ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: ตุลาคม 14, 2012, 07:32:27 am »7 วิธีแก้ไข้ปัญหา "นอนกรน" ด้วยตัวเอง
-http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1350114272&grpid=&catid=09&subcatid=0902-
การกรน เกิดจากการสั่นของลิ้นไก่และเพดานอ่อนที่มากกว่าปกติขณะหลับ เนื่องจากมีการปิดกั้นเส้นทางการเดินหายใจ ทำให้ลมฝ่ายเข้าสู่หลอดลมและปอดไม่สะดวก ลมที่ถูกปิดกั้นจึงย้อนหลับไปทำให้ลิ้นไก่และเพดานอ่อนสั่นจนเกินเป็นเสียงกรนขึ้น
ปัจจุบันมีคนนอนกรนเป็นจำนวนมาก ทั้งนอนกรนแบบธรรมดาและนอนกรนแบบหยุดหายใจ ทำให้มีคลีนิกที่เปิดขึ้นมาเพื่อรักษาอาการนอนกรนโดยเฉพาะเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม เรายังสามารถดูแลตัวเอง ให้ลดอาการ "นอนกรน" ลงด้วยวิธีการที่ไม่ยาก ดังต่อไปนี้
1. เปลี่ยนท่านอน
ถ้าหากคุณนอนหงาย มันง่ายมากที่ลิ้นและลิ้นไก่ของคุณจะเอียงไปทางด้านหลังของลำคอ ซึ่งจะไปปิดกั้นทางเดินหายใจอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทางที่ดีที่สุดก็คือ การนอนตะแคง
2. ลดน้ำหนัก
การลดน้ำหนัก อาจช่วยได้ในบางคนแต่ไม่ใช่ทุกคน จะสังเกตุได้ว่า คนผอมบางคนก็ยังนอนกรน เพราะฉะนั้นถ้าหากคุณเพิ่งจะมานอนกรนเมื่อน้ำหนักขึ้น การลดน้ำหนักก็จะช่วยได้ คิดง่ายๆว่า ถ้าหากน้ำหนักของคุณเพิ่มขึ้น มันจะไปบีบระบบทางเดินหายใจบริเวณลำคอของคุณอย่างเลี่้ยงไม่ได้ ซึ่งจะทำให้คุณมีแนวโน้มที่จะนอนกรนมากขึ้นนั่นเอง
3. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ทั้งนี้เพราะแอลกอฮอล์จะส่งผลโดยตรงต่อกล้ามเนื้อบริเวณลำคอของคุณ การดื่มแอลกอฮอล์ก่อนนอน 4-5 ชั่วโมงจึงทำให้การกรนคุณรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม คนที่ไม่กรนก็อาจจะกรนได้ หากดื่มแอลกอฮอลล์
4. พักผ่อนให้เพียงพอ
การมีนิสัยการนอนที่ไม่ปกติ เป็นการทำร้ายร่างกายที่ไม่แตกต่างจากการดื่มแอลกอฮอล์ การทำงานอย่างหนักโดยไม่พักผ่อนจะทำให้ร่างกายของคุณอ่อนล้ามากเกินไป เมื่อหลับก็จะหลับลึก เช่นเดียวกับลิ้นไก่ที่ก็จะอ่อนล้า จนตกไปกีดขวางการหายใจได้เช่นกัน
5. ทำให้จมูกโล่ง
การทำให้จมูกโล่งจะช่วยให้ลมผ่านเข้าไปยังหลอดลมและปอดได้สะดวกมากขึ้น จะช่วยลดการกรนลงได้ ซึ่งการอาบน้ำอุ่นก่อนนอนเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้จมูกโล่ง
6. ทำความสะอาดห้องนอนและเปลี่ยนหมอน
สารก่อภูมิแพ้ในห้องนอนและหมอนของคุณอาจทำให้คุณนอนกรนได้ จึงควรทำความสะอาดห้อง พัดลมเพดาน เปลี่ยนหมอน หลีกเลี่ยงการนำเอาสัตว์เลี้ยงเข้ามาในห้องนอน เพื่อลดความเสี่ยงที่จะกรนลง
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อหมอนราคาแพงที่มีการโฆษณาสรรพคุณว่าช่วยลดการกรน ควรพิจารณาให้ดีก่อนว่ามันเหมาะกับสรีระศรีษะของคุณ เพราะไม่เช่นนั้นก็จะไม่เกิดประโยชน์ และอาจทำให้คุณปวดคอเพิ่มเข้าไปอีก
7. อย่าให้ร่างกายขาดน้ำ
จมูกและเพดานปากของคุณจะแห้งและเหนียวมากขึ้น ถ้าหากร่างกายของคุณขาดน้ำ ซึ่งจะทำให้เกิดเสียงกรนได้ง่ายมากขึ้นตามไปด้วย
