ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: มิถุนายน 23, 2013, 08:07:14 am »กินอร่อยทั่วไทยไม่ไปไม่แซบ
วันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน 2556 เวลา 00:00 น.
-http://www.dailynews.co.th/society/213609-
“กินเรื่องใหญ่ ตายเรื่องเล็ก” คำเปรียบเปรยที่ใช้กับคนที่มีความสุขกับการกินอาหารทั้งคาวและหวาน ซึ่งไม่ว่ายุคสมัยไหนก็คงหยิบมาใช้ได้ตลอด สร้างความเอ็นจอยอีทติ้งกับการกินอาหารคาว-หวานในหลากหลายรูปแบบทั่วประเทศไทย ศูนย์การค้าเมกาบางนา ศูนย์การค้าแนวราบระดับภูมิภาคแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จัดงาน “เมกาบางนา ไทย คูซีน แอนด์ คัลเชอร์รัล” รวบรวมสุดยอดอาหารเลิศรสสะท้อนความเป็นไทยผ่านการแสดงนาฏศิลป์อันอ่อนช้อย พร้อมสาธิตการปรุงอาหารสูตรลับฉบับชาววังจากต้นตำรับพระวิมาดาเธอฯ พระอัครชายาในรัชกาลที่ 5
ในงานตื่นตาตื่นใจกับอาหารจากร้านอาหารเมนูดัง 4 ภาคทั่วประเทศไทยส่งตรงให้ได้ลิ้มชิมรสทั้งอาหารคาว, ของหวาน และเครื่องดื่มโบราณ เริ่มจากอาหารตำรับชาววังของชาวภาคกลาง ข้าวแช่แม่เล็ก จ.เพชรบุรี ถือเป็นต้นตำรับของข้าวแช่แบบดั้งเดิมของชาวมอญ ที่หากินยากในปัจจุบัน มีความพิถีพิถันในการจัดเครื่องเคียง ทั้งลูกกะปิทอด, ปลายี่สกผัดหวานที่ใช้เนื้อปลาล้วนนำมาตำจนเนื้อฟู และไชโป๊หวาน นำไชโป๊เคี่ยวเอาความเค็มออกแล้วนำไปเคี่ยวกับน้ำตาลโตนด ส่วนที่ขาดไม่ได้คือน้ำแช่ข้าว ซึ่งอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของดอกมะลิ กระดังงา และชมนาด ร้านข้าวแช่แม่เล็กเป็นร้านที่มีชื่อเสียงโด่งดังมายาวนาน เรียกได้ว่าถ้าใครแวะไป จ.เพชรบุรี ถ้าไม่แวะไปกินจะเรียกว่าไปไม่ถึง และยังมีอาหารที่ถือเป็นซิกเนเจอร์ของภาคเหนือ ได้แก่ ไส้อั่ว แคบหมู น้ำพริกหนุ่ม จากร้านวนัสนันท์ ร้านเด็ดชื่อดังของ จ.เชียงใหม่ รับประกันรสชาติและเอกลักษณ์ที่เป็นที่คุ้นเคยอย่างดี
ขณะเดียวกันยังมีอาหารใต้ที่สามารถซื้อไปเป็นของฝาก ได้แก่ หมูย่าง ร้านตรังหมูย่าง จ.ตรัง ที่มีความกรอบนอกนุ่มใน ไม่ฉ่ำน้ำ มีชั้นมันน้อย ถ้าจะกินให้อร่อยต้องกินพร้อมกันทั้งสามชั้นคือ หนัง มัน เนื้อ กินคู่กับน้ำพริกกุ้งเสียบ พริกแกงหมูไตปลาคั่วกลิ้ง เพิ่มรสชาติให้เนื้อหมูหอมแน่นเหนียว ทำให้หลายคนติดอกติดใจกันเลยทีเดียว, จำปาดะทอด ร้านแม่สมจิตร จำปาดะถือเป็นผลไม้ชนิดหนึ่ง นำมาทอดน้ำมันร้อนจัดเดือดพล่าน ชุบแป้งสุกกรอบ กินกันร้อน ๆ รสหวานจัดหอมหวนชุ่มปากชุ่มคอ โดยเม็ดจำปาดะทอดให้รสมันเข้ม ปัจจุบันถือเป็นของที่หากินยาก รวมถึงอีกหนึ่งเมนูของฝากจากภาคอีสาน ได้แก่ ของฝากจากอุดร ที่มีหลากหลายความอร่อยถูกปาก ทั้งส้มตำรสเด็ด ยำเห็ด แหนม และหมูยอ ที่รสชาติเป็นเอกลักษณ์คงความอร่อยได้อย่างแน่นอน
นอกจากอาหารจากทุกสารทิศทั่วไทยที่มีมาให้ลิ้มรสกันแล้ว ยังมีการแสดงสะท้อนวัฒนธรรมไทยจากศูนย์วัฒนธรรมไทย มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติฯ ที่เรียงรายมาให้รับชมในแต่ละวัน อาทิ การแสดงหุ่นคนชุด “วิลาศลักษณ์ ศุภฤกษ์ เบิกอมร”, การแสดงนาฏศิลป์ที่มีการร่ายรำอันประณีตงดงาม อย่างการแสดงกินรีร่วมสมัย, การแสดงอันสะท้อนวัฒนธรรมของชาวไทยแต่ละภาค อาทิ อีสานม่วนซื่น, ฟ้อน กิงกะหร่า-โต อีกหนึ่งเอกลักษณ์ของชาวเหนือ เป็นการแสดงฟ้อนนก โดยแต่งกายเลียนแบบนกยูงกรีดกรายร่ายรำแสดงท่ารื่นเริงสุข ส่วนการรำโตหรือก้าโต เป็นการแสดงโดยให้ผู้แสดงสองคนมุดเข้าไปอยู่ในหุ่นคล้ายกับกวาง ซึ่งไทใหญ่เรียกว่าโต เป็นสัตว์ในนิยายสมัยพระพุทธกาล ส่วนใหญ่นิยมฟ้อนและรำในช่วงงานวันออกพรรษา พร้อมทั้งสนุกสนานไปกับมินิคอนเสิร์ตจากนักร้องเสียงทรงพลัง เก่ง–ธชย ประทุมวรรณ และ ปุ้ย–ดวงพร พงศ์ผาสุก ในวันเสาร์ที่ 29 มิ.ย. 2556
พร้อมร่วมสืบทอดตำรับอาหารศาสตร์และศิลป์ของไทยโบราณ โดย ผศ.ดร.ศันสนีย์ จะสุวรรณ์ อดีตผู้อำนวยการสำนักศิลปะวัฒนธรรม และ อ.นฤมล เปียซื่อ สาขาวิชาอุตสาหกรรมอาหารและการบริการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ร่วมเล่าเรื่องราวการสืบทอดและความเป็นมาของตำรับอาหารแต่ละชนิด และสาธิตการปรุงเครื่องจิ้ม และข้าวปรุงต่าง ๆ ตำรับพระวิมาดาเธอฯ อาทิ ข้าวงบ, น้ำพริกลงเรือ, ข้าวบายศรีปากชาม, น้ำพริกตะไคร้ และน้ำพริกลูกหนำเลี้ยบ เป็นต้น อีกทั้งเป็นครั้งแรกที่มีการรวบรวมยังจะแจกตำราอาหารชาววังสูตรลับที่หายากจากเจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับเพื่อแจกในงานนี้ และเพื่อความสุขของทุกคนในครอบครัว งานอาหารดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 มิ.ย.–8 ก.ค.2556 ณ ลานแฟชั่นแกลอเรีย ชั้น 1 ศูนย์การค้าเมกาบางนา ซึ่งคนรักอาหารไทยไม่ควรพลาด เพราะจะได้ทัศนาวิธีการปรุงอาหารชาววังอย่างใกล้ชิดแล้ว ยังได้รับความสุขจากการลิ้มชิมรสอาหารไทยที่คัดสรรแต่ร้านเด็ด ๆ ขึ้นชื่อของแต่ละภาคทั่วไทยมารวมไว้ในที่เดียว.
.
วันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน 2556 เวลา 00:00 น.
-http://www.dailynews.co.th/society/213609-
“กินเรื่องใหญ่ ตายเรื่องเล็ก” คำเปรียบเปรยที่ใช้กับคนที่มีความสุขกับการกินอาหารทั้งคาวและหวาน ซึ่งไม่ว่ายุคสมัยไหนก็คงหยิบมาใช้ได้ตลอด สร้างความเอ็นจอยอีทติ้งกับการกินอาหารคาว-หวานในหลากหลายรูปแบบทั่วประเทศไทย ศูนย์การค้าเมกาบางนา ศูนย์การค้าแนวราบระดับภูมิภาคแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จัดงาน “เมกาบางนา ไทย คูซีน แอนด์ คัลเชอร์รัล” รวบรวมสุดยอดอาหารเลิศรสสะท้อนความเป็นไทยผ่านการแสดงนาฏศิลป์อันอ่อนช้อย พร้อมสาธิตการปรุงอาหารสูตรลับฉบับชาววังจากต้นตำรับพระวิมาดาเธอฯ พระอัครชายาในรัชกาลที่ 5
ในงานตื่นตาตื่นใจกับอาหารจากร้านอาหารเมนูดัง 4 ภาคทั่วประเทศไทยส่งตรงให้ได้ลิ้มชิมรสทั้งอาหารคาว, ของหวาน และเครื่องดื่มโบราณ เริ่มจากอาหารตำรับชาววังของชาวภาคกลาง ข้าวแช่แม่เล็ก จ.เพชรบุรี ถือเป็นต้นตำรับของข้าวแช่แบบดั้งเดิมของชาวมอญ ที่หากินยากในปัจจุบัน มีความพิถีพิถันในการจัดเครื่องเคียง ทั้งลูกกะปิทอด, ปลายี่สกผัดหวานที่ใช้เนื้อปลาล้วนนำมาตำจนเนื้อฟู และไชโป๊หวาน นำไชโป๊เคี่ยวเอาความเค็มออกแล้วนำไปเคี่ยวกับน้ำตาลโตนด ส่วนที่ขาดไม่ได้คือน้ำแช่ข้าว ซึ่งอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของดอกมะลิ กระดังงา และชมนาด ร้านข้าวแช่แม่เล็กเป็นร้านที่มีชื่อเสียงโด่งดังมายาวนาน เรียกได้ว่าถ้าใครแวะไป จ.เพชรบุรี ถ้าไม่แวะไปกินจะเรียกว่าไปไม่ถึง และยังมีอาหารที่ถือเป็นซิกเนเจอร์ของภาคเหนือ ได้แก่ ไส้อั่ว แคบหมู น้ำพริกหนุ่ม จากร้านวนัสนันท์ ร้านเด็ดชื่อดังของ จ.เชียงใหม่ รับประกันรสชาติและเอกลักษณ์ที่เป็นที่คุ้นเคยอย่างดี
ขณะเดียวกันยังมีอาหารใต้ที่สามารถซื้อไปเป็นของฝาก ได้แก่ หมูย่าง ร้านตรังหมูย่าง จ.ตรัง ที่มีความกรอบนอกนุ่มใน ไม่ฉ่ำน้ำ มีชั้นมันน้อย ถ้าจะกินให้อร่อยต้องกินพร้อมกันทั้งสามชั้นคือ หนัง มัน เนื้อ กินคู่กับน้ำพริกกุ้งเสียบ พริกแกงหมูไตปลาคั่วกลิ้ง เพิ่มรสชาติให้เนื้อหมูหอมแน่นเหนียว ทำให้หลายคนติดอกติดใจกันเลยทีเดียว, จำปาดะทอด ร้านแม่สมจิตร จำปาดะถือเป็นผลไม้ชนิดหนึ่ง นำมาทอดน้ำมันร้อนจัดเดือดพล่าน ชุบแป้งสุกกรอบ กินกันร้อน ๆ รสหวานจัดหอมหวนชุ่มปากชุ่มคอ โดยเม็ดจำปาดะทอดให้รสมันเข้ม ปัจจุบันถือเป็นของที่หากินยาก รวมถึงอีกหนึ่งเมนูของฝากจากภาคอีสาน ได้แก่ ของฝากจากอุดร ที่มีหลากหลายความอร่อยถูกปาก ทั้งส้มตำรสเด็ด ยำเห็ด แหนม และหมูยอ ที่รสชาติเป็นเอกลักษณ์คงความอร่อยได้อย่างแน่นอน
นอกจากอาหารจากทุกสารทิศทั่วไทยที่มีมาให้ลิ้มรสกันแล้ว ยังมีการแสดงสะท้อนวัฒนธรรมไทยจากศูนย์วัฒนธรรมไทย มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติฯ ที่เรียงรายมาให้รับชมในแต่ละวัน อาทิ การแสดงหุ่นคนชุด “วิลาศลักษณ์ ศุภฤกษ์ เบิกอมร”, การแสดงนาฏศิลป์ที่มีการร่ายรำอันประณีตงดงาม อย่างการแสดงกินรีร่วมสมัย, การแสดงอันสะท้อนวัฒนธรรมของชาวไทยแต่ละภาค อาทิ อีสานม่วนซื่น, ฟ้อน กิงกะหร่า-โต อีกหนึ่งเอกลักษณ์ของชาวเหนือ เป็นการแสดงฟ้อนนก โดยแต่งกายเลียนแบบนกยูงกรีดกรายร่ายรำแสดงท่ารื่นเริงสุข ส่วนการรำโตหรือก้าโต เป็นการแสดงโดยให้ผู้แสดงสองคนมุดเข้าไปอยู่ในหุ่นคล้ายกับกวาง ซึ่งไทใหญ่เรียกว่าโต เป็นสัตว์ในนิยายสมัยพระพุทธกาล ส่วนใหญ่นิยมฟ้อนและรำในช่วงงานวันออกพรรษา พร้อมทั้งสนุกสนานไปกับมินิคอนเสิร์ตจากนักร้องเสียงทรงพลัง เก่ง–ธชย ประทุมวรรณ และ ปุ้ย–ดวงพร พงศ์ผาสุก ในวันเสาร์ที่ 29 มิ.ย. 2556
พร้อมร่วมสืบทอดตำรับอาหารศาสตร์และศิลป์ของไทยโบราณ โดย ผศ.ดร.ศันสนีย์ จะสุวรรณ์ อดีตผู้อำนวยการสำนักศิลปะวัฒนธรรม และ อ.นฤมล เปียซื่อ สาขาวิชาอุตสาหกรรมอาหารและการบริการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ร่วมเล่าเรื่องราวการสืบทอดและความเป็นมาของตำรับอาหารแต่ละชนิด และสาธิตการปรุงเครื่องจิ้ม และข้าวปรุงต่าง ๆ ตำรับพระวิมาดาเธอฯ อาทิ ข้าวงบ, น้ำพริกลงเรือ, ข้าวบายศรีปากชาม, น้ำพริกตะไคร้ และน้ำพริกลูกหนำเลี้ยบ เป็นต้น อีกทั้งเป็นครั้งแรกที่มีการรวบรวมยังจะแจกตำราอาหารชาววังสูตรลับที่หายากจากเจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับเพื่อแจกในงานนี้ และเพื่อความสุขของทุกคนในครอบครัว งานอาหารดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 มิ.ย.–8 ก.ค.2556 ณ ลานแฟชั่นแกลอเรีย ชั้น 1 ศูนย์การค้าเมกาบางนา ซึ่งคนรักอาหารไทยไม่ควรพลาด เพราะจะได้ทัศนาวิธีการปรุงอาหารชาววังอย่างใกล้ชิดแล้ว ยังได้รับความสุขจากการลิ้มชิมรสอาหารไทยที่คัดสรรแต่ร้านเด็ด ๆ ขึ้นชื่อของแต่ละภาคทั่วไทยมารวมไว้ในที่เดียว.
.