ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: มิถุนายน 12, 2012, 07:55:52 am »ระวัง! เล่ห์กลมิจฉาชีพ หลอกชิงโทรศัพท์มือถือ
เกริ่นนำโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลจาก คุณ ChocoNat R เว็บไซต์ pantip
สังคมสมัยนี้มีภัยร้ายแฝงอยู่รอบตัว หากไม่ระมัดระวังตัวให้ดี ตัวเราเองก็มีสิทธิ์จะตกเป็นเหยื่อของพวกมิจฉาชีพเอาได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะเล่ห์กลของแก๊งมิจฉาชีพที่หวังจะชิงทรัพย์ เดี๋ยวนี้ งัดเอาสารพัดมุก สารพัดรูปแบบมาใช้กันดื้อ ๆ จนคนตามไม่ทัน และคาดไม่ถึงกันเลยทีเดียว
วันนี้ กระปุกดอทคอม ไปเจอเรื่องราวน่าสนใจจาก คุณ ChocoNat R สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ห้องมาบุญครอง ที่ได้มาโพสต์ข้อความบอกเล่าประสบการณ์ที่เกือบจะถูกมิจฉาชีพฉกโทรศัพท์มือถือไปตอนกลางวันแสก ๆ เราจึงขออนุญาตนำเรื่องนี้มาบอกต่อเพื่อน ๆ กัน เพื่อจะได้ระวังตัว และเตือนตัวเองไม่ให้หลงกลอุบายของแก๊งมิจฉาชีพ หากตกอยู่ในสถานการณ์คล้าย ๆ กันนี้
เตือนภัยมิจฉาชีพชิงโทรศัพท์กลางวันแสกๆ โดย คุณ ChocoNat R
"ขอแชร์ประสบการณ์ (ที่คิดว่า) เจอกับมิจฉาชีพจะขโมยโทรศัพท์ เผื่อจะได้ระวังตัวกันครับ
ผมเดินอยู่ตามทางเท้าตามปกติ วันนั้นคนเดินตามทางเท้าไม่เยอะมาก มีรถจักรยานยนต์คันนึงมาจอดเทียบ แล้วเรียกผม ทำทีว่าจะถามทาง โดยมีใจความโดยสรุปคือ เค้าต้องไปส่งของที่ตึกแถวสนามเป้า (จุดเกิดเหตุอยู่แถว BTS สถานีอารีย์) โดยต้องไปส่งให้ฝรั่ง จึงจะรบกวนให้ผมคุยให้หน่อยว่าเค้าอยู่ตรงไหนของสนามเป้า แล้วเดินทางไปอย่างไร
จากนั้นคนดังกล่าวก็ต่อโทรศัพท์ (เป็นโทรศัพท์ Samsung รุ่นเก่า ๆ ถูก ๆ อันนึง) แล้วยื่นให้ผม พอผมรับมา ก็ได้ยินเสียง Operator พูดว่ามียอดเงินในซิมไม่เพียงพอสำหรับการโทรออก ผมก็เลยบอกเค้าว่าเงินในมือถือเค้าหมด เค้าก็เลยบอกว่างั้นขอยืมมือถือผมโทรหาคนนั้นได้หรือเปล่า เพราะเค้ารีบพอสมควร ในใจตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกแปลก ๆ ก็เลยระวังตัวเป็นพิเศษ แต่ถ้าเค้ารีบจริง ๆ ก็น่าจะช่วยเหลือกันได้ ผมจึงบอกว่าได้ เดี๋ยวใช้โทรศัพท์ผมโทร แต่ผมให้เค้าบอกเบอร์โดยผมจะเป็นคนต่อสายเอง เค้าก็ยอมบอกเบอร์ที่จะให้โทรมาแต่โดยดี
แต่พอมีคนรับสายคน อีกปลายทางกลับเป็นคนไทย พอผมถามปลายสายว่ามีคนจะไปส่งของให้ ไม่ทราบว่าตึกที่จะให้ไปส่งอยู่ตรงไหน แต่ปลายสายพูดงง ๆ ว่าของอะไร พอผมกับปลายสายเริ่มงง ๆ ชายคนดังกล่าวจึงบอกว่าถ้าเป็นคนไทย เดี๋ยวเค้าคุยเอง พร้อมกับยื่นมาจะขอเอามือถือไปคุย แต่ผมสังเกตว่า เค้าไม่ยอมดับเครื่องรถจักรยานยนต์ในระหว่างที่คุยกันอยู่ ผมจึงโบกมือไม่ได้ให้โทรศัพท์แก่ชายคนดังกล่าว และพยายามอธิบายกับปลายสายต่อ ชายคนดังกล่าวจึงบอกว่าไม่เป็นไรแล้วครับ แล้วรีบออกรถจักรยานยนต์ไปอย่างไว
