ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 500 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

Verification:
ระหว่างความดีกับความไม่ดี เราจะเลือกทำสิ่งใดจึงจะสามารถบรรลุธรรมได้จริง ( เลือกตอบแค่ ความดี กับ ความไม่ดี ครับผม):
คุณเชื่อในศรัทธาของความดีไหมครับ ( เลือกตอบแค่ เชื่อ กับ ไม่เชื่อ ครับผม):
คุณเชื่อว่าทุกศาสนาสอนให้ทุกคนเป็นคนดีใช่หรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า ความดีนำทาง:
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า ใต้ร่มธรรม:
เปล่งวาจาว่าสาธุ เป็นการอนุโมทนาต่อพระสงฆ์ที่วัด หรือมีใครทำบุญแล้วมาบอกให้ทราบ ทราบแล้วยกมือขึ้น (สาธุ) กรุณาพิมพ์คำนี้ครับ  สาธุ:
วัฒนธรรมไทยเมื่อเห็นผู้ใหญ่ท่านจะทำความเคารพ ด้วยการไหว้ท่านก่อนเสมอใช่หรือไม่:
เมื่อให้ท่านเลือก ระหว่าง (หนังสือเก่าๆเล่มหนึ่งที่เรารัก) กับ (มิตรแท้ที่รักเรา) คุณจะะเลือก:
ระหว่าง (ผู้ที่เรียนรู้ธรรมะเพื่อเอาชนะผู้อื่น) กับ (ผู้ที่เรียนรู้ธรรมะเพื่อเอาชนะตัวเอง)  ท่านจะเลือกเป็น:
กล่าวคำดังนี้  "ให้อภัยนะ":
กล่าวคำดังนี้  "ขออโหสิกรรม":
หากมีคน บอกว่า เราไม่ดีเราเลว แต่ใจเรารู้ว่าไม่เป็นเช่นนั้น เราจะใช้วิธีใดจัดการกับเรื่องนี้  (โต้เถียงให้แรงกว่าที่เค้าว่ามา) หรือ (เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ความดีของเราเองไม่ต้องทำอะไร):
ในโลกออนไลน์หรือโลกแห่งจิต ไม่มีใครทำอะไรเราได้ นอกเสียไปจาก (คนพาล) หรือ (ใจของเราเอง):
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ใต้ร่มธรรมเองก็จะเป็นไปตามวัฐจักรนี้ ฉันท์ใดก็ฉันท์นั้น (เป็นจริง) หรือ (ไม่จริง):
ธรรมะคือ ธรรมชาติ พิมพ์คำว่า (ธรรมะชาติ) ครับ:
รู้สึกระอายใจไหมที่เราทำร้ายคนอื่นด้วยวาจาหรือสำนวนที่ไม่สุภาพ โดยที่คนคนนั้นเค้าเคยเป็นผู้มีพระคุณต่อเรามา (ไม่ละอายใจ)หรือ(ละอายใจ):
สำนวนไทยที่ว่า แต่ละคนต่างมีรสนิยมแตกต่างกัน หรือไม่ตรงกัน  พิมพ์สำนวนต่อไปนี้ครับ (ลางเนื้อชอบลางยา):
ขนทรายเข้าวัดคือ พิมพ์สำนวนต่อไปนี้ครับ (ทำบุญทำกุศลโดยวิธีนำหรือหาประโยชน์เพื่อส่วนรวมมิได้ทำเพื่อตนเอง):
ผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ ผู้ที่ทำตนให้เล็กที่สุด ผู้ที่เล็กที่สุดก็จะกลายเป็นผู้ที่ใหญ่ที่สุด ผู้ที่มีเกียรติคือผู้ที่ให้เกียรติผู้อื่น ฉะนั้นสมาชิกใต้ร่มธรรมควรให้เกียรติกันและกัน พิมพ์คำว่า (ฉันจะให้เกียรติสมาชิกทุกๆท่านในใต้ร่มธรรมเสมอด้วยวาจาสุภาพอ่อนน้อม):
ไม่มีอะไรสายสำหรับการเริ่มต้น พิมพ์เป็นประโยคภาษาอังกฤษครับ เป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมดนะครับ เว้นวรรคคำด้วยครับ (It is never too late to mend):

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: ธันวาคม 05, 2012, 12:34:34 pm »

ในหลวงตรัสขอบใจพสกนิกรที่แสดงพลังวันนี้ทำให้ทรงมีกำลังพระทัย-ทรงแนะยึดหลักเมตตาธรรมบ้านเมืองจะรอดปลอดภัย
-http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNMU5EWTNPVGN4TVE9PQ==&subcatid=-


วันที่ 5 ธ.ค. เมื่อเวลา 09.54 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับรถเข็นเสด็จลงจากชั้น 16 โรงพยาบาลศิริราช โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัตน์ พระวรชายา พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ตามเสด็จ

โดยระหว่างทางประชาชนจำนวนมากสวมเสื้อสีเหลืองเฝ้ารับเสด็จ และต่างเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้องทั่วโรงพยาบาลศิริราช ยาวนานต่อเนื่องกันตลอดระยะเวลา หลังประทับรถยนต์พระที่นั่ง ขบวนรถยนต์พระที่นั่งเคลื่อนช้าๆ ด้วยความเร็ว 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อความปลอดภัยและให้ประชาชนได้ชมพระบารมี มุ่งหน้าสู่พระที่นั่งอันตสมาคม

ทั้งนี้ ตลอด 2 ข้างทางเส้นทางเสด็จพระะราชดำเนินผ่าน ประชาชนเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้องมิได้ขาด พร้อมกับโบกธงชาติ ธงพระปรมาธิภัยภปร. รวมถึงชูภาพฉายาลักษณ์ของพระบาทเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระอิริยาบทต่างๆ ที่ตระเตรียมมาด้วยแววตาเปี่ยมด้วยความสุข บางคนถึงกับกลั้นน้ำตาแห่งความความปลื้มปิติไว้ไม่อยู่ที่ได้แสดงออกถึงความรักในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและวันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่ประชาชนชาวไทยมีความสุข ด้วยหัวใจทุกดวงหลอมรวมเป็นดวงเดียวกัน

ต่อมาเวลา 10.40 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกพระที่นั่งอนันตสมาคม พระบรมวงศานุวงศ์ องคมนตรี เลขาธิการพระราชวัง ราชเลขาธิการ สมาชิกราชสกุล และสตรีผู้มีบรรดาศักดิ์ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เมื่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงยืนเฝ้าฯ ที่แท่นหน้าสีหบัญชร พร้อมแล้ว พนักงานรัวกรับ เปิดพระวิสูตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกสีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม ชาวพนักงานกระทั่งแตรมโหระทึก ประโคมแตรฝรั่ง ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพ ถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติฝ่ายละ 21 นัด

ครั้นสุดเสียงประโคมแล้ว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ทรงเปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูล พระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนพระบรมวงศานุวงศ์ ความว่า

“ขอเดชะฝ่าละอองธุรพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม บัดนี้ อุดมมงคลสมัยเฉลิมพระชนมพรรษาอีกวาระหนึ่ง ข้าพระพุทธเจ้า เหล่าพระบรมวงศานุวงศ์ มีความปีติ ปราโมทพ้นประมาณ ที่ได้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทร่วมกับบรรดาข้าราชการ และประชาชน จากทุกถิ่นฐานทั่วราชอาณาจักร ซึ่งพร้อมใจมาชุมนุมในมหาสมาคมอันใหญ่ยิ่งนี้ เพื่อถวายพระพรชัยมงคล ข้าพระพุทธเจ้าทั้งปวงเป็นผู้มีโชควาสนาที่เกิดมาในแผ่นดินไทยภายใต้พระบุญญาบารมี ภายใต้พระมหากรุณาชุบเลี้ยงให้มีความสุขความเจริญและมีเกียรติยศเป็นที่เชิดชู เจริญฐานานุศักดิ์ และทั้งได้เฝ้าสังเกตศึกษาพระราชจิรยาโดยประจักษณ์แก่ตาแก่ใจอยู่ตลอดเวลา ทำให้เกิดศรัทธาเชื่อมั่น ด้วยเห็นแท้แน่แก่ใจว่า พระราชกิจน้อยใหญ่ที่ทรงพระราชอุสาหะปฎิบัติบำเพ็ญด้วยพระวิริยะ และพระขันติธรรมอย่างยิ่งยวดนั้น ล้วนเป็นไปเพื่อประโยชน์ คือความผาสุกร่มเย็นของอาณาประชาราช และความมั่นคงปลอดภัยของประเทศชาติทั้งสิ้น พระบารมีซึ่งแผ่ปกเกล้าปกกระหม่อมทุกเช้าค่ำนี้ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งปวงต่างสำนึก รู้อยู่ทุกเวลา ด้วยกตัญญูกตเวทิตาจิตร ในมหามงคลสมัยพิเศษนี้ ยังมีสมานฉันท์พร้อมใจกันถวายสัตย์ปฏิญาณว่า จะตั้งตัว ตั้งใจมั่นอยู่ในธรรมสุจริตและในความจงรักภักษ์ดี จะมุ่งมั่นประพฤติตัวปฏิบัติงาน ตามภาวะ ฐานะและหน้าที่ของตนให้สำเร็จผลเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน สืบสานพระราชปฏิธาน แห่งใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทโดย เต็มกำลังสติปัญญาและความสามารถเพื่อสนองพระมหากรุณาธิคุณ และขอพระราชทานถวายพระพรชัยมงคล

ขออนุภาพคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์พระบรมเดชานุภาพแห่งสมเด็จพระมหากษัตริย์ในอดีตทุกพระองค์ จงพร้อมกันอภิบาลรักษาใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทให้สมบูรณ์ด้วยพระอนามัย มีพระราชหฤทัยผ่องแผ้วเบิกบาน ปลอดพ้นจากเรื่องรบกวนกังวล ทรงพระเจริญ พระชนม์สุขศิริสวัสดิ์ เป็นร่มฉัตร ร่มโพธิ์ ร่มไทรของปวงข้าพระพุทธเจ้า และประชาชนชาวไทยยั่งยืนไปตลอดกาลนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ”

จากนั้น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ เสด็จพระราชดำเนินไปเฝ้าฯ ณ ท้องพระโรงหน้าที่พระที่นั่งอนันตสมาคม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล ในนามคณะรัฐมนตรี ข้าราชการทหาร-พลเรือน และราษฎรทุกหมู่เหล่า ความว่า

“ในมหามงคลสมัย วันเฉลิมพระชมพรรษาเวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่ง ข้าพระพุทธเข้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในนามของคณะรัฐมนตรี ข้าราชการไทยและประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าที่มาชุมนุมพร้อมกันในมหาสมาคมแห่งนี้ รู้สึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้ ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เข้าเฝ้าฯ เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายพระพรชัยมงคลด้วยน้ำใจที่เปี่ยมด้วยความจงรักษ์ภักดี ตลอดระยะเวลาอันยาวนานภายใต้พระบารมี ในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ประชาชนชาวไทยทั้งหมดทั้งสิ้นล้วนประจักษ์ชัดแจ้งว่า ความสุข ความสงบร่มเย็น ความเจริญก้าวหน้าสารพัดในประเทศนี้ เป็นผลมาจากพระราชวิริยอุสาหะและพระมหากรุณาธิคุณในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทที่ทรงปฏิบัติบำเพ็ญมาต่อเนื่องยาวนานโดยแท้พระเดชพระคุณที่ทรงบริบาลรักษา ตลอดจนพระบารมีที่ปกแผ่คุ้มเกล้าเหล่าปวงประชาเกินกว่าถ้อยคำที่ปวงข้าพระพุทธเจ้าจะพรรณาได้ครบถ้วน ณ มหามงคลโอกาส แห่งวันเฉลิมพระชมพรรษา 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2555 ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพระบรมราชานุญาติ อัญเชิญอำนาจแห่งคุณพระรัตนตรัย พระเดชานุภาพของสมเด็จพระมหากษัตริย์ในอดีต กับทั้งอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากล จงเป็นผลดลบันดาล ให้ใต้ผ่าละอองธุรีพระบาททรงพระเจริญเกษมสุข มีพระกมลปราถนาสิ่งใดจงสัมฤทธิ์ ทรงสถิตย์เป็นธงชัยของชาติและประชาชนตลอดกาลนาน ดังใจปราถนาของข้าพระพุทธเข้าทั้งปวง ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ”

จากนั้นนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภาเปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล ในนามสมาชิกรัฐสภา ประธานศาลฎีกาเปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล ในนามข้าราชการตุลาการ จากนั้นผู้บัญชาการทหารสูงสุดกราบบังคมทูลพระกรุณาและกล่าวนำทหารรักษาพระองค์ถวายสัตย์ปฏิญาณ และทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ผู้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในมหาสมาคมถวายความเคารพพร้อมกัน

ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสว่า “คำปฏิณาณ และสัญญาที่พวกท่านได้กล่าวนั้น เป็นที่ประทับใจมาก ไมตรีจิต ทั้งหลายตลอดจนชาวไทยทุกคนที่พรั่งพร้อมกันมาด้วยความปราถนาดี และความพร้อมเพียงกัน อย่างที่ได้เห็นในวันนี้ทำให้ข้าพเจ้าปลื้มใจ มีกำลังใจมาก มากขึ้น ด้วยความเชื่อเสมอว่า ความเมตตาปราถนาดีของท่าน เป็นปัจจัยอย่างสำคัญที่ทำให้ความพร้อมเพียงให้เกิดขึ้น ดีขึ้นทั้งในหมู่คณะและในชาติบ้านเมือง ถ้าคนไทยเรายังมีคุณธรรมอันดี ปราศจากมีคุณธรรมข้อนี้ประจำในจิตใจก็มีความหวังได้ว่าบ้านเมืองไทย ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดๆ ก็จะอยู่รอด ปลอดภัย และดำรงมั่นคงต่อไป ได้ตลอดรอดฝั่ง อย่างแน่นอนขออำนาจแห่งคุณพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์จงคุ้มครองรักษาท่านและชาติไทยให้มีแต่ความผาสุขร่มเย็น เลื่องลือไกล”
ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: ธันวาคม 05, 2012, 12:34:15 pm »

เนืองแน่นข้ามคืน รับเสด็จ ทรงออกสีหบัญชร
-http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdNakExTVRJMU5RPT0=&sectionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBeE1pMHhNaTB3TlE9PQ==-

ที่จ.ปราจีนบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ตลาดหน้าค่ายจักรพงษ์ อ.เมือง มีประชาชนตามหมู่บ้านและข้าราชการเริ่มทยอยมาซื้อเสื้อเหลืองเป็นจำนวนมาก เพื่อสวมใส่ในงานวันเฉลิมพระชนมพรรษา นางกัญญารัตน์ แจ่มศรี เจ้าของร้านเสื้อผ้าร้านตาเงาะ กล่าวว่า ทางจังหวัดได้สั่งของมาเตรียมรองรับจำนวนมาก คาดว่าจะขายดีในวันที่ 4-5 ธ.ค.นี้ ด้านนางกรณิกา ชมความสุข ร้านเจ้กิมเองผ้าเมตร กล่าวว่า การซื้อขายเสื้อเหลืองปีนี้คึกคัก ส่วนราคาจำหน่ายอยู่ที่ตัวละ 100 กว่าบาท

ที่จ.นครราชสีมา มีประชาชนพากันไปเลือกซื้อเสื้อสีเหลืองสัญลักษณ์ประจำพระองค์ที่ตลาดจำหน่ายเสื้อผ้า ถ.ตรอกจันทร์ อ.เมือง นางชุติมา ธีระเดชากิจ แม่ค้าจำหน่ายเสื้อผ้า กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. เสื้อสีเหลืองที่มีสัญลักษณ์ประจำพระองค์จะขายดีมาก รองลงมาคือสีชมพู โดยมีพนักงานหน่วยงานราชการและพนักงานบริษัทต่างๆ มาเลือกซื้อไปสวมใส่กันเป็นจำนวนมาก เฉลี่ยขายได้วันละไม่ต่ำกว่า 50 ตัว ทำให้มีรายได้ 5,000-6,000 บาทต่อวัน ทำให้ปริมาณเสื้อเหลืองไซซ์ผู้ใหญ่ขาดตลาด ส่วนใหญ่จะเหลือเพียงเสื้อขนาดเล็กและเสื้อเชิ้ตที่ไม่มีสัญลักษณ์



หนองคายสวดมนต์ถวายพร

ที่จ.หนองคาย คณะครูและนักเรียน ร.ร.อนุบาลหนองคาย ร่วมกันสวดมนต์ขอพรหลวงพ่อพระใส พระคู่บ้านคู่เมืองหนองคาย ขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ หายจากพระประชวรโดยเร็ว นายสัมฤทธิ์ เจริญดี ผอ.ร.ร. อนุบาลหนองคาย กล่าวว่า กิจกรรมนี้จัดขึ้นภายใต้โครงการค่ายคุณธรรม ปี 2555 ตามนโยบายเรียนฟรี 15 ปี "ทำความดีถวายในหลวง เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค. 2555" ส่งเสริมให้นักเรียนได้กระทำความดีตามที่ตนเองต้องการ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และปลูกฝังให้นักเรียนและครอบครัวมีความจงรักภักดี

ด้านนายอโณทัย ธรรมกุล ปลัดจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมลูกเสือชาวบ้านทบทวนจังหวัดหนองคาย ประจำปี 2555 ระหว่างวันที่ 4-5 ธ.ค. ที่กองร้อยอาสารักษาดินแดน เพื่อเฉลิมพระเกียรติ โดยมีลูกเสือชาวบ้าน 300 คน จาก 9 อำเภอ ร่วมเข้าอบรม



