ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: ธันวาคม 16, 2012, 09:44:19 am »รู้ทันกรรม
-http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROaWRXUXdPVEUyTVRJMU5RPT0=§ionid=TURNd053PT0=&day=TWpBeE1pMHhNaTB4Tmc9PQ==-
คอลัมน์ ธรรมะวันหยุด
พระเทพคุณาภรณ์ (โสภณ โสภณจิตฺโต ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร www.watdevaraj.com
กฎหมายกับความยุติธรรม ต่างกัน ยุติธรรมเป็นเรื่องของความถูกต้องเกี่ยวข้องจิตใจ แต่กฎหมายเป็นเรื่องคำสั่ง เป็นแบบแผนที่จะต้องปฏิบัติตาม
เพราะบางที ผู้ตัดสินว่า เป็นความยุติธรรมแล้ว แต่ผู้ถูกตัดสินอ้างว่าไม่เป็นธรรม ยังไม่เป็นความยุติธรรมที่แท้ แต่ถ้ายอมรับก็ถือเป็นความยุติธรรม
ตัวอย่าง สมมติว่าท่านมีลูกอยู่ 5 คน วันหนึ่งท่านไปตลาด เห็นส้มเขียวหวานน่ารับประทาน จึงซื้อมา 20 ผล มาถึงบ้านจัดแบ่งให้ลูกทั้ง 5 คน คนละ 4 ผล ซึ่งถ้าจะพิจารณาตามจำนวนผลเป็นความยุติธรรมดีแล้ว เพราะผลเท่าๆ กัน จำนวนเท่ากัน
แต่ลูก 5 คนนั้น ถ้ามีคนหนึ่งเกิดร้องขึ้นว่า ท่านไม่ยุติธรรม ท่านจะมีความรู้สึกอย่างไร คงมีความรู้สึกว่าลูกคนนั้นโกงใช้ไม่ได้ เอาเปรียบคนอื่น ทั้งๆ ที่ท่านแบ่งให้ตามจำนวนเท่ากัน
แต่ถ้าถามเขาว่าเพราะเหตุใดจึงไม่ยุติธรรม เขาจะตอบว่า เพราะกลีบส้มมันไม่เท่ากัน รสของส้มไม่เท่ากัน เพราะส้มแต่ละผลนั้นย่อมมีกลีบและรสส้มไม่เหมือนกันอยู่แล้ว
จะเห็นชัดเจนว่า ความยุติธรรมโดยสมมตินั้น จะเกิดปัญหาเช่นนี้เสมอ เมื่อผู้ใดประสบปัญหาเช่นนี้แล้ว มักจะพูดอย่างน้อยใจว่า ในโลกนี้หาความยุติธรรมไม่ได้ และบุคคลเหล่านี้น่าจะได้รับการเห็นใจ เพราะยังไม่เข้าใจว่า ยุติธรรมที่แท้คืออะไร
ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นไปตามกระบวนการของความยุติธรรมทั้งนั้น เพราะตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนานั้น บุคคลกระทำกรรมอันเป็นเหตุอย่างใด ต้องรับผลแห่งกรรมอย่างนั้น
สัตว์ที่ถูกเขาฆ่า เพราะในอดีตเคยไปฆ่าเขามาก่อน สัตว์ที่ถูกเบียดเบียนถูกข่มเหงรังแกเพราะในอดีตเคยไปเบียดเบียนไปข่มเหงรังแกเขามาก่อน สัตว์ที่ถูกหลอกลวงในปัจจุบัน เพราะในอดีตเคยไปหลอกลวงเขามาก่อน คนที่ถูกโกงในปัจจุบัน เพราะอดีตเคยไปโกงเขามาก่อน
คนที่ถูกลงโทษถึงติดคุกติดตะราง โดยปัจจุบันไม่เคยกระทำความผิดแต่อย่างใด เพราะอดีตเคยลงโทษผู้ที่ไม่ได้กระทำความผิดมาก่อน ในปัจจุบันนี้ จึงได้รับผลแห่งการกระทำอย่างนั้นบ้าง จึงกล่าวได้ว่าเป็นความยุติธรรมโดยธรรมชาติ
คนที่ทำชั่ว ในปัจจุบัน แต่ไม่ถูกลงโทษ อย่าคิดว่าตนไม่ต้องรับผลแห่งการกระทำนั้น สักวันหนึ่งผลแห่งการ กระทำ จะต้องลงโทษอย่างไม่ต้องสงสัย
ส่วนจะลงโทษให้เห็นในปัจจุบันหรือในภายภาคหน้า แล้วแต่น้ำหนักของกรรม ซึ่งผลของกรรมดังที่กล่าวนี้ เป็นหลักของการพิจารณาว่าโลกของเรานี้มีความยุติธรรมอย่างแน่นอน
