ตอบ

สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: ฐิตา

« เมื่อ: ธันวาคม 07, 2012, 12:22:15 pm »

ใส่การอ้างถึงคำพูด

ประชาชนจำนวนมากร่วมพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคลในหลวง

ทีฆายุโก โหตุ มหาราชา ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ทรงพระเกษมสำราญ ตลอดกาล ตลอดไป ด้วยเกล้า ด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
Compatable -http://www.sookjai.com/index.php?topic=50477.0

ข้อความโดย: ฐิตา

« เมื่อ: ธันวาคม 06, 2012, 11:20:56 am »

ใส่การอ้างถึงคำพูด

ศิลปิน ชัชวาล รอดคลองตัน
chatchawan rondklongtan oil on canvas

สื่อนอกเสนอข่าว “ในหลวง” เสด็จฯออกมหาสมาคม
-ทรงแนะคนไทย “มีความพร้อมเพรียง” เพื่อให้ชาติมั่นคง

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯออกจากโรงพยาบาลศิริราชไปยังพระที่นั่งอนันตสมาคม ในการพระราชพิธีเสด็จฯออกมหาสมาคม 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2555 โดยทรงมีพระราชดำรัสให้คนไทยมีคุณธรรมและความพร้อมเพรียง เพื่อความอยู่รอดของชาติบ้านเมือง

เอเจนซีส์ - สื่อต่างประเทศ เช่น เอเอฟพี, เอพี, บีบีซี, สเตรทไทม์ส และคอลีจนิวส์ ต่างเสนอข่าวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯออกมหาสมาคม เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา 5 ธันวาคม 2555 ท่ามกลางประชาชนชาวไทยนับแสนที่สวมเสื้อสีเหลืองมาเฝ้ารอรับเสด็จฯที่ลานพระบรมรูปทรงม้าและถนนราชดำเนินนอก โดยในหลวงทรงแนะให้คนไทยยึดถือคุณธรรมความพร้อมเพรียงเป็นเกราะป้องกันให้บ้านเมืองอยู่รอด และมีความมั่นคงสืบไป

   สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ภาพถ่ายจากมุมสูงเผยให้เห็นพสกนิกรชาวไทยไม่ต่ำกว่า 200,000 คนพร้อมใจกันมาเฝ้ารับเสด็จฯบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า โดยภาพคลื่นมหาชนที่มาร่วมถวายพระพรและแสดงความจงรักภักดีในวันนี้(5) แลดูเหมือนทะเลแห่งสีเหลืองที่ทอดยาวจนสุดสายตา

   ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวซึ่งประทับ ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม ทรงมีพระราชดำรัสตอบว่า “ความปรารถนาดี” ที่ชาวไทยได้แสดงออกด้วยการมาร่วมพระราชพิธีเสด็จฯออกมหาสมาคมนั้น “ทำให้ข้าพเจ้าปลื้มใจ มีกำลังใจมากขึ้น ด้วยความเชื่อเสมอว่า ความเมตตาปรารถนาดีของท่านต่อกันนี้ เป็นปัจจัยอย่างสำคัญที่จะทำให้ความพร้อมเพรียงจะเกิดขึ้นมีขึ้น ทั้งในหมู่คณะและในชาติบ้านเมือง”

   “แต่ถ้าคนไทยเรายังมีคุณธรรมอันนี้อยู่ในจิตใจ ก็จะมีความหวังได้ว่า บ้านเมืองไทยไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดๆ ก็จะอยู่รอดปลอดภัย และธำรงมั่นคงต่อไปได้ตลอดรอดฝั่งอย่างแน่นอน”

   ประชาชนทั้งในบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า และที่มาจับจองพื้นที่สองฝั่งถนน ต่างเปล่งเสียงถวายพระพร “ทรงพระเจริญ” ดังกึกก้องตลอดเส้นทางที่ขบวนรถยนต์พระที่นั่งเคลื่อนผ่านไปสู่พระที่นั่งอนันตสมาคม และเมื่อเสด็จฯกลับยังโรงพยาบาลศิริราช

   พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติเป็นปีที่ 66 ซึ่งนับว่ายาวนานยิ่งกว่ากษัตริย์พระองค์ใดในโลก และแม้จะเสด็จฯไปประทับรักษาพระอาการประชวร ณ โรงพยาบาลศิริราชตั้งแต่ปี 2009 แต่ก็ยังทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจต่างๆอยู่เสมอมา รวมถึงทรงรับประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯที่เดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 18-19 พฤศจิกายนที่ผ่านมาด้วย

