้วคลิกที่เว็บไซต์ด้านล่าง หากภาพพื้นหลังเป็นสีเขียว แสดงว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณไม่มีมัลแวร์ชนิดนี้ แต่หากเป็นสีแดง แสดงว่ามีมัลแวร์ซ่อนอยู่ จากนั้นทางเว็บไซต์จะเชื่อมต่อกับลิงค์ที่สอนวิธีลบมัลแวร์ออกจากเครื่อง
.
http://men.kapook.com/view40066.html
http://www.dcwg.org/detect/
.