ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: มกราคม 01, 2013, 09:28:33 am »หุ้น IPO ปี 56 ร้อนแรงต่อเนื่อง ภาวะตลาดหุ้นเอื้อ-นักลงทุนสนใจ
-http://www.manager.co.th/iBizchannel/viewNews.aspx?NewsID=9550000157842-
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
31 ธันวาคม 2555 16:52 น.
หุ้นไอพีโอปี 56 ยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง จากปีนี้ถือว่าเป็นปีทองหุ้นใหม่ เหตุภาวะตลาดหุ้นไทยเอื้อ-นักลงทุนสนใจเข้าลงทุน จากผลตอบแทนสูง “ชนิตร” คาดปีหน้า บริษัทยื่นไฟลิ่งประมาณ 50 บริษัท เบื้องต้นเทรดได้ 20 บริษัทจากที่ยื่นค้างจากปีนี้ นายกสมาคม บล. ชี้ ปีนี้มีหุ้นขนาดใหญ่เข้าจดทะเบียนมากขึ้น จากปีก่อนส่วนใหญ่หุ้นขนาดกลาง ติงปี 55 ราคาหุ้นพุ่งแรงเหตุตั้งราคาต่ำ แนะที่ปรึกษาตั้งราคาให้เหมาะสม
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการ สายงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ส่วนตัวคาดว่าในปี 2556 จะมีบริษัทยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ประมาณ 40-50 บริษัท และเบื้องต้น คาดว่าจะเข้าซื้อขายได้ประมาณ 20 บริษัท เพราะเป็นบริษัทที่มีการยื่นไฟลิ่งค้างไว้ตั้งแต่ปี 2555
ทั้งนี้ ส่วนตัวเชื่อว่ากระแสหุ้นไอพีโอในปี 2556 นั้น คาดว่านักลงทุนจะให้การตอบรับที่ดีต่อเนื่องจากปี 2555 โดยสาเหตุที่ทำให้หุ้นไอพีโอเข้ามาเทรดแล้วราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าราคาจำนวนมากนั้น เนื่องจาก บริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน ได้มีการกระจายหุ้นให้แก่นักลงทุนจำนวนมากถึง 3,000-4,000 ราย ทำให้มีนักลงทุนรายใหม่เข้ามาเทรดหุ้นมากขึ้น และบริษัทมีการตั้งราคาหุ้นที่เหมาะสม
นอกจากนี้ ภาวะตลาดหุ้นไทยที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้นักลงทุนสนใจเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นมากขึ้น และนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในหุ้นไอพีโอก็ได้รับผลอตอบแทนที่ดี จึงทำให้กระแสความสนใจในการลงทุนในหุ้นไอพีโอมากขึ้น
“ปีหน้ามีบริษัทยื่นไฟลิ่งเยอะมาก โดยบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนจะเป็นธุรกิจรีเทลแบรนด์ เหมือนกับ ฮอทพอต ทีวีไดเรค บิวตี้ คอมมูนิเคชั่น ฯลฯ อาหาร ยานยนต์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่นักลงทุนสนใจเข้าลงทุน และมีกองทุนอสัหาริมทรัพย์ มีบริษัทโฮดดิ้ง ฯลฯ เข้าจดทะเบียน”
สำหรับการเพิ่มทุนในปี 2556 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดรอง คาดว่าจะไม่สูงเหมือนกับปี 2555 ที่มีการระดมทุน 2.5 แสนล้านบาท ซึ่งสูงสุดในรอบ 10 ปี เพราะ บริษัทขนาดใหญ่ได้มีการเพิ่มทุนเกือบหมดแล้วในปี 2555 ซึ่งปี 2556 เหลือบริษัทขนาดกลาง และขนาดเล็กที่จะมีการเพิ่มทุน
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการ และผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศแห่งประเทศไทยกล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ คาดว่าปี 2556 หุ้นเข้าใหม่จะเพิ่มมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เกตแคป) จำนวน 1.2 แสนล้านบาท จากปี 2555 อยู่ที่ 1.13 แสนล้านบาท
นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และในฐานะนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวว่า หุ้นไอพีโอปีหน้า ยังดีอยู่ แต่จะดีแค่ไหนขึ้นอยู่กับภาวะตลาดหุ้น ซึ่งจะเห็นบริษัทขนาดใหญ่เข้ามาจดทะเบียนมากขึ้น จากปี 2555 ที่มีบริษัทขนาดกลาง และเล็ก โดยส่วนตัวอยากเห็นบริษัทมีการตั้งราคาหุ้นที่เหมาะสม เพื่อที่บริษัทจะได้เงินระดมทุนที่เหมาะสมในการขยายธุรกิจ และนักลงทุนได้ประโยชน์
ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่าหุ้นไอพีโอปี 55 ที่เข้ามาแล้วราคาหุ้นมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงนั้นเกิดจากการตั้งราคาที่ต่ำ แต่ข้อดีนั้นก็ทำให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีในการลงทุนที่สูง อย่างไรก็ตาม ปี 56 นี้อยากเห็นการตั้งราคาที่เหมาะสม
นายปิยะ พงษ์อัชฌา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT กล่าวว่า หุ้นของบริษัทเป็นบริษัทแรกที่สามารถเปิดซื้อขายแล้วราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดชนเพดาน (ซิลลิ่ง) และปิดการซื้อขายวันแรกซิลลิ่ง ซึ่งส่วนตัวมองว่าเป็นเพราะบริษัทมีผลประกอบการที่ดี ซึ่งปี56 บริษัทคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 15% จากปีนี้ และมีกำไรเพิ่มขึ้น 30% จากปี 55 และนักลงทุนมีความเข้าใจธุรกิจของบริษัท ประกอบกับกระแสความนิยมในการลงทุนในหุ้นไอพีโอ
นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CGS กล่าวว่า ทิศทางหุ้นไอพีโอปีหน้า ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นดีต่อเนื่องจากปี 55 เนื่องจากนักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาลงทุนจำนวนมาก จากให้ผลตอบแทนการลงทุนที่ดี และหุ้นไอพีโอที่จะประสบความสำเร็จนั้น ปัจจัยพื้นฐานจะต้องดี แนวโน้มผลประกอบการดี ปี 2556 บริษัทมีแผนนำบริษัทเข้าจดทะเบียนประมาณ 6 บริษัท ซึ่งเป็นทั้งที่ปรึกษาทางการเงิน และแกนนำในการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์
นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปีหน้าหุ้นไอพีโอนั้นเชื่อว่าทิศทางยังดีอยู่เหมือนกับปี 2555 เนื่องจากนักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาลงทุนจำนวนมาก และภาวะตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวที่ดี
ทั้งนี้ ปี 55 บริษัทมีแผนนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) จำนวน 4 บริษัท แบ่งเป็น เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ 3 บริษัท เข้าจดทะเบียนในตลาดเอ็มเอไอ 1 บริษัท โดยทำธุรกิจชิ้นส่วนรถยนต์ เครื่องจักรกลไฟฟ้า สื่อโฆษณา และเครื่องมือวัดความเที่ยงตรง
น.ส.สุวภา เจริญยิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ธนชาต จำกัด กล่าวว่า ปี 2556 จากที่ภาวะตลาดหุ้นไทยยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อจากปี 2555 เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อหุ้นใหม่ที่จะเข้าจดทะเบียน โดยบริษัทมีแผนที่จะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จำนวน ประมาณ 4 ดีล ธุรกิจค้าปลีก พาณิชย์ และบันเทิง โดยเป็นบริษัทขนาดใหญ่ มีขนาดระดมทุนประมาณ 1 หมื่นล้านบาท
สำหรับปี 2555 มีบริษัทใหม่เข้าจดทะเบียนรวม 18 บริษัท แบ่งเป็น ตลาดหลักทรัพย์ฯ จำนวน 8 บริษัท เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ จำนวน 10 บริษัท ซึ่งราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณ 100% ปีที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดให้แก่นักลงทุน ซึ่งหุ้นที่ทำสถิตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่เปิดตลาด ที่สามารถเปิดซื้อขายที่ราคาสูงสุด (ซิลลิ่ง) 200% และปิดการซื้อขายที่ราคาซิลลิ่ง คือ บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT ขณะที่มี 1 บริษัททราคาเปิดเท่าราคาจอง คือ บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ AAV และมี 1 บริษัทที่ปิดราคาต่ำจอง คือ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN
-http://www.manager.co.th/iBizchannel/viewNews.aspx?NewsID=9550000157842-
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
31 ธันวาคม 2555 16:52 น.