   หนังสือพิมพ์ สเตรทไทม์ส ของสิงคโปร์ รายงานว่า การเสด็จฯออกมหาสมาคมในวันนี้(5) นับเป็นครั้งที่ 6 ในช่วงเวลา 66 ปีที่ทรงครองราชย์ โดยครั้งที่ผ่านมาจัดขึ้นเมื่อปี 2006 ในวโรกาสที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี

   แม้พระมหากษัตริย์ของไทยจะมิได้ทรงมีบทบาททางการเมืองโดยตรง แต่ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในชาติ ซึ่งเผชิญเหตุวุ่นวายทางการเมืองหลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ทุกๆปีจะมีการจัดงานเฉลิมฉลองทั่วประเทศในวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งถือเป็นวันพ่อแห่งชาติด้วย

   สำนักข่าว คอลีจ นิวส์ ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) รายงานว่า ชัยค์ คอลีฟา บิน ซายเอ็ด อัล นาห์ยัน ประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ ชัยค์ โมฮัมเหม็ด บิน รอชีด อัล มัคตูม ผู้ปกครองนครดูไบ และรองประธานาธิบดีสหรัฐฯอาหรับเอมิเรตส์ ได้ส่งสาส์นถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุ 85 พรรษาด้วย

-http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9550000148153
-http://www.prachathon.org/forum/index.php?topic=7267.msg29565;topicseen#msg29565

ข้อความโดย: ฐิตา

« เมื่อ: ธันวาคม 06, 2012, 10:54:03 am »

ใส่การอ้างถึงคำพูด

"สำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนักพร้อมใจกันเผยแพร่ข่าว พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว"..//**วันนี้ (5 ธันวาคม) สำนักข่าวยักษ์ใหญ่อย่าง ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ประเทศไทยมีการเฉลิมฉลองระดับชาติ และมีพิธีที่ยิ่งใหญ่ รวมถึงการกล่าวคำถวายพระพร และถวายสัตย์ปฏิญาณของทหาร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ ยังมีรายงานถึงพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่องการจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ความร่วมมือร่วมใจ และช่วยเหลือกัน

ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า คลื่นมหาชนชาวไทยหลายแสนคน หลั่งไหลไปรวมกันอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ในวันนี้ เพื่อรอชมพระบารมีและฟังกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา รายงานระบุด้วยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ครองราชย์ยาวนานที่สุดในโลก พร้อมกันนี้ ยังได้นำเสนอภาพที่ถ่ายทอดทางสถานีโทรทัศน์ ได้แสดงให้เห็นคลื่นมหาชน ที่พร้อมใจกันสวมเสื้อสีเหลือง โบกธงประจำพระองค์และธงชาติไทย โดยคาดว่า มีประชาชนอย่างน้อย 2 แสนคน ที่ไปเฝ้ารอ "ในหลวง" เสด็จออกมหาสมาคม ณ สีหบัญชร นอกจากนี้ ยังมีพสกนิกรอีกจำนวนมาก ต่างยืนเรียงรายอยู่ตามถนนอันเป็นเส้นทางผ่านขบวนเสด็จฯ พร้อมกับร้องตะโกน "ทรงพระเจริญ" ดังกึกก้อง

สำนักข่าวดีพีเอของเยอรมัน รายงานว่า บรรดาพสกนิกรที่จงรักภักดี ต่างรอคอยนานหลายชั่วโมง เพื่อรอชมพระบารมีแม้เพียงแว่บเดียว ในเส้นทางที่เสด็จจากโรงพยาบาลศิริราชไปยังพระที่นั่งอัมรินทร์วินิจฉัย ประชาชนทุกคนพร้อมใจกันสวมเสื้อสีเหลือง ซึ่งเป็นสีประจำวันประสูติของพระองค์ พร้อมกับโบกธงและชูพระบรมฉายาลักษณ์ ความปลื้มปีติในวันนี้ ได้นำความสุขมาสู่พสกนิกรชาวไทย ในขณะที่กำลังเผชิญความแตกแยกทางการเมืองและสังคม

