ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 500 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

Verification:
กัน-ละ-ยา-นะ-มิด เขียนเป็นภาษาไทยที่ถูกต้องว่าอย่างไรครับ:
ชีวิตบางครั้งก็เหมือนเหรียญสองด้านใช่หรือไม่ครับบางครั้งก็หัวบางครั้งก็ก้อย( เลือกตอบแค่ ใช่ กับไม่ใช่ครับผม):
คุณเชื่อว่าทุกศาสนาสอนให้ทุกคนเป็นคนดีใช่หรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า แสงธรรมนำใจ:
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า ความดีนำทาง:
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า ใต้ร่มธรรม:
เว็บใต้ร่มธรรมเป็นเว็บเล็กๆในโลกออนไลน์ใช่หรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
ท่านจะปฏิบัติตามกฏระเบียบข้อตกลงของเว็บใต้ร่มธรรมทุกประการหรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
วัฒนธรรมไทยเมื่อเห็นผู้ใหญ่ท่านจะทำความเคารพ ด้วยการไหว้ท่านก่อนเสมอใช่หรือไม่:
ใต้ร่มธรรม เป็น แค่เว็บไซต์และจินตนาการทางจิต การทำดี สำคัญที่ใจเรา เริ่มความดีที่ใจเราก่อนเสมอ พิมพ์คำว่า "เริ่มความดีที่ใจเราก่อนเสมอ":
บุคคลที่ไปหลายๆเว็บไซต์ โดยที่สวมบทบาทเป็นหลายๆคน โดยที่ไม่รู้ว่า แท้จริงใจเราต้องการอะไร เพื่อน หรือ ชัยชนะ:
ระหว่าง (ผู้ที่เรียนรู้ธรรมะเพื่อเอาชนะผู้อื่น) กับ (ผู้ที่เรียนรู้ธรรมะเพื่อเอาชนะตัวเอง)  ท่านจะเลือกเป็น:
กล่าวคำดังนี้  "ขออโหสิกรรม":
ในโลกออนไลน์หรือโลกแห่งจิต ไม่มีใครทำอะไรเราได้ นอกเสียไปจาก (คนพาล) หรือ (ใจของเราเอง):
เคยนวดฝ่าเท้าให้ คุณพ่อคุณแม่บ้างไหม ถ้ามีโอกาส เราควรทำหรือไม่ (ควรกระทำอย่างยิ่ง หรือ ไม่ควรทำ):
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ใต้ร่มธรรมเองก็จะเป็นไปตามวัฐจักรนี้ ฉันท์ใดก็ฉันท์นั้น (เป็นจริง) หรือ (ไม่จริง):
ธรรมะคือ ธรรมชาติ พิมพ์คำว่า (ธรรมะชาติ) ครับ:
รู้สึกระอายใจไหมที่เราทำร้ายคนอื่นด้วยวาจาหรือสำนวนที่ไม่สุภาพ โดยที่คนคนนั้นเค้าเคยเป็นผู้มีพระคุณต่อเรามา (ไม่ละอายใจ)หรือ(ละอายใจ):
ไม่มีอะไรสายสำหรับการเริ่มต้น พิมพ์เป็นประโยคภาษาอังกฤษครับ เป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมดนะครับ เว้นวรรคคำด้วยครับ (It is never too late to mend):
ผู้ที่ไม่เคยรับรู้รสของความขมขื่น จะไม่รู้ว่าความหวานชื่นคืออะไร พิมพ์เป็นประโยคภาษาอังกฤษครับ เป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมดนะครับ เว้นวรรคคำด้วยครับ (He who has never tasted bitterness does not know what is sweet):

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: ฐิตา
« เมื่อ: มิถุนายน 03, 2012, 12:16:39 pm »





ปฏิบัติบูชาครั้งประวัติศาสตร์ สวดมนต์ข้าม ๒๖ ศตวรรษ

เสถียรธรรมสถาน ร่วมกับ สสส.อัญเชิญพระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา (จำลอง)
จากอินเดีย ประดิษฐาน ณ สนามหลวง เฉลิมฉลองพุทธชยันตี 2600 ปี

เสถียรธรรมสถาน ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพอัญเชิญพระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา (จำลอง) จากประเทศอินเดีย ประดิษฐาน ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ให้พุทธศาสนิกชนชาวไทยสักการะในโอกาสวันวิสาขบูชา เฉลิมฉลองพุทธชยันตี 2600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า

แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ผู้อำนวยการเสถียรธรรมสถาน พร้อมด้วย ศาสตราจารย์ นายแพทย์อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ที่ปรึกษาคณะกรรมการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมพิธีอัญเชิญพระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทาองค์จำลอง จากเมืองนาลันทา ประเทศอินเดีย มาประดิษฐานเป็นประธานในงานสวดมนต์ข้าม 26 ศตวรรษ พุทธชยันตี 2600 ปี เนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชา ประจำปี 2555 ณ บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง เพื่อให้พุทธศาสนิกชนชาวไทยได้ร่วมสักการะบูชา เฉลิมฉลองในโอกาสพุทธชยันตี 2600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า และเพื่อให้ชาวพุทธปฏิบัติบูชาด้วยการสวดมนต์ สร้างสิริมงคลในการดำเนินชีวิต อย่างพร้อมเพรียงกัน



