ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2012, 07:29:30 am »"สมาร์ทโฟน" เครื่องมือลดเวลาอยู่กับครอบครัว?
-http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9550000133901-
การมีสมาร์ทโฟนอาจไม่ทำให้ชีวิตสะดวกสบายอย่างที่คิด แม้ว่ามันจะสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ฟังเพลง ถ่ายรูป ฯลฯ ได้ในทุก ๆ ที่ ทุกเวลา แต่ในอีกแง่หนึ่ง ความสามารถดังกล่าวนั้นก็เปรียบได้กับเครื่องมือที่ทำให้คุณตกเป็นทาสของ "งาน" มากกว่าที่ควรจะเป็น
ปฏิเสธไม่ได้ว่า มนุษย์ทุกวันนี้สามารถเช็คอีเมล อัปเดตสถานะ เช็คข้อมูลข่าวสารความเป็นไปต่าง ๆ ของโลก เช็คที่นั่งร้านอาหารอร่อย ซื้อเสื้อผ้า ฯลฯ ได้ตลอดเวลาเพียงแค่เป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนสักเครื่อง ซื้อแพกเกจจากค่ายโทรศัพท์มือถืออีกสักหน่อย แต่ถ้าสังเกตอีกสักนิด คุณอาจเริ่มรู้สึกว่าความสามารถดังกล่าวของสมาร์ทโฟนอาจทำให้คุณต้องทำงานมากขึ้นกว่าเดิม หาใช่การมีชีวิตที่สะดวกสบายขึ้นอย่างที่เจ้าพ่อวงการไอทีบางคนกล่าวอ้าง
ทั้งนี้ได้มีการสำรวจจาก Pixmania ถึงพฤติกรรมการใช้งานสมาร์ทโฟนของผู้บริโภคชาวอังกฤษพบว่าพวกเขาต้องทำงานเพิ่มมากขึ้นเฉลี่ย 460 ชั่วโมงต่อปี ส่วนหนึ่งมาจากการที่พวกเขาสามารถเช็คอีเมลได้ผ่านทางสมาร์ทโฟนนั่นเอง
นอกจากนั้นยังพบว่า ในกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามนั้น ทำงานเฉลี่ย 9 - 10 ชั่วโมงต่อวัน เวลาที่เพิมขึ้นมานั้นมาจากการตอบอีเมล หรือโทรศัพท์ติดต่อเรื่องงาน นอกจากนั้นยังพบว่า 1 ใน 3 ของพนักงานออฟฟิศต้องเข้าเช็คเมลไม่ต่ำกว่าวันละ 20 ครั้งเลยทีเดียว ขณะที่อีก 2 ใน 3 เผยว่า ด้วยความสามารถของโทรศัพท์มือถือทำให้พวกเขามักจะเช็คเมลก่อนเข้านอน และทันทีที่ตื่นนอน มีบ้างบางรายที่ตื่นมาตอบเมลกลางดึกด้วย
โดยผลสำรวจระบุว่าช่วงเวลาที่คนเข้าเช็คเมลกันมากที่สุดคือช่วง 6.00 - 7.00 น. นั่นเอง
Ghadi Hobeika ผู้อำนวยการด้านการตลาดของ Pixmania ผู้ทำการสำรวจความคิดเห็นครั้งนี้กล่าวว่า "ด้วยความสามารถของโทรศัพท์มือถือในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต อีกทั้งยังมีแอปส์ต่าง ๆ มากมายติดตั้งเอาไว้นั้นคือตัวการทำให้ชีวิตของมนุษย์เราถูกผูกติดเอาไว้กับโลกของโซเชียลเน็ตเวิร์กจนยากจะถอนตัว"
"ซึ่งนั่นก็มีข้อเสีย เพราะมีหลายบริษัทที่คาดหวังให้พนักงานของตนเองนั้นพร้อมสำหรับการทำงานตลอดเวลา และการมีสมาร์ทโฟนนั้นก็คือเครื่องมือที่ทำให้คนไม่สามารถปฏิเสธงานได้"
นอกจากนี้ ในการสำรวจของ TripAdvisor เองก็พบว่า มนุษย์ทำงานในปัจจุบันนิยมเช็คอีเมลเกี่ยวกับเรื่องงานทุกวัน แม้ว่าวันนั้นจะเป็นวันลาพักร้อนของตนเองก็ตาม และการเช็คอีเมลในช่วงวันลาพักร้อนนั้นก็อาจลามไปสู่การกลับไปสะสางงานที่เกิดขึ้น หรือการโทรศัพท์กลับเข้าออฟฟิศเพื่อไปเคลียร์งานด้วย
จะเห็นได้ว่า แม้ความสามารถดังกล่าวเป็นเรื่องที่ดีในมุมของการทำงาน แต่ในอีกมุมหนึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายสำหรับเวลาดี ๆ ที่มนุษย์คนหนึ่งควรจะได้พักสมอง ปิดรับเรื่องราวภายนอกเสียบ้าง และคงน่าเสียดายมากขึ้นไปอีก หากการไม่ได้พักผ่อนนั้นต้องทำให้เสียงหัวเราะจากลูก ๆ และครอบครัวขาดหายไป
แต่ทั้งหมดนี้อาจไม่เกิดขึ้นกับชีวิตก็เป็นได้ค่ะ ขอเพียงคุณเข้มแข็งพอ และตั้งกฎในการใช้ "อุปกรณ์อำนวยความสะดวก" ที่เรียกว่าสมาร์ทโฟนนั้นในรูปแบบอื่นที่ไม่ใช่แบบที่กล่าวมาข้างต้น
รู้ให้ทัน และใช้มันเป็นเครื่องมือของคุณ น่าจะดีที่สุด
อ้างอิงข้อมูลจากเดลิเมล
.