-http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROaWRXUXdPVEUyTVRJMU5RPT0=§ionid=TURNd053PT0=&day=TWpBeE1pMHhNaTB4Tmc9PQ==-
คอลัมน์ ธรรมะวันหยุด
พระเทพคุณาภรณ์ (โสภณ โสภณจิตฺโต ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร www.watdevaraj.com
กฎหมายกับความยุติธรรม ต่างกัน ยุติธรรมเป็นเรื่องของความถูกต้องเกี่ยวข้องจิตใจ แต่กฎหมายเป็นเรื่องคำสั่ง เป็นแบบแผนที่จะต้องปฏิบัติตาม
เพราะบางที ผู้ตัดสินว่า เป็นความยุติธรรมแล้ว แต่ผู้ถูกตัดสินอ้างว่าไม่เป็นธรรม ยังไม่เป็นความยุติธรรมที่แท้ แต่ถ้ายอมรับก็ถือเป็นความยุติธรรม
ตัวอย่าง สมมติว่าท่านมีลูกอยู่ 5 คน วันหนึ่งท่านไปตลาด เห็นส้มเขียวหวานน่ารับประทาน จึงซื้อมา 20 ผล มาถึงบ้านจัดแบ่งให้ลูกทั้ง 5 คน คนละ 4 ผล ซึ่งถ้าจะพิจารณาตามจำนวนผลเป็นความยุติธรรมดีแล้ว เพราะผลเท่าๆ กัน จำนวนเท่ากัน
แต่ลูก 5 คนนั้น ถ้ามีคนหนึ่งเกิดร้องขึ้นว่า ท่านไม่ยุติธรรม ท่านจะมีความรู้สึกอย่างไร คงมีความรู้สึกว่าลูกคนนั้นโกงใช้ไม่ได้ เอาเปรียบคนอื่น ทั้งๆ ที่ท่านแบ่งให้ตามจำนวนเท่ากัน
แต่ถ้าถามเขาว่าเพราะเหตุใดจึงไม่ยุติธรรม เขาจะตอบว่า เพราะกลีบส้มมันไม่เท่ากัน รสของส้มไม่เท่ากัน เพราะส้มแต่ละผลนั้นย่อมมีกลีบและรสส้มไม่เหมือนกันอยู่แล้ว
จะเห็นชัดเจนว่า ความยุติธรรมโดยสมมตินั้น จะเกิดปัญหาเช่นนี้เสมอ เมื่อผู้ใดประสบปัญหาเช่นนี้แล้ว มักจะพูดอย่างน้อยใจว่า ในโลกนี้หาความยุติธรรมไม่ได้ และบุคคลเหล่านี้น่าจะได้รับการเห็นใจ เพราะยังไม่เข้าใจว่า ยุติธรรมที่แท้คืออะไร
ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นไปตามกระบวนการของความยุติธรรมทั้งนั้น เพราะตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนานั้น บุคคลกระทำกรรมอันเป็นเหตุอย่างใด ต้องรับผลแห่งกรรมอย่างนั้น
สัตว์ที่ถูกเขาฆ่า เพราะในอดีตเคยไปฆ่าเขามาก่อน สัตว์ที่ถูกเบียดเบียนถูกข่มเหงรังแกเพราะในอดีตเคยไปเบียดเบียนไปข่มเหงรังแกเขามาก่อน สัตว์ที่ถูกหลอกลวงในปัจจุบัน เพราะในอดีตเคยไปหลอกลวงเขามาก่อน คนที่ถูกโกงในปัจจุบัน เพราะอดีตเคยไปโกงเขามาก่อน
คนที่ถูกลงโทษถึงติดคุกติดตะราง โดยปัจจุบันไม่เคยกระทำความผิดแต่อย่างใด เพราะอดีตเคยลงโทษผู้ที่ไม่ได้กระทำความผิดมาก่อน ในปัจจุบันนี้ จึงได้รับผลแห่งการกระทำอย่างนั้นบ้าง จึงกล่าวได้ว่าเป็นความยุติธรรมโดยธรรมชาติ
คนที่ทำชั่ว ในปัจจุบัน แต่ไม่ถูกลงโทษ อย่าคิดว่าตนไม่ต้องรับผลแห่งการกระทำนั้น สักวันหนึ่งผลแห่งการ กระทำ จะต้องลงโทษอย่างไม่ต้องสงสัย
ส่วนจะลงโทษให้เห็นในปัจจุบันหรือในภายภาคหน้า แล้วแต่น้ำหนักของกรรม ซึ่งผลของกรรมดังที่กล่าวนี้ เป็นหลักของการพิจารณาว่าโลกของเรานี้มีความยุติธรรมอย่างแน่นอน