ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: มีนาคม 27, 2013, 08:40:54 pm »ชีวิตของเราคืองานศิลปะ
การเขียนศิลปะคือการภาวนา และการทำสมาธิ เหมือนเช่นที่ท่าน ติช นัท ฮันห์
“ฉันผสมชาลงในหมึก ลายพู่กันที่เขียนจึงมีรสชาติชาอยู่ด้วย ฉันใช้พู่กันจีนและพู่กันสมัยใหม่หลายหลายชนิดและขนาด เวลาที่วาดวงกลม ฉันจะตามลมหายใจ หายใจเข้า วาดวงกลมมาครึ่งหนึ่ง หายใจออก วาดครึ่งวงกลมที่เหลือ งานเขียนลายพู่กันประกอบด้วยหมึก ชา ลมหายใจ สติ และสมาธิ นี่คือการทำสมาธิ ไม่ใช่การทำงาน หากเขียนคำว่า 'หายใจ' ฉันก็จะหายใจในขณะกำลังเขียน การมีชีวิตอยู่คือปาฏิหาริย์ และเมื่อเธอหายใจอย่างมีสติ เธอก็จะสามารถสัมผัสกับปาฏิหาริย์แห่งการมีชีวิตได้ ดังนั้นทุกสิ่งควรเป็นไปอย่างมีสติ การเขียนลายพู่กันจึงเป็นการฝึกสมาธิอย่างหนึ่ง”
- พระอาจารย์ติช นัท ฮันห์
..........................
พระอาจารย์ติช นัท ฮันห์ พระเถระผู้นำศาสนาพุทธ นิกายมหายาน ชาวเวียดนาม ผู้เป็นทั้งนักเขียน กวี และผู้เรียกร้องสันติภาพ เป็นผู้นำเสนอความคิดพุทธศาสนาต้องเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน (Engaged Buddhism) และพุทธธรรมเป็นสิ่งที่สามารถประยุกต์ใช้ให้เข้ากับวิถีชีวิตยุคปัจจุบันได้ ท่านสอนเรื่องภาวนาสติผ่านกิจกรรมต่างๆในชีวิตประจำวัน นั่ง นอน รับประทานอาหาร ฟังเสียงระฆัง และท่านยังเป็นผู้ฝึกภาวนากับการเขียนลายพู่กัน ศิลปะแห่งสติอีกด้วย
หลวงปู่ติช นัท ฮันห์ เคยกล่าวถึงการวาดลายพู่กันของท่านไว้ว่า
“ฉันเขียนคำและประโยคต่างๆ เพื่อเตือนให้ผู้คนหันมาฝึกปฏิบัติ อย่างเช่น "หายใจและเบิกบานในอาณาจักรของพระเจ้า ณ ที่นี่และในขณะนี้" หรือ "หายใจและเบิกบานกับปาฏิหารย์แห่งปัจจุบันขณะ" คำว่า'ปฏิหารย์'หมายถึง เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ ถ้าในขณะนั้น เธอได้อยู่ตรงนั้นอย่างเต็มเปี่ยม เธอก็สามารถจะรับรู้ถึงความมหัศจรรย์แห่งชีวิตที่รายล้อมเธออยู่มากมายในชั่วขณะนั้นได้ อาณาจักรของพระเจ้า แผ่นดินแห่งพุทธะจะปรากฎอยู่ ณ ตรงนั้น ดังนั้น หายใจเข้า นำใจของเรากลับสู่กายของเรา และเธอจะสัมผัสกับสิ่งมหัศจรรย์มากมายที่รายล้อมอยู่ในขณะนี้”
ศิลปะลายพู่กันของพระอาจารย์ติช นัท ฮันห์ คือ การปฏิบัติภาวนาอันเปี่ยมด้วยสติ ลายเส้นอันสุขุมลุ่มลึกและเนิบช้า บ่งบอกถึงปัญญารู้แจ้ง อารมณ์ที่นิ่งสงบของพระอาจารย์ติช นัท ฮันห์ผู้เป็นเจ้าของลายพู่กัน งานของท่านสามารถกระตุ้นให้เกิดความรู้อันลึกซึ้ง มิใช่เพียงความรู้เกี่ยวกับโลกใบนี้แต่ยังเป็นความรู้ถึงตัวท่านและสรรพชีวิต ในฐานะพุทธศาสนิกชน พระอาจารย์ได้เข้าถึงปัญญารู้แจ้งโดยการปลดปล่อยตนเองจากพันธนาการแห่งการยึดถือตัวตน นี่คือเหตุผลที่ศิลปะลายพู่กันของท่านประเมินค่ามิได้ เป็นสิ่งที่ทรงคุณค่างดงามอย่างสมบูรณ์ยากที่จะพบได้ในงานของผู้อื่น
พระอาจารย์กลั่นถ้อยคำออกมาว่า “งานศิลปะของเราจะงดงามมาก หากเพียงเราตระหนักรู้และเป็นหนึ่งเดียวกับงานนั้น จนเราไม่ต้องอธิบายเพิ่มเติมใดๆ เมื่อเรารู้ว่าจะทำใจให้สงบได้อย่างไร เราก็จะพบว่า ศิลปะนั้นเป็นหนทางที่ดีเยี่ยมในการแบ่งปันความสงบศานติในตัวเรา ความเป็นศิลปินย่อมถูกแสดงออกมาไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่การอยู่ตรงนั้นอย่างเต็มเปี่ยมเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ดังนั้นเราต้องกลับมาอยู่กับตัวเราเอง เมื่อเรามีความเบิกบานและสงบในตัวเราเองแล้ว ความคิดสร้างสรรค์ทางงานศิลปะจะเป็นธรรมชาติและเป็นประโยชน์มากกับโลกใบนี้”
ในวันที่ 2-12 เมษายนนี้ เราจะได้ชมงานศิลปะปลายพู่กันของพระอาจารย์ติช นัท ฮันห์ ในงานนิทรรศการที่ใช้ชื่อว่า “ภาวนากับลายพู่กัน ศิลปะแห่งสติ” จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่ห้องเอนกประสงค์ ชั้น 1 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ผู้ชมจะได้ชื่นชมลายเส้นอันสุขุมเนิบช้า บ่งบอกปัญญารู้แจ้ง และอารมณ์ที่นิ่งสงบของท่านอย่างอิ่มใจจากศิลปะลายพู่กันที่เขียนต่างเวลาและวาระ รวมทั้งสิ้นกว่า 100 ภาพ และในวันเปิดนิทรรศการ พระอาจารย์ติช นัท ฮันห์ ยังจะได้สาธิตการภาวนากับลายพู่กัน ศิลปะแห่งสติ ตามวิถีเซ็น ให้ผู้มาร่วมงานได้ชื่นชมอีกด้วย
พิธีเปิดในวันที่ 3 เมษายน จะประกอบด้วย การแสดงบทเพลงภาวนา โดยคณะนักดนตรี และนักร้อง จากมูลนิธิ อาจารย์สุกรี เจริญสุข การภาวนาด้วยบทเพลง กับคณะนักบวชจากหมู่บ้านพลัม ประเทศฝรั่งเศส และพิธีเปิดงานโดย ปลัดกรุงเทพมหานคร
http://bit.ly/10291qo