ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: ตุลาคม 09, 2012, 05:56:33 am »เซียนคอมฯ ระวังจะเป็น โรค DVT หลอดเลือดดำอุดตัน
-http://health.kapook.com/view4082.html-
เซียนคอมฯ ระวังจะเป็น DVT (Deep Venous Thrombosis) (momypedia)
โดย: พอใจ
นั่งนาน ๆ รู้สึกปวดชาที่ขา และเท้าบวมแดง ระวังจะเป็น DVT ในโลกไฮเทคอย่างทุกวันนี้ เราคงปฏิเสธคอมพิวเตอร์ไม่ได้แล้ว แต่ระวังนะคะ มีคุณอนันต์ก็อาจมีโทษมหันต์ ถ้าใช้คอมพิวเตอร์อย่างไม่ถูกวิธี โรค DVT อาจจะถามหา
คอมพิวเตอร์ได้กลายเป็นปัจจัยที่ขาดไม่ได้ในโลกยุคใหม่ แม้แต่เด็ก ๆ คอมพิวเตอร์ก็เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการเรียน นี่ยังไม่รวมวิถีชีวิตด้านอื่น ๆ อีก และด้วยเหตุนี้แหละค่ะที่ทำให้ร่างกายของเด็กได้รับผลกระทบต่างๆ ตามมาอีกมากจากการใช้คอมฯ แบบไม่รู้เท่าทัน
เพราะฉะนั้นไม่ว่าลูกเราจะตั้งใจทำงาน แช็ตคุยกับเพื่อน หรือแม้กระทั่งเอาแต่เล่นเกมคอมพิวเตอร์แบบไม่วางตานั้น ต่างก็ล้วนทำให้สุขภาพย่ำแย่ ไม่ว่าจะเป็นตาเมื่อยล้า ตาแห้ง แสบตา ตาสู้แสงไม่ได้ ตาพร่ามัว ปวดหัว ปวดเมื่อยบ่า ไหล่ คอ หรือปวดหลัง จากการนั่งหน้าคอมพิวเตอร์นานๆ
นอกจากนี้ยังเสี่ยงกับการเป็นโรค Deep Venous Thrombosis (DVT- เส้นเลือดดำอุดตัน) หรือที่เราคุ้นกันในชื่อ Economy Class Syndrome อีกต่างหาก
โรคนี้ถูกค้นพบโดยนักวิจัยที่ได้ข้อมูลมาจากชายวัย 32 ปีผู้หนึ่ง ซึ่งต้องนั่งทำงานอยู่หน้าเทอร์มินัลคอมพิวเตอร์ประมาณ 18 ชั่วโมงต่อวันมานาน จนกระทั่งวันหนึ่งเขาต้องเข้าโรงพยาบาล เพราะอาการเลือดจับตัวเป็นก้อน โดยเริ่มจากบริเวณขาของเขาก่อนที่จะแตกกระจายไปยังปอดทั้งสอง จนเกิดอาการโคม่า ต้องรีบรักษาเป็นการด่วน จากเหตุการณ์นี้ทำให้ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายเริ่มหันมาใส่ใจกับโรคนี้กันมากขึ้น มากกว่าจะเพ่งเล็งไปที่สาเหตุ จากการนั่งเครื่องบินชั้นราคาประหยัดเป็นเวลานานๆ เหมือนก่อน
ฉะนั้นถ้าเห็นลูกคร่ำเคร่งอยู่หน้าคอมฯ นาน ๆ ก็เตือนไว้บ้างค่ะว่า ถ้าเขารู้สึกปวดชาที่ขา และเท้าบวมแดงเมื่อไหรให้รีบลุกจากเก้าอี้มายืดเส้นยืดสายทันที เพราะถ้าลูกมัวทำงานเพลินหรือเล่นเกมจนติดพัน ไม่คอยจับสังเกตอาการ และแก้ไขให้ทันท่วงที ลูกจะกลายเป็นผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้ เพราะการนั่งหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานหลายชั่วโมง โดยไม่ลุกหรือขยับเขยื้อนร่างกายเลย จะทำให้เลือดซึ่งเคยไหลเวียนได้สะดวกจับตัวกันเป็นลิ่มๆ และอาจไปอุดตันตามอวัยวะที่สำคัญ เช่น ปอด หรือหัวใจ ทำให้เกิดอันตรายแก่ชีวิตได้ นี่ล่ะค่ะคือความเสี่ยงที่ลูก ๆ ของเราต้องระวังไว้บ้าง