ไม่แน่ใจว่าจะใช่มิจฉาชีพหรือเปล่า แต่ผมดูจากรูปการณ์แล้วเดาว่าน่าจะใช่ เพราะเหตุการณ์มันบังเอิญไปซะทุกอย่าง แต่ยังไงก็แล้วแต่ อยากจะฝากเตือนเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ห้อง MBK ระวังตัวกันด้วยนะครับ มือถือเดี๋ยวนี้ไม่ใช่เครื่องถูก ๆ แล้วก็เงินทองไม่ได้หากันง่าย ๆ มิจฉาชีพก็เยอะขึ้นเรื่อย ๆ ถ้ามีคนแปลกหน้ามาขอความช่วยเหลือก็ตั้งสติและระวังตัวกันด้วยนะครับ "
ทั้งนี้ ได้มีชาวพันทิปเข้ามาแชร์ประสบการณ์ในกระทู้ของ คุณ ChocoNat R จำนวนมาก โดยบอกว่า เคยเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้มาแล้ว และมั่นใจได้เลยว่า ผู้ชายคนนั้นเป็นมิจฉาชีพแน่นอน เพราะเคยเห็นข่าวคนถูกหลอกด้วยอุบายลักษณะเดียวกันนี้
พร้อมกันนี้ หลาย ๆ คนยังแนะนำวิธีป้องกันตัวเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อด้วยว่า หากมีคนทำทีมาขอยืมโทรศัพท์มือถือใช้ แล้วทำท่าเหมือนว่ากำลังเดือดร้อนมาก ๆ ให้เราตั้งสติก่อน และโกหกไปว่า โทรออกไม่ได้ เพราะไม่มีเงินในโทรศัพท์เหลือแล้ว หรือ แบตเตอรี่โทรศัพท์หมด หรืออาจจะให้เศษเหรียญคนนั้นไปโทรที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะแทน เพราะเราไม่อาจรู้ได้ว่า คน ๆ นั้น เป็นพวกมิจฉาชีพจริงหรือไม่ แต่จำไว้ว่า อย่ายื่นโทรศัพท์มือถือของเราให้เขาเด็ดขาด
-http://hilight.kapook.com/view/72377-
.
เกริ่นนำโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลจาก คุณ ChocoNat R เว็บไซต์ pantip
สังคมสมัยนี้มีภัยร้ายแฝงอยู่รอบตัว หากไม่ระมัดระวังตัวให้ดี ตัวเราเองก็มีสิทธิ์จะตกเป็นเหยื่อของพวกมิจฉาชีพเอาได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะเล่ห์กลของแก๊งมิจฉาชีพที่หวังจะชิงทรัพย์ เดี๋ยวนี้ งัดเอาสารพัดมุก สารพัดรูปแบบมาใช้กันดื้อ ๆ จนคนตามไม่ทัน และคาดไม่ถึงกันเลยทีเดียว
วันนี้ กระปุกดอทคอม ไปเจอเรื่องราวน่าสนใจจาก คุณ ChocoNat R สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ห้องมาบุญครอง ที่ได้มาโพสต์ข้อความบอกเล่าประสบการณ์ที่เกือบจะถูกมิจฉาชีพฉกโทรศัพท์มือถือไปตอนกลางวันแสก ๆ เราจึงขออนุญาตนำเรื่องนี้มาบอกต่อเพื่อน ๆ กัน เพื่อจะได้ระวังตัว และเตือนตัวเองไม่ให้หลงกลอุบายของแก๊งมิจฉาชีพ หากตกอยู่ในสถานการณ์คล้าย ๆ กันนี้
เตือนภัยมิจฉาชีพชิงโทรศัพท์กลางวันแสกๆ โดย คุณ ChocoNat R
"ขอแชร์ประสบการณ์ (ที่คิดว่า) เจอกับมิจฉาชีพจะขโมยโทรศัพท์ เผื่อจะได้ระวังตัวกันครับ
ผมเดินอยู่ตามทางเท้าตามปกติ วันนั้นคนเดินตามทางเท้าไม่เยอะมาก มีรถจักรยานยนต์คันนึงมาจอดเทียบ แล้วเรียกผม ทำทีว่าจะถามทาง โดยมีใจความโดยสรุปคือ เค้าต้องไปส่งของที่ตึกแถวสนามเป้า (จุดเกิดเหตุอยู่แถว BTS สถานีอารีย์) โดยต้องไปส่งให้ฝรั่ง จึงจะรบกวนให้ผมคุยให้หน่อยว่าเค้าอยู่ตรงไหนของสนามเป้า แล้วเดินทางไปอย่างไร