หุ้นไอพีโอปี 56 ยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง จากปีนี้ถือว่าเป็นปีทองหุ้นใหม่ เหตุภาวะตลาดหุ้นไทยเอื้อ-นักลงทุนสนใจเข้าลงทุน จากผลตอบแทนสูง “ชนิตร” คาดปีหน้า บริษัทยื่นไฟลิ่งประมาณ 50 บริษัท เบื้องต้นเทรดได้ 20 บริษัทจากที่ยื่นค้างจากปีนี้ นายกสมาคม บล. ชี้ ปีนี้มีหุ้นขนาดใหญ่เข้าจดทะเบียนมากขึ้น จากปีก่อนส่วนใหญ่หุ้นขนาดกลาง ติงปี 55 ราคาหุ้นพุ่งแรงเหตุตั้งราคาต่ำ แนะที่ปรึกษาตั้งราคาให้เหมาะสม
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการ สายงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ส่วนตัวคาดว่าในปี 2556 จะมีบริษัทยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ประมาณ 40-50 บริษัท และเบื้องต้น คาดว่าจะเข้าซื้อขายได้ประมาณ 20 บริษัท เพราะเป็นบริษัทที่มีการยื่นไฟลิ่งค้างไว้ตั้งแต่ปี 2555
ทั้งนี้ ส่วนตัวเชื่อว่ากระแสหุ้นไอพีโอในปี 2556 นั้น คาดว่านักลงทุนจะให้การตอบรับที่ดีต่อเนื่องจากปี 2555 โดยสาเหตุที่ทำให้หุ้นไอพีโอเข้ามาเทรดแล้วราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าราคาจำนวนมากนั้น เนื่องจาก บริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน ได้มีการกระจายหุ้นให้แก่นักลงทุนจำนวนมากถึง 3,000-4,000 ราย ทำให้มีนักลงทุนรายใหม่เข้ามาเทรดหุ้นมากขึ้น และบริษัทมีการตั้งราคาหุ้นที่เหมาะสม
นอกจากนี้ ภาวะตลาดหุ้นไทยที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้นักลงทุนสนใจเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นมากขึ้น และนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในหุ้นไอพีโอก็ได้รับผลอตอบแทนที่ดี จึงทำให้กระแสความสนใจในการลงทุนในหุ้นไอพีโอมากขึ้น
“ปีหน้ามีบริษัทยื่นไฟลิ่งเยอะมาก โดยบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนจะเป็นธุรกิจรีเทลแบรนด์ เหมือนกับ ฮอทพอต ทีวีไดเรค บิวตี้ คอมมูนิเคชั่น ฯลฯ อาหาร ยานยนต์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่นักลงทุนสนใจเข้าลงทุน และมีกองทุนอสัหาริมทรัพย์ มีบริษัทโฮดดิ้ง ฯลฯ เข้าจดทะเบียน”
สำหรับการเพิ่มทุนในปี 2556 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดรอง คาดว่าจะไม่สูงเหมือนกับปี 2555 ที่มีการระดมทุน 2.5 แสนล้านบาท ซึ่งสูงสุดในรอบ 10 ปี เพราะ บริษัทขนาดใหญ่ได้มีการเพิ่มทุนเกือบหมดแล้วในปี 2555 ซึ่งปี 2556 เหลือบริษัทขนาดกลาง และขนาดเล็กที่จะมีการเพิ่มทุน
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการ และผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศแห่งประเทศไทยกล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ คาดว่าปี 2556 หุ้นเข้าใหม่จะเพิ่มมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เกตแคป) จำนวน 1.2 แสนล้านบาท จากปี 2555 อยู่ที่ 1.13 แสนล้านบาท
นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และในฐานะนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวว่า หุ้นไอพีโอปีหน้า ยังดีอยู่ แต่จะดีแค่ไหนขึ้นอยู่กับภาวะตลาดหุ้น ซึ่งจะเห็นบริษัทขนาดใหญ่เข้ามาจดทะเบียนมากขึ้น จากปี 2555 ที่มีบริษัทขนาดกลาง และเล็ก โดยส่วนตัวอยากเห็นบริษัทมีการตั้งราคาหุ้นที่เหมาะสม เพื่อที่บริษัทจะได้เงินระดมทุนที่เหมาะสมในการขยายธุรกิจ และนักลงทุนได้ประโยชน์
ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่าหุ้นไอพีโอปี 55 ที่เข้ามาแล้วราคาหุ้นมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงนั้นเกิดจากการตั้งราคาที่ต่ำ แต่ข้อดีนั้นก็ทำให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีในการลงทุนที่สูง อย่างไรก็ตาม ปี 56 นี้อยากเห็นการตั้งราคาที่เหมาะสม
นายปิยะ พงษ์อัชฌา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT กล่าวว่า หุ้นของบริษัทเป็นบริษัทแรกที่สามารถเปิดซื้อขายแล้วราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดชนเพดาน (ซิลลิ่ง) และปิดการซื้อขายวันแรกซิลลิ่ง ซึ่งส่วนตัวมองว่าเป็นเพราะบริษัทมีผลประกอบการที่ดี ซึ่งปี56 บริษัทคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 15% จากปีนี้ และมีกำไรเพิ่มขึ้น 30% จากปี 55 และนักลงทุนมีความเข้าใจธุรกิจของบริษัท ประกอบกับกระแสความนิยมในการลงทุนในหุ้นไอพีโอ
นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CGS กล่าวว่า ทิศทางหุ้นไอพีโอปีหน้า ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นดีต่อเนื่องจากปี 55 เนื่องจากนักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาลงทุนจำนวนมาก จากให้ผลตอบแทนการลงทุนที่ดี และหุ้นไอพีโอที่จะประสบความสำเร็จนั้น ปัจจัยพื้นฐานจะต้องดี แนวโน้มผลประกอบการดี ปี 2556 บริษัทมีแผนนำบริษัทเข้าจดทะเบียนประมาณ 6 บริษัท ซึ่งเป็นทั้งที่ปรึกษาทางการเงิน และแกนนำในการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์
นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปีหน้าหุ้นไอพีโอนั้นเชื่อว่าทิศทางยังดีอยู่เหมือนกับปี 2555 เนื่องจากนักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาลงทุนจำนวนมาก และภาวะตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวที่ดี
ทั้งนี้ ปี 55 บริษัทมีแผนนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) จำนวน 4 บริษัท แบ่งเป็น เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ 3 บริษัท เข้าจดทะเบียนในตลาดเอ็มเอไอ 1 บริษัท โดยทำธุรกิจชิ้นส่วนรถยนต์ เครื่องจักรกลไฟฟ้า สื่อโฆษณา และเครื่องมือวัดความเที่ยงตรง
น.ส.สุวภา เจริญยิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ธนชาต จำกัด กล่าวว่า ปี 2556 จากที่ภาวะตลาดหุ้นไทยยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อจากปี 2555 เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อหุ้นใหม่ที่จะเข้าจดทะเบียน โดยบริษัทมีแผนที่จะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จำนวน ประมาณ 4 ดีล ธุรกิจค้าปลีก พาณิชย์ และบันเทิง โดยเป็นบริษัทขนาดใหญ่ มีขนาดระดมทุนประมาณ 1 หมื่นล้านบาท
สำหรับปี 2555 มีบริษัทใหม่เข้าจดทะเบียนรวม 18 บริษัท แบ่งเป็น ตลาดหลักทรัพย์ฯ จำนวน 8 บริษัท เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ จำนวน 10 บริษัท ซึ่งราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณ 100% ปีที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดให้แก่นักลงทุน ซึ่งหุ้นที่ทำสถิตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่เปิดตลาด ที่สามารถเปิดซื้อขายที่ราคาสูงสุด (ซิลลิ่ง) 200% และปิดการซื้อขายที่ราคาซิลลิ่ง คือ บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT ขณะที่มี 1 บริษัททราคาเปิดเท่าราคาจอง คือ บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ AAV และมี 1 บริษัทที่ปิดราคาต่ำจอง คือ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN