ข้อความโดย: ฐิตา
« เมื่อ: พฤศจิกายน 18, 2012, 07:05:19 pm »๖๖. อะนิทัสสะนาปปะฏิฆา ธัมมา
ในบทที่ ๖๖ นั้น โดยมีนัยพระบาลีว่า อะนิทัสสะนาปปะฏิฆา ธัมมา แปลว่า ธรรมทั้งหลายจะมีความคับแค้นในใจก็ไม่ใช่ จะไม่เห็นก็ไม่ใช่ แต่ดับกิเลสได้ โดยอาศัยอำนาจของตนเอง โดยเนื้อความ อะนิทัสสะนาปปะฏิฆา ธัมมา นี้ก็ได้แก่ นิโรธธรรม ด้วยอรรถว่าด้วยความเห็นและความไม่เห็น ได้แก่เมื่อนิโรธธรรมบังเกิดขึ้นแล้ว นิวรณ์ธรรมทั้ง ๕ ก็ดับไป โอวาทคำสั่งสอนอันใดอันหนึ่งก็ดับไป วิตก วิจารณ์ ปีติ สุข ก็ไม่มีในนิโรธธรรม เพราะฉะนั้นจึงแปลว่า จะคับแค้นก็ไม่ใช่ จะเห็นก็ไม่ใช่ แต่ละกิเลสได้ด้วยความไม่ต้องเห็นนั้นก็ได้แก่พระอริยมรรค ไม่เห็นก็จริงอยู่ แต่รู้ว่าตัณหา ราคะ โทสะ โมหะ ไม่มี
เปรียบเหมือนบุคคลนอนหลับฝันไปได้เห็นรูปสัตว์ต่าง ๆ มีเสือและช้างเป็นต้น บุคคลนอนหลับแลฝันไปนั้น จะเห็นก็ไม่ใช่ ถ้าจะว่าเห็นหรือ เสือช้างก็ไม่มี ถ้าจะว่าไม่เห็นหรือ ก็เห็นในฝันไปแล้ว ฉันใดก็ดี พระธรรมที่ชื่อว่า อะนิทัสสะนาปปะฏิฆา ธัมมา ก็มีอุปมาอุปไมยเหมือนกันกับบุคคลที่นอนหลับฝันไป ฉะนั้นฯ
ฟังเป็นพิธี
เราทุกวันนี้ การที่ฟัง ๆ กันทุกวัน แต่ไม่ปรากฏจะได้สำเร็จมรรค สำเร็จผล
คือเราเป็นแต่ฟังเป็นพิธี มิได้ฟังถึงธรรม ถึงวินัย ถึงข้อปฏิบัติ
-http://portal.in.th/i-dhamma/pages/11118/