โดยระหว่างการประกอบพิธีอัญเชิญพระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทาองค์จำลอง
ได้เกิดพุทธานุภาพ พระอาทิตย์ทรงกลด
สร้างความปิติยินดี เสริมสร้างแรงศรัทธาแก่ผู้ที่เข้าร่วมพิธีเป็นอย่างยิ่ง

สำหรับพระพุทธรูปองค์ดำนาลันทา ถือเป็นพระพุทธรูปที่มีลักษณะงดงาม พระเกตุทรงบัวตูม ปางนั่งขัดสมาธิ พระหัตถ์ชี้แม่พระธรณีเป็นพยาน คนไทยนิยมเรียกว่า ปางมารวิชัย แกะสลักจากหินสีดำ นับเป็นพระพุทธรูปองค์เดียวที่รอดจากการถูกทำลาย มีอายุกว่า 1,000 ปี ทั้งนี้ พุทธศาสนิกชนสามารถเดินทางเข้าร่วมสักการะด้วยการปลูกต้นข้าว ถวายดอกไม้ และน้ำมัน บูชาพระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทาองค์จำลองได้ ณ บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงวันที่ 4 มิถุนายน 2555

             

ข้อมูลข่าวและที่มา
ผู้สื่อข่าว : มาลี ไชโย / สวท.   Rewriter : ชนิดา ศรีปัญญา / สวท.
สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์  :http://thainews.prd.go.th


ข้อความโดย: ฐิตา
« เมื่อ: มิถุนายน 03, 2012, 11:55:28 am »




'พระพุทธชยันตี'องค์ดำ นาลันทา...พระผู้เป็นเลิศแห่งการเยียวยา
เมื่อครั้งพุทธกาล...หลังการตรัสรู้ในคืนวันเพ็ญเดือน ๖ วิสาขบูชานักขัตฤกษ์...พุทธกิจตลอด ๔๕ พรรษาขององค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็เพื่อสร้างธรรมทายาท ให้เกิดพุทธสาวก พุทธสาวิกา ที่แตกฉาน และจะทำงานตามพุทธประสงค์ คือการพัฒนาชีวิตให้สงบเย็น และไม่ละเลยการเป็นประโยชน์อย่างกว้างขวาง เพื่อมวลมนุษยชาติอย่างไม่เลือกปฏิบัติ

บัดนี้พุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปีแห่งการตรัสรู้ของพระองค์พุทธศาสนิกชน กำลังทำอะไรกันอยู่...
นี่เป็นคำถามที่ชาวพุทธควรถามตัวเอง และหาคำตอบให้ได้...ก่อนที่จะสาย...เกินไป

พุทธศักราช ๒๕๕๕…ปีแห่งพุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปีแห่งการตรัสรู้ขององค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า...ในค่ำคืนของ วันวิสาขบูชา นักขัตฤกษ์ ๔ มิถุนายน ๒๕๕๕ ขอเชิญปฏิบัติบูชาครั้งประวัติศาสตร์ สวดมนต์ข้าม ๒๖ ศตวรรษ พุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปีแห่งการตรัสรู้ ด้วยการร่วมสวดพุทธคุณ ๒,๖๐๐ จบ โดยมี พระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา เป็นประธาน เพื่อเฉลิมฉลองพุทธชยันตี พร้อมกับพุทธศาสนิกชนจาก ๕ ทวีป ๑๕ ประเทศทั่วโลก อย่างพร้อมเพรียงกัน ผ่านการถ่ายทอดสดจากท้องสนามหลวง กทม. และอีก ๗๖ จังหวัดทั่วประเทศไทย ณ สถานที่ที่แต่ละจังหวัดจัดไว้ ตั้งแต่เวลา ๒๓.๐๐ น. เป็นต้นไป

หลายคนอาจสงสัยว่า...พระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา คืออะไร...
ทำไมต้อง พระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา

ณ แดนพุทธภูมิ เมื่อกว่า ๑,๐๐๐ ปีผ่าน...พระพุทธรูปองค์ดำ นาลันทา พระเกตุทรงบัวตูม ปางนั่งขัดสมาธิ พระหัตถ์ชี้แม่พระธรณีเป็นพยาน แกะสลักด้วยหินดำ หน้าตักกว้าง ๖๐ นิ้ว สูงนับจากพระเพลาถึงยอดพระเกตุ ๖๙ นิ้วฟุต ประดิษฐานอยู่ที่มหาวิทยาลัยนาลันทา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ในบันทึกของ "ปิลาซิง" กล่าวว่า สร้างเมื่อสมัยพระเจ้าเทวาปาล คือระหว่าง พ.ศ.๑๓๕๓-๑๓๙๓ ต่อมาเมื่อ พ.ศ.๑๗๖๖ พวกต่างศาสนาได้ใช้วิธีเผยแผ่ศาสนาโดยใช้กำลังอาวุธ ถ้าใครไม่นับถือศาสนาของตนจะต้องถูกทำร้าย โดยเฉพาะผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ ถือว่าเป็นศัตรูตัวสำคัญ จะต้องถูกทำลาย ไม่ว่าจะเป็นคนหรือทรัพย์สมบัติในพระพุทธศาสนา

