02. เรื่องภิกษุ 500 รูปอื่นอีกภิกษุ 500 รูป เรียนหัวข้อพระกัมมัฏฐานจากพระศาสดา แล้วก็พากันเข้าป่าไปปฏิบัติพระกัมมัฏฐาน แต่เมื่อปฏิบัติแล้วไม่สามารถบรรลุพระอรหัตตผล จึงได้กลับมาเฝ้าพระศาสดาเพื่อทูลขอหัวข้อพระกัมมัฏฐานใหม่ที่มีความเหมาะสมแก่ตน พระศาสดาทราบด้วยญาณพิเศษว่า ภิกษุเหล่านี้ ในสมัยพระกัสสปพุทธเจ้า ได้ปฏิบัติกัมมัฏฐานในหัวข้อ
ลักษณะความไม่เที่ยง(อนิจจลักษณะ) เป็นเวลานานถึงสองหมื่นปี เพราะฉะนั้นจึงควรที่จะให้พระภิกษุเหล่านี้พิจารณา
อนิจจลักษณะ จึงตรัสว่า “
ภิกษุทั้งหลาย สังขารแม้ทั้งปวงในภพทั้งสามมีกามภพเป็นต้น เป็นสภาพไม่เที่ยงเลย เพราะอรรถว่ามีแล้วไม่มี”
จากนั้น พระศาสดาได้ตรัส
พระธรรมบท พระคาถานี้ว่า
สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจาติ
ยทา ปญฺญาย ปสฺสติ
อถ นิพิพินฺทติ ทุกฺเข
เอส มคฺโค วิสุทฺธิยา ฯเมื่อใด บัณฑิตย่อมเห็นด้วยปัญญาว่า
สังขารทั้งหลายทั้งปวง ไม่เที่ยง
เมื่อนั้น ย่อมหน่ายในทุกข์
ความหน่ายในทุกข์นั่น เป็นทางแห่งความหมดจด.เมื่อพระธรรมเทศนาจบลง ภิกษุ 500 รูปเหล่านั้น บรรลุอรหัตตผลแล้ว พระธรรมเทศนา มีประโยชน์ แม้แก่บริษัทที่ประชุมกัน.
เรื่องภิกษุ 500 รูปอื่นอีกภิกษุ 500 รูป เรียนหัวข้อพระกัมมัฏฐานจากพระศาสดา แล้วก็พากันเข้าไปปฏิบัติพระกัมมัฏฐานในป่า แต่เมื่อปฏิบัติแล้วไม่มีความก้าวหน้าถึงขั้นบรรลุพระอรหัตตผล จึงได้กลับมาเฝ้าพระศาสดาเพื่อทูลขอหัวข้อพระกัมมัฏฐานใหม่ที่มีความเหมาะสมยิ่งขึ้นแก่ตน พระศาสดาทราบด้วยญาณพิเศษว่า ภิกษุเหล่านี้ ในสมัยพระกัสสปพุทธเจ้า ได้ปฏิบัติกัมมัฏฐานในหัวข้อ
กำหนดสังขารโดยความเป็นทุกข์ จึงตรัสว่า “
ภิกษุทั้งหลาย ขันธ์แม้ทั้งปวง เป็นทุกข์แท้ เพราะอรรถว่าถูกทุกข์บีบคั้น”
จากนั้น พระศาสดาตรัส
พระธรรมบท พระคาถานี้ว่า
สพฺเพ สงฺขารา ทุกฺขาติ
ยทา ปญฺญาย ปสฺสติ
อถ นิพฺพินฺทติ ทุกเข
เอส มคฺโค วิสุทฺธิยา ฯเมื่อใด บัณฑิต ย่อมเห็นด้วยปัญญาว่า
สังขารทั้งปวงเป็นทุกข์
เมื่อนั้น ย่อมหน่ายในทุกข์
ความหน่ายในทุกข์นั่น
เป็นทางแห่งความหมดจด.เมื่อพระธรรมเทศนาจบลง ภิกษุ 500 รูปเหล่านั้น บรรลุอรหัตตผลแล้ว
เรื่องภิกษุ 500 รุปอื่นอีกภิกษุ 500 รูป เรียนหัวข้อพระกัมมัฏฐานจากพระศาสดา แล้วก็พากันเข้าไปปฏิบัติพระกัมมัฏฐานในป่า แต่เมื่อปฏิบัติแล้วไม่มีความก้าวหน้าถึงขั้นบรรลุพระอรหัตตผล จึงได้กลับมาเฝ้าพระศาสดาเพื่อทูลขอหัวข้อพระกัมมัฏฐานใหม่ที่มีความเหมาะสมแก่ตนมากยิ่งขึ้น พระศาสดาทราบด้วยญาณพิเศษว่า ภิกษุเหล่านี้ ในสมัยพระกัสสปพุทธเจ้า ได้ปฏิบัติกัมมัฏฐานในหัวข้อ
กำหนดสังขารโดยความเป็นอนัตตา จึงตรัสว่า “
ภิกษุทั้งหลาย ขันธ์แม้ทั้งปวงเป็นอนัตตาแท้ เพราะอรรถว่าไม่เป็นไปในอำนาจ”
จากนั้น พระศาสดาตรัส
พระธรรมบท พระคาถานี้ว่า
สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตาติ
ยทา ปญฺญาย ปสฺสติ
อถ นิพฺพินทติ ทุกฺเข
เอส มคฺโค วิสุทฺธิยา ฯเมื่อใด บัณฑิต ย่อมเห็นด้วยปัญญาว่า
ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา
เมื่อนั้น ย่อมหน่ายในทุกข์
ความหน่ายในทุกข์นั่น
เป็นทางแห่งความหมดจด.เมื่อพระธรรมเทศนาจบลง ภิกษุ 500 รูปเหล่านั้น บรรลุอรหัตตผลแล้ว