ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 500 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

Verification:
ระหว่างความดีกับความไม่ดี เราจะเลือกทำสิ่งใดจึงจะสามารถบรรลุธรรมได้จริง ( เลือกตอบแค่ ความดี กับ ความไม่ดี ครับผม):
คนที่มีจิตใจอ่อนโยนส่วนใหญ่มัก คิดถึงสิ่งใดก่อนเสมอ  ( เลือกตอบแค่ ตัวเอง กับ คนอื่น ครับผม ):
ถ้าเราโกรธใคร ธรรมะจะเป็นหนทางผ่อนคลายความโกรธนั้นลงได้ใช่ไหม ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม ):
ชีวิตบางครั้งก็เหมือนเหรียญสองด้านใช่หรือไม่ครับบางครั้งก็หัวบางครั้งก็ก้อย( เลือกตอบแค่ ใช่ กับไม่ใช่ครับผม):
เว็บใต้ร่มธรรมเป็นเว็บเล็กๆแนวธรรมะในจิตใช่หรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า แสงธรรมนำใจ:
การแสดงความชื่นชมยินดีในบุญหรือความดีที่ผู้อื่นทำ นิยมใช้คำว่า (อนุโมทนา) กรุณาพิมพ์คำนี้ครับ อนุโมทนา:
เปล่งวาจาว่าสาธุ เป็นการอนุโมทนาต่อพระสงฆ์ที่วัด หรือมีใครทำบุญแล้วมาบอกให้ทราบ ทราบแล้วยกมือขึ้น (สาธุ) กรุณาพิมพ์คำนี้ครับ  สาธุ:
วัฒนธรรมไทยเมื่อเห็นผู้ใหญ่ท่านจะทำความเคารพ ด้วยการไหว้ท่านก่อนเสมอใช่หรือไม่:
ใต้ร่มธรรม เป็น แค่เว็บไซต์และจินตนาการทางจิต การทำดี สำคัญที่ใจเรา เริ่มความดีที่ใจเราก่อนเสมอ พิมพ์คำว่า "เริ่มความดีที่ใจเราก่อนเสมอ":
เมื่อให้ท่านเลือก ระหว่าง (หนังสือเก่าๆเล่มหนึ่งที่เรารัก) กับ (มิตรแท้ที่รักเรา) คุณจะะเลือก:
ระหว่าง (ผู้ที่เรียนรู้ธรรมะเพื่อเอาชนะผู้อื่น) กับ (ผู้ที่เรียนรู้ธรรมะเพื่อเอาชนะตัวเอง)  ท่านจะเลือกเป็น:
กล่าวคำดังนี้  "ขออโหสิกรรม":
หากมีคน บอกว่า เราไม่ดีเราเลว แต่ใจเรารู้ว่าไม่เป็นเช่นนั้น เราจะใช้วิธีใดจัดการกับเรื่องนี้  (โต้เถียงให้แรงกว่าที่เค้าว่ามา) หรือ (เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ความดีของเราเองไม่ต้องทำอะไร):
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ใต้ร่มธรรมเองก็จะเป็นไปตามวัฐจักรนี้ ฉันท์ใดก็ฉันท์นั้น (เป็นจริง) หรือ (ไม่จริง):
ธรรมะคือ ธรรมชาติ พิมพ์คำว่า (ธรรมะชาติ) ครับ:
พิมพ์คำว่า (แสงธรรมนำทางธรรมะนำใจ) ครับ:
สำนวนไทยที่ว่า แต่ละคนต่างมีรสนิยมแตกต่างกัน หรือไม่ตรงกัน  พิมพ์สำนวนต่อไปนี้ครับ (ลางเนื้อชอบลางยา):
ไม่มีอะไรสายสำหรับการเริ่มต้น พิมพ์เป็นประโยคภาษาอังกฤษครับ เป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมดนะครับ เว้นวรรคคำด้วยครับ (It is never too late to mend):
ผู้ที่ไม่เคยรับรู้รสของความขมขื่น จะไม่รู้ว่าความหวานชื่นคืออะไร พิมพ์เป็นประโยคภาษาอังกฤษครับ เป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมดนะครับ เว้นวรรคคำด้วยครับ (He who has never tasted bitterness does not know what is sweet):

