ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: กันยายน 05, 2012, 05:58:03 am »ให้แฟนสาวอ่านเมล เช็คโทรศัพท์ของเราดีไหม?
-http://men.kapook.com/view46627.html-
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เคยได้คุยกับคู่รักบางคู่ที่บอกเคล็ดลับของความรักที่หวานชื่นเอาไว้ว่า ฝ่ายชายปล่อยให้แฟนสาวเปิดโทรศัพท์เช็คข้อความหรือว่าอีเมลของเขาได้ตามสะดวก และเธอเองก็ยอมให้เขาทำอย่างนั้นเช่นเดียวกัน เพื่อเป็นการบอกถึงความซื่อสัตย์จริงใจ ไม่มีความลับต่อกันและกัน ว่าแต่เคล็ดลับทำนองนี้จะใช้ได้กับคนรักทุกคู่จริงหรือ? แล้วถ้าจับได้ว่าแฟนมาแอบอ่านข้อความและอีเมลของเราย้อนหลังล่ะ ควรจะทำอย่างไร?
ในขณะที่คู่รักบางคู่ (คาดว่าน่าจะเป็นส่วนน้อย) รู้สึกโอเคกับการเปิดเผยทุก ๆ อย่างให้คนรักได้รับรู้ แต่แน่นอนว่าก็มีอีกหลายคู่รู้สึกไม่สะดวกใจกับการกระทำเช่นนี้อยู่เหมือนกัน ตามสัญชาติญาณของมนุษย์เราซึ่งย่อมต้องการความเป็นส่วนตัว และต้องการเป็นที่ไว้วางใจ ไม่ถูกใครควบคุมบังคับ
แต่สิ่งที่แย่ก็คือ เทคโนโลยีในปัจจุบันดูจะอำนวยให้การเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ไม่ยากเย็นเหมือนแต่ก่อน แค่ขอยืมโทรศัพท์มากดเล่นก็สามารถเช็คข้อความได้ หรือแค่ใช้คอมพิวเตอร์ที่ไหนก็เช็คอีเมลหรือกล่องข้อความในเฟซบุ๊กของคนรักได้ ขอแค่รู้รหัสผ่านไม่กี่ตัวอักษรเท่านั้นเอง นี่จึงทำให้เรื่องการล่วงเข้าสู่พื้นที่ส่วนตัวเล็ก ๆ เหล่านี้ช่างง่ายดาย สำหรับสาว ๆ ที่ต้องการเช็คพฤติกรรมของคุณผู้ชาย (หรืออาจเป็นคุณผู้ชายเองเสียด้วยซ้ำที่เป็นฝ่ายแอบดอดเข้าไปเช็คข้อความหรืออีเมลของแฟนสาว)
แต่ความเป็นจริงแล้ว การได้พบว่าคนรักของคุณแอบใช้โทรศัพท์หรือเช็คอีเมลนั้น บ่งบอกถึงสุขภาพความรักที่ไม่แข็งแรงเอาเสียเลย มันชี้ให้เห็นได้จะ ๆ ว่า คนรักของคุณไม่ไว้ใจและสงสัยในพฤติกรรม สาเหตุเนื่องมาจากเธอเกิดสงสัยในความซื่อสัตย์ของคุณ หรือมีประสบการณ์เคยถูกนอกใจมาแล้วในอดีต (จากแฟนคนเดิมหรือแม้แต่จากตัวคุณเอง) จึงไม่สามารถไว้วางใจได้อีกว่าจะไม่ถูกนอกใจอีกซ้ำสอง