ปฏิบัติธรรม-อุปสมบทหมู่ถวาย

ที่จ.เลย เรือนจำจังหวัดเลย จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ และพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณของข้าราชการเรือนจำจังหวัดเลย เพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดินปี 55 มีนายวีรชัย เพชรรัตน์ ผบ.เรือนจำจังหวัดเลย เป็นประธาน พร้อมทำบุญตักบาตรพระ 9 รูป จากนั้นประธานฝ่ายสงฆ์ ได้นำข้าราชการของเรือนจำและผู้ต้องขังของเรือนจำจังหวัดเลยประมาณ 1,700 คน ทั้งชายและหญิง ร่วมกันนั่งสมาธิปฏิบัติธรรม เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล

ที่จ.ขอนแก่น นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานพิธีอุปสมบทหมู่จำนวน 25 รูป เพื่อเฉลิมพระเกียรติ และบำเพ็ญคุณงามความดีถวายเป็นพระราชกุศล ณ วัดศรีจันทร์ พระอารามหลวง อ.เมือง ส่วนที่หอประชุม 72 ปี ดร.ประภา ภักดิ์โพธิ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1 นายสายัณย์ ผาน้อย ผอ. (สพป.เขต1) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ข้าราชการครู บุคลากรทางการศึกษา นักเรียน นักศึกษา และประชาชน ร่วมบริจาคโลหิต เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและแสดงออกถึงความจงรักภักดี

ที่จ.บุรีรัมย์ นายมานะ อักษรณรงค์ ผอ. ร.ร.อนุบาลบุรีรัมย์ พร้อมคณะครู เจ้าหน้าที่ ผู้ปกครอง และนักเรียนกว่า 2,000 คน ร่วมทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศล นอกจากนี้ ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัด จัดกิจกรรมปล่อยพันธุ์ปลานิล และปลาตะเพียน จำนวน 100,000 ตัว ลงในคลองละลมโบราณลูกที่ 4 บริเวณหน้าศาลเจ้าแม่บัวลอย ชุมชนหลักเมือง เทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลด้วย



อยุธยาเสื้อเหลืองขาดตลาด

ที่ตลาดหัวรอ จ.พระนครศรีอยุธยา ประชาชนพากันเลือกซื้อเสื้อสีเหลืองอย่างคึกคัก นางรัตนา แก้วรัตนปัทยา อายุ 55 ปี เจ้าของร้านเสื้ออั่งเปา กล่าวว่า ตลอดสัปดาห์มีประชาชนมาเลือกซื้อเสื้อสีเหลืองไม่ขาดสาย โดยประชาชนทั่วไปนิยมเสื้อยืด ส่วนข้าราชการนิยมเสื้อคอปกหรือเสื้อเชิ้ต แต่ตอนนี้เกิดปัญหาเสื้อขาดตลาด เนื่องจากแบบที่ผลิตออกมาจำหน่ายมีน้อย ไม่ทันกับความต้องการของประชาชนที่สูงขึ้น

ที่จ.ศรีสะเกษ นายประทีป กีรติเรขา ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อม รอง ผวจ.ศรีสะเกษ และนายฉัฐมงคล อังคสกุลเกียรติ นายกเทศมนตรีเมืองศรีสะเกษ นำข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน นักเรียนและนักศึกษา ร่วมกิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศล ณ สวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา (อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำ) โดยสัตว์น้ำที่นำมาปล่อย ประกอบด้วย ปลานิล ปลาตะเพียน ปลากระแห และปลายี่สกเทศ ทั้งนี้พันธุ์ปลาส่วนหนึ่งจะมอบให้ชุมชนต่างๆ ในเทศบาลเมืองศรีสะเกษ นำไปปล่อยในแหล่งน้ำของตน เพื่อช่วยกันขยายพันธุ์สัตว์น้ำต่อไป



ปล่อยพันธุ์ปลา-กุ้ง-ปูม้า

ที่จ.ปัตตานี นายประมุข ลมุล ผวจ.ปัตตานี เป็นประธานในพิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำลงสู่อ่าวปัตตานี ประกอบด้วยพันธุ์กุ้งกุลาดำ 1 ล้านตัว พันธุ์ปลากะพงขาว 2 หมื่นตัว และพันธุ์ปูม้าอีก 1 หมื่นตัว เพื่อเฉลิมพระเกียรติและอนุรักษ์ฟื้นฟูอ่าวปัตตานี โดยมีข้าราชการ ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำชุมชน ชาวประมงพื้นบ้าน และประชาชนทั่วไป ร่วมงานจำนวนมาก นอกจากนี้ภายในงานยังจัดแสดงสัตว์น้ำเศรษฐกิจที่มีอยู่ในอ่าวปัตตานี และสาธิตเมนูซีฟู้ดให้ผู้ร่วมงานลองชิมด้วย

ที่จ.นราธิวาส นายเจษฎา จิตรัตน์ นายอำเภอระแงะ พ.อ.เฉลิมชัย สุทธินวล ผบ.กรมทหารพรานที่ 45 นายนูซี มะเด็ง ผอ.โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 39 และนายพิมาน ยูโซะ นายก อบต.ตันหยงมัส ร่วมเป็นประธานทำกิจกรรมปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ 5 ธันวามหาราช เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยปลูกต้นราชพฤกษ์และต้นตะเคียน 1,500 ต้น บริเวณริมถนนและสระน้ำภายในโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 39



กาญจน์แห่ซื้อเสื้อคึกคัก

ที่จ.กาญจนบุรี ประชาชนแห่ซื้อเสื้อเหลืองมีสัญลักษณ์ ภปร. มาสวมใส่ โดยเฉพาะที่ร้านศรีพูลทรัพย์ (เจ้เป้า) ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายเสื้อผ้าที่ใหญ่ที่สุดใน อ.เมือง มีทั้งข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และประชาชนทั่วไป ทยอยเดินทางไปเลือกซื้อเสื้ออย่างคึกคัก ด้านนายเสกสรรค์ บุญมา อายุ 44 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.10 ต.ปากแพรก อ.เมือง กล่าวว่า ตนพร้อมครอบครัว และเพื่อนๆ นัดกันใส่เสื้อสีเหลืองที่มีตราสัญลักษณ์ ภปร. และจะร่วมกันจุดเทียนถวายพระพรให้ทรงหายพระประชวร มีพระวรกายแข็งแรง พระชนมายุยิ่งยืนนาน โดยตนจะสั่งสอนลูกชายให้เป็นคนดี และนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต



ชลบุรีปล่อยเต่าทะเล

ที่จ.ชลบุรี พล.ร.อ.ฆนัท ทองพูล ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นประธานเปิดกรวยกระทงดอกไม้ ถวายพระพรหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และเปิดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติภายใต้โครงการ "ปล่อยเต่าทะเลคืนสู่ธรรมชาติ ทำความดีถวายพ่อหลวง" โดยมี พล.ร.ต.นพดล สุภากร ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ร่วมกับทหารเรือ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชนทั่วไป และศิลปินดารา รวมกว่า 1,500 คน ร่วมปล่อยเต่าทะเล จำนวน 986 ตัว ลงสู่ท้องทะเล ณ ชายหาดศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลกองทัพเรือ อ.สัตหีบ



คนบันเทิงจุดเทียนถวายพร

ที่ลานการ์เด้น อาคาร ดิ ออฟฟิศเศส แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ราชประสงค์ กลุ่มคนบันเทิงรักประเทศไทย ประกอบด้วย ศิลปินดารา ค่ายเพลง ค่ายหนัง ค่ายละคร ตลอดจนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับวงการบันเทิง จัดงาน "LONG LIVE THE KING จุดเทียนชัยถวายพ่อหลวง" เพื่อรวมพลังความศรัทธาและความสามัคคี แสดงความจงรักภักดี เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศงานเป็นไปอย่างคึกคัก ภายในงานมีการออกบูธขายของโดยเหล่าศิลปินดารา มีมินิคอนเสิร์ต พร้อมร่วมจุดเทียนชัยถวายพระพร โดยได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างมาก

สำหรับศิลปินดาราที่มาร่วมงาน ได้แก่ ต้อย-เศรษฐา ศิระฉายา และครอบครัว, แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์, ตุ๊กกี้-สุดารัตน์ บุตรพรหม, ขวัญ-อุษามณี ไวทยานนท์, เชียร์-ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์, ปู-ไปรยา สวนดอกไม้ ลุนด์เบิร์ก, แตงโม-ภัทรธิดา พัชระวีรพงษ์, ตั๊ก-บงกช คงมาลัย, หน่อย-บุษกร วงศ์พัวพันธ์, กอบสุข จารุจินดา, อี๊ด วงฟลาย, พี สะเดิด, ฟอร์ด-สบชัย ไกรยูรเสน, เมย์-พิชญ์นาฏ สาขากร, วิว-วรรณรท สนธิไชย, อั้ม-อธิชาติ ชุมนานนท์ ฯลฯ