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: มีนาคม 27, 2013, 08:40:54 pm »



ชีวิตของเราคืองานศิลปะ

การเขียนศิลปะคือการภาวนา และการทำสมาธิ เหมือนเช่นที่ท่าน ติช นัท ฮันห์

“ฉันผสมชาลงในหมึก ลายพู่กันที่เขียนจึงมีรสชาติชาอยู่ด้วย ฉันใช้พู่กันจีนและพู่กันสมัยใหม่หลายหลายชนิดและขนาด เวลาที่วาดวงกลม ฉันจะตามลมหายใจ หายใจเข้า วาดวงกลมมาครึ่งหนึ่ง หายใจออก วาดครึ่งวงกลมที่เหลือ งานเขียนลายพู่กันประกอบด้วยหมึก ชา ลมหายใจ สติ และสมาธิ นี่คือการทำสมาธิ ไม่ใช่การทำงาน หากเขียนคำว่า 'หายใจ' ฉันก็จะหายใจในขณะกำลังเขียน การมีชีวิตอยู่คือปาฏิหาริย์ และเมื่อเธอหายใจอย่างมีสติ เธอก็จะสามารถสัมผัสกับปาฏิหาริย์แห่งการมีชีวิตได้ ดังนั้นทุกสิ่งควรเป็นไปอย่างมีสติ การเขียนลายพู่กันจึงเป็นการฝึกสมาธิอย่างหนึ่ง”
- พระอาจารย์ติช นัท ฮันห์
..........................

พระอาจารย์ติช นัท ฮันห์ พระเถระผู้นำศาสนาพุทธ นิกายมหายาน ชาวเวียดนาม ผู้เป็นทั้งนักเขียน กวี และผู้เรียกร้องสันติภาพ เป็นผู้นำเสนอความคิดพุทธศาสนาต้องเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน (Engaged Buddhism) และพุทธธรรมเป็นสิ่งที่สามารถประยุกต์ใช้ให้เข้ากับวิถีชีวิตยุคปัจจุบันได้ ท่านสอนเรื่องภาวนาสติผ่านกิจกรรมต่างๆในชีวิตประจำวัน นั่ง นอน รับประทานอาหาร ฟังเสียงระฆัง และท่านยังเป็นผู้ฝึกภาวนากับการเขียนลายพู่กัน ศิลปะแห่งสติอีกด้วย

หลวงปู่ติช นัท ฮันห์ เคยกล่าวถึงการวาดลายพู่กันของท่านไว้ว่า
“ฉันเขียนคำและประโยคต่างๆ เพื่อเตือนให้ผู้คนหันมาฝึกปฏิบัติ อย่างเช่น "หายใจและเบิกบานในอาณาจักรของพระเจ้า ณ ที่นี่และในขณะนี้" หรือ "หายใจและเบิกบานกับปาฏิหารย์แห่งปัจจุบันขณะ" คำว่า'ปฏิหารย์'หมายถึง เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ ถ้าในขณะนั้น เธอได้อยู่ตรงนั้นอย่างเต็มเปี่ยม เธอก็สามารถจะรับรู้ถึงความมหัศจรรย์แห่งชีวิตที่รายล้อมเธออยู่มากมายในชั่วขณะนั้นได้ อาณาจักรของพระเจ้า แผ่นดินแห่งพุทธะจะปรากฎอยู่ ณ ตรงนั้น ดังนั้น หายใจเข้า นำใจของเรากลับสู่กายของเรา และเธอจะสัมผัสกับสิ่งมหัศจรรย์มากมายที่รายล้อมอยู่ในขณะนี้”