นอกจากนี้ มันยังส่อเค้าแววของรักล่มให้เห็น แม้ว่าความจริงข้อความที่เธออ่านนั้นจะไม่มีอะไรในกอไผ่ก็ตาม เพราะด้วยใจที่สงสัยไปแล้ว สามารถทำให้การตีความข้อความธรรมดา ๆ ของเธอเกินเลยไปจากความเป็นจริง เพราะตัวหนังสือไม่สามารถบ่งบอกอารมณ์ความรู้สึกได้ดีเท่ากับน้ำเสียง ข้อความที่ลงท้ายว่า "คิดถึง" จากเพื่อนสนิท จึงอาจทำให้คุณโดนตราหน้าว่า "นอกใจ" หรือ "มีกิ๊ก" ได้ง่าย ๆ และเชื่อเถอะว่าถ้าเธอไปอ่านและตีความอะไรแบบนี้เข้า การสืบเสาะขุดคุ้ยจะยิ่งหนักข้อ หรือไม่แฟนสาวก็อาจวีนแตกระเบิดลงกับคุณในวันนั้นเลยก็ได้นะ
เพราะฉะนั้นทางที่ดีที่สุด เรื่องส่วนตัวของคุณก็ควรจะเป็นเรื่องส่วนตัวของคุณต่อไป รวมทั้งเรื่องส่วนตัวของเธอคุณก็อย่าเข้าไปยุ่มย่ามด้วยนะครับ ถือว่าให้เกียรติกันและกัน ทว่าลิมิตของคำว่า "ส่วนตัว" ของคู่รักแต่ละคู่นั้นอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของ "ทั้งสองฝ่าย" ด้วย แต่เมื่อไหร่ที่คุณพบว่าคนรักมาแอบอ่านข้อความหรืออีเมลส่วนตัวของคุณ งานนี้ก็เริ่มบอกเลา ๆ แล้วว่ารักจะมีปัญหา คงต้องนั่งคุยกันดูแล้วล่ะ แต่อย่าเพิ่งใช้อารมณ์นะครับ แทนที่จะแสดงความไม่พอใจใส่ ให้ค่อย ๆ ตะล่อมถามว่าคุณทำอะไรให้เธอไม่ไว้วางใจตรงจุดไหนแทน ถ้าถามดี ๆ ผมว่าเธอก็ตอบดี ๆ ด้วยเหตุผลได้เหมือนกัน คราวนี้ก็จะได้ชี้แจงหรือปรับความเข้าใจแก้ไขกันไป ถ้าคุณไม่ได้ทำอะไรผิดจริง ก็อย่าให้รักมาล่มด้วยเรื่องพรรค์นี้เลยดีกว่าครับ
.
-http://men.kapook.com/view46627.html-
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เคยได้คุยกับคู่รักบางคู่ที่บอกเคล็ดลับของความรักที่หวานชื่นเอาไว้ว่า ฝ่ายชายปล่อยให้แฟนสาวเปิดโทรศัพท์เช็คข้อความหรือว่าอีเมลของเขาได้ตามสะดวก และเธอเองก็ยอมให้เขาทำอย่างนั้นเช่นเดียวกัน เพื่อเป็นการบอกถึงความซื่อสัตย์จริงใจ ไม่มีความลับต่อกันและกัน ว่าแต่เคล็ดลับทำนองนี้จะใช้ได้กับคนรักทุกคู่จริงหรือ? แล้วถ้าจับได้ว่าแฟนมาแอบอ่านข้อความและอีเมลของเราย้อนหลังล่ะ ควรจะทำอย่างไร?
ในขณะที่คู่รักบางคู่ (คาดว่าน่าจะเป็นส่วนน้อย) รู้สึกโอเคกับการเปิดเผยทุก ๆ อย่างให้คนรักได้รับรู้ แต่แน่นอนว่าก็มีอีกหลายคู่รู้สึกไม่สะดวกใจกับการกระทำเช่นนี้อยู่เหมือนกัน ตามสัญชาติญาณของมนุษย์เราซึ่งย่อมต้องการความเป็นส่วนตัว และต้องการเป็นที่ไว้วางใจ ไม่ถูกใครควบคุมบังคับ
แต่สิ่งที่แย่ก็คือ เทคโนโลยีในปัจจุบันดูจะอำนวยให้การเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ไม่ยากเย็นเหมือนแต่ก่อน แค่ขอยืมโทรศัพท์มากดเล่นก็สามารถเช็คข้อความได้ หรือแค่ใช้คอมพิวเตอร์ที่ไหนก็เช็คอีเมลหรือกล่องข้อความในเฟซบุ๊กของคนรักได้ ขอแค่รู้รหัสผ่านไม่กี่ตัวอักษรเท่านั้นเอง นี่จึงทำให้เรื่องการล่วงเข้าสู่พื้นที่ส่วนตัวเล็ก ๆ เหล่านี้ช่างง่ายดาย สำหรับสาว ๆ ที่ต้องการเช็คพฤติกรรมของคุณผู้ชาย (หรืออาจเป็นคุณผู้ชายเองเสียด้วยซ้ำที่เป็นฝ่ายแอบดอดเข้าไปเช็คข้อความหรืออีเมลของแฟนสาว)
แต่ความเป็นจริงแล้ว การได้พบว่าคนรักของคุณแอบใช้โทรศัพท์หรือเช็คอีเมลนั้น บ่งบอกถึงสุขภาพความรักที่ไม่แข็งแรงเอาเสียเลย มันชี้ให้เห็นได้จะ ๆ ว่า คนรักของคุณไม่ไว้ใจและสงสัยในพฤติกรรม สาเหตุเนื่องมาจากเธอเกิดสงสัยในความซื่อสัตย์ของคุณ หรือมีประสบการณ์เคยถูกนอกใจมาแล้วในอดีต (จากแฟนคนเดิมหรือแม้แต่จากตัวคุณเอง) จึงไม่สามารถไว้วางใจได้อีกว่าจะไม่ถูกนอกใจอีกซ้ำสอง
นอกจากนี้ มันยังส่อเค้าแววของรักล่มให้เห็น แม้ว่าความจริงข้อความที่เธออ่านนั้นจะไม่มีอะไรในกอไผ่ก็ตาม เพราะด้วยใจที่สงสัยไปแล้ว สามารถทำให้การตีความข้อความธรรมดา ๆ ของเธอเกินเลยไปจากความเป็นจริง เพราะตัวหนังสือไม่สามารถบ่งบอกอารมณ์ความรู้สึกได้ดีเท่ากับน้ำเสียง ข้อความที่ลงท้ายว่า "คิดถึง" จากเพื่อนสนิท จึงอาจทำให้คุณโดนตราหน้าว่า "นอกใจ" หรือ "มีกิ๊ก" ได้ง่าย ๆ และเชื่อเถอะว่าถ้าเธอไปอ่านและตีความอะไรแบบนี้เข้า การสืบเสาะขุดคุ้ยจะยิ่งหนักข้อ หรือไม่แฟนสาวก็อาจวีนแตกระเบิดลงกับคุณในวันนั้นเลยก็ได้นะ
เพราะฉะนั้นทางที่ดีที่สุด เรื่องส่วนตัวของคุณก็ควรจะเป็นเรื่องส่วนตัวของคุณต่อไป รวมทั้งเรื่องส่วนตัวของเธอคุณก็อย่าเข้าไปยุ่มย่ามด้วยนะครับ ถือว่าให้เกียรติกันและกัน ทว่าลิมิตของคำว่า "ส่วนตัว" ของคู่รักแต่ละคู่นั้นอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของ "ทั้งสองฝ่าย" ด้วย แต่เมื่อไหร่ที่คุณพบว่าคนรักมาแอบอ่านข้อความหรืออีเมลส่วนตัวของคุณ งานนี้ก็เริ่มบอกเลา ๆ แล้วว่ารักจะมีปัญหา คงต้องนั่งคุยกันดูแล้วล่ะ แต่อย่าเพิ่งใช้อารมณ์นะครับ แทนที่จะแสดงความไม่พอใจใส่ ให้ค่อย ๆ ตะล่อมถามว่าคุณทำอะไรให้เธอไม่ไว้วางใจตรงจุดไหนแทน ถ้าถามดี ๆ ผมว่าเธอก็ตอบดี ๆ ด้วยเหตุผลได้เหมือนกัน คราวนี้ก็จะได้ชี้แจงหรือปรับความเข้าใจแก้ไขกันไป ถ้าคุณไม่ได้ทำอะไรผิดจริง ก็อย่าให้รักมาล่มด้วยเรื่องพรรค์นี้เลยดีกว่าครับ
.