แจกธงผู้จับจองที่รอรับเสด็จ

สำหรับยอดเงินรายได้จากการดำเนินการต่างๆ ทั้งออกบูธ รับบริจาค ประมูลของใช้ดารา และอื่นๆ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 147,491.50 บาท โดยจะนำไปสมทบทุนโครงการดังกล่าว จากนั้นก็นำรายได้ทั้งหมดไปมอบให้กับมูลนิธิพระดาบส

ต่อมาเวลา 18..00 น. หลังจากเคารพธงชาติแล้ว ศิลปินดาราและประชาชนที่มาร่วมงานจำนวน 785 คน ได้เดินออกไปยังลานหน้าอาคารเพื่อร่วมกันแปรอักษรคำว่า "LONG LIVE THE KING" ในขณะแปรอักษรได้ร่วมกันร้องเพลง สรรเสริญพระบารมี, พ่อของแผ่นดิน, สดุดีมหาราชา โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที พร้อมจุดเทียนชัยถวายพระพร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่ประชาชนเข้าจับจองพื้นที่รอรับเสด็จ ณ ลานพระบรมรูปทรงม้านั้น เจ้าหน้าที่ได้นำธงชาติและธงพระปรมาภิไธยไปแจกจ่าย เพื่อเตรียมไว้ระหว่างมีพระราชพิธีวันเฉลิมพระชนมพรรษา เสด็จออกมหาสมาคม ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม



หมายกำหนดการพระราชพิธี 5ธ.ค.

สำหรับหมายกำหนดการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2555 นั้น เวลา 10.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกพระที่นั่งอนันตสมาคม พระบรมวงศานุวงศ์ องคมนตรี เลขาธิการพระราชวัง ราชเลขาธิการ สมาชิกราชสกุล และสตรีผู้มีบรรดาศักดิ์ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เมื่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงยืนเฝ้าฯ ที่แท่นหน้าสีหบัญชร พร้อมแล้วพนักงานรัวกรับ เปิดพระวิสูตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกสีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม ชาวพนักงานกระทั่งแตรมโหระทึก ประโคมแตรฝรั่ง ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพ ถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติฝ่ายละ 21 นัด

ครั้นสุดเสียงประโคมแล้ว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูล พระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนพระบรมวงศานุวงศ์ จบ เสด็จพระราชดำเนินไปเฝ้าฯ ณ ท้องพระโรงหน้าที่พระที่นั่งอนันตสมาคม นายกรัฐมนตรีเปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนคณะรัฐมนตรี ข้าราชการทหาร-พลเรือน และราษฎรทุกหมู่เหล่า ตามด้วยประธานรัฐสภาและประธานศาลฎีกา จากนั้นผู้บัญชาการทหารสูงสุด กราบบังคมทูลพระกรุณาและกล่าวนำทหารรักษาพระองค์ถวายสัตย์ปฏิญาณ จบ ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ผู้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในมหาสมาคมถวายความเคารพพร้อมกัน

ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสตอบ จบแล้ว ผู้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในมหาสมาคมทั้งหมดถวายความเคารพ ชาวพนักงานกระทั่งมโหระทึกประโคมแตรฝรั่ง ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีเจ้าพนักงานรัวกรับและปิดพระวิสูตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ

เวลาบ่าย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม

ทั้งนี้ ในวันที่ 5 ธ.ค. ตั้งแต่เวลา 09.17 น. ถึง 17.00 น. สำนักพระราชวังจัดที่สำหรับลงพระนามและลงนามถวายพระพรไว้ที่ในพระบรมมหาราชวัง

ในวันที่ 6 ธ.ค. ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในวันที่ 8 ธ.ค. เวลา 17.30 น. ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ เสด็จออก ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา คณะทูตต่างประเทศ และผู้แทนฝ่ายกงสุล เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายพระพรชัยมงคลในการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา



แถลงการณ์พระอาการราชินี

สำนักพระราชวังได้ออกแถลงการณ์ เรื่องสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระประชวรขณะประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ฉบับที่ 12 ความว่า วันนี้คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้รายงานว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระอาการทั่วไปดีทรงพระดำเนินตลอดจนเคลื่อนไหวพระวรกายได้เกือบปกติ แต่ยังมีพระพลานามัยไม่สมบูรณ์เต็มที่ โอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จออกมหาสมาคม ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม ในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา วันพุธ ที่ 5 ธันวาคม ศกนี้

คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีความเห็นพ้องต้องกันว่า แม้พระราชพิธีนี้จะเป็นพระราชพิธีสำคัญ แต่ก็ต้องใช้เวลานานพอสมควร กอปรกับเป็นพระราชพิธีเดียวที่พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ต้องทรงยืนตั้งแต่ต้นจนเสร็จพิธี เว้นแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์เดียวประทับพระราชอาสน์ ดังนั้น หากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะเสด็จพระราชดำเนินในการพระราชพิธีนี้ ก็อาจจะต้องทรงฝืนกำลังพระวรกายเป็นอันมาก เนื่องจากทรงพระประชวรอยู่เป็นเวลาหลายเดือน แม้จะทรงทำกายภาพบำบัดด้วยการทรงพระดำเนินเป็นประจำ แต่พระพลานามัยก็ยังไม่สมบูรณ์เต็มที่ การเสด็จพระราชดำเนินในพระราชพิธีนี้เป็นครั้งแรก อาจทำให้ทรงอ่อนเพลีย และต้องทรงฟื้นฟูพระวรกายอีกเนิ่นนานก็เป็นได้

คณะแพทย์ฯจึงกราบบังคมทูลขอให้ทรงงดพระราชกิจครั้งนี้ และต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง ทั้งนี้คณะแพทย์ฯได้นำความกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทด้วยแล้ว จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน สำนักพระราชวัง 4 ธันวาคม พุทธศักราช 2555
ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: ธันวาคม 05, 2012, 12:33:51 pm »

เนืองแน่นข้ามคืน รับเสด็จ ทรงออกสีหบัญชร
-http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdNakExTVRJMU5RPT0=&sectionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBeE1pMHhNaTB3TlE9PQ==-

พสกนิกร-ปีติ ได้เฝ้าฯในหลวง สำนักพระราชวัง แถลง-พระราชินี ทรงงดราชกิจนี้

"ในหลวง"เสด็จออกมหาสมาคม ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคมวันนี้ เนื่องในพระราชพิธีวันเฉลิมพระชนมพรรษา พสกนิกรจับจองพื้นที่-นอนรอที่ลานพระบรมรูปทรงม้าแน่นล้นไปถึงราชดำเนินรอรับเสด็จ สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์เผยคณะแพทย์กราบบังคมทูลขอให้พระราชินีทรงงดพระราชกิจครั้งนี้ เนื่องจากพระพลานามัยก็ยังไม่สมบูรณ์เต็มที่ กระทรวงสาธารณสุขระดมแพทย์-พยาบาล 500 ชีวิตดูแลประชาชนที่มาร่วมพระราชพิธี



ทูลกระหม่อมเปิดงาน 5 ธันวา

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 4 ธ.ค. ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จทรงเป็นประธานในพิธีเปิดงานมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา "5 ธันวามหาราช" ครั้งที่ 36 ณ บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง กรุงเทพ มหานคร และจากนั้นเป็นการแสดงกลางแจ้งและการแสดงมหกรรมวงดุริยางค์ของสถานศึกษาต่างๆ ซึ่งงานดังกล่าวนี้จัดโดยรัฐบาลร่วมกับมูลนิธิ 5 ธันวามหาราช ระหว่างวันที่ 1-6 ธ.ค.

โดยในวันที่ 5 ธ.ค. เวลา 19.19 น. มีพิธีถวายเครื่องราชสักการะ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคลและถวายเครื่องราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธานจุดเทียนชัยถวายพระพร พร้อมกับพสกนิกรทุกหมู่เหล่า และวันที่ 6 ธ.ค. มีพิธีอัญเชิญเครื่องราชสักการะเฉลิมพระเกียรติไปทูลเกล้าฯ ถวาย ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน นอกจากนั้นยังมีการแสดงกลางแจ้งและการแสดงบนเวทีของสถานศึกษาต่างๆ การแข่งขันชกมวยสากลชิงแชมป์โลก การแข่งขันชิงแชมป์มวยไทยโลกชาย-หญิง และมหรสพสมโภชตลอดงาน



ตร.ระดมรปภ.พื้นที่จัดงาน 3 จุด

วันเดียวกัน พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงยืนยันความพร้อมการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยและการอำนวยความสะดวก งานพระราชพิธี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกมหาสมาคม ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม ในงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2555 ว่าพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ได้กำชับให้ข้าราชการตำรวจทุกนายปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ จัดตั้งกองอำนวยการร่วม ตามจุดสำคัญต่างๆ ในพื้นที่การจัดงาน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน สืบสวนหาข่าวป้องกันกลุ่มบุคคลที่อาจเข้ามาสร้างความวุ่นวายและส่งผลกระทบต่อการจัดงาน รวมถึงป้องกันการก่อเหตุอาชญากรรมต่างๆ ดูแลรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ

โดยแบ่งพื้นที่รักษาความปลอดภัยเป็น 3 จุด ประกอบด้วย พื้นที่ชั้นใน พื้นที่ชั้นกลาง และพื้นที่ชั้นนอก พร้อมจัดเตรียมหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดหรืออีโอดี เอกซเรย์พื้นที่บริเวณงาน พร้อมวางกำลังตั้งแต่เวลา 04.00 น.วันที่ 5 ธ.ค. พร้อมกันนี้ ก็ให้เน้นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบเส้นทางจราจร ขอความร่วมมือให้ใช้บริการรถสาธารณะ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเริ่มปิดการจราจรบริเวณโดยรอบลานพระบรมรูปทรงม้า ตั้งแต่เวลา 18.00 น.วันที่ 4 ธ.ค.เป็นต้นไป หากประชาชนมีปัญหาการเดินทางสอบถามข้อมูลผ่านทางสายด่วน 1197 บก.จร.,1255 สถานีจราจรเพื่อสังคม,1644 สวพ.91 หรือ 1137 จส.100



เตรียม 500 แพทย์-พยาบาลดูแล

ด้านนพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณ สุข เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และพยาบาลดูแลประชาชนที่เข้าร่วมพิธี บริเวณลานพระราชวังดุสิต ในวันที่ 5 ธ.ค. ว่า รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับสำนักการแพทย์ สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร สมาคมโรงพยาบาลเอกชน โรงพยาบาลสังกัดมหาวิทยาลัย และหน่วยงานอื่นๆ ในการเตรียมระบบการแพทย์และพยาบาล เพื่อดูแลสุขภาพประชาชน ที่คาดว่าจะมาร่วมพิธีกว่า 200,000 คน โดยได้มอบหมายให้กรมการแพทย์ เป็นหน่วยงานหลักในการประสานงาน ซักซ้อมความพร้อม การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ให้บริการประชาชนอย่างเต็มที่

นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในการจัดเตรียมทีมแพทย์ ได้ระดมหน่วยจากโรงพยาบาลสังกัดภาครัฐ และเอกชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล รวมทั้งหมด 28 แห่ง เป็นแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ กว่า 500 คน รถพยาบาลกว่า 80 คัน โดยมีเต็นท์พยาบาลทั้งหมด 11 จุด บริเวณหน้าสนามเสือป่า สวนอัมพร กองทัพภาคที่ 1 วังปารุสกวัน ทำเนียบรัฐบาล กระทรวงศึกษาธิการ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ กองบัญชาการกองทัพบก กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แต่ละจุดจะมีสัญลักษณ์คือป้ายผ้ากระทรวงสาธารณสุขและโรงพยาบาลที่ออกปฏิบัติงาน

หน่วยปฏิบัติงานจะมีทั้งหน่วยประจำการที่เต็นท์หน่วยพยาบาลเดินเท้าสวมชุดสีฟ้า เพื่อให้บริการประชาชนอย่างทั่วถึง โดยเริ่มปฏิบัติงานตั้งแต่ เวลา 05.00 น. จนเสร็จสิ้นพระราชพิธี สามารถโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือได้ที่ ศูนย์เอราวัณ กรุงเทพมหานคร สายด่วน 1646 ฟรี



ผบ.ทร.เชิญชวนร่วมรับเสด็จ

ที่หอประชุมกองทัพเรือ พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผบ.ทร. เป็นประธานการจัดกิจกรรม "ร้อยรวมดวงใจ เทิดไท้องค์ราชัน" เฉลิมพระ เกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2555 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและแสดงความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีข้าราชการ ทหาร ลูกจ้าง พนักงานราชการและครอบครัวกองทัพเรือเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

พล.ร.อ.สุรศักดิ์กล่าวว่า กองทัพเรือจัดกิจกรรมถวายพระพรชัยมงคลต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พร้อมทั้งมีกิจกรรมปล่อยพันธุ์ปลาน้ำจืด จัดนิทรรศการแสดงพระบรมฉายาลักษณ์ในพระอิริยาบถต่างๆ จัดนิทรรศการแสดงภาพพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค การสาธิตการพายและเห่เรือ การปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ ที่วัดเครือวัลย์วรวิหาร และกิจกรรมบริจาคโลหิตเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล



ทูลเกล้าฯถวายเหรียญพระคลัง

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนม พรรษา 85 พรรษา ในวันที่ 5 ธ.ค. 2555 กระทรวงการคลัง และกรมธนารักษ์ ได้ตระหนักในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงอุทิศพระองค์พัฒนาคุณภาพชีวิตของพสกนิกรชาวไทยให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จึงได้นำเหรียญที่ระลึกพระคลัง ในพระคลังมหาสมบัติ จำนวน 4 ประเภท คือ เหรียญทองคำขัดเงา มีน้ำหนัก 300 กรัม ซึ่งจัดทำเป็นพิเศษโดยมีอักษร "พ" อยู่ที่ขอบเหรียญ เหรียญทองคำธรรมดา เหรียญเงินรมดำพ่นทรายพิเศษ และเหรียญทองแดงรมดำพ่นทราย จำนวนอย่างละ 1 เหรียญ ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายในโอกาสนี้

เนืองแน่น - บรรยากาศประชาชนแห่เข้าจับจองพื้นที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าช่วงค่ำวันที่ 4 ธ.ค. ซึ่งคาดว่าจะมีพสกนิกรกว่า 2 แสนคนรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกมหาสมาคมในวันนี้





พสกนิกรจับจองที่-เฝ้ารอพิธี

เวลา 18.00 น. ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า มีการเตรียมความพร้อมสำหรับพิธีวันเฉลิมพระชนมพรรษา โดยมีเจ้าหน้าที่ดูแลความสะอาดเรียบร้อยและปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบ การติดตั้งจอมอนิเตอร์ตลอดสองฝั่งถนนเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการถ่ายทอด การจัดเตรียมเต็นท์เพื่อให้บริการประชาชน และจุดพยาบาล รวมถึงการระบายรถออกจากบริเวณดังกล่าว เพื่อเตรียมปิดพื้นที่ลานพระบรมรูปทรงม้า มีประชาชนทยอยกันเดินทางเข้ามาจับจองพื้นที่เพื่อรอร่วมพิธีในช่วงเช้าเป็นจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่ได้นำแผงเหล็กมากั้นเป็นแนวกำหนดพื้นที่ให้กับประชาชน ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าก็เริ่มเดินทางมาจับจองพื้นที่ขายของด้วยเช่นกัน ส่วนบรรยากาศโดยรอบ บริเวณถนนราชดำเนินใน ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินนอก ถนนเสือป่า มีการติดตั้งซุ้มไฟประดับเพื่อความสวยงามตลอดทั้งเส้นทาง



มส.เจริญพระพุทธมนต์ถวาย

เมื่อเวลา 16.00 น. ที่พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์เจริญจิตภาวนา ถวายพระพรชัยมงคลและถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา 5 ธันวาคม 2555 และถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ คณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยพระเถระชั้นผู้ใหญ่ และพระสังฆาธิการในกรุงเทพฯกว่า 500 รูป มีนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วยข้าราชการ-ทหารทุกหมู่เหล่า ประชาชนจำนวนมากมาร่วมเจริญพระพุทธมนต์ในครั้งนี้

สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ กล่าวสัมโมทนียกถาว่า การมาเจริญพระพุทธมนต์ในครั้งนี้ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เมื่อเจริญพระพุทธมนต์ขอให้ตั้งจิตและตั้งใจเจริญพระพุทธมนต์ ให้เป็นอานิสงส์ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ทั้ง 2 พระองค์



สวนนงนุชแสดงช้างถวายพร

ที่จ.ลำปาง ตามร้านขายเสื้อผ้าในเขตตลาดจีน เทศบาลนครลำปาง ย่านจำหน่ายเสื้อผ้าขายส่ง มีประชาชนมาเลือกซื้อเสื้อสีเหลืองไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะมีราคาแพงหรือถูกก็ตาม เช่น ที่ร้าน ส.วิไล 999 จำหน่ายเสื้อตราสัญลักษณ์ราคาตัวละ 99 บาท ขณะที่ร้านชัยเซ็นเตอร์ จำหน่ายตัวละ 199 บาท ร้านกู้เกียรติ จำหน่ายในราคาตัวละ 199 บาท และร้านตะวันกาเม้นท์ จำหน่ายตัวละ 169 บาท

นายนภดล วิสารทวรากุล เจ้าของร้าน กล่าวว่า มีลูกค้ามาสอบถามและเลือกซื้อเสื้อสีเหลืองทุกวัน ซึ่งทางร้านได้สั่งสินค้าไว้ล่วงหน้า ทำให้สินค้ามีเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า

ที่จ.พิษณุโลก บรรดาพ่อค้าแม่ค้า ที่ตลาดร่วมใจ ตลาดสดเทศบาล 6 อ.เมือง จ.พิษณุโลก พร้อมใจกันสวมใส่เสื้อเหลืองตราสัญลักษณ์ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี โดยนำเสื้อสีเหลืองที่เคยใช้ตั้งแต่ปี 2549 นำกลับมาสวมอีกครั้ง เนื่องจากเสื้อสีเหลืองเริ่มหาซื้อได้ยาก นอกจากนี้ ยังได้เฝ้าติดตามบรรยากาศการถวายพระพรผ่านทางโทรทัศน์อีกด้วย ขณะที่ประชาชนทั่วไปที่มาจับจ่ายที่ตลาด ก็เริ่มสวมใส่เสื้อสีเหลืองที่มีตราสัญลักษณ์ เพื่อแสดงความจงรักภักดี พร้อมถวายพระพรให้พระองค์ทรงมีพระพลานามัยที่แข็งแรง

ที่สวนนงนุชพัทยา ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี มีการนำช้าง 16 เชือก มาฝึกซ้อมใหญ่ เพื่อเตรียมการแสดงจริงในวันที่ 5 ธ.ค. โดยกิจกรรมจะเริ่มจากขบวนช้างแห่พระบรมสาทิส ลักษณ์ การรำถวายพวงมาลัย ต่อหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์ การแปรขบวน เป็นเลข 9 ซึ่งเป็นเลขมงคล และการเขียนคำว่า "Long Live The King" โดยช้างจากปางช้างสวนนงนุช

นายภวัต เลิศมุกดา นายอำเภอสัตหีบ เปิดเผยว่า วันพ่อแห่งชาติของทุกปี อำเภอสัตหีบจะจัดงานภายในสวนนงนุชพัทยา โดยแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามาชมกิจกรรมต่างๆ จำนวนมาก



พสกนิกรหลั่งไหลซื้อเสื้อเหลือง

ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: ธันวาคม 05, 2012, 12:31:59 pm »

คำสัตย์ปฏิญาณต้องทำจริง
-http://www.dailynews.co.th/politics/170698-
วันพุธที่ 5 ธันวาคม 2555 เวลา 09:51 น.



หากมีเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่นอกเหนือจากแบบสำรวจความคิดเห็นมาใช้วัดดัชนีความสุขของคนไทยในช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองในวโรกาสมหามงคล พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธันวาคมของทุกปี เชื่อว่า มาตรวัดจะพุ่งสูงทะลุเกินขีดกำหนดจนไม่สามารถวัดได้ รวมไปถึงในทุกครั้งที่พสกนิกรทั้งมวลได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ หรือเพียงได้ทราบข่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระสุขภาพ พระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง เสด็จพระราชดำเนินสถานที่ต่าง ๆ ด้วยพระพักตร์ที่แจ่มใส ยังความปลื้มปีติแก่ทวยราษฎร์ยิ่งนัก

ในช่วงเวลามิ่งมงคลเช่นนี้ คนไทยทุกหมู่เหล่า ไม่ว่านักการเมือง ข้าราชการ พนักงานของรัฐ เจ้าหน้าที่รัฐวิสาหกิจ นักธุรกิจ พ่อค้า คหบดี และประชาชนทุกระดับชั้น ต่างร่วมกันแสดงความจงรักภักดี ถวายพระพรชัย ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ ยังประโยชน์มหาศาล เป็นคุณอเนกอนันต์แก่ประเทศชาติและประชาราษฎร์อย่างหาที่สุดมิได้ ตลอดระยะเวลาแห่งการครองราชย์ สมดั่งพระราชปณิธานอันเป็นพระปฐมบรมราชโองการที่ว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” ในการนี้พสกนิกรต่างหลอมรวมดวงใจเป็นหนึ่ง ร่วมกันตั้งจิตอธิษฐาน พร้อมกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณ จะประพฤติปฏิบัติตนเป็นคนดี เพื่อเป็นพลังของแผ่นดินสืบไป
   
การกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณ เปรียบเสมือนการให้คำมั่นสัญญาอันเป็นความจริงแท้แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หากพิเคราะห์ถึงรายละเอียดของ “สัตย์ปฏิญาณ” โดยส่วนใหญ่แล้วมีสาระที่ประกอบไปด้วยความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ การปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนส่วนรวม ยึดมั่นในหลักธรรมคำสอนของศาสนา และเดินตามรอย “พ่อแห่งแผ่นดิน” ตามพระบรมราโชวาท พระราชดำรัสและพระราชดำริที่ทรงพระราชทานแก่ผองไทยทั้งมวลในวาระโอกาสสำคัญต่าง ๆ กัน
   
โดยทุกครั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสตอบกลับจะขอให้ผู้ที่เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณได้ระลึกถึงความหมายของคำที่กล่าวออกมา เพราะหากปฏิบัติได้ตามคำกล่าวอย่างเคร่งครัดจะก่อประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน จะเห็นว่าพระองค์ทรงเน้นย้ำและทรงเตือนสติถึงการรักษาสัตย์ตลอดมา ฉะนั้นหากผู้ที่กล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณในวาระโอกาสต่าง ๆ นั้นสามารถประพฤติปฏิบัติได้จริงตามคำที่กล่าว ด้วยความถูกต้อง เที่ยงธรรม มั่นคงและแน่วแน่ ในทุก ๆ วัน มิใช่เพียงแค่วันเดียว เมื่อนั้นสยามประเทศอันเป็นที่รักของไทยทุกคนจะ “รู้รักสามัคคี”บังเกิดสุขสงบอย่างยั่งยืน.
ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: ธันวาคม 05, 2012, 12:31:31 pm »

ปลื้มปีตี"ในหลวง"เสด็จออก ณ สีหบัญชร เปล่งเสียง"ทรงพระเจริญ"กึกก้อง
-http://www.dailynews.co.th/royal/170707-
วันพุธที่ 5 ธันวาคม 2555 เวลา 10:40 น.














เมื่อเวลา 09.55 น. วันนี้ (  5 ธ.ค. )  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินลงจากที่ประทับชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช โดยรถเข็นพระที่นั่งพร้อมด้วย สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ และพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ การนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ ศ.คลินิก นพ.ประดิษฐ์ ปัญจวีณิน ผอ.โรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์ เป็นผู้ถวายการเข็นรถพระที่นั่ง พร้อม ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร คณบดีแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล และคณะแพทย์พยาบาลตามเสด็จ

ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงอยู่ในฉลองพระองค์ขาวจักรี เสด็จพระราชดำเนินมหาสมาคม รับการถวายพระพรชัยมงคล ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต เนื่องในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา พุทธศักราช 2555 วันที่ 5 ธันวาคม 2555 ในขณะเสด็จพระราชดำเนินพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระพักตร์ที่สดใส ทรงยิ้มให้แก่พสกนิกร ก่อนจะประทับรถตู้พระที่นั่ง ซึ่งติดกระจกใสเพื่อให้พสกนิกรได้ชมพระบารมีอย่างใกล้ชิด  และเสด็จฯ ออกจาก รพ.ศิริราช

ตลอดเส้นที่ขบวนรถยนต์พระที่นั่งเคลื่อนผ่านอย่างช้าๆเพื่อให้พสกนิกรชื่นชมพระบารมีอย่างใกล้ชิด ประชาชนต่างกู่ร้อง ทรงพระเจริญดังกึกก้องทั่วทั้งโรงพยาบาลศิริราช พสกนิกรจำนวนมากเมื่อได้เห็นพระพักตร์ของพระองค์ท่าน น้ำตาแห่งความปลื้มปีติได้ไหลออกมาอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว ขณะที่ประชาชนต่างชูพระบรมฉายาลักษณ์ขึ้นเหนือหัวพร้อมโบกธงชาติและธงสีเหลือง ที่มีพระปรมาภิไธย “ภปร.”