ศิลปะลายพู่กันของพระอาจารย์ติช นัท ฮันห์ คือ การปฏิบัติภาวนาอันเปี่ยมด้วยสติ ลายเส้นอันสุขุมลุ่มลึกและเนิบช้า บ่งบอกถึงปัญญารู้แจ้ง อารมณ์ที่นิ่งสงบของพระอาจารย์ติช นัท ฮันห์ผู้เป็นเจ้าของลายพู่กัน งานของท่านสามารถกระตุ้นให้เกิดความรู้อันลึกซึ้ง มิใช่เพียงความรู้เกี่ยวกับโลกใบนี้แต่ยังเป็นความรู้ถึงตัวท่านและสรรพชีวิต ในฐานะพุทธศาสนิกชน พระอาจารย์ได้เข้าถึงปัญญารู้แจ้งโดยการปลดปล่อยตนเองจากพันธนาการแห่งการยึดถือตัวตน นี่คือเหตุผลที่ศิลปะลายพู่กันของท่านประเมินค่ามิได้ เป็นสิ่งที่ทรงคุณค่างดงามอย่างสมบูรณ์ยากที่จะพบได้ในงานของผู้อื่น

พระอาจารย์กลั่นถ้อยคำออกมาว่า “งานศิลปะของเราจะงดงามมาก หากเพียงเราตระหนักรู้และเป็นหนึ่งเดียวกับงานนั้น จนเราไม่ต้องอธิบายเพิ่มเติมใดๆ เมื่อเรารู้ว่าจะทำใจให้สงบได้อย่างไร เราก็จะพบว่า ศิลปะนั้นเป็นหนทางที่ดีเยี่ยมในการแบ่งปันความสงบศานติในตัวเรา ความเป็นศิลปินย่อมถูกแสดงออกมาไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่การอยู่ตรงนั้นอย่างเต็มเปี่ยมเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ดังนั้นเราต้องกลับมาอยู่กับตัวเราเอง เมื่อเรามีความเบิกบานและสงบในตัวเราเองแล้ว ความคิดสร้างสรรค์ทางงานศิลปะจะเป็นธรรมชาติและเป็นประโยชน์มากกับโลกใบนี้”

ในวันที่ 2-12 เมษายนนี้ เราจะได้ชมงานศิลปะปลายพู่กันของพระอาจารย์ติช นัท ฮันห์ ในงานนิทรรศการที่ใช้ชื่อว่า “ภาวนากับลายพู่กัน ศิลปะแห่งสติ” จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่ห้องเอนกประสงค์ ชั้น 1 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ผู้ชมจะได้ชื่นชมลายเส้นอันสุขุมเนิบช้า บ่งบอกปัญญารู้แจ้ง และอารมณ์ที่นิ่งสงบของท่านอย่างอิ่มใจจากศิลปะลายพู่กันที่เขียนต่างเวลาและวาระ รวมทั้งสิ้นกว่า 100 ภาพ และในวันเปิดนิทรรศการ พระอาจารย์ติช นัท ฮันห์ ยังจะได้สาธิตการภาวนากับลายพู่กัน ศิลปะแห่งสติ ตามวิถีเซ็น ให้ผู้มาร่วมงานได้ชื่นชมอีกด้วย

พิธีเปิดในวันที่ 3 เมษายน จะประกอบด้วย การแสดงบทเพลงภาวนา โดยคณะนักดนตรี และนักร้อง จากมูลนิธิ อาจารย์สุกรี เจริญสุข การภาวนาด้วยบทเพลง กับคณะนักบวชจากหมู่บ้านพลัม ประเทศฝรั่งเศส และพิธีเปิดงานโดย ปลัดกรุงเทพมหานคร

 :19: http://bit.ly/10291qo
ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: มีนาคม 27, 2013, 08:32:55 pm »