แต่ถ้าเลี่ยงการนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์นาน ๆ ไม่ได้ อย่างน้อยก็ให้พยายามกระดิกนิ้วเท้าและข้อเท้า เมื่อเริ่มรู้สึกว่านั่งนานแล้ว หรือดื่มน้ำมากๆ เข้าไว้ และถ้าเป็นไปได้ควรลุกขึ้นมายืดแข้งยืดขาอย่างน้อยๆ ชั่วโมงละครั้งก็ยังดีค่ะ อ้อ...ท่าทางการนั่งที่ถูกต้องคือ นั่งลำตัวตรง ไม่ไขว้ขา จะช่วยลดความเสี่ยงนี้ได้ด้วยค่ะ
เตือนลูก ๆ แล้ว ก็อย่าลืมเตือนตัวเองด้วยนะคะ หากคุณก็เป็นคนหนึ่งที่ต้องนั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ เช่นกัน
การแพทย์ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้จัดให้โรค DVT เป็นโรคของความผิดปกติที่ค่อนข้างร้ายแรงที่เกิดขึ้นกับขาส่วนล่าง ตั้งแต่หัวเข่าลงไป และจากการสำรวจพบว่าในจำนวนประชากร 1,000 คนจะมี 1 คนที่เป็นโรค DVT โดยที่อาจจะยังไม่แสดงอาการที่เด่นชัดออกมา และในแต่ละปีจะมีผู้ป่วยถึง 600,000 คนที่มีอาการชัดเจนจนต้องเข้ารับการบำบัดรักษาในโรงพยาบาล
ขอขอบคุณข้อมูลจาก momypedia
http://health.kapook.com/view4082.html
-http://health.kapook.com/view4082.html-
เซียนคอมฯ ระวังจะเป็น DVT (Deep Venous Thrombosis) (momypedia)
โดย: พอใจ
นั่งนาน ๆ รู้สึกปวดชาที่ขา และเท้าบวมแดง ระวังจะเป็น DVT ในโลกไฮเทคอย่างทุกวันนี้ เราคงปฏิเสธคอมพิวเตอร์ไม่ได้แล้ว แต่ระวังนะคะ มีคุณอนันต์ก็อาจมีโทษมหันต์ ถ้าใช้คอมพิวเตอร์อย่างไม่ถูกวิธี โรค DVT อาจจะถามหา
คอมพิวเตอร์ได้กลายเป็นปัจจัยที่ขาดไม่ได้ในโลกยุคใหม่ แม้แต่เด็ก ๆ คอมพิวเตอร์ก็เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการเรียน นี่ยังไม่รวมวิถีชีวิตด้านอื่น ๆ อีก และด้วยเหตุนี้แหละค่ะที่ทำให้ร่างกายของเด็กได้รับผลกระทบต่างๆ ตามมาอีกมากจากการใช้คอมฯ แบบไม่รู้เท่าทัน
เพราะฉะนั้นไม่ว่าลูกเราจะตั้งใจทำงาน แช็ตคุยกับเพื่อน หรือแม้กระทั่งเอาแต่เล่นเกมคอมพิวเตอร์แบบไม่วางตานั้น ต่างก็ล้วนทำให้สุขภาพย่ำแย่ ไม่ว่าจะเป็นตาเมื่อยล้า ตาแห้ง แสบตา ตาสู้แสงไม่ได้ ตาพร่ามัว ปวดหัว ปวดเมื่อยบ่า ไหล่ คอ หรือปวดหลัง จากการนั่งหน้าคอมพิวเตอร์นานๆ
นอกจากนี้ยังเสี่ยงกับการเป็นโรค Deep Venous Thrombosis (DVT- เส้นเลือดดำอุดตัน) หรือที่เราคุ้นกันในชื่อ Economy Class Syndrome อีกต่างหาก
