ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: มิถุนายน 22, 2012, 10:31:24 am »ลวงผ่านแอร์การ์ดเล่ห์ใหม่'แก๊งคอลเซ็นเตอร์'
-http://www.komchadluek.net/detail/20120622/133392/%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B9%8C%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%8A%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C.html-
ลวงเหยื่อผ่าน..แอร์การ์ด เล่ห์ใหม่'แก๊งคอลเซ็นเตอร์' : ตะลุยข่าว โต๊ะรายงานพิเศษ
วิวัฒนาการด้านเทคโนโลยีกลายเป็นช่องว่างให้ "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้คนไม่รู้จบสิ้น ล่าสุดเป็นฝีมือของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวอังกฤษ ซึ่งพลิกแพลงการใช้เทคโนโลยีการพ่วงต่ออุปกรณ์สัญญาณผ่านแอร์การ์ดแบบพกพา โดยใช้ซิมการ์ดโทรศัพท์แบบเติมเงินที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนซิมกับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือเคลื่อนที่ แล้วเปลี่ยนซิมการ์ดไปเรื่อยๆ ทำให้ตรวจสอบยากกว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนและไต้หวัน ที่ใช้หมายเลขโทรศัพท์บ้านในการลวงเหยื่อ!!
เบื้องหลังการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์แก๊งนี้ พล.ต.ท.วิบูลย์ บางท่าไม้ ผบช.สตม. พอทราบข้อมูลว่า แก๊งอาชญากรรมแก๊งนี้มีชาวอังกฤษเป็นกลุ่มคนร้าย เข้ามาก่อเหตุโดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานปฏิบัติการ จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี โปตระนันทน์ รองผบช.สตม. พ.ต.อ.ชาติชาย เอี่ยมแสง พ.ต.อ.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รองผบก.สส.สตม. และ พ.ต.อ.ชยวุฒิ จันทร์สมบูรณ์ ผกก.1 บก.สส.สตม. จัดชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข้อมูล
ชุดสืบสวนของ กก.1 บก.สส.สตม. นำโดย พ.ต.ท.จิตติ สามทอง รองผกก.3 บก.สส.สตม. พ.ต.ท.ธวัชชัย นรินรัตน์ สว.กก.1 บก.สส.สตม. ร.ต.ต.กิตติพันธ์ เอี่ยมจรูญ รองสว.กก.1 บก.สส.สตม. ได้รับแจ้งจากสายลับว่า ห้องชุดเลขที่ 501 อาคารเลขที่ 33 ซอยสุขุมวิท 26 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ เป็นสถานที่ปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์แก๊งนี้ โดยใช้คอนโดมิเนียมหรูจ่ายค่าเช่าเดือนละเกือบ 1 แสนบาท เพื่อไม่ต้องการให้เป็นพิรุธ
ร.ต.ต.กิตติพันธ์ พร้อมชุดสืบสวน พยายามเฝ้าสังเกตความเคลื่อนไหวของแก๊งนี้ตามตำหนิรูปพรรณที่สายลับแจ้ง นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากพลเมืองดีในละแวกนั้น ให้เบาะแสข้อมูลพฤติกรรมลับๆ ล่อๆ ของชาวต่างชาติที่เช่าอยู่ที่ห้องหมายเลขดังกล่าว การสืบสวนเป็นที่แน่ชัดว่า ภายในห้องดังกล่าวน่าจะมีสิ่งผิดกฎหมายหรือเป็นห้องที่ใช่ก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี ร.ต.ต.กิตติพันธ์ รายงานข้อมูลการสืบสวนให้แก่ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมทั้งขออำนาจศาลพิจารณาอนุมัติหมายค้น