'ติช นัท ฮันห์'ถึงไทยจัดฝึกสมาธิภาวนา

'ติช นัท ฮันห์' พระมหาเถระผู้นำพุทธนิกายมหายานแห่งหมู่บ้านพลัม ถึงไทย จาริกธรรมตลอด เม.ย.เปิดโอกาสคนไทยร่วมกิจกรรมฝึกสมาธิภาวนา
              เมื่อวันที่ 25 มีนาคม พระอาจารย์ติช นัท ฮันห์ พระมหาเถระผู้นำศาสนาพุทธนิกายมหายาน พร้อมด้วยคณะสงฆ์ เดินทางมายังประเทศไทย เพื่อทำกิจกรรมจาริกธรรมในประเทศไทยตลอดเดือนเมษายน เป็นเวลา 1 เดือนเต็ม  โดยมีพระครูปลัดสุวัฒนวชิรคุณ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย เดินทางไปต้อนรับ ณ อาคารรับรองพิเศษ สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ

              พระอาจารย์ติช นัท ฮันห์ เป็นพระภิกษุชาวเวียดนาม ผู้นำเสนอความคิดพุทธศาสนาต้องเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน และพุทธธรรมเป็นสิ่งที่สามารถประยุกต์ใช้ให้เข้ากับวิถีชีวิตยุคปัจจุบันได้ เป็นที่รู้จักในฐานะพระเถระชั้นผู้ใหญ่ พระอาจารย์เซน พระมหาเถระในพุทธศาสนามหายานผู้สอนการฝึกสมาธิภาวนา เป็นทั้งกวี นักเขียน และนักต่อสู้เพื่อสันติภาพ ซึ่งการเดินทางมาจาริกธรรมครั้งนี้ จะมีกิจกรรมร่วมกับบุคคลทั่วไปหลายอย่าง

              ทั้งนี้ กิจกรรมจะเริ่มด้วยงานนิทรรศการ "ภาวนากับลายพูกัน ศิลปะแห่งสติ" ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 2-12 เมษายนนี้ ผู้ร่วมงานจะได้ชมลายพู่กันของพระนักเขียน นักกวีท่านนี้มากกว่า 100 ภาพ และวันที่ 3 เมษายน พระอาจารย์ติช นัท ฮันห์ จะสาธิตการเขียนลายพู่กันในพิธีเปิดนิทรรศการในเวลา 17.00-21.00 น.

              ส่วนกิจกรรมที่เปิดกว้างสำหรับบุคคลทั่วไป ซึ่งจะมีขึ้นวันที่ 9 เมษายน คือ การปาฐกถาธรรมครั้งสำคัญ หัวข้อ "เราคือหนึ่งเดียว" โดยพระอาจารย์ติช นัท ฮันห์ เริ่มตั้งแต่เวลา 17.00-21.00 น. ที่รอยัล พารากอน ฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน กรุงเทพฯ เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเป็นพิเศษสำหรับพุทธศาสนิกชนที่อาจไม่มีเวลาเพียงพอสำหรับการเข้าร่วมงานภาวนาเป็นจำนวนหลายๆ วัน เป็นปาฐกถาที่จะนำทุกคนให้ตระหนักรู้ เข้าใจถึงความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกันของทุกสรรพสิ่ง และทุกสรรพชีวิตบนผืนโลก ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายที่ http://www.thaiplumvillage.org หรือโทรศัพท์ติดต่อได้ที่ 08-1807-1441

              สำหรับกิจกรรมภาวนาแรกในวันที่ 4-8 เมษายน คือ งานภาวนา "จริยธรรมประยุกต์" สำหรับครูหรือผู้เกี่ยวข้องทางด้านการศึกษา นำโดยพระอาจารย์ติช นัท ฮันห์ และพระธรรมาจารย์จากสังฆะหมู่บ้านพลัม ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จ.พระนครศรีอยุธยา