ในบันทึกของ "ท่านตารนาท" ธรรมสวามินปราชญ์ ได้เขียนไว้และเล่าต่อกันมาว่า เมื่อกองกำลังติดอาวุธบุกมาถึงมหาวิทยาลัยสงฆ์นาลันทา ทั้งพระนักศึกษาและพระคณาจารย์พร้อมด้วยชาวพุทธพากันไปหลบภัยอยู่หลังพระพุทธรูปองค์ดำ ด้วยอภินิหารแห่งพระพุทธรูปองค์ดำทำให้กองกำลังต่างศาสนาไม่สามารถมองเห็นชาวพุทธเหล่านั้นได้ เมื่อกองทัพต่างศาสนายกทัพกลับไปแล้ว ผู้ที่หลบซ่อนอยู่ก็พากันออกมาจากที่ซ่อน สำรวจข้าวของที่ยังหลงเหลืออยู่ รวบรวมเท่าที่จะหาได้เพื่อฟื้นฟูบูรณะ กระทั่งอังกฤษเข้ายึดครองอินเดีย มีบันทึกกล่าวไว้ว่า ชาวอังกฤษเข้าไปค้นหาปูชนียวัตถุ และได้พระพุทธรูปมากมายหลายองค์ จึงส่งเข้าไปรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ประเทศอังกฤษ และบูรณะมหาวิทยาลัยสงฆ์นาลันทา

พระพุทธรูปองค์ดำ นาลันทา เป็นพระพุทธรูปองค์เดียวเท่านั้น ที่เหลือรอดจากการถูกทำลายของต่างศาสนา และไม่ถูกอังกฤษยึดไป
ทั้งยังเล่าต่อๆ กันมาว่า ทุกครั้งที่มีการโยกย้ายไปจากที่ที่ประดิษฐานเดิมก็มักเกิดเหตุอาเพทที่ไม่คาดฝันเสมอ เช่น ฝนตกอย่างหนักเกิดฟ้าผ่าอย่างรุนแรง เป็นต้น เป็นเหตุให้การโยกย้ายองค์พระไม่สำเร็จ และชาวบ้านจึงเป็นผู้ดูแลรักษาหลวงพ่อดำไว้ หากเกิดเจ็บป่วยก็จะนำน้ำมันมาลูบองค์พระแล้วอธิษฐานขอให้พระพุทธรูปองค์ดำรักษาโรคต่างๆ ก็เป็นมหัศจรรย์ว่า โรคต่างๆ ได้ถูกรักษาด้วยพลังความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระ


ณ แดนสุวรรณภูมิ ในปีพุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปีแห่งการตรัสรู้...พระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา พระเกตุทรงบัวตูม ปางนั่งขัดสมาธิ พระหัตถ์ชี้แม่พระธรณีเป็นพยาน แกะสลักจากหินแกรนิตสีดำบ่อเดียวกันจากทวีปแอฟริกา สร้างในสมัยรัตนโกสินทร์ (พ.ศ.๒๕๕๕) หลังจากเป็นพระประธานในการสวดมนต์ข้าม ๒๖ ศตวรรษ จากท้องสนามหลวง จะอัญเชิญไปประดิษฐานที่ เสถียรธรรมสถาน เพื่อเป็นพระประธานของสาวิกาสิกขาลัย มหาวิชชาลัยธรรมะที่จัดการศึกษาเพื่อส่งเสริมการบรรลุธรรมและเยียวยาสังคม เพื่อสังคมที่อยู่เย็นเป็นสุข พ้นทุกข์ร่วมกัน

จากศรัทธา...สู่ศรัทธา...จาการเยียวยาคน...สู่การเยียวยาสังคม...จากพระพุทธรูปองค์ดำ ณ มหาวิทยาลัยนาลันทา...สู่พระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา…พระผู้เป็นเลิศแห่งการเยียวยา ณ สาวิกาสิกขาลัย

-http://board.palungjit.com/newthread...newthread&f=36

ข้อความโดย: ฐิตา
« เมื่อ: มิถุนายน 03, 2012, 11:43:45 am »





ขอนอบน้อมแด่.. พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า.. พระองค์นั้น...

พุทธชยันตี
หมายความว่าอะไร?
พุทธชยันตี โดยรากศัพท์ของคำว่าชยันตีมาจากคำว่า “ชย” คือชัยชนะ
อันหมายถึงชัยชนะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่มีต่อหมู่มารและกิเลสทั้งปวง
อย่างสิ้นเชิง อันทำให้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้บังเกิดขึ้นในโลก

พุทธชยันตีจึงมีความหมายว่าเป็น การตรัสรู้ และ การบังเกิดขึ้น ของ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วย ในปัจจุบันพุทธชยันตียังถูกตีความ ในความหมาย
ถึงชัยชนะของพุทธศาสนาและชาวพุทธด้วย เช่น การได้รับเอกราช
และมีสิทธิในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเป็นครั้งแรก ของชาวพุทธใน
ประเทศศรีลังกา การฉลองปีใหม่ชาวพุทธโดยไม่มีเหล้าสุรา ยาเสพติด
สิ่งมึนเมาทั่วทั้งประเทศศรีลังกา การเอาชนะสิ่งเลวร้ายในสังคมจนทำให้
ประเทศศรีลังกามีสถิติอาชญากรรมต่ำมากๆ


