ตอบ

ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

Verification:
คุณเชื่อในศรัทธาของความดีไหมครับ ( เลือกตอบแค่ เชื่อ กับ ไม่เชื่อ ครับผม):
ถ้าเราโกรธใคร ธรรมะจะเป็นหนทางผ่อนคลายความโกรธนั้นลงได้ใช่ไหม ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม ):
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า แสงธรรมนำใจ:
การแสดงความชื่นชมยินดีในบุญหรือความดีที่ผู้อื่นทำ นิยมใช้คำว่า (อนุโมทนา) กรุณาพิมพ์คำนี้ครับ อนุโมทนา:
เปล่งวาจาว่าสาธุ เป็นการอนุโมทนาต่อพระสงฆ์ที่วัด หรือมีใครทำบุญแล้วมาบอกให้ทราบ ทราบแล้วยกมือขึ้น (สาธุ) กรุณาพิมพ์คำนี้ครับ  สาธุ:
เว็บใต้ร่มธรรมเป็นเว็บเล็กๆในโลกออนไลน์ใช่หรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
โดยปกติชน นิ้วมือของคนเรา มีกี่นิ้ว (ตอบเป็นภาษาไทยครับ):
วัฒนธรรมไทยเมื่อเห็นผู้ใหญ่ท่านจะทำความเคารพ ด้วยการไหว้ท่านก่อนเสมอใช่หรือไม่:
กล่าวคำดังนี้  "ขอโทษนะ":
ระหว่าง (ผู้ที่เรียนรู้ธรรมะเพื่อเอาชนะผู้อื่น) กับ (ผู้ที่เรียนรู้ธรรมะเพื่อเอาชนะตัวเอง)  ท่านจะเลือกเป็น:
กล่าวคำดังนี้  "ขออโหสิกรรม":
หากมีคน บอกว่า เราไม่ดีเราเลว แต่ใจเรารู้ว่าไม่เป็นเช่นนั้น เราจะใช้วิธีใดจัดการกับเรื่องนี้  (โต้เถียงให้แรงกว่าที่เค้าว่ามา) หรือ (เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ความดีของเราเองไม่ต้องทำอะไร):
ในโลกออนไลน์หรือโลกแห่งจิต ไม่มีใครทำอะไรเราได้ นอกเสียไปจาก (คนพาล) หรือ (ใจของเราเอง):
เคยนวดฝ่าเท้าให้ คุณพ่อคุณแม่บ้างไหม ถ้ามีโอกาส เราควรทำหรือไม่ (ควรกระทำอย่างยิ่ง หรือ ไม่ควรทำ):
ธรรมะคือ ธรรมชาติ พิมพ์คำว่า (ธรรมะชาติ) ครับ:
พิมพ์คำว่า (แสงธรรมนำทางธรรมะนำใจ) ครับ:
รู้สึกระอายใจไหมที่เราทำร้ายคนอื่นด้วยวาจาหรือสำนวนที่ไม่สุภาพ โดยที่คนคนนั้นเค้าเคยเป็นผู้มีพระคุณต่อเรามา (ไม่ละอายใจ)หรือ(ละอายใจ):
ขนทรายเข้าวัดคือ พิมพ์สำนวนต่อไปนี้ครับ (ทำบุญทำกุศลโดยวิธีนำหรือหาประโยชน์เพื่อส่วนรวมมิได้ทำเพื่อตนเอง):
ไม่มีอะไรสายสำหรับการเริ่มต้น พิมพ์เป็นประโยคภาษาอังกฤษครับ เป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมดนะครับ เว้นวรรคคำด้วยครับ (It is never too late to mend):
ผู้ที่ไม่เคยรับรู้รสของความขมขื่น จะไม่รู้ว่าความหวานชื่นคืออะไร พิมพ์เป็นประโยคภาษาอังกฤษครับ เป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมดนะครับ เว้นวรรคคำด้วยครับ (He who has never tasted bitterness does not know what is sweet):

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: ตุลาคม 07, 2012, 07:10:44 am »

"เชฟหมึกแดง" แนะ 2 เมนูสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุ
-http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9540000126668-
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    
5 ตุลาคม 2554 16:59 น.


เชฟหมึกแดง-หม่อมหลวง ศิริเฉลิม สวัสดิวัตน์



 สำหรับลูก ๆ หลาน ๆ ท่านใดที่คิดอยากจะทำเมนูสุขภาพให้คุณพ่อคุณแม่ผู้สูงอายุทาน วันนี้เรามี 2 เมนูคาว-หวานมาแนะนำกัน ซึ่งเป็นเมนูพิเศษจากเชฟชื่อดังอย่าง "หมึกแดง-หม่อมหลวง ศิริเฉลิม สวัสดิวัตน์" ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำอาหารที่ได้รับการยอมรับและมีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งทั้งในประเทศและในระดับนานาชาติ รวมทั้งเป็นผู้ที่คร่ำหวอดและมีความรู้เรื่องอาหารเป็นอย่างดี
       
       โดยเมนูพิเศษเมนูแรกที่ "เชพหมึกแเดง" แนะนำ ก็คือ "ปลาดอรี่ย่างซอสต้มข่าเห็ด" เป็นเมนูอาหารที่เหมาะสำหรับคนรักษ์หัวใจทุกคน
       
       สำหรับเมนูนี้ มีส่วนประกอบหลักที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เช่น ปลาดอรี่ที่มีไขมันน้อย แต่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูง ช่วยป้องกันการสะสมของไขมันอิ่มตัว หรือคอเลสเตอรอลอันเป็นเหตุให้เส้นเลือดอุดตัน ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ ลดความดันโลหิต บำรุงสมอง บรรเทาอาการโรคไขข้ออักเสบยิ่งไปกว่านั้น ยังมีเห็ดและสมุนไพรไทย ๆ อย่างข่าและตะไคร้ ที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำแล้วยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุ และโปรตีนสารต้านอนุมูลอิสระ
       
       เครื่องปรุงหมักปลา
       
       - ข่าซอย 2 ช้อนโต๊ะ
       
       - ตะไคร้ซอย 2 ช้อนโต๊ะ
       
       - น้ำปลาลดโซเดียม 1 ช้อนชา
       
       - กะทิธัญพืช 1/8 ถ้วย
       
       - เนื้อปลาปลาดอรี่ 120 กรัม
       
       วิธีทำ
       
       1. โขลกข่า ตะไคร้ให้ละเอียด พักไว้
       
       2. ในชามผสม ใส่เครื่องที่โขลกไว้ครึ่งหนึ่งลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลา กะทิ คนให้เข้ากันเป็นน้ำหมัก
       
       3. ใส่เนื้อปลาดอรี่ที่หั่นเป็นชิ้นลงไปหมัก 30 นาที
       
       4. นำปลาไปย่างให้สุกทั้ง 2 ข้าง เสิร์ฟกับซอสต้มข่า
       
       เครื่องปรุงเห็ดผัดซอสต้มข่า
       
       - น้ำมันถั่วเหลือง 1 ช้อนโต๊ะ
       
       - เครื่องต้มข่าที่เหลือจากการหมักปลา 2 ช้อนโต๊ะ
       
       - เห็ดโคนญี่ปุ่น 1/2 ถ้วยตวง
       
       - เห็ดนางฟ้า 1/2 ถ้วยตวง
       
       - กะทิธัญพืช 1/2 ถ้วยตวง
       
       - น้ำปลาลดโซเดียม 2 ช้อนชา
       
       - น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนชา
       
       - พริกแห้งทอด สำหรับตกแต่ง
       
       - ข่าทอดกรอบ สำหรับตกแต่ง
       
       - ผักชีเด็ดใบ สำหรับตกแต่ง
       
       - น้ำมันน้ำพริกเผา สำหรับตกแต่ง


โฉมหน้า "ปลาดอรี่ย่างซอสต้มข่าเห็ด"



   ขั้นตอนการทำ
       
       1. นำกระทะตั้งเตาใส่น้ำมันพอร้อน ใส่เครื่องต้มข่าที่เหลือลงไป ผัดให้มีกลิ่นหอม แล้วใส่เห็ดโคนญี่ปุ่น เห็ดนางฟ้า ผัดให้หอม แล้วใส่กะทิ ผัดจนเห็ดเริ่มสุกนุ่ม
       
       2. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะขามเปียก ชิมรสให้ได้ เค็ม เปรี้ยว และหวานจากเห็ดกับกะทิ
       
       3. ตักเห็ดและน้ำต้มข่าลงในจานเสิร์ฟ แล้วตักเนื้อปลาวางข้างบน ตกแต่งด้วย พริกเเห้งทอด ข่าทอดกรอบ และ ผักชีเด็ดใบ ราดด้วยน้ำมันพริกเผา แล้วเสิร์ฟทันที ทานกับข้าวสวยร้อน ๆ
       
       นอกจากเมนูอาหารคาวแล้ว "เชฟหมึกแดง" ยังมีแนะนำเมนูขนมหวานเพื่อสุขภาพไว้ด้วย นั่นก็คือ
       
       "ขนมกล้วยประยุกต์"
       
       สำหรับเมนูนี้เป็นขนมชนิดหนึ่งที่ทำจากแป้งข้าวเจ้า โดยกล้วยนั้นมีธาตุเหล็กที่ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง ป้องกันโรคโลหิตจาง มีแคลเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามินซี ช่วยบำรุงกระดูก ฟัน และเหงือกให้แข็งแรง ช่วยให้ผิวพรรณดี และมีเบต้าแคโรทีน ไนอาซีนและใยอาหาร ซึ่งช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้นอีกด้วย


ขนมกล้วยประยุกต์เพื่อสุขภาพ


  มีส่วนประกอบ และขั้นตอนการทำดังต่อไปนี้
       
       เครื่องปรุง
       
       - น้ำมันพืช สำหรับทาถาดอบ
       
       - ใบตองสำหรับรองก้นของถาดนึ่ง 1 ใบ
       
       - น้ำตาลปี๊บ ½ ถ้วยตวง
       
       - เกลือโซเดียมต่ำ ¼ ช้อนชา
       
       - กะทิธัญพืช 2 ถ้วยตวง
       
       - แป้งข้าวเจ้า 1½ ถ้วยตวง
       
       - กล้วยหอมสุกงอมมาก ๆ ยีแล้ว 3 ถ้วยตวง
       
       - ไข่ขาวของไข่ไก่ตีขึ้นฟู 1 ฟอง
       
       - เนื้อมะพร้าวขูดเป็นเส้น 1 ถ้วยตวง
       
       - ข้าวโอ๊ต ½ ถ้วยตวง
       
       - เนื้อมะพร้าวขูดเป็นเส้น สำหรับแต่งหน้า
       
       - น้ำตาลทราย สำหรับแต่งหน้า
       
       - งาขาวคั่ว งาดำคั่ว สำหรับแต่งหน้า
       
       วิธีทำ
       
       1. เอาน้ำมันพืชมาทาข้างในของถาดอบที่มีขอบสูงและขนาด 9 นิ้ว นำชิ้นใบตองมาวางที่ก้นของถาด และทาด้วยน้ำมันอีกครั้งหนึ่ง พักถาดนี้ไว้สำหรับเตรียมนึ่งขนมกล้วย
       
       2. นำกะทิตั้งไฟพอร้อนใส่ข้าวโอ๊ตลงไปต้ม หรี่ไฟต้มจนข้าวโอ๊ตเละ
       
       3. ในเครื่องปั่น Food Processor นำน้ำตาลปี๊บ เกลือป่น กะทิและข้าวโอ๊ต มาเทลงไปในโถปั่น และปั่นจนกระทั่งน้ำตาลปี๊บ และทุกอย่างละลายไปในกะทิ
       
       4. ในระหว่างที่เครื่องกำลังปั่นอยู่ นำแป้งข้าวเจ้ามาเทลงไปในโถปั่น จนกระทั่งส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี ปิดเครื่อง และเทส่วนผสมทั้งหมดลงไปในชามผสม แล้วใส่กล้วยที่ยีไว้ลงไป คนให้เข้ากัน
       
       5. ใส่ไข่ขาวลงไปในส่วนผสม ตะล่อมให้ส่วนผสมเข้ากัน
       
       6. เทส่วนผสมเข้าไปในถาดนึ่ง (แม่พิมพ์) ที่ได้เตรียมไว้ โรยหน้าด้วยมะพร้าวขูด แล้วนำไปนึ่งจนกระทั่งสุก
       
       7. เมื่อสุกแล้วนำออกมาผึ่งไว้ให้เย็น เคาะออกมาจากแม่พิมพ์ (ถาดนึ่ง) ตัดคล้าย ๆ กับเค้ก แต่งหน้าด้วย Dark Chocolate Sauce เนื้อมะพร้าวขูด น้ำตาลทราย งาดำและงาขาวคั่ว
       
       ลูก ๆ หลาน ๆ อ่านแล้ว หากพอมีเวลาว่างลองนำไปทำให้ท่านรับประทานกันดูนะครับ ซึ่งไม่เพียงแต่ผู้สูงอายุเท่านั้น สามารถทำเป็นอาหารสำหรับทุกคนในครอบครัวก็ได้ ทั้งยังเหมาะกับบ้านที่มีผู้ป่วยโรคหัวใจ หรือผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดอีกด้วย


http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9540000126668


.