              วันที่ 13-17 เมษายน งานภาวนา 5 วัน สำหรับครอบครัวฝึกการเจริญสติในชีวิตประจำวัน พ่อและแม่จะมีโอกาสได้เรียนรู้และฝึกการปฏิบัติการเจริญสติ ที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ง่ายๆ สำหรับลูกก็จะได้รับการฝึกเจริญสติแบบเด็กๆ จะได้รับการสอนธรรมแบบที่ไม่รู้สึกว่ากำลังถูกสอน เพราะเป็นการเรียนรู้ผ่านบทเพลง เกม และกิจกรรมสำหรับเด็กๆ มากมาย นำโดยพระอาจารย์ติช นัท ฮันห์ และพระธรรมาจารย์จากสังฆะหมู่บ้านพลัม ณ วังรี รีสอร์ท นครนายก

              อีกหนึ่งกิจกรรมที่จัดในวันที่ 13-17 เมษายน เช่นกันคือ  งานภาวนาสำหรับหนุ่มสาว เป็นการเจริญสติในชีวิตประจำวัน จัดขึ้นสำหรับหนุ่มสาวอายุระหว่าง 18-30 ปี ผู้เข้าภาวนาจะมีโอกาสได้เรียนรู้และฝึกปฏิบัติ เพื่อการตื่นรู้และการเปลี่ยนแปลงจากภายใน นำโดยพระอาจารย์ติช นัท ฮันห์ และพระธรรมาจารย์จากสังฆะหมู่บ้านพลัม ณ ระเบียงไพร แวลลีย์ นครนายก

              การมาจาริกครั้งนี้ ยังเป็นวาระสำคัญ เนื่องจากอยู่ระหว่างการก่อสร้างสถานปฏิบัติธรรมนานาชาติถาวรของหมู่บ้านพลัมประเทศไทย ในวันที่ 28 เมษายน จะมีพิธีทอดผ้าป่าเพื่อระดมทุนสร้างหอปฏิบัติธรรม ณ สถานปฏิบัติธรรมนานาชาติ หมู่บ้านพลัมประเทศไทย นครราชสีมา เป็นกิจกรรมสุดท้ายในการจาริกธรรมของพระอาจารย์ติช นัท ฮันห์ ในปีนี้


 :13: จาก คมชัดลึก http://www.komchadluek.net

พระอาจารย์ติช นัท ฮันห์
ข้อความโดย: มดเอ๊กซ
« เมื่อ: มีนาคม 27, 2013, 08:26:47 pm »




"พระอาจารย์ติช นัท ฮันห์" ปรมาจารย์เซนแห่งโลก เดินทางถึงประเทศไทย พร้อมกำหนดกิจกรรมจาริกธรรมในประเทศไทยตลอดเดือนเมษายน ตามโครงการพุทธวิปัสสนานานาชาติ...

พระอาจารย์ติช นัท ฮันห์ พระมหาเถระแห่งพุทธศาสนามหายาน นิกายเซน เดินทางมาถึงประเทศไทยแล้ว พร้อมคณะนักบวชจากหมู่บ้านพลัมนานาชาติ โดยมีพระครูปลัดสุวัฒนวชิรคุณ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ให้การต้อนรับ ณ อาคารรับรองพิเศษ สนามบินสุวรรณภูมิ หลังจากนี้จะมีกิจกรรมจาริกธรรมในประเทศไทยตลอดเดือนเมษายนเป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็ม

พระครูปลัดสุวัฒนวชิรคุณ รองอธิการบดี มจร เปิดเผยว่า “การเดินทางมาจาริกธรรมในประเทศไทยครั้งนี้ เป็นไปตามโครงการพุทธวิปัสสนานานาชาติ ที่ มจร และหมู่บ้านพลัมนานาชาติ ประเทศฝรั่งเศส ได้ร่วมกันดำเนินโครงการนี้มาอย่างต่อเนื่อง ในฐานะผู้แทนของมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยและประชาชนชาวไทย รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมฝึกปฏิบัติกับพระมหาเถระองค์สำคัญของโลกและสังฆะหมู่บ้านพลัม ในกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อนำสันติสุขมาสู่ตัวเราและโลกของเรา”

จากนั้นพระอาจารย์ติช นัท ฮันห์ กล่าวตอบมีใจความว่า “เป็นความปีติอย่างยิ่งที่ได้เดินทางมาถึงประเทศไทย และได้มาเยี่ยมเยือนดินแดนแห่งพระพุทธศาสนา ทุกครั้งที่ได้กลับมาเมืองไทยก็เหมือนกับได้กลับบ้าน การฝึกปฏิบัติทางพุทธศาสนานั้น ไม่ใช่เพียงแค่การฝึกกราบไหว้ หรือทำบุญเท่านั้น แต่เป็นการฝึกปฏิบัติเพื่อที่จะแปรเปลี่ยนความทุกข์ของเราให้น้อยลง เพื่อที่จะดูแลความโกรธและความสิ้นหวัง”



“เป็นสิ่งที่ชัดเจนมากว่าสันติสุขและการปรองดองเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ผู้ที่เคยเป็นศัตรูกันมาก่อน ที่มีความโกรธเคืองกันในอดีต สามารถกลับมาคืนดีกัน เรียนรู้ที่จะเข้าใจซึ่งกันและกัน และสามารถทำงานร่วมกันได้ เราอยู่ร่วมประเทศเดียวกัน เราอยู่ร่วมผืนโลกใบเดียวกัน ด้วยความรักที่เรามีต่อประเทศของเรา ต่อโลกของเรา เราสามารถที่จะวางความโกรธของเราลง จับมือกันและปรองดองกัน”

สำหรับกำหนดการจาริกธรรมนั้น นอกจากท่านจะมานำภาวนาดังเช่นที่เคยปฏิบัติแล้ว ในการมาครั้งนี้ท่านติช นัท ฮันห์ ยังได้รับนิมนต์ให้แสดงธรรมอย่างหลากหลายมากขึ้น เช่น การแสดงปาฐกถาธรรม แก่ผู้นำทางการเมืองและสังคม เรื่อง เส้นทางผู้นำกับการสรรค์สร้างความกรุณาและกล้าหาญ ในวันที่ 29 มีนาคม ณ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา

กิจกรรมใหม่อีกกิจกรรมหนึ่งซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย คืองานนิทรรศการ “ภาวนากับลายพู่กัน ศิลปะแห่งสติ” ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 2 – 12 เมษายน โดยผู้เข้าชมงานจะได้ชื่นชมภาพลายพู่กันของท่านรวมทั้งสิ้น 81 ภาพ และในวันที่ 3 เมษายน พระอาจารย์ติช นัท ฮันห์ จะสาธิตการภาวนากับลายพู่กันในพิธีเปิดนิทรรศการในเวลา 17.00 – 21.00 น.

สำหรับกิจกรรมภาวนาแรกในวันที่ 4-8 เมษายน คืองานภาวนา “จริยธรรมประยุกต์” สำหรับครู นักการศึกษาและผู้ทำงานใกล้ชิดกับเยาวชน นำโดยพระอาจารย์ติช นัท ฮันห์ และพระธรรมาจารย์จากสังฆะหมู่บ้านพลัม ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา

กิจกรรมที่เปิดกว้างสำหรับบุคคลทั่วไปซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 9 เมษายน คือ การปาฐกถาธรรม ครั้งสำคัญภายใต้หัวข้อ “เราคือหนึ่งเดียว” โดยพระอาจารย์ติช นัท ฮันห์ เริ่มตั้งแต่เวลา 17.00–21.00 น. ที่รอยัล พารากอน ฮอลล์ สยามพารากอน กรุงเทพ ฯ กิจกรรมนี้เปิดรับผู้สนใจได้เป็นจำนวนมากถึง 8,000 คน จัดขึ้นเป็นพิเศษ สำหรับพุทธศาสนิกชน ที่อาจไม่มีเวลาเพียงพอสำหรับการเข้าร่วมงานภาวนาเป็นจำนวนหลายๆ วัน เป็นปาฐกถาที่จะนำเราทุกคน ให้ตระหนักรู้และเข้าใจถึงความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกันของทุกสรรพสิ่ง และทุกสรรพชีวิตบนผืนโลก โดยกิจกรรมภายในงาน นอกจากจะได้มีโอกาสรับฟังปาฐกถาธรรมอันลึกซึ้งแล้ว ท่านจะได้มีโอกาสชม ดนตรีเพื่อการภาวนา ชุด บทเพลงจากต้นพลัม จากจีวันแบนด์ พร้อมกับการนั่งสมาธิและสวดมนต์ร่วมกับหลวงปู่ติช นัท ฮันห์ และพระธรรมาจารย์จากสังฆะหมู่บ้านพลัมนานาชาติอีกด้วย



ส่วนงานภาวนาที่เคยจัดมาแล้ว และจะจัดต่อเนื่องในการจาริกธรรมครั้งนี้ คือ  งานภาวนาสำหรับครอบครัวระหว่าง 13–17 เมษายน ซึ่งจัดสำหรับครอบครัว เป็นการฝึกการเจริญสติในชีวิตประจำวัน เพื่อให้ทุกๆ คนสามารถสัมผัสกับความสุขศานติในปัจจุบันขณะ เรียนรู้การฟังอย่างลึกซึ้งและการพูดด้วยวาจาแห่งรัก ที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ นอกจากนั้นยังมีการสอนให้เด็กๆ ได้เรียนรู้การฝึกเจริญสติในแบบที่ไม่รู้สึกว่ากำลังถูกสอน เพราะเป็นการเรียนรู้ผ่านบทเพลง เกม และกิจกรรมสำหรับเด็กๆมากมาย นำโดยพระอาจารย์ติช นัท ฮันห์ และพระธรรมาจารย์จากหมู่บ้านพลัม ณ วังรี รีสอร์ท จ.นครนายก กิจกรรมนี้มีผู้ลงทะเบียนเต็มแล้ว

อีกหนึ่งกิจกรรมที่จัดต่อเนื่องเช่นกันคือ งานภาวนาสำหรับเยาวชน หรือ Wake Up Retreat ในวันที่ 13-17 เมษายน เป็นการฝึกการเจริญสติในชีวิตประจำวัน จัดขึ้นสำหรับคนหนุ่มสาว ที่มีอายุ 18-30 ปี ผู้เข้าภาวนาจะมีโอกาสได้เรียนรู้และฝึกปฏิบัติ เพื่อการตื่นรู้และการเปลี่ยนแปลงจากภายในนำโดยพระอาจารย์ติช นัท ฮันห์ และพระธรรมาจารย์จากสังฆะหมู่บ้านพลัม ณ ระเบียงไพร แวลลีย์ จ.นครนายก กิจกรรมนี้มีผู้ลงทะเบียนเต็มแล้ว

การมาจาริกธรรมครั้งนี้ยังเป็นวาระสำคัญเนื่องจากกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างสถานปฏิบัติธรรม ในวันที่ 28 เมษายน จึงจะมีพิธีทอดผ้าป่าเพื่อระดมทุนสร้างหอปฏิบัติธรรม ณ สถานปฏิบัติธรรมนานาชาติ หมู่บ้านพลัม ประเทศไทย จังหวัดนครราชสีมา เป็นกิจกรรมสุดท้ายในการจาริกธรรมของพระอาจารย์ติช นัท ฮันห์ ก่อนที่ท่านจะเดินทางต่อไปยังประเทศสาธารณรัฐเกาหลี ในวันที่ 30 เมษายน ผู้ที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ได้ที่ www.thaiplumvillage.org

 

โดย: ไทยรัฐออนไลน์ http://m.thairath.co.th/content/edu/334969

26 มีนาคม 2556, 16:48 น.