ด้านสำนักข่าวเอพี รายงานว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประทับ ที่โรงพยาบาลศิริราชมานาน 3 ปีแล้ว เนื่องจากทรงประชวร แต่เมื่อไม่นานมานี้ ทรงเสด็จออก ณ ห้องประชุมสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อโปรดให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ ที่เดินทางมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการ เข้าเฝ้าฯ ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับประธานาธิบดีสหรัฐและคณะ และพระราชทานของที่ระลึกให้ด้วย

จาก -http://www.facebook.com/news1online

ธ สถิตในดวงใจไทยทั่วหล้า พระบารมีมากล้นเหลือคณา
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

นางสาวปิยะนาถ บุญเฉลิม เจ้าของร้านเสริมสวย "จีน" ย่านถนนพระราม 3
เขตคลองเตย กทม. เดินทางมาค้างคืนบริเวณหัวมุมถนนเสือป่า
เมื่อเย็นวันที่ 3 ธันวาคม เพื่อรอเฝ้ารับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ในพระราชพิธีออกมหาสมาคม ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม
ในวันที่ 5 ธันวาคมนี้

-http://www.baanpud.net/forum/index.php
-http://www.prachathon.org/forum/index.php?topic=7260.0

ข้อความโดย: ฐิตา

« เมื่อ: ธันวาคม 06, 2012, 10:34:36 am »

ใส่การอ้างถึงคำพูด

พระบรมสาทิสลักษณ์โดย วิศเวศ วัฒนสุข

ทีฆายุโก โหตุ มหาราชา ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ทรงพระเกษมสำราญ ตลอดกาล ตลอดไป ด้วยเกล้า ด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

หญิงสาว : มองในหลวงไม่เห็นเลย รู้งี้ดูทีวีอยู่บ้านดีกว่า
ยาย : ยายไม่ได้มาดูในหลวงหรอก
แต่ยายมาให้ในหลวงดู ว่ามีคนรักท่านมากมายขนาดไหน

http://www.youtube.com/watch?v=319Lpr6da2w#
พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขณะเสด็จออก ณ สีหบัญชร
พระที่นั่งอนันตสมาคม 5 ธันวาคม พ.ศ.2555
ในโอกาสวันมหามงคล พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา
พระชนมายุ 85 พรรษา

“คำอวยพรและคำปฏิญานสัญญาที่ทุกท่านได้กล่าวนั้น เป็นที่ประทับใจมาก ขอขอบใจท่านทั้งหลายตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกคน ที่พรั่งพร้อมกันมาด้วยความปรารถนาดี และไมตรีจิต ความปรารถนาดีและความพร้อมเพรียงกันของทุกท่าน ที่ได้เห็นในวันนี้ ทำให้ข้าพเจ้าปลื้มใจ มีกำลังใจมากขึ้น มีความเชื่อเสมอว่าความเมตตา ปรารถนาดีของท่านต่อกันนี้ เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ความพร้อมเพรียงให้เกิดขึ้น มีขึ้นทั้งในหมู่คณะและแก่ชาติบ้านเมือง และถ้าคนไทยยังมีคุณธรรมข้อนี้ อยู่ในจิตใจก็จะมีความหวังได้ว่าบ้านเมืองไทยไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดๆ ก็จะอยู่รอดปลอดภัย และมั่นคงต่อไปได้ตลอดรอดฝั่งอย่างแน่นอน

ขออำนาจคุณพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์จงคุ้มครองรักษาท่านและชาติไทยให้มีแต่ความผาสุก รุ่งเรือง ยั่งยืนไป”

รับชมคลิป : http://youtu.be/m19pRJI4iqo

~ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะฯ~

ข้อความโดย: ฐิตา

« เมื่อ: ธันวาคม 04, 2012, 02:07:33 pm »

ใส่การอ้างถึงคำพูด

ศิลปินยูเครนวาดทรายถวายในหลวง
ศิลปินยูเครนวาดทรายถวายในหลวง อัปโหลดโดย trustmeplzz เมื่อ 16 ม.ค. 2012
Kseniya Simonova ศิลปินวาดทรายชาวยูเครน
วาดทรายเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ไทย
ดูจบแล้วน้ำตาไหลครับ เลยขออนุญาตเอามาเก็บไว้
และแบ่งปันให้คนไทยได้ดูอย่างทั่วถึง ขอพระองค์ทรงพระเจริญ...