นอกจากนี้ระหว่างเสด็จประทับรถตู้พระที่นั่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงโบกพระหัตถ์ขวาให้กับประชาชนที่ต่างพร้อมใจกันสวมเสื้อสีเหลือง เพื่อมารอเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับเสด็จฯ อยู่ตามสองฟากฝั่งถนนทั้งในและด้านนอกของโรงพยาบาลศิริราช อย่างเนืองแน่น

ครั้นเมื่อรถยนต์พระที่นั่งเทียบอัฒจันทร์มุขตะวันออก พระที่นั่งอนันตสมาคม เสด็จขึ้นชั้น 2 โดยลิฟต์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์เครื่องบรมราชภูษิตาภรณ์  ณ ห้องมุขด้านทิศใต้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงฉลองพระองค์ครุย ณ ห้องมุขด้านทิศเหนือ เมื่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ฉลองพระองค์ครุยเสร็จแล้ว เสด็จลงจากพระที่นั่งอนันตสมาคมทางบันไดมุขด้านทิศใต้ไปทรงยืนเฝ้าที่พระแท่นหน้าสีหบัญชร ถัดมาเป็นแถวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี, นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา, นายไพโรจน์ วายุภาพ ประธานศาลฎีกา ตามลำดับ ด้านหลังเป็นแถวคณะรัฐมนตรี, คณะทูตานุทูต, สมาชิกรัฐสภา, ข้าราชการตุลาการ, ข้าราชการทหาร, พลเรือน,  ผู้แทนศาสนาอื่นๆ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทตามตำแหน่งหน้าที่ บริเวณด้านหน้าพระที่นั่งอนันตสมาคม ตำรวจหลวง 8 นาย ยืนเฝ้าฯ รักษาการณ์และนายทหารราชองครักษ์ยืนเฝ้าฯ ส่วนพระที่พระลานพระราชวังดุสิต ทหารรักษาพระองค์ และราษฎรทุกหมู่เหล่า เฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล

จากนั้นเวลา 10.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกท้องพระโรง พระที่นั่งอนันตสมาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม พระบรมวงศานุวงศ์ทรงยืนเฝ้าฯ ด้านหลัง ภายในพระที่นั่งอนันตสมาคม ขณะนี้ เจ้าพนักงานรัวกรับและเปิดพระวิสูตร เลื่อนพระแท่นที่ประทับไปยังสีหบัญชร ชาวพนักงานกระทั่งมโหระทึก ประโคมแตรฝรั่ง ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ และตำรวจ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติ ฝ่ายละ 21 นัด ครั้นสุดเสียงประโคมแล้ว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเปิดกรวยกระทงดอกไม้ ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนพระบรมวงศานุวงศ์ จบแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปเฝ้าฯ ณ ท้องพระโรงหน้า พระที่นั่งอนันตสมาคม

ลำดับต่อมา นายกรัฐมนตรี, ประธานรัฐสภา และ ประธานศาลฎีกา เปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ เพื่อเป็นตัวแทนคณะบุคคลจากหน่วยงานของภาครัฐและพสกนิกรไทยทุกหมู่เหล่า กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล จากนั้น พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กราบบังคมทูลพระกรุณาและกล่าวนำทหารรักษาพระองค์ถวายสัตย์ปฏิญาณ ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ผู้เฝ้าฯ ในมหาสมาคม ถวายความเคารพพร้อมเพรียงกัน

ขณะที่บรรยากาศที่โรงพยาบาลศิริราชช่วงเช้า ประชาชนจำนวนมากจากทั่วทุกสารทิศพร้อมใจกันสวมเสื้อสีเหลือง ถือธงชาติ และธงสีเหลือง ที่มีพระปรมาภิไธย “ภปร.” เข้ามาจับจองพื้นที่ตั้งแต่บริเวณที่เรือวังหลัง ติดกับประตูทางออกของโรงพยาบาลศิริราช ซึ่งเป็นเส้นทางที่เสด็จพระราชดำเนินผ่าน  เช่นเดียวกับที่บริเวณด้านในโรงพยาบาลศิริราช โดยเฉพาะห้องโถงชั้นล่างของอาคารเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งเป็นอาคารที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประทับ และที่บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ประชาชนจำนวนมากต่างมาจับจองพื้นที่ตั้งแต่เมื่อวานเป็นต้นมา  และที่บริเวณศาลาศิริราช 100 ปี สถานที่เป็นที่ถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งขณะนี้ทางสำนักพระราชวังได้ประกาศงดลงนามถวายพระพร แต่ก็ยังมีประชาชนทั่วทุกสารทิศ ต่างมาถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกและเป็นภาพแห่งความทรงจำตลอดไป ที่หน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เป็นจำนวนมาก.
ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: ธันวาคม 05, 2012, 12:31:03 pm »

ในหลวงเสด็จออกมหาสมาคม พสกนิกรเปล่งเสียง"ทรงพระเจริญ"กึกก้อง
-http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9550000148025-
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    
5 ธันวาคม 2555 11:48 น.



  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกมหาสมาคม ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม ทรงมีพระราชดำรัสตอบผู้เข้าเฝ้าถวายพระพร ขณะที่พสกนิกรที่เฝ้ารับเสด็จ ต่างเปล่งเสียง"ทรงพระเจริญ"ดังกึกก้องตลอดเวลา



 วันที่ 5 ธันวาคม 2555 เวลา 10.40 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกพระที่นั่งอนันตสมาคม พระบรมวงศานุวงศ์ องคมนตรี เลขาธิการพระราชวัง ราชเลขาธิการ สมาชิกราชสกุล และสตรีผู้มีบรรดาศักดิ์ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงยืนเฝ้าฯ ที่แท่นหน้าสีหบัญชร พร้อมแล้วพนักงานรัวกรับ เปิดพระวิสูตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกสีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม ชาวพนักงานกระทั่งแตรมโหระทึก ประโคมแตรฝรั่ง ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพ ถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติฝ่ายละ 21 นัด
       
       ครั้นสุดเสียงประโคมแล้ว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูล พระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนพระบรมวงศานุวงศ์ จบแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปเฝ้าฯ ณ ท้องพระโรงหน้าที่พระที่นั่งอนันตสมาคม
       
       หลังจากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนคณะรัฐมนตรี ข้าราชการทหาร-พลเรือน และราษฎรทุกหมู่เหล่า ตามด้วย นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา และนายไพโรจน์ วายุภาพ ประธานศาลฎีกา จากนั้น พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กราบบังคมทูลพระกรุณาและกล่าวนำทหารรักษาพระองค์ถวายสัตย์ปฏิญาณ จบแล้ว ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ผู้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในมหาสมาคมถวายความเคารพพร้อมกัน
       
       สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมาร ทรงยืนเฝ้าด้านหลังพระราชอาสน์ หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวนำ “ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ” หลังจากนั้น เมื่อได้เวลาสมควร เลื่อนพระแท่นที่ประทับกลับยีงท้องพระดรงหน้า เจ้าพนักงานรัวกรับ และเปิดพระสูตร ชาวพนักงานกระทั่งมโหระทึกประโคมแตรฝรั่ง แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ขณะที่พสกนิกรที่มาเฝ้ารอรับเสด็จฯ แน่นบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าต่างส่งเสียง"ทรงพระเจริญ"ดังกึกก้องตลอดเวลา
       
       ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสตอบ จบแล้ว ผู้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในมหาสมาคมทั้งหมดถวายความเคารพ ชาวพนักงานกระทั่งมโหระทึกประโคมแตรฝรั่ง ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีเจ้าพนักงานรัวกรับและปิดพระวิสูตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ

































Manager Online - ในหลวงเสด็จออกมหาสมาคม พสกนิกรเปล่งเสียงทรงพระเจริญกึกก้อง
.
ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: ธันวาคม 05, 2012, 12:30:33 pm »

ในหลวง มีพระราชดำรัส ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม
-http://hilight.kapook.com/view/79244-






















สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยโพสต์ , ครอบครัวข่าว 3 , ไทยพีบีเอส , Instagram onizugolf, runz_thanapon, pompamme, jajarlalah, newffer,  smintacy,  peko_park, pranpisang, 2littlemonkies, sensitive_ucs, taa_ra,  pranpisang, nutchai, unjiko, thebarryya,  ppj007

          เมื่อเวลาประมาณ 10 .00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทูลกระหม่อมหญิง อุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า โสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทร กิติคุณ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์ พระที่นั่งจากโรงพยาบาลศิริราช ไปยังพระที่นั่ง อนันตสมาคม พระราชวังดุสิต เพื่อเสด็จฯออกมหาสมาคม ในงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค.2555 ณ สีหบัญชร

          พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระพักตร์แจ่มใส ทรงแย้มพระโอษฐ์ให้กับประชาชนที่มาเฝ้าฯรอรับเสด็จฯบริเวณชั้นล่างของอาคารเฉลิมพระเกียรติ โดยต่างเปล่งเสียงทรงพระเจริญอย่างกึกก้อง รวมทั้งหลั่งน้ำตาด้วยความปลื้มปิติที่ได้ชื่นชมพระบารมีอย่างใกล้ชิด

          โดยขบวนเสด็จพระราชดำเนินในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ ได้เคลื่อนออกจากอาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช ผ่านทางประตู 8 ด้านหน้าตลาดวังหลัง ไปตลอดเส้นทางถนนพรานนก ด้านข้างโรงพยาบาลศิริราช ซึ่งเมื่อเสด็จพระราชดำเนินเคลื่อนผ่าน ประชาชนที่มารอเฝ้าชื่นชมพระบารมี ต่างเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้อง โดยต่างโบกธงตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์ คู่กับธงไตรรงค์ กันอย่างพร้อมเพียง ด้วยความจงรักภักดี ขณะที่ประชาชนหลายคนกลั่นน้ำตาไว้ไม่อยู่ และร้องไห้ด้วยความปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยก่อนหน้าที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ จะเสด็จพระราชดำเนินผ่าน ประชาชนทั้งริม 2 ฝั่งถนน ต่างพร้อมใจกันร้องเพลงสดุดีมหาราชา เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติอีกด้วย