จากนั้นคนดังกล่าวก็ต่อโทรศัพท์ (เป็นโทรศัพท์ Samsung รุ่นเก่า ๆ ถูก ๆ อันนึง) แล้วยื่นให้ผม พอผมรับมา ก็ได้ยินเสียง Operator พูดว่ามียอดเงินในซิมไม่เพียงพอสำหรับการโทรออก ผมก็เลยบอกเค้าว่าเงินในมือถือเค้าหมด เค้าก็เลยบอกว่างั้นขอยืมมือถือผมโทรหาคนนั้นได้หรือเปล่า เพราะเค้ารีบพอสมควร ในใจตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกแปลก ๆ ก็เลยระวังตัวเป็นพิเศษ แต่ถ้าเค้ารีบจริง ๆ ก็น่าจะช่วยเหลือกันได้ ผมจึงบอกว่าได้ เดี๋ยวใช้โทรศัพท์ผมโทร แต่ผมให้เค้าบอกเบอร์โดยผมจะเป็นคนต่อสายเอง เค้าก็ยอมบอกเบอร์ที่จะให้โทรมาแต่โดยดี
แต่พอมีคนรับสายคน อีกปลายทางกลับเป็นคนไทย พอผมถามปลายสายว่ามีคนจะไปส่งของให้ ไม่ทราบว่าตึกที่จะให้ไปส่งอยู่ตรงไหน แต่ปลายสายพูดงง ๆ ว่าของอะไร พอผมกับปลายสายเริ่มงง ๆ ชายคนดังกล่าวจึงบอกว่าถ้าเป็นคนไทย เดี๋ยวเค้าคุยเอง พร้อมกับยื่นมาจะขอเอามือถือไปคุย แต่ผมสังเกตว่า เค้าไม่ยอมดับเครื่องรถจักรยานยนต์ในระหว่างที่คุยกันอยู่ ผมจึงโบกมือไม่ได้ให้โทรศัพท์แก่ชายคนดังกล่าว และพยายามอธิบายกับปลายสายต่อ ชายคนดังกล่าวจึงบอกว่าไม่เป็นไรแล้วครับ แล้วรีบออกรถจักรยานยนต์ไปอย่างไว
ไม่แน่ใจว่าจะใช่มิจฉาชีพหรือเปล่า แต่ผมดูจากรูปการณ์แล้วเดาว่าน่าจะใช่ เพราะเหตุการณ์มันบังเอิญไปซะทุกอย่าง แต่ยังไงก็แล้วแต่ อยากจะฝากเตือนเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ห้อง MBK ระวังตัวกันด้วยนะครับ มือถือเดี๋ยวนี้ไม่ใช่เครื่องถูก ๆ แล้วก็เงินทองไม่ได้หากันง่าย ๆ มิจฉาชีพก็เยอะขึ้นเรื่อย ๆ ถ้ามีคนแปลกหน้ามาขอความช่วยเหลือก็ตั้งสติและระวังตัวกันด้วยนะครับ "
ทั้งนี้ ได้มีชาวพันทิปเข้ามาแชร์ประสบการณ์ในกระทู้ของ คุณ ChocoNat R จำนวนมาก โดยบอกว่า เคยเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้มาแล้ว และมั่นใจได้เลยว่า ผู้ชายคนนั้นเป็นมิจฉาชีพแน่นอน เพราะเคยเห็นข่าวคนถูกหลอกด้วยอุบายลักษณะเดียวกันนี้
พร้อมกันนี้ หลาย ๆ คนยังแนะนำวิธีป้องกันตัวเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อด้วยว่า หากมีคนทำทีมาขอยืมโทรศัพท์มือถือใช้ แล้วทำท่าเหมือนว่ากำลังเดือดร้อนมาก ๆ ให้เราตั้งสติก่อน และโกหกไปว่า โทรออกไม่ได้ เพราะไม่มีเงินในโทรศัพท์เหลือแล้ว หรือ แบตเตอรี่โทรศัพท์หมด หรืออาจจะให้เศษเหรียญคนนั้นไปโทรที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะแทน เพราะเราไม่อาจรู้ได้ว่า คน ๆ นั้น เป็นพวกมิจฉาชีพจริงหรือไม่ แต่จำไว้ว่า อย่ายื่นโทรศัพท์มือถือของเราให้เขาเด็ดขาด
-http://hilight.kapook.com/view/72377-
.