ที่มาและความสำคัญ
พุทธชยันตี (बुद्ध जयंती, Buddha Jayanti) เป็นชื่อเรียกงานเฉลิมฉลองหรือพิธีบูชา
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเนื่องในวาระแห่งการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งตรงกับ
วันวิสาขบูชาในประเทศไทยนั่นเอง พุทธชยันตีนี้เป็นที่รู้จักกันดีของชาวพุทธ
นานาชาติอย่างในประเทศศรีลังกา อินเดีย พม่า เป็นต้น โดยเฉพาะในช่วงการ
เฉลิมฉลองพุทธชยันตี ๒๕ พุทธศตวรรษ เมื่อปี พ.ศ.2500 (ถือกันว่าเป็นกึ่งพุทธกาล)

แต่สันนิษฐานว่ามีการเริ่มต้นงานเฉลิมฉลองพุทธชยันตีนี้ ภายหลังจากที่ประเทศศรีลังกา
ได้รับเอกราชจากประเทศอังกฤษในปี พ.ศ.2491 และจากการที่ ดร.อัมเบดการ์
(Dr.Babasaheb Bhimrao Ramji Ambedkar) ได้ฟื้นฟูพุทธสาสนาในประเทศอินเดีย
โดยมีการนำชาวอินเดียประมาณ 2 แสนคนปฏิญาณตนเป็นชาวพุทธ เมื่อ
วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2499 (อินเดีย ศรีลังกา นับเป็นพ.ศ.2500 เร็วกว่าไทย 1 ปี)

เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองพุทธชยันตี 25 พุทธศตวรรษ นอกจากนี้รัฐบาลประเทศอินเดีย
ยังได้สร้างสวนสาธารณะพุทธชยันตีไว้ที่กรุงนิวเดลีเพื่อเป็นอนุสรณ์สำหรับวาระนี้ด้วย
สำหรับรัฐบาลไทย จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีได้ร่วมเฉลิมฉลอง
พุทธชยันตี 25 พุทธศตวรรษ ด้วยการสร้างพุทธมณฑลเป็นอนุสรณ์สถาน ประกาศ
ให้พุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ โดยกำหนดให้วันพระหรือวันธรรมสวนะ
เป็นวันหยุดราชการ (ประกาศสำนักคณะรัฐมนตรี ฉบับที่ 9 ลงวันที่ 1 ตุลาคม 2499)

และมีการพิมพ์พระไตรปิฎกภาษาไทยครบชุดฉบับแรก เป็นต้น
สำหรับการเฉลิมฉลองในระดับนานาชาตินั้น รัฐบาลพม่าได้เป็นเจ้าภาพในการจัด
ฉัฏฐสังคีติ” คือการสังคายนาพระไตรปิฎก
ระดับนานาชาติ
โดยทางพม่านับเป็นการสังคายนาครั้งที่ 6
แล้วได้จัดพิมพ์ พระไตรปิฎกบาลี และคัมภีร์ทั้งหลาย ขึ้นเป็นจำนวนมาก



สำหรับวาระสำคัญในปีปัจจุบันเนื่องในมหาธัมมาภิสมัย พุทธชยันตี 2,600 ปี
แห่งการตรัสรู้นั้น ถ้าถือตามหลักการคำนวณปีพุทธศักราชแบบไทยอยู่ในช่วงระหว่าง
วิสาขบูชา 2554 – วิสาขบูชา 2555 ทั้งนี้ ในวันวิสาขบูชา 2554 ที่ผ่านมานี้
(17 พ.ค.2554) เป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ครบ 2599 ปีเต็ม และเริ่ม
เข้าสู่ปีที่ 2,600 แห่งการตรัสรู้

โดยคำนวณจากการนำปีพุทธศักราชที่เริ่มนับหลังจากการปรินิพพาน บวก
ด้วย 45 อันเป็นจำนวนพรรษาที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ดำเนินพุทธกิจ
ภายหลังการตรัสรู้จวบจนเสด็จดับขันธปรินิพพาน (สูตรการคำนวณ จำนวนปี
การตรัสรู้ = ปี พ.ศ. + 45
) ดังนั้นในวันวิสาขบูชาปีพ.ศ.2555

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะตรัสรู้ครบ 2,600 ปีบริบูรณ์ ในประเทศต่างๆ ที่มีชาว
พุทธเข้มแข็งได้ประกาศให้มีการเฉลิมฉลองในวาระนี้เป็นเวลา 3 ปี
(2553-2555) ดังเช่นในประเทศศรีลังกา พม่า อินเดียเป็นต้น ได้มีการจัด
งานเฉลิมฉลองอย่างตื่นตัวและยิ่งใหญ่ ที่สำนักงานใหญ่แห่งองค์การ
สหประชาชาติ สหรัฐอเมริกา ก็มีการจัดงานฉลองใหญ่ในช่วงวันวิสาขบูชา