          ขณะที่ สำนักข่าวบีบีซีของประเทศอังกฤษ เผยแพร่ข่าวพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโดยระบุใจความตอนหนึ่งว่า ขบวนแถวของคนไทยจำนวนมาก ริม 2 ฝั่งถนนของกรุงเทพมหานคร ภายนอกของพระบรมมหาราชวัง รอเฝ้าฯ รับเสด็จในพระราชพิธีนี้ ซึ่งในหลวงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงครองราชย์ยาวนานที่สุดในโลก เป็นระยะเวลา 65 ปี

          โดยบีบีซี ยังระบุว่า ในหลวง ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทย แม้ในภาวะทีมีปัญหาทางการเมือง หรือประสบภาวะอุทกภัย อย่างไรก็ตาม พระองค์ได้ทรงเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล ตั้งแต่เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา

07.00 น. ประชาชนทยอยเฝ้ารอรับเสด็จฯ ในหลวงล้นลานพระรูป-รพ.ศิริราช

          ประชาชนทยอยเดินทางเฝ้ารอรับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเต็มลานพระราชวังดุสิตแล้ว ต่างพร้อมใจกันร้องเพลงสดุดีมหาราชาถวาย

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (5 ธันวาคม) ประชาชนจำนวนมากจากทั่วทุกสารทิศทยอยเดินทางมายังลานพระราชวังดุสิต โดยต่างพร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีเหลืองเพื่อเฝ้ารอรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการเสด็จออกมหาสมาคมงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา พุทธศักราช 2555 ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม ในวันนี้ ซึ่งบางครอบครัวเดินทางมาจากต่างจังหวัดทั่วทุกภาคของประเทศไทย รวมถึงภาคใต้ตอนล่างสุดของประเทศ ทั้งสตูล ปัตตานี นราธิวาส ที่มาจับจองพื้นที่บริเวณด้านหน้าลานพระราชวังดุสิตตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา  ซึ่งขณะนี้มีประชาชนทยอยเดินทางเข้ามาจนเต็มลานพระราชวังดุสิตแล้ว

          บรรยากาศขณะนี้ หลายคนได้มีกิจกรรมสันทนาการ เพื่อรอเวลาเฝ้ารอรับเสด็จฯ ด้วยการเล่นดนตรีบทเพลงพระราชนิพนธ์ บางคนจับกลุ่มคุยกัน ทั้งที่มาจากต่างถิ่น และไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ทั้งนี้ เมื่อช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมา ประชาชนทุกคน ต่างพร้อมใจกันลุกขึ้นยืน โบกธง และร่วมกันร้องเพลงสดุดีมหาราชา ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ

          สำหรับการเข้ามาในลานพระราชวังดุสิต ตำรวจได้นำรั้วเหล็กมากั้นและเปิดช่องทางให้เดินเข้า ขณะที่บริเวณฟุตปาธของถนนโดยรอบ มีการติดตั้งจอภาพแอลซีดีขนาดใหญ่ไว้โดยตลอด เพื่อให้ประชาชนที่มาร่วมงานพระราชพิธีในครั้งนี้ได้ชมการถ่ายทอดสดด้วย





ขณะที่บรรยากาศที่โรงพยาบาลศิริราช มีประชาชนเดินทางมาจับจองพื้นที่ตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา บริเวณใต้อาคารเฉลิมพระเกียรติไปจนถึงถนนพรานนกด้านข้างกำแพงโรงพยาบาลศิริราชเรื่อยไปตลอด 2 ข้างทางจนถึงแยกศิริราชเพื่อรอเฝ้ารับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ที่จะเสด็จพระราชดำเนินออกจากที่ประทับไปยังพระที่นั่งอนันตสมาคม ในเวลาประมาณ 09.40 น. โดยใช้ความเร็ว 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อให้ประชาชนได้ชมพระบารมีอย่างใกล้ชิด

หมายกำหนดการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2555

           เวลา 10.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร  เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากโรงพยาบาลศิริราช ไปยังพระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต หลังจากนั้นเสด็จขึ้นชั้น 2 ทรงฉลององค์ครุย

           เวลา 10.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกพระที่นั่งอนันตสมาคม พระบรมวงศานุวงศ์ องคมนตรี เลขาธิการพระราชวัง ราชเลขาธิการ สมาชิกราชสกุล และสตรีผู้มีบรรดาศักดิ์ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท

           เมื่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงยืนเฝ้าฯ ที่แท่นหน้าสีหบัญชร พร้อมแล้ว พนักงานรัวกรับ เปิดพระวิสูตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกสีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม ชาวพนักงานกระทั่งแตรมโหระทึก ประโคมแตรฝรั่ง ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพ ถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติฝ่ายละ 21 นัด

           เมื่อสิ้นสุดเสียงประโคมแล้ว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูล พระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนพระบรมวงศานุวงศ์ จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปเฝ้าฯ ณ ท้องพระโรงหน้าที่พระที่นั่งอนันตสมาคม

           เวลาต่อมา นายกรัฐมนตรีเปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนคณะรัฐมนตรี ข้าราชการทหาร-พลเรือน และราษฎรทุกหมู่เหล่า ตามด้วยประธานรัฐสภาและประธานศาลฎีกา หลังจากนั้น ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กราบบังคมทูลพระกรุณาและกล่าวนำทหารรักษาพระองค์ถวายสัตย์ปฏิญาณ ก่อนที่ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพจะถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ผู้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในมหาสมาคมถวายความเคารพพร้อมกัน

           ต่อจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสตอบ เมื่อจบแล้ว ผู้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในมหาสมาคมทั้งหมดถวายความเคารพ ชาวพนักงานกระทั่งมโหระทึกประโคมแตรฝรั่ง ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีเจ้าพนักงานรัวกรับและปิดพระวิสูตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ

นครบาลเผยเส้นทางขบวนเสด็จฯ จากโรงพยาบาลศิริราช ยังพระที่นั่งอนันตสมาคม

          กองบัญชาการตำรวจนครบาล หรือ บช.น. เปิดเผยเส้นทางเสด็จพระราชดำเนิน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า ในเวลาประมาณ 10.00 น. ขบวนเสด็จฯ จะใช้ความเร็ว 30 ก.ม./ช.ม.เพื่อให้ประชาชนได้ชมพระบารมีอย่างใกล้ชิด

          โดยใช้เส้นทางจากโรงพยาบาลศิริราช มายังถนนอรุณอมรินทร์ ขึ้นสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า เข้าถนนราชดำเนินกลาง มุ่งหน้าสะพานผ่านฟ้าลีลาศ เข้าถนนนครสวรรค์ ต่อเนื่องแยกนางเลิ้ง เข้าถนนพิษณุโลก เลี้ยวขวาแยกพาณิชยการ เข้าถนนพระราม 5 ไปเลี้ยวซ้ายที่ถนนราชวิถี และซ้ายเข้าถนนอู่ทองใน จากนั้นรถพระที่นั่งจะเลี้ยวเข้าประตูทวยเทพสโมสร ประตูด้านหน้าพระที่นั่งอนันตสมาคม

          สำหรับในการเสด็จพระราชดำเนินกลับก็จะใช้เส้นทางเดิม


บก.จร. เตรียมปิดเส้นทางจราจรเพิ่ม รองรับประชาชนเรือนแสน

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ บก.จร. ได้ปิดเส้นทางจราจร 4 เส้นทางหลักแล้ว คือ ถนนศรีอยุธยา ตั้งแต่แยกวัดเบญจมพิตร ผ่านลานพระบรมรูปฯ - แยก พล.1 ถนนพิษณุโลก ตั้งแต่แยกพาณิชยการ สะพานชมัยมรุเชษฐ์ แยกมิสกวัน - แยกวังแดง บริเวณถนนราชดำเนิน แยกสวนมิสกวัน - สะพานมัฆวาน

          อย่างไรก็ตาม หากประชาชนมีจำนวนมากขึ้น บก.จร. จะปิดเส้นทางเพิ่มเติมบนถนนกรุงเกษม ตั้งแต่สะพานมัฆวาน - แยกประชาเกษม และแยกมัฆวานถึง - จ.ป.ร. ซึ่งตลอดทั้งเส้นทางจะรองรับประชาชนได้กว่า 200,000 คน

















อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ไอ.เอ็น.เอ็น.
-http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNMU5EWXlNRFV5Tmc9PQ==&subcatid=-
-http://news.thaipbs.or.th/content/%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AF-%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A-%E0%B8%9B%E0%B8%8A%E0%B8%8A-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%82%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%99-

.