"My King ในหลวงของเรา"
Credit By Kapook

เป็นอีกหนึ่งความปลื้มปิติที่ประชาชนชาวไทยจะมีโอกาสได้ชมสารคดีบันทึกประวัติศาสตร์ "My King ในหลวงของเรา" ภาพยนตร์สารคดีโปรเจคท์พิเศษที่นำเสนอปรัชญาการใช้ชีวิตบนวิถีแห่งความพอเพียงที่สะท้อนถึงพระอัจฉริยภาพ 9 ด้าน ผ่านพระราชประวัติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ผู้ซึ่งเป็นศูนย์รวมใจของคนไทยทั้งชาติ เนื่องในวโรกาสมหามงคลทรงเจริญพระชนมายุ 85 พรรษา สำหรับสารคดีบันทึกประวัติศาสตร์ครั้งนี้ จัดทำโดยความร่วมมือของ มูลนิธิชัยพัฒนา ร่วมกับ บริษัท เอสทีจี มัลติมีเดีย จำกัด และได้ทีมงานมืออาชีพจาก "เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก" (National Geographic) มาเป็นผู้ผลิตและถ่ายทำสารคดี โดยใช้เวลาเก็บรวบรวมข้อมูล และลงพื้นที่ถ่ายทำนานกว่า 2 ปี

ทั้งนี้ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา และประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์โครงการผลิตสารคดีดังกล่าว เล่าถึงโปรเจคท์พิเศษที่เกิดขึ้นนี้ว่า ตลอดระยะเวลา 66 ปี ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงครองราชย์ ทรงมีพระราชดำริให้จัดทำโครงการต่าง ๆ มากกว่า 3,000 โครงการ ซึ่งสามารถช่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้พสกนิกรของพระองค์ได้ทั้งสิ้น ทั้งนี้ พระองค์ทรงงานด้วยความมุ่งมั่น และอดทน โดยไม่ทรงรู้จักเหน็ดเหนื่อย ทำให้ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าทรงเป็น "King of the World" หรือ "พระมหากษัตริย์ของคนทั้งโลก" ด้วยเหตุนี้ ทางมูลนิธิชัยพัฒนา จึงได้มอบหมายให้ทีมงานเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก จัดทำสารคดีเทิดพระเกียรติชุดพิเศษ "My King ในหลวงของเรา" ฉบับบันทึกประวัติศาสตร์ เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พร้อมกันนี้ จะนำสารคดีแห่งประวัติศาสตร์ชุดนี้ ออกฉายในงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส ในปี พ.ศ. 2556

สำหรับชาวไทยแล้ว ถือเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งที่จะมีโอกาสได้ชมภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้ก่อนใคร เนื่องจากทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 เตรียมจะนำสารคดีชุดนี้ ซึ่งมีทั้งหมด 99 ตอน ออกฉายทางโทรทัศน์ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2555 ถึง เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 โดยมี เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ นักร้องชื่อดัง เป็นผู้ให้คำบรรยายภาษาไทย ส่วน คริสโตเฟอร์ ไรท์ จะเป็นผู้บรรยายภาคภาษาอังกฤษ ที่ยิ่งใหญ่ไปกว่านั้นก็คือ นอกจากในประเทศไทยแล้ว สารคดีชุดนี้จะถูกนำไปเผยแพร่ให้ประชาชนใน 177 ประเทศของ 5 ทวีปทั่วโลก ได้ชื่นชมพระอัจฉริยภาพในด้านต่าง ๆ ด้วย ซึ่งจะทำให้ผู้คนทั่วโลกได้เห็นถึงความเสียสละที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย เป็นการเผยแพร่พระเกียรติคุณของพ่อหลวงของปวงชนชาวไทยให้กว้างไกลอีกครั้ง

และสำหรับใครที่ต้องการเก็บสะสมสารคดีชุดประวัติศาสตร์นี้ไว้เป็นที่ระลึก ก็สามารถสั่งจองภาพยนตร์สารคดี พร้อมหนังสือ และภาพยนตร์แห่งพระราชประวัติและวิชาของพ่อ บันทึกอยู่ในบรรจุภัณฑ์สีทองกรอบรูปสามมิติ ประดับพระบรมสาทิสลักษณ์ในรูปแบบบลูเรย์ ได้ที่ร้านบูมเมอแรงทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจากการจำหน่ายสารคดี รวมถึงการจำหน่ายของที่ระลึกภายใต้โครงการดังกล่าว บริษัท เอส ที จี มัลติมีเดีย จำกัด จะทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อสมทบมูลนิธิชัยพัฒนา