ที่ผ่านมา สำหรับประเทศไทย ได้มีการจัดงานในระดับภาคประชาชนกว่า 2 ปี
ที่ผ่านมาในวงจำกัด ส่วนในระดับรัฐบาล สมควรที่ รัฐบาลไทยจะประกาศ
ให้มีการเฉลิมฉลองใหญ่ตลอดปีพุทธศักราช 2555 นี้ อย่างเป็นทางการ

                                                      : paderm



ที่มืดก็แจ่มแจ้ง            ดุจแสงสุรีย์ฉาย
โง่งมก็ค่อยคลาย                  กมเลศสว่างพลัน
ข้ออรรถบรรยาย          อธิบายชยันติ์นั้น
ขอบคุณพระคุณอัน               อธิธรรมอรรถา
ตั้งจิตประพฤติธรรม์       มนมั่นจะบูชา
แด่องค์พระสัมมา                 วสถ้วนชยันตี


                          รจนาโดย.. สรณ์



เมื่อก้มลง กราบพระ  ฉันจะ ไม่อธิษฐาน
เพราะหนึ่งอึดใจ ที่ไม่ มีความต้องการ จิตใจช่างสะอาดสะอ้านเหลือเกิน

รจนาโดย.. อรุณวดี  อรุณมาศ

paderm -http://www.dhammahome.com/front/webboard/show.php?id=20198

ข้อความโดย: ฐิตา
« เมื่อ: พฤษภาคม 18, 2012, 09:02:04 pm »



มหกรรมลานโพธิ์ ตอน งานวัดลอยฟ้า
Lan Bodhi Festival : temple in the cloud

ในวาระพุทธชยันตี 2600 ปีแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ถือเป็นวาระมหามงคลที่ชาวไทยซึ่งเป็นพุทธศาสนิกชนจะได้เริ่มต้นเรียนรู้และศึกษาธรรมที่แท้จริงขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ภาคีองค์กรชาวพุทธ อาทิ กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จึงได้ใช้โอกาสนี้จัดงาน ภายใต้แนวคิดเทศกาลพุทธลีลา ชื่องานว่า "มหกรรมลานโพธิ์ ตอนงานวัดลอยฟ้า" ระหว่างวันที่ 17-20พ.ค.นี้ ณ ห้องรอยัลสยามพารากอน ศูนย์การค้าสยามพารากอน

เทศกาลพุทธลีลา สื่อความหมายถึงลีลาท่าทีของชาวพุทธ ผู้ใฝ่รู้และตื่นตัวปฏิบัติเพื่อการบรรลุซึ่งความเบิกบาน สงบ เย็น และเป็นประโยชน์ ในลักษณะของงานวัดในรูปแบบที่ส่งเสริมการเรียนรู้ ลองปฏิบัติ ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ของภาคีองค์กรชาวพุทธกว่า 100กลุ่มองค์กร ในรูปแบบที่คิดค้นพัฒนา ทั้งนิทรรศการ การแสดง บรรยาย ดู ชม ฟัง ทดลองปฏิบัติ ทำสมาธิภาวนา และธรรมนันทนาการต่าง ๆ

กิจกรรมหลัก ๆ ของมหกรรมลานโพธิ์ ตอนงานวัดลอยฟ้า มีแนวคิดการจัดงานแบ่งออกเป็น 4 ด้านคือความรู้ทางด้านหลักธรรม กิจกรรมส่งเสริมการปฏิบัติภาวนา กิจกรรมส่งเสริมการบำเพ็ญทาน และส่งเสริมความสนใจใฝ่ศึกษาเรียนรู้พระพุทธศาสนา

ไฮไลต์ที่สำคัญสำหรับด้านหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา คือนิทรรศการ ชุดพระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไรและจะนำไปใช้ในชีวิตได้อย่างไร หนังสือพระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไร หนังสือสวดมนต์ 9 คาถาปฐมโพธิกาล ที่พระพุทธองค์ทรงแสดงเมื่อ 2600 ปีที่แล้ว หนังสือพุทธธรรม ฉบับปรับขยาย โดยพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตโต) หนังสือตามรอยพุทธธรรม แนะนำเบื้องต้นสำหรับผู้สนใจศึกษาพระพุทธศาสนา

ด้านส่งเสริมการศึกษาปฏิบัติภาวนา (ปฏิบัติ ถือศีล เจริญสมาธิภาวนา) โดยมีการสอนเจริญสติภาวนา ด้วยรูปแบบต่าง ๆ จากสำนักสอนชั้นนำ ได้แก่ ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย มูลนิธิหมู่บ้านพลัม ประเทศไทย เครือข่ายชีวิตสิกขา พร้อมแนะนำหลักสูตร โครงการสถานปฏิบัติธรรมทั่วประเทศไทย