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1350114272&grpid=&catid=09&subcatid=0902
-http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1350114272&grpid=&catid=09&subcatid=0902-
การกรน เกิดจากการสั่นของลิ้นไก่และเพดานอ่อนที่มากกว่าปกติขณะหลับ เนื่องจากมีการปิดกั้นเส้นทางการเดินหายใจ ทำให้ลมฝ่ายเข้าสู่หลอดลมและปอดไม่สะดวก ลมที่ถูกปิดกั้นจึงย้อนหลับไปทำให้ลิ้นไก่และเพดานอ่อนสั่นจนเกินเป็นเสียงกรนขึ้น
ปัจจุบันมีคนนอนกรนเป็นจำนวนมาก ทั้งนอนกรนแบบธรรมดาและนอนกรนแบบหยุดหายใจ ทำให้มีคลีนิกที่เปิดขึ้นมาเพื่อรักษาอาการนอนกรนโดยเฉพาะเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม เรายังสามารถดูแลตัวเอง ให้ลดอาการ "นอนกรน" ลงด้วยวิธีการที่ไม่ยาก ดังต่อไปนี้
1. เปลี่ยนท่านอน
ถ้าหากคุณนอนหงาย มันง่ายมากที่ลิ้นและลิ้นไก่ของคุณจะเอียงไปทางด้านหลังของลำคอ ซึ่งจะไปปิดกั้นทางเดินหายใจอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทางที่ดีที่สุดก็คือ การนอนตะแคง
2. ลดน้ำหนัก
การลดน้ำหนัก อาจช่วยได้ในบางคนแต่ไม่ใช่ทุกคน จะสังเกตุได้ว่า คนผอมบางคนก็ยังนอนกรน เพราะฉะนั้นถ้าหากคุณเพิ่งจะมานอนกรนเมื่อน้ำหนักขึ้น การลดน้ำหนักก็จะช่วยได้ คิดง่ายๆว่า ถ้าหากน้ำหนักของคุณเพิ่มขึ้น มันจะไปบีบระบบทางเดินหายใจบริเวณลำคอของคุณอย่างเลี่้ยงไม่ได้ ซึ่งจะทำให้คุณมีแนวโน้มที่จะนอนกรนมากขึ้นนั่นเอง
3. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ทั้งนี้เพราะแอลกอฮอล์จะส่งผลโดยตรงต่อกล้ามเนื้อบริเวณลำคอของคุณ การดื่มแอลกอฮอล์ก่อนนอน 4-5 ชั่วโมงจึงทำให้การกรนคุณรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม คนที่ไม่กรนก็อาจจะกรนได้ หากดื่มแอลกอฮอลล์
4. พักผ่อนให้เพียงพอ
การมีนิสัยการนอนที่ไม่ปกติ เป็นการทำร้ายร่างกายที่ไม่แตกต่างจากการดื่มแอลกอฮอล์ การทำงานอย่างหนักโดยไม่พักผ่อนจะทำให้ร่างกายของคุณอ่อนล้ามากเกินไป เมื่อหลับก็จะหลับลึก เช่นเดียวกับลิ้นไก่ที่ก็จะอ่อนล้า จนตกไปกีดขวางการหายใจได้เช่นกัน
5. ทำให้จมูกโล่ง
การทำให้จมูกโล่งจะช่วยให้ลมผ่านเข้าไปยังหลอดลมและปอดได้สะดวกมากขึ้น จะช่วยลดการกรนลงได้ ซึ่งการอาบน้ำอุ่นก่อนนอนเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้จมูกโล่ง
6. ทำความสะอาดห้องนอนและเปลี่ยนหมอน
สารก่อภูมิแพ้ในห้องนอนและหมอนของคุณอาจทำให้คุณนอนกรนได้ จึงควรทำความสะอาดห้อง พัดลมเพดาน เปลี่ยนหมอน หลีกเลี่ยงการนำเอาสัตว์เลี้ยงเข้ามาในห้องนอน เพื่อลดความเสี่ยงที่จะกรนลง
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อหมอนราคาแพงที่มีการโฆษณาสรรพคุณว่าช่วยลดการกรน ควรพิจารณาให้ดีก่อนว่ามันเหมาะกับสรีระศรีษะของคุณ เพราะไม่เช่นนั้นก็จะไม่เกิดประโยชน์ และอาจทำให้คุณปวดคอเพิ่มเข้าไปอีก
7. อย่าให้ร่างกายขาดน้ำ
จมูกและเพดานปากของคุณจะแห้งและเหนียวมากขึ้น ถ้าหากร่างกายของคุณขาดน้ำ ซึ่งจะทำให้เกิดเสียงกรนได้ง่ายมากขึ้นตามไปด้วย
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1350114272&grpid=&catid=09&subcatid=0902