ทันทีที่หมายค้นได้รับการพิจารณา ชุดสืบสวนจำนวนหนึ่งเข้าปิดล้อมทางเข้าออกอาคาร รวมถึงบันไดหนีไฟ ชุดสืบสวนอีกชุดประสานงานกับเจ้าของสถานที่พร้อมแสดงหมายค้นก่อนขึ้นไปเคาะประตูห้องหมายเลขดังกล่าว และสามารถควบคุมตัว นายสโตเวล แมททิว นีล อายุ 37 ปี นายริชาร์ด เอียน คุก อายุ 35 ปี และนายคาร์โร แมททิว โทมัส ปีเตอร์ อายุ 27 ปี สัญชาติอังกฤษ พร้อมของกลางโทรศัพท์บ้าน อุปกรณ์ต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ต แอร์การ์ด ซิมการ์ดโทรศัพท์แบบเติมเงิน เครื่องคอมพิวเตอร์ เอกสารข้อมูลเกี่ยวกับเหยื่อจำนวนมาก
“การสืบสวนแน่ชัดว่า ห้องหมายเลขดังกล่าวถูกใช้เป็นสถานที่ก่อเหตุหลอกลวงต้มตุ๋นชาวต่างชาติให้ร่วมลงทุนซื้อขายหุ้น อ้างตัวเป็นโบรกเกอร์ ใช้ระบบโทรศัพท์ข้ามประเทศต้นทางจากเมืองไทยไปปลายทางในทวีปยุโรป เพื่อหาเหยื่อ เช่น อังกฤษ สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี สวีเดน ออสเตรีย แล้วพูดจาหว่านล้อมให้เหยื่อให้หลงเชื่อและนำเงินมาร่วมลงทุนด้วย โดยจะให้โอนเงินไปเข้าบัญชีธนาคารในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แล้วจึงโอนกลับมาที่ธนาคารในประเทศมาเลเซีย แล้วจึงนำมายังประเทศไทย ซึ่งจะแบ่งส่วนแบ่งให้ทีมเปิดบัญชีธนาคาร 25 เปอร์เซ็นต์ คนโทรศัพท์หลอกลวง 25 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือเป็นของหัวหน้าแก๊ง" พล.ต.ท.วิบูลย์กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ชาติชาย กล่าวว่า แก๊งนี้มีวิธีการทำ โดยหาข้อมูลเหยื่อมาจากบริษัทข้อมูลอินเทอร์เน็ตในต่างประเทศที่จะมีชื่อ-สกุล ข้อมูลครบถ้วน ด้วยวิธีการขอซื้อข้อมูลมาจะมีรายชื่อเป็นพันๆ ชื่อ แล้วนำมาตรวจสอบดูข้อมูลว่าบุคคลใดน่าสนใจ จากนั้นจะทำตามขั้นตอนด้วยการโทรศัพท์พื้นฐานเชื่อมต่อแอร์การ์ด โทรศัพท์ไปหาเหยื่อเพื่อถามข้อมูลเบื้องต้น แล้วพูดเรื่องการลงทุนเปรียบเทียบผลประโยชน์การลงทุน พอเหยื่อหลงเชื่อร่วมลงทุนก็จะโอนเงินมาให้ หลังจากนั้นจะแบ่งผลประโยชน์ให้เบื้องต้นไม่มากนัก เพื่อให้ตายใจแล้วไปชักชวนคนอื่นต่อไปเป็นลักษณะลูกโซ่ จากนั้นจะปิดบริษัทหลบหนี
"วิธีการทำงานของแก๊งนี้จะจับตัวได้ยาก ต่างจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของไต้หวันและจีน ตรงที่ใช้อุปกรณ์สัญญาณเป็นแอร์การ์ดเคลื่อนที่ เปลี่ยนซิมไปเรื่อยๆ เหมือนโทรศัพท์มือถือเติมเงินจะไม่มีการลงทะเบียนข้อมูลไว้ แต่ถ้าเป็นการใช้วีโอไอพีต้องใช้กับโทรศัพท์บ้านฐานที่ตั้ง จึงเคลื่อนย้ายยาก ง่ายต่อการจับกุม ส่วนผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 คน เป็นเพียงชุดหลอกลวง จะมีหน้าที่พูดตามสคริปต์เพื่อชักจูงเหยื่อมาร่วมลงทุน แต่จะมีหัวหน้าใหญ่อยู่ที่ประเทศมาเลเซีย ทราบชื่อเพียงนายวิลเลียม" พ.ต.อ.ชาติชาย กล่าว
http://www.komchadluek.net/detail/20120622/133392/%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B9%8C%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%8A%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C.html
.