ด้านส่งเสริมการบำเพ็ญทานมัย ทุกเช้าตั้งแต่วันที่ 17-20 พ.ค. เวลา 08.00 น. จะมีกิจกรรมใส่บาตรพระภิกษุ 100 รูป บนทางเดินสกายวอล์ก ด้านส่งเสริมความสนใจ ใฝ่ศึกษาเรียนรู้พระพุทธศาสนา ประกอบด้วยซุ้มหนังสือและสื่อธรรมะจากสำนักพิมพ์ชั้นนำ ซุ้มไอที ไอธรรมใช้ไอทีส่งธรรม แอพพลิเคชั่น เที่ยวไทยถึงธรรม รวม 50 สถานปฏิบัติธรรมทั่วไทย และแสดงแอพพลิเคชั่น BIA Meditation เครื่องมือช่วยในการเจริญสติพร้อมเสียงแนะนำประกอบ หรือฟังเพลงบรรเลงเพื่อเจริญสติ พร้อมภาพประกอบจากอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์แอพพลิเคชั่น กาลานุกรม ของพระพรหมคุณาภรณ์ โดย ม.ศรีปทุมนอกจากนี้ยังมีเวทีเสวนา อาทิหัวข้อ  พระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไร เราจะนำไปใช้ในชีวิตได้อย่างไร "ฝรั่งมองพุทธไทย" สวดชาตินี้ดีกว่ารอชาติหน้า พบกับศิลปินชั้นนำ ที่ศึกษาธรรมมะ อาทิ ป๊อด โมเดิร์นด๊อกตุลย์ วงอพาร์ตเมนต์คุณป้า เป้ อารักษ์ เป็นต้น


นพ.บัญชา พงษ์พานิช กรรมการและเลขานุการ คณะกรรมการมูลนิธิหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ แกนนำจัดงาน กล่าวว่า เป้าหมายการจัดงานครั้งนี้เพื่อกระตุ้นให้คนน้อมนำพระพุทธศาสนามาปฏิบัติใช้ และเลือกใช้สถานที่ในห้างสรรพสินค้า เพื่อเปิดโอกาสให้คนบางคนที่ไม่มีโอกาสหรือมีข้ออ้างว่าไม่มีเวลาเข้าวัด มีสถานที่ที่เข้าเรียนรู้ธรรมะได้ ในแนวคิดที่ เลือก ชิม ลอง เพราะในพื้นที่จัดงานจัดให้มีสถานที่ปฏิบัติธรรม โดยยุวพุทธิกสมาคม และหมู่บ้านพลัม รวมทั้งร่วมสวดมนต์ 9 คาถา เป็นบทสวดมนต์แรกของการตรัสรู้ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และการแสดงธรรมจากพระรุ่นใหม่ พระมหาสมปอง โดยช่วงเย็นของทุกวันจะเป็นเวทีธรรมะของคนรุ่นใหม่ นอกจากนี้ยังมีการแสดงหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของพระพุทธศาสนา เผยแผ่มายังดินแดนสุวรรณภูมิ บันทึกสำคัญในการบ่งชี้เรื่องราวของพุทธศาสนา บนแผ่นดินเอเชียอาคเนย์

แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ผู้ก่อตั้งเสถียรธรรมสถาน กล่าวว่า เราสามารถเฉลิมฉลองมหาบุรุษของโลกด้วยศาสนิกทุกศาสนา ไม่ใช่เวทีเฉพาะมหกรรมลานโพธิ์ เรื่องเหล่านี้ทำในเวทีโลก ศาสนิกในทุกศาสนาจะร่วมเฉลิมฉลอง การตรัสรู้ธรรมเป็นการเกิดอีกครั้งของมหาบุรุษที่บอกพวกเราว่ามนุษย์พ้นทุกข์ได้ด้วยการฝึกฝนไม่ใช่การอ้อนวอน เราฉลองอย่างไรก็ไม่เท่ากับพระพุทธองค์ที่ทรงงานอย่างหนัก ที่เป็นพุทธกิจใน 45 พรรษา เมื่อเรามีสามัคคีธรรมมารวมกันอยู่ ณ ที่ตรงนี้ เราอย่าทำงานเล็ก ต้องไปให้ไกลด้วยจังหวะหายใจของการมีสติ ที่จะบอกว่าถ้าไม่ทำอะไรในกาละนี้ถือว่าเชย ถ้าไม่สามารถสร้างปาฏิหาริย์แห่งการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของคุณได้ในกาละ ไม่ใช่บอกเพียงแค่งานของใคร แต่เป็นงานของชาวโลก

และเป็นงานที่ได้พื้นที่ที่คนเข้าไปได้แค่ไม่ต้องเป็นชาวพุทธก็ได้ ไม่มีชนชั้นวรรณะเพราะวันที่ตรัสรู้เป็นวันที่ละลายชนชั้นทั้งสิ้น ธรรมมีได้กับคนทุกคนไม่ว่าอดีตจะมามืดหรือสว่าง หรือทำกรรมใดที่ชั่วร้าย แต่พ้นทุกข์ได้ถ้ามีปัจจุบันขณะที่มีหัวใจแห่งสติ และเต้นอย่างคนทำดี หยุดทำสิ่งชั่วอีก ลุกขึ้นมาทำดีว่าแม้ความดีนั้นเล็กน้อยคุณจะไม่ปฏิเสธ จึงต้องมีสามัคคีธรรม

