ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: เมษายน 21, 2013, 10:26:18 am »วัดตะล่อมฉาวอีก รับพระต่างชาติกว่า 200 รูป ปล่อยเรี่ยไร-บิณฑบาตเกินเวลา
-http://www.dailynews.co.th/education/198658-
"วัดตะล่อม"ฉาวอีกรับพระต่างชาติมาอยู่กว่า 200 รูป ทั้งยังออกเรี่ยไรเงิน บิณฑบาตเกินเวลา เจ้าคณะกทม.เดือด อัดสร้างความเสียหายพระพุทธศาสนาในไทย แจ้งสำนักพุทธฯ-สตม. เข้าตรวจวีซ่า-พาสปอร์ต หากพบหมดอายุส่งกลับประเทศทันที
วัดตะล่อมฉาวอีก รับพระต่างชาติกว่า 200 รูป ปล่อยเรี่ยไร-บิณฑบาตเกินเวลา
วันนี้(20 เม.ย.) พระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา ในฐานะเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ได้ออกประกาศระเบียบการรับพระอาคันตุกะต่างประเทศ แจ้งไปยังวัดต่างๆทั่วกรุงเทพฯ ให้ปฏิบัติ เนื่องจากที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนมาโดยตลอดตั้งแต่ยังไม่ได้มาเป็นเจ้าคณะกรุงเทพฯ ว่ามีพระต่างชาติออกมาเรี่ยไรเงิน และยังมีการออกบิณฑบาตหลังเวลา 08.00 น. โดยเฉพาะวัดที่ได้รับการร้องเรียนในเรื่องลักษณะนี้เข้ามามากที่สุดคือ วัดตะล่อม ย่านพุทธมณฑลสาย 1 เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ ซึ่งพบว่ามีการรับพระต่างชาติเข้ามาอยู่ที่วัดมากถึง 200-300 รูป มีทั้งพระจากกัมพูชา บังกลาเทศ ศรีลังกา โดยเป็นพระจากกัมพูชามากที่สุด มากางเต๊นท์นอนกันอยู่ในพื้นที่บริเวณวัด จึงได้ประสานไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ให้เข้าไปตรวจสอบวีซ่า และหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) ของพระแต่ละรูปว่าเป็นประเภทใด เนื่องจากได้รับการร้องเรียนมาว่าบางรูปถือวีซ่าประเภทท่องเที่ยว แล้วพอวีซ่าหมดอายุก็ยังไม่ยอมกลับ ขณะที่บางรูปเป็นวีซ่าเพื่อขอมาศึกษาต่อแต่กลับไม่ได้เข้ามาศึกษาจริง พร้อมกันนี้ยังได้ส่งหนังสือแจ้งเตือนไปยังพระมหาบุญถึง ชุตินฺธโร เจ้าอาวาสวัดตะล่อมแล้ว ซึ่งหากยังไม่มีการดำเนินการแก้ไขคงจะต้องมีการพิจารณาในเรื่องตำแหน่งของเจ้าอาวาสวัดตะล่อมต่อไปด้วย
พระพรหมดิลก กล่าวต่อไปว่า เมื่อตรวจวีซ่า และหนังสือเดินทางแล้วพบว่าพระรูปใดไม่ได้เข้ามาศึกษาต่อจริง และวีซ่า หรือหนังสือเดินทางหมดอายุแล้ว ทั้งยังออกมาเรี่ยไรเงิน และไม่ปฏิบัติตามระเบียบของคณะสงฆ์ไทย จะต้องประสานสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) เข้ามาดำเนินการส่งกลับประเทศ เพราะถือว่าเข้ามาอยู่แล้วสร้างความเสียหายให้กับพระพุทธศาสนาของไทย การที่จะมาอ้างว่าเพราะเมตตาจึงให้พระจากต่างชาติเข้ามาอาศัยอยู่เยอะขนาดนี้ เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะจะมาเมตตากับผู้ที่ทำผิดกฎหมายไม่ได้ ขณะเดียวกันในการรับพระอาคันตุกะมาอยู่ในวัดจะต้องมีที่พักอาศัยให้ถูกต้องตามวินัยสงฆ์ การที่ให้มากางเต๊นท์แบบนี้ถือว่าไม่ถูกต้องตามหลักวินัยสงฆ์ ทั้งนี้การที่พระต่างชาติเข้ามาอยู่ในประเทศไทย ไม่ว่าจะมาแบบชั่วคราว หรือมาเพื่อการศึกษาก็ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของคณะสงฆ์ไทยอย่างเคร่งครัด
ด้านนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าวว่า เมื่อเดือนมีนาคม 2554 วัดตะล่อม เคยถูกทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเข้าตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องการรับพระต่างชาติเข้ามาพักอาศัยแล้ว แต่เมื่อปัจจุบันพบว่ายังมีเรื่องร้องเรียนในลักษณะเดียวกันเข้ามาอีกก็จะประสานสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเข้าตรวจสอบต่อไป
-http://www.dailynews.co.th/education/198658-
"วัดตะล่อม"ฉาวอีกรับพระต่างชาติมาอยู่กว่า 200 รูป ทั้งยังออกเรี่ยไรเงิน บิณฑบาตเกินเวลา เจ้าคณะกทม.เดือด อัดสร้างความเสียหายพระพุทธศาสนาในไทย แจ้งสำนักพุทธฯ-สตม. เข้าตรวจวีซ่า-พาสปอร์ต หากพบหมดอายุส่งกลับประเทศทันที
วัดตะล่อมฉาวอีก รับพระต่างชาติกว่า 200 รูป ปล่อยเรี่ยไร-บิณฑบาตเกินเวลา
วันนี้(20 เม.ย.) พระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา ในฐานะเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ได้ออกประกาศระเบียบการรับพระอาคันตุกะต่างประเทศ แจ้งไปยังวัดต่างๆทั่วกรุงเทพฯ ให้ปฏิบัติ เนื่องจากที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนมาโดยตลอดตั้งแต่ยังไม่ได้มาเป็นเจ้าคณะกรุงเทพฯ ว่ามีพระต่างชาติออกมาเรี่ยไรเงิน และยังมีการออกบิณฑบาตหลังเวลา 08.00 น. โดยเฉพาะวัดที่ได้รับการร้องเรียนในเรื่องลักษณะนี้เข้ามามากที่สุดคือ วัดตะล่อม ย่านพุทธมณฑลสาย 1 เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ ซึ่งพบว่ามีการรับพระต่างชาติเข้ามาอยู่ที่วัดมากถึง 200-300 รูป มีทั้งพระจากกัมพูชา บังกลาเทศ ศรีลังกา โดยเป็นพระจากกัมพูชามากที่สุด มากางเต๊นท์นอนกันอยู่ในพื้นที่บริเวณวัด จึงได้ประสานไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ให้เข้าไปตรวจสอบวีซ่า และหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) ของพระแต่ละรูปว่าเป็นประเภทใด เนื่องจากได้รับการร้องเรียนมาว่าบางรูปถือวีซ่าประเภทท่องเที่ยว แล้วพอวีซ่าหมดอายุก็ยังไม่ยอมกลับ ขณะที่บางรูปเป็นวีซ่าเพื่อขอมาศึกษาต่อแต่กลับไม่ได้เข้ามาศึกษาจริง พร้อมกันนี้ยังได้ส่งหนังสือแจ้งเตือนไปยังพระมหาบุญถึง ชุตินฺธโร เจ้าอาวาสวัดตะล่อมแล้ว ซึ่งหากยังไม่มีการดำเนินการแก้ไขคงจะต้องมีการพิจารณาในเรื่องตำแหน่งของเจ้าอาวาสวัดตะล่อมต่อไปด้วย
พระพรหมดิลก กล่าวต่อไปว่า เมื่อตรวจวีซ่า และหนังสือเดินทางแล้วพบว่าพระรูปใดไม่ได้เข้ามาศึกษาต่อจริง และวีซ่า หรือหนังสือเดินทางหมดอายุแล้ว ทั้งยังออกมาเรี่ยไรเงิน และไม่ปฏิบัติตามระเบียบของคณะสงฆ์ไทย จะต้องประสานสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) เข้ามาดำเนินการส่งกลับประเทศ เพราะถือว่าเข้ามาอยู่แล้วสร้างความเสียหายให้กับพระพุทธศาสนาของไทย การที่จะมาอ้างว่าเพราะเมตตาจึงให้พระจากต่างชาติเข้ามาอาศัยอยู่เยอะขนาดนี้ เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะจะมาเมตตากับผู้ที่ทำผิดกฎหมายไม่ได้ ขณะเดียวกันในการรับพระอาคันตุกะมาอยู่ในวัดจะต้องมีที่พักอาศัยให้ถูกต้องตามวินัยสงฆ์ การที่ให้มากางเต๊นท์แบบนี้ถือว่าไม่ถูกต้องตามหลักวินัยสงฆ์ ทั้งนี้การที่พระต่างชาติเข้ามาอยู่ในประเทศไทย ไม่ว่าจะมาแบบชั่วคราว หรือมาเพื่อการศึกษาก็ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของคณะสงฆ์ไทยอย่างเคร่งครัด
ด้านนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าวว่า เมื่อเดือนมีนาคม 2554 วัดตะล่อม เคยถูกทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเข้าตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องการรับพระต่างชาติเข้ามาพักอาศัยแล้ว แต่เมื่อปัจจุบันพบว่ายังมีเรื่องร้องเรียนในลักษณะเดียวกันเข้ามาอีกก็จะประสานสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเข้าตรวจสอบต่อไป