-http://powerlife.fix.gs/index.php?topic=1691.msg3924#new

ข้อความโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน

« เมื่อ: ธันวาคม 02, 2012, 10:40:37 pm »

ใส่การอ้างถึงคำพูด

ขอทรงพระเจริญครับผม

ข้อความโดย: ฐิตา

« เมื่อ: ธันวาคม 02, 2012, 09:31:08 pm »

ใส่การอ้างถึงคำพูด

เสด็จออกสีหบัญชร วันพ่อแห่งชาติ

การเสด็จออกสีหบัญชร ในรัชกาลปัจจุบัน
เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2555

เนื่องในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2555 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จออก ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคมอีกครั้ง โดยทุกหน่วยงานได้เตรียมพร้อมในงานพระราชพิธีครั้งนี้ ที่นับเป็นเหตุการณ์สำคัญของประชาชนชาวไทยทุกคน ซึ่งการเสด็จออกมหาสมาคมและสีหบัญชรนั้น เป็นพระราชพิธีที่พระมหากษัตริย์ เสด็จออกที่ประชุมใหญ่เพื่อการสำคัญ ทั้งเป็นพระราชพิธีประจำ และพระราชพิธีในโอกาสพิเศษ ซึ่งในวันที่ 5 ธันวาคมนี้ นับเป็นการเสด็จออก ณ สีหบัญชร ครั้งที่ 6 ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีการเสด็จออกมหาสมาคม และสีหบัญชร หลายครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งจะมีขึ้นในสถานที่ต่างๆ อาทิ พระที่นั่งอัมรินทรวินิจฉัย พระที่นั่งไพศาลทักษิณ พระที่นั่งอนันตสมาคม มุขเด็จ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาทเป็นต้น
ทั้งนี้เพื่อพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าทูลละอองธุลีพระบาท คณะรัฐมนตรี สมาชิกรัฐสภา คณะทูตานุทูต ข้าราชการทหาร ตำรวจ และพลเรือน ตลอดจนพสกนิกรทุกหมู่เหล่าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระพรชัยมงคล

โดยการเสด็จออกสีหบัญชรครั้งแรก ในพระราชพิธีพระบรมราชภิเษก เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2493 ณ พระที่นั่งสุทไธสวรรยปราสาท พระบรมมหาราชวัง ซึ่งนับเป็นการเสด็จสีหบัญชรครั้งแรกในรัชกาลปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีการเสด็จออกมหาสมาคมในโอกาสต่อมา อาทิ เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2504 ในโอกาสงานสมโภช เนื่องในการเสด็จนิวัติพระนคร หลังจากทรงเสร็จสิ้นพระราชกรณียกิจเสด็จเยือนสหรัฐอเมริกา ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม , วันที่ 5 ธันวาคม 2506 ในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 3 รอบ ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย , พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2542 ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม และครั้งล่าสุดในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 ณ มุขเด็จ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท

ในหลวงจะมีพระราชดำรัส วันที่ 5 ธันวาคม ณ สีหบัญชร แม่ทัพภาคที่ 1 ภาคภูมิใจ นำทหารรักษาพระองค์ถวายสัตย์ฯ ต่อพระพักตร์ ซ้อมใหญ่สวนสนาม 2 ธันวา. ปิดการจราจร 4 เส้นทางรอบลานพระบรมรูปทรงม้า
ในงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนม พรรษา พุทธศักราช 2555 ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต วันพุธที่ 5 ธันวาคมนี้ พสกนิกรทั่วประเทศได้ ปลื้มปีติกันอีกครั้ง เพราะมีหมายกำหนดการ ระบุว่า นอกจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัว เสด็จออก ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม ช่วงเวลา 10.30 น.แล้ว พระองค์จะมีพระราชดำรัสด้วย
ที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้ากองทัพภาคที่ 1 นำกำลังทหารรักษาพระองค์ จำนวน 12 กองพัน ดำเนินการซ้อมใหญ่ครั้งที่ 1 ในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนของทหารรัก ษาพระองค์ในพระราชพิธีฯ โดยในปีนี้ พล.ต. วราห์ บุญญะสิทธิ์ ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ ทำหน้าที่ผู้บังคับกองผสม เป็นผู้นำการซักซ้อม