-http://www.komchadluek.net/detail/20120622/133392/%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B9%8C%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%8A%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C.html-
ลวงเหยื่อผ่าน..แอร์การ์ด เล่ห์ใหม่'แก๊งคอลเซ็นเตอร์' : ตะลุยข่าว โต๊ะรายงานพิเศษ
วิวัฒนาการด้านเทคโนโลยีกลายเป็นช่องว่างให้ "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้คนไม่รู้จบสิ้น ล่าสุดเป็นฝีมือของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวอังกฤษ ซึ่งพลิกแพลงการใช้เทคโนโลยีการพ่วงต่ออุปกรณ์สัญญาณผ่านแอร์การ์ดแบบพกพา โดยใช้ซิมการ์ดโทรศัพท์แบบเติมเงินที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนซิมกับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือเคลื่อนที่ แล้วเปลี่ยนซิมการ์ดไปเรื่อยๆ ทำให้ตรวจสอบยากกว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนและไต้หวัน ที่ใช้หมายเลขโทรศัพท์บ้านในการลวงเหยื่อ!!
เบื้องหลังการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์แก๊งนี้ พล.ต.ท.วิบูลย์ บางท่าไม้ ผบช.สตม. พอทราบข้อมูลว่า แก๊งอาชญากรรมแก๊งนี้มีชาวอังกฤษเป็นกลุ่มคนร้าย เข้ามาก่อเหตุโดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานปฏิบัติการ จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี โปตระนันทน์ รองผบช.สตม. พ.ต.อ.ชาติชาย เอี่ยมแสง พ.ต.อ.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รองผบก.สส.สตม. และ พ.ต.อ.ชยวุฒิ จันทร์สมบูรณ์ ผกก.1 บก.สส.สตม. จัดชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข้อมูล
ชุดสืบสวนของ กก.1 บก.สส.สตม. นำโดย พ.ต.ท.จิตติ สามทอง รองผกก.3 บก.สส.สตม. พ.ต.ท.ธวัชชัย นรินรัตน์ สว.กก.1 บก.สส.สตม. ร.ต.ต.กิตติพันธ์ เอี่ยมจรูญ รองสว.กก.1 บก.สส.สตม. ได้รับแจ้งจากสายลับว่า ห้องชุดเลขที่ 501 อาคารเลขที่ 33 ซอยสุขุมวิท 26 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ เป็นสถานที่ปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์แก๊งนี้ โดยใช้คอนโดมิเนียมหรูจ่ายค่าเช่าเดือนละเกือบ 1 แสนบาท เพื่อไม่ต้องการให้เป็นพิรุธ
ร.ต.ต.กิตติพันธ์ พร้อมชุดสืบสวน พยายามเฝ้าสังเกตความเคลื่อนไหวของแก๊งนี้ตามตำหนิรูปพรรณที่สายลับแจ้ง นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากพลเมืองดีในละแวกนั้น ให้เบาะแสข้อมูลพฤติกรรมลับๆ ล่อๆ ของชาวต่างชาติที่เช่าอยู่ที่ห้องหมายเลขดังกล่าว การสืบสวนเป็นที่แน่ชัดว่า ภายในห้องดังกล่าวน่าจะมีสิ่งผิดกฎหมายหรือเป็นห้องที่ใช่ก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี ร.ต.ต.กิตติพันธ์ รายงานข้อมูลการสืบสวนให้แก่ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมทั้งขออำนาจศาลพิจารณาอนุมัติหมายค้น