โรคนี้ถูกค้นพบโดยนักวิจัยที่ได้ข้อมูลมาจากชายวัย 32 ปีผู้หนึ่ง ซึ่งต้องนั่งทำงานอยู่หน้าเทอร์มินัลคอมพิวเตอร์ประมาณ 18 ชั่วโมงต่อวันมานาน จนกระทั่งวันหนึ่งเขาต้องเข้าโรงพยาบาล เพราะอาการเลือดจับตัวเป็นก้อน โดยเริ่มจากบริเวณขาของเขาก่อนที่จะแตกกระจายไปยังปอดทั้งสอง จนเกิดอาการโคม่า ต้องรีบรักษาเป็นการด่วน จากเหตุการณ์นี้ทำให้ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายเริ่มหันมาใส่ใจกับโรคนี้กันมากขึ้น มากกว่าจะเพ่งเล็งไปที่สาเหตุ จากการนั่งเครื่องบินชั้นราคาประหยัดเป็นเวลานานๆ เหมือนก่อน
ฉะนั้นถ้าเห็นลูกคร่ำเคร่งอยู่หน้าคอมฯ นาน ๆ ก็เตือนไว้บ้างค่ะว่า ถ้าเขารู้สึกปวดชาที่ขา และเท้าบวมแดงเมื่อไหรให้รีบลุกจากเก้าอี้มายืดเส้นยืดสายทันที เพราะถ้าลูกมัวทำงานเพลินหรือเล่นเกมจนติดพัน ไม่คอยจับสังเกตอาการ และแก้ไขให้ทันท่วงที ลูกจะกลายเป็นผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้ เพราะการนั่งหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานหลายชั่วโมง โดยไม่ลุกหรือขยับเขยื้อนร่างกายเลย จะทำให้เลือดซึ่งเคยไหลเวียนได้สะดวกจับตัวกันเป็นลิ่มๆ และอาจไปอุดตันตามอวัยวะที่สำคัญ เช่น ปอด หรือหัวใจ ทำให้เกิดอันตรายแก่ชีวิตได้ นี่ล่ะค่ะคือความเสี่ยงที่ลูก ๆ ของเราต้องระวังไว้บ้าง
แต่ถ้าเลี่ยงการนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์นาน ๆ ไม่ได้ อย่างน้อยก็ให้พยายามกระดิกนิ้วเท้าและข้อเท้า เมื่อเริ่มรู้สึกว่านั่งนานแล้ว หรือดื่มน้ำมากๆ เข้าไว้ และถ้าเป็นไปได้ควรลุกขึ้นมายืดแข้งยืดขาอย่างน้อยๆ ชั่วโมงละครั้งก็ยังดีค่ะ อ้อ...ท่าทางการนั่งที่ถูกต้องคือ นั่งลำตัวตรง ไม่ไขว้ขา จะช่วยลดความเสี่ยงนี้ได้ด้วยค่ะ
เตือนลูก ๆ แล้ว ก็อย่าลืมเตือนตัวเองด้วยนะคะ หากคุณก็เป็นคนหนึ่งที่ต้องนั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ เช่นกัน
การแพทย์ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้จัดให้โรค DVT เป็นโรคของความผิดปกติที่ค่อนข้างร้ายแรงที่เกิดขึ้นกับขาส่วนล่าง ตั้งแต่หัวเข่าลงไป และจากการสำรวจพบว่าในจำนวนประชากร 1,000 คนจะมี 1 คนที่เป็นโรค DVT โดยที่อาจจะยังไม่แสดงอาการที่เด่นชัดออกมา และในแต่ละปีจะมีผู้ป่วยถึง 600,000 คนที่มีอาการชัดเจนจนต้องเข้ารับการบำบัดรักษาในโรงพยาบาล
ขอขอบคุณข้อมูลจาก momypedia
http://health.kapook.com/view4082.html