พล.ต.วราห์กล่าวว่า ถือเป็นความภาค ภูมิใจและเป็นสิริมงคลของทหารรักษาพระ องค์ ที่ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่อพระพักตร์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งปีนี้ได้มาจัดที่ลานหน้าพระราชวังดุสิต หลังจากปี 2553 และ 2554 กำหนดให้จัดขึ้นภายในพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง
“ความยิ่งใหญ่ของพระราชพิธีเสด็จออกมหาสมาคมครั้งนี้ ไม่เพียงแต่การถวายสัตย์ฯ ของทหารรักษาพระองค์เท่านั้น พสกนิกรชาวไทยยังได้ร่วมชื่นชมพระบารมีและแสดงความจงรักภักดีอย่างใกล้ชิด ซึ่งมีโอกาสไม่มากนัก” พล.ต.วราห์กล่าวไม่มากนัก” พล.ต.วราห์กล่าว

ด้าน พ.ท.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกอง ทัพบก กล่าวว่า กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ ได้ ขอใช้พื้นที่และปิดการจราจรใน 4 เส้นทาง คือ ถ.อู่ทองใน ถ.ศรีอยุธยา ตั้งแต่แยกสี่เสาเทเวศร์ถึงแยกพระบรมรูปทรงม้า, ถ.พิษณุโลก ตั้งแต่แยกสี่เสาเทเวศร์ถึงแยกมิสกวัน และ ถ.นครราชสีมา ตั้งแต่แยกวังแดงถึงแยกพล.1 รอ. โดยวันที่ 2 ธ.ค. ซึ่งเป็นวันซ้อมใหญ่ครั้งสุดท้าย จะเริ่มปิดการจราจรตั้งแต่เวลา 04.00-12.00 น. ส่วนวันจริง 5 ธ.ค.นั้น จะปิดการจราจรตั้งแต่เวลา 01.00 น.เป็นต้นไป
พล.ต.ต.สำเริง สุวรรณพงษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รับผิดชอบงานด้านกิจการพิเศษ เปิดเผยการเตรียมพร้อมงานพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2555 ว่า วันที่ 2 ธันวาคมนี้ จะมีพิธีซ้อมใหญ่สวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณของข้าราชการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมดูแลความสะดวก และพร้อมถวายความปลอดภัยเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระ บรมวงศานุวงศ์

ขณะเดียวกัน วางกำลังดูแลบริเวณพระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต สถานที่ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จออกมหาสมาคม ณ สีหบัญชร และในวันที่ 5 ธันวาคม เวลา 10.00 น. จะปิดถนนตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 4 ธันวาคม และจะเปิดถนนหลังจากปิดพิธีในช่วงเช้าเสร็จสิ้น จากนั้นจะมีพิธีจุดเทียนชัยที่บริเวณท้องสนามหลวง ในเวลา 19.19 น. ขณะที่โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย จะถ่ายทอดสดงานพระราชพิธีไปยังผู้ชมในต่างประเทศ ผ่านทาง Thai TV Global Network.

-http://news.tlcthai.com/news/72686.html

ข้อความโดย: ฐิตา

« เมื่อ: ธันวาคม 02, 2012, 09:24:23 pm »

ใส่การอ้างถึงคำพูด

หมายกำหนดการพระราชพิธี 5 ธ.ค.55
เปิดหมายกำหนดการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 5 ธ.ค. 55 ทั้งช่วงเช้าในพิธีการเสด็จออกมหาสมาคม จนถึงพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หมายกำหนดการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 5 ธ.ค. ตั้งแต่เวลา 08.30 น. ผู้แทนองค์กรหน่วยงานต่างๆ ถวายพานพุ่มสักการะตามลำดับ ส่วนลานพระราชวังดุสิตทหารรักษาพระองค์ และราษฎร์ทุกหมู่เหล่า เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระพรชัยมงคล

จากนั้นเวลา 10.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเสด็จออกพระที่นั่งอนันตสมาคม พระบรมวงศ์ศานุวงศ์ องคมนตรี เลขาธิการพระราชวัง ราชเลขาธิการ สมาชิกราชสกุล และสตรีผู้มีบรรดาศักดิ์ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เมื่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ์ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงยืนเฝ้าฯ ที่แท่นหน้าสีหบัญชร พร้อมแล้ว เจ้าพนักงานรัวกรับเปิดพระวิสูตร

จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกสีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม ชาวพนักงานกระทั่งแตรมโหระทึก ประโคมแตรฝรั่ง ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติฝ่ายละ 21 นัด เมื่อสุดเสียงประโคมแล้ว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ์ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนพระบรมวงศ์ศานุวงศ์จบ เสด็จพระราชดำเนินไปเฝ้าฯ ณ ห้องพระโรงหน้าพระที่นั่งอนันตสมาคม

จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพแล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนคณะรัฐมนตรี ข้าราชการทหารพลเรือน และราษฎรทุกหมู่เหล่า นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภาเปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนสมาชิกรัฐสภา นายไพโรจน์ วายุภาพ ประธานศาลฎีกา เปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนข้าราชการตุลาการ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) กราบบังคมทูลพระกรุณาและกล่าวนำทหารรักษาพระองค์ถวายสัตย์ปฏิญาณจบ ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี จบเพลงสรรเสริญพระบารมี ผู้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในมหาสมาคม ถวายความเคารพพร้อมกัน

จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสตอบจบแล้ว ผู้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในมหาสมาคมทั้งหมดถวายความเคารพ ชาวพนักงานกระทั่งมโหระทึก ประโคมแตรฝรั่ง ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี เมื่อเจ้าพนักงานรัวกรับและปิดพระวิสูตร ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพ ถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินกลับ

ต่อมาเวลา 14.30 น. ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ์ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดารามต่อไป

ส่วนพิธีถวายเครื่องราชสักการะ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคลและถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ เริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 15.50 น. พสนิกรทุกหมู่เหล่ารวมพลบริเวณท้องสนามหลวงและศาลฎีกาเข้าประจำที่ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ แขกผู้มีเกียรติ คณะกรรมการจัดงานพร้อมกันที่บริเวณพิธี

จนกระทั่ง เวลา 18.30 น. ภายหลังจากที่ริ้วขบวนอัญเชิญเครื่องราชสักการะเข้ารวมพลตามจุดนัดหมายที่กำหนดผู้แทนจากองค์กรหน่วยงานต่างๆ ถวายพานพุ่มสักการะ จากนั้น 19.19 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ฐานะประธานในพิธีเดินทางมาถึงและเข้าประจำแท่นเกียรติยศในพิธี แล้วเวลา 19.29 น. ประธานพิธีเปิดกรวยกระทงดอกไม้ ถวายเครื่องราชสักการะและถวายความเคารพ และเริ่มจุดเทียนชัยเพื่อประกอบพิธีถวายพระพรชัยมงคล โดยนายกรัฐมนตรีเป็นผู้นำกล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติและถวายพระพรชัยมงคลหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี จากนั้นนายกรัฐมนตรีรับมอบโคมเทียนแล้วนำร้องเพลงสดุดีมหาราช 2 จบ พร้อมกับผู้เข้าร่วมพิธี และประชาชนทั้งในบริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวงและทุกจังหวัดทั่วราชอาณาจักร กระทั่งจบเพลงมีการจุดพลุและดอกไม้ไฟเริ่มการแสดงมหรสพต่างๆ

และในเวลา 23.49 พระพรหมวชิรญาณ กรรมการมหาเถรสมาคมเจ้าอาวาสวัดยานนาวา ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์มูลนิธิ 5 ธันวามหาราชฝ่ายสงฆ์เป็นประธานในพิธีดับเทียนชัย แล้วทุกเวทีการแสดงมหรสพต่างๆ บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี แล้วดร.จรินทร์ สวนแก้ว ประธานมูลนิธิ 5 ธันวามหาราช กล่าวปิดงานเป็นอันเสร็จสิ้นงานทั้งหมด

-http://www.posttoday.com/
ในหลวงในดวงใจ
noway2know -http://www.prachathon.org/forum/index.php?topic=7251.0

ข่าว:

ตอบ

สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: ฐิตา

ข้อความโดย: ฐิตา

ข้อความโดย: ฐิตา

ข้อความโดย: ฐิตา

ข้อความโดย: ฐิตา

ข้อความโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน

ข้อความโดย: ฐิตา

ข้อความโดย: ฐิตา