ทันทีที่หมายค้นได้รับการพิจารณา ชุดสืบสวนจำนวนหนึ่งเข้าปิดล้อมทางเข้าออกอาคาร รวมถึงบันไดหนีไฟ ชุดสืบสวนอีกชุดประสานงานกับเจ้าของสถานที่พร้อมแสดงหมายค้นก่อนขึ้นไปเคาะประตูห้องหมายเลขดังกล่าว และสามารถควบคุมตัว นายสโตเวล แมททิว นีล อายุ 37 ปี นายริชาร์ด เอียน คุก อายุ 35 ปี และนายคาร์โร แมททิว โทมัส ปีเตอร์ อายุ 27 ปี สัญชาติอังกฤษ พร้อมของกลางโทรศัพท์บ้าน อุปกรณ์ต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ต แอร์การ์ด ซิมการ์ดโทรศัพท์แบบเติมเงิน เครื่องคอมพิวเตอร์ เอกสารข้อมูลเกี่ยวกับเหยื่อจำนวนมาก
“การสืบสวนแน่ชัดว่า ห้องหมายเลขดังกล่าวถูกใช้เป็นสถานที่ก่อเหตุหลอกลวงต้มตุ๋นชาวต่างชาติให้ร่วมลงทุนซื้อขายหุ้น อ้างตัวเป็นโบรกเกอร์ ใช้ระบบโทรศัพท์ข้ามประเทศต้นทางจากเมืองไทยไปปลายทางในทวีปยุโรป เพื่อหาเหยื่อ เช่น อังกฤษ สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี สวีเดน ออสเตรีย แล้วพูดจาหว่านล้อมให้เหยื่อให้หลงเชื่อและนำเงินมาร่วมลงทุนด้วย โดยจะให้โอนเงินไปเข้าบัญชีธนาคารในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แล้วจึงโอนกลับมาที่ธนาคารในประเทศมาเลเซีย แล้วจึงนำมายังประเทศไทย ซึ่งจะแบ่งส่วนแบ่งให้ทีมเปิดบัญชีธนาคาร 25 เปอร์เซ็นต์ คนโทรศัพท์หลอกลวง 25 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือเป็นของหัวหน้าแก๊ง" พล.ต.ท.วิบูลย์กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ชาติชาย กล่าวว่า แก๊งนี้มีวิธีการทำ โดยหาข้อมูลเหยื่อมาจากบริษัทข้อมูลอินเทอร์เน็ตในต่างประเทศที่จะมีชื่อ-สกุล ข้อมูลครบถ้วน ด้วยวิธีการขอซื้อข้อมูลมาจะมีรายชื่อเป็นพันๆ ชื่อ แล้วนำมาตรวจสอบดูข้อมูลว่าบุคคลใดน่าสนใจ จากนั้นจะทำตามขั้นตอนด้วยการโทรศัพท์พื้นฐานเชื่อมต่อแอร์การ์ด โทรศัพท์ไปหาเหยื่อเพื่อถามข้อมูลเบื้องต้น แล้วพูดเรื่องการลงทุนเปรียบเทียบผลประโยชน์การลงทุน พอเหยื่อหลงเชื่อร่วมลงทุนก็จะโอนเงินมาให้ หลังจากนั้นจะแบ่งผลประโยชน์ให้เบื้องต้นไม่มากนัก เพื่อให้ตายใจแล้วไปชักชวนคนอื่นต่อไปเป็นลักษณะลูกโซ่ จากนั้นจะปิดบริษัทหลบหนี
"วิธีการทำงานของแก๊งนี้จะจับตัวได้ยาก ต่างจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของไต้หวันและจีน ตรงที่ใช้อุปกรณ์สัญญาณเป็นแอร์การ์ดเคลื่อนที่ เปลี่ยนซิมไปเรื่อยๆ เหมือนโทรศัพท์มือถือเติมเงินจะไม่มีการลงทะเบียนข้อมูลไว้ แต่ถ้าเป็นการใช้วีโอไอพีต้องใช้กับโทรศัพท์บ้านฐานที่ตั้ง จึงเคลื่อนย้ายยาก ง่ายต่อการจับกุม ส่วนผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 คน เป็นเพียงชุดหลอกลวง จะมีหน้าที่พูดตามสคริปต์เพื่อชักจูงเหยื่อมาร่วมลงทุน แต่จะมีหัวหน้าใหญ่อยู่ที่ประเทศมาเลเซีย ทราบชื่อเพียงนายวิลเลียม" พ.ต.อ.ชาติชาย กล่าว
http://www.komchadluek.net/detail/20120622/133392/%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B9%8C%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%8A%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C.html
.