-http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9550000133901-
การมีสมาร์ทโฟนอาจไม่ทำให้ชีวิตสะดวกสบายอย่างที่คิด แม้ว่ามันจะสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ฟังเพลง ถ่ายรูป ฯลฯ ได้ในทุก ๆ ที่ ทุกเวลา แต่ในอีกแง่หนึ่ง ความสามารถดังกล่าวนั้นก็เปรียบได้กับเครื่องมือที่ทำให้คุณตกเป็นทาสของ "งาน" มากกว่าที่ควรจะเป็น
ปฏิเสธไม่ได้ว่า มนุษย์ทุกวันนี้สามารถเช็คอีเมล อัปเดตสถานะ เช็คข้อมูลข่าวสารความเป็นไปต่าง ๆ ของโลก เช็คที่นั่งร้านอาหารอร่อย ซื้อเสื้อผ้า ฯลฯ ได้ตลอดเวลาเพียงแค่เป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนสักเครื่อง ซื้อแพกเกจจากค่ายโทรศัพท์มือถืออีกสักหน่อย แต่ถ้าสังเกตอีกสักนิด คุณอาจเริ่มรู้สึกว่าความสามารถดังกล่าวของสมาร์ทโฟนอาจทำให้คุณต้องทำงานมากขึ้นกว่าเดิม หาใช่การมีชีวิตที่สะดวกสบายขึ้นอย่างที่เจ้าพ่อวงการไอทีบางคนกล่าวอ้าง
ทั้งนี้ได้มีการสำรวจจาก Pixmania ถึงพฤติกรรมการใช้งานสมาร์ทโฟนของผู้บริโภคชาวอังกฤษพบว่าพวกเขาต้องทำงานเพิ่มมากขึ้นเฉลี่ย 460 ชั่วโมงต่อปี ส่วนหนึ่งมาจากการที่พวกเขาสามารถเช็คอีเมลได้ผ่านทางสมาร์ทโฟนนั่นเอง
นอกจากนั้นยังพบว่า ในกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามนั้น ทำงานเฉลี่ย 9 - 10 ชั่วโมงต่อวัน เวลาที่เพิมขึ้นมานั้นมาจากการตอบอีเมล หรือโทรศัพท์ติดต่อเรื่องงาน นอกจากนั้นยังพบว่า 1 ใน 3 ของพนักงานออฟฟิศต้องเข้าเช็คเมลไม่ต่ำกว่าวันละ 20 ครั้งเลยทีเดียว ขณะที่อีก 2 ใน 3 เผยว่า ด้วยความสามารถของโทรศัพท์มือถือทำให้พวกเขามักจะเช็คเมลก่อนเข้านอน และทันทีที่ตื่นนอน มีบ้างบางรายที่ตื่นมาตอบเมลกลางดึกด้วย
โดยผลสำรวจระบุว่าช่วงเวลาที่คนเข้าเช็คเมลกันมากที่สุดคือช่วง 6.00 - 7.00 น. นั่นเอง
Ghadi Hobeika ผู้อำนวยการด้านการตลาดของ Pixmania ผู้ทำการสำรวจความคิดเห็นครั้งนี้กล่าวว่า "ด้วยความสามารถของโทรศัพท์มือถือในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต อีกทั้งยังมีแอปส์ต่าง ๆ มากมายติดตั้งเอาไว้นั้นคือตัวการทำให้ชีวิตของมนุษย์เราถูกผูกติดเอาไว้กับโลกของโซเชียลเน็ตเวิร์กจนยากจะถอนตัว"
"ซึ่งนั่นก็มีข้อเสีย เพราะมีหลายบริษัทที่คาดหวังให้พนักงานของตนเองนั้นพร้อมสำหรับการทำงานตลอดเวลา และการมีสมาร์ทโฟนนั้นก็คือเครื่องมือที่ทำให้คนไม่สามารถปฏิเสธงานได้"
นอกจากนี้ ในการสำรวจของ TripAdvisor เองก็พบว่า มนุษย์ทำงานในปัจจุบันนิยมเช็คอีเมลเกี่ยวกับเรื่องงานทุกวัน แม้ว่าวันนั้นจะเป็นวันลาพักร้อนของตนเองก็ตาม และการเช็คอีเมลในช่วงวันลาพักร้อนนั้นก็อาจลามไปสู่การกลับไปสะสางงานที่เกิดขึ้น หรือการโทรศัพท์กลับเข้าออฟฟิศเพื่อไปเคลียร์งานด้วย
จะเห็นได้ว่า แม้ความสามารถดังกล่าวเป็นเรื่องที่ดีในมุมของการทำงาน แต่ในอีกมุมหนึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายสำหรับเวลาดี ๆ ที่มนุษย์คนหนึ่งควรจะได้พักสมอง ปิดรับเรื่องราวภายนอกเสียบ้าง และคงน่าเสียดายมากขึ้นไปอีก หากการไม่ได้พักผ่อนนั้นต้องทำให้เสียงหัวเราะจากลูก ๆ และครอบครัวขาดหายไป
แต่ทั้งหมดนี้อาจไม่เกิดขึ้นกับชีวิตก็เป็นได้ค่ะ ขอเพียงคุณเข้มแข็งพอ และตั้งกฎในการใช้ "อุปกรณ์อำนวยความสะดวก" ที่เรียกว่าสมาร์ทโฟนนั้นในรูปแบบอื่นที่ไม่ใช่แบบที่กล่าวมาข้างต้น
รู้ให้ทัน และใช้มันเป็นเครื่องมือของคุณ น่าจะดีที่สุด
อ้างอิงข้อมูลจากเดลิเมล
.