"เราสามารถใช้พุทธชยันตีท้าคนรุ่นใหม่ และทุกศาสนาเพื่อจะหาคำตอบในชีวิตได้ สามารถมีชีวิตที่ไปสว่างได้ สามารถจบ เมื่อจบเมื่อไรไปปัจจุบันขณะอย่างร่าเริง อยากเห็นงานวัด ที่มีความต่างที่มาจากปาฏิหาริย์แห่งการเปลี่ยนแปลงทุกคน"
สาระของงานพุทธชยันตีสำคัญมิใช่เรื่องของการเฉลิมฉลองหากแต่คือตามหาความจริงแก่นแกนของธรรมะเพื่อทำให้มนุษย์พ้นทุกข์ได้อย่างเบ็ดเสร็จขาดสิ้น

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ข้อความโดย: ฐิตา
« เมื่อ: พฤษภาคม 18, 2012, 08:38:10 pm »




ร่วมเฉลิมฉลองพุทธชยันตี
2,600 ปี พระพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรม

มหกรรมลานโพธิ์ ตอน งานวัดลอยฟ้า
Lan Bodhi Festival : temple in the cloud @ SiamParagon

เนื่องในโอกาสฉลอง ๒๖๐๐ ปีแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า หรือ “พุทธชยันตี” ภาคีองค์กรพุทธกว่า ๑๐๐ องค์กรเห็นสมควรให้มีการจัดงาน “มหกรรมลานโพธิ์ ตอนงานวัดลอยฟ้า” ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น ๕ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ระหว่างวันที่ ๑๗ – ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๕ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองปีพุทธชยันตี

โดยมีวัตถุประสงค์ในการให้ความรู้ทางธรรมอย่างถูกต้องและส่งเสริมการปฏิบัติบูชา เพื่อน้อมนำสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้มาใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างกลมกลืน และให้ธรรมะเข้าผู้สนใจทุกกลุ่มมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยาวชนคนรุ่นใหม่

สถานที่: สยามพารากอน
ติดต่อ: หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ (คุณแอน)
โทร: 089-964-1298
ข้อมูลเพิ่มเติม :http://www.buddhaleela.org/bl-fair.html

ข้อความโดย: ฐิตา
« เมื่อ: พฤษภาคม 18, 2012, 08:32:35 pm »



....เกร็ดศาสนา
ภาพจาก : board.palungjit.com

พุทธชยันตี

ความเชื่อว่าพุทธศาสนาจะยั่งยืนอยู่ได้ ๕ พันปี   ผู้รู้บอกว่าเป็นความเชื่อของพุทธนิกายมหายาน  แพร่หลายในทิเบต  จีน  ญี่ปุ่น  ญวน  ชาวพุทธเถรวาทแบบไทย  ลังกา  พม่า....เห็นว่าดี  ก็พลอยเออออ

ปี ๒๕๐๐  ครึ่งทางของพุทธศาสนา  จอมพล ป. พิบูลสงคราม  นายกรัฐมนตรี  ดำริจะจัดงานฉลองยิ่งใหญ่  ใช้ชื่อ “งานฉลองกึ่งพุทธกาล”  พอประกาศข่าวออกไป   พระสงฆ์นิกายหินยาน ไทย ลังกา พม่า.. ก็ประท้วง...ด้วยความเชื่อของหินยาน  ไม่ระบุวันสิ้นสุดของพระพุทธศาสนา  โดยยกพุทธฎีกา  “ตราบใดที่ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา  ยังคงประพฤติปฏิบัติธรรม  ตราบนั้น ศาสนาของตถาคตก็ยังคงอยู่”    จอมพล ป.  พิบูลสงคราม  จึงเปลี่ยนชื่องานเป็น “งานฉลอง ๒๕ พุทธศตวรรษ”     คำว่า “พุทธศตวรรษ”  แปลว่าร้อยปีพุทธศาสนา  เคยเชื่อกันว่า ครบร้อยปีก็จะจัดงานฉลอง เรียกว่า พุทธชยันตี  ชื่องาน พุทธชยันตี  แปลว่า ชัยชนะของพระพุทธเจ้า   หลายประเทศที่พุทธศาสนาเข้มแข็ง  เช่น ลังกา  พม่า  อินเดีย  กระทั่ง สหรัฐอเมริกา  ได้จัดงานพุทธชยันตีติดต่อกันถึง ๓ ปี  ตั้งแต่ปี ๒๕๕๓  ต่อเนื่องมาถึงปี ๒๕๕๕

ในครั้งปลายกรุงสุโขทัย  เมื่อปี พ.ศ. ๑๙๐๐  พระมหาธรรมราชาลิไท  ทรงจัดงานฉลองพุทธชยันตี  ริมแม่น้ำปิง  หน้าเมืองกำแพงเพชร  ได้สร้างพระพิมพ์เอาไว้มากมายบรรจุไว้ในเจดีย์วิหาร  ปัจจุบันเรียกกันว่า ลานทุ่งเศรษฐี   พระพิมพ์ชุดนี้ มีตำนานเล่าว่า ฤาษีสร้าง  พิมพ์นิยมเดิม  คือพิมพ์ยืน  ชาวบ้านเรียกว่ากำแพงเม็ดขนุน  แต่ปัจจุบันนี้ พิมพ์ซุ้มกอ (นั่ง) องค์งาม ๆ มีจมูก มีตา...ราคาว่ากันเกินสิบล้าน

พ้นเรื่องงานพุทธชยันตีเมื่อปี ๑๙๐๐ ก็มาถึงงานพุทธชยันตี ปี ๒๕๐๐....เริ่มเย็นวันที่ ๑๒ พฤษภาคม  พระสงฆ์ ๒,๕๐๐ รูป  เจริญพระพุทธมนต์ที่สนามหลวง  ๖ โมงวันรุ่งขึ้น เป็นวันวิสาขบูชา  พระสงฆ์ทุกวัดสวดชยันโตกระหึ่มทั้งประเทศ  สลับด้วยเสียงย่ำฆ้อง  กลอง  ระฆัง  กระทั่งโรงงานก็ยังเปิดหวูด ร่วมบรรเลงขับขาน

เวลา ๐๙.๓๐ น.  นายกฯ ไทย รับมอบพระไตรปิฎกภาษาพม่า จากนายกฯ อูนุ  ของพม่า  ระหว่างพิธีมอบเกิดปัญหาเล็กน้อยบนเวทีที่นั่งของพระสงฆ์ ๒,๕๐๐ รูป   เนื่องจาก พระสงฆ์ญี่ปุ่นที่ได้รับนิมนต์มา ท่านไม่ได้มารูปเดียว  แต่เอาศิษย์ชิดใกล้ คือภรรยามาด้วย    เมื่อมาแล้ว ภรรยาพระก็จะนั่งบนแถวที่นั่งพระที่ทางการไทยจัดเตรียมไว้   เจ้าหน้าที่ไทยไม่ยอม  พอคุยกันรู้เรื่อง  เรื่องก็จบลงได้ไม่มีการประท้วงถึงขั้นวอล์กเอาต์

เหล่านี้ คือเกร็ดเรื่องงานพุทธชยันตี ๒ ครั้ง ที่บันทึกว่า จัดเมื่ออายุพุทธศาสนาครบ ๑๐๐ ปี  ระยะนี้ เริ่มมีการใช้ชื่องานพุทธชยันตีหลายครั้ง

ผม (กิเลน  ประลองเชิง..กิมเล้ง)  ตั้งข้อปุจฉา  ปีนี้ปี ๒๕๕๕ อีก ๔๕ ปี จึงจะถึงปี ๒๖๐๐  จะมาเร่งรีบจัดกันไปทำไมล่วงหน้า...มีวิสัชนาจาก พ.อ.บุญชู  ศรีเคลือบ  อุปนายกเปรียญธรรมสมาคม ว่า กระบวนนับ ไม่ได้เริ่มจากปีที่พระพุทธเจ้าปรินิพพาน  แต่เริ่มเมื่อปีที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้    พระพุทธเจ้าตรัสรู้ค้นพบทางนำไปสู่ความพ้นทุกข์  เมื่ออายุ ๓๕ พรรษา  หากนับโดยคตินี้  พุทธศาสนาเกิดก่อน พ.ศ. ๑ ที่พระพุทธองค์ปรินิพพาน ๔๕ พรรษา  ปีนี้ก็ถือว่า พระพุทธศาสนามีอายุครบ  ๒๖๐๐ ปี    

ดังนั้น  ไม่ว่าจะกำหนดนับงานพุทธชยันตี กันด้วยวิธีไหน  แต่เมื่อเป็นงานบุญ  พระพุทธเจ้าสอนว่า ทำเมื่อไหร่ก็ได้เมื่อนั้น มากหรือน้อย  เอาหัวใจที่เบิกบานผ่องใส  เป็นตัววัด 



ย่อความจาก  “พุทธชยันตี”    คอลัมภ์ ชักธงรบ    โดย กิเลน  ประลองเชิง  นสพ.ไทยรัฐ ฉบับประจำวันเสาร์ที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๕
กิมเล้ง :http://www.sookjai.com/index.php?topic=34256.0

ข้อความโดย: แปดคิว
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2011, 08:06:51 pm »

 :45: :45: :45:
ข้อความโดย: สายลมที่หวังดี
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2011, 10:18:19 pm »

อนุโมทนา ขอบคุณนะค่ะพี่แป๋ม :07:
ข้อความโดย: ฐิตา
« เมื่อ: สิงหาคม 16, 2010, 04:34:33 am »


   :07:  ขอบคุณ  :19: และ อนุโมทนาด้วยค่ะ พี่แป๋มจ๋า ^^ .. :13:
อนุโมทนาค่ะ พี่แป๋ม

บัวเพิ่งเคยได้ยินคำว่า "พุทธชยันตี"
 :13:






ในการใช้ชีวิตที่เป็นธิดา
ของพระผู้มีพระภาคเจ้า เช่นที่พระองค์ได้ตรัสไว้ว่า
“ธิดาของเราเป็นผู้มีปัญญามาก ฉลาดในทาง
และมิใช่ทาง”


อนุโมทนาสาธุ กับนู๋นิและน้องบัวเช่นกันนะคะ...
ข้อความโดย: ดอกโศก
« เมื่อ: สิงหาคม 15, 2010, 08:05:42 pm »

อนุโมทนาค่ะ พี่แป๋ม

บัวเพิ่งเคยได้ยินคำว่า "พุทธชยันตี"
 :13: