ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: ธันวาคม 03, 2013, 09:07:40 pm »แก๊สน้ำตา วิธีป้องกันแก๊สน้ําตา
-http://hilight.kapook.com/view/94281-
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ศูนย์ข้อมูลข่าวสารด้านการแพทย์ฉุกเฉินไทย
แก๊สน้ำตา คืออะไร มีวิธีป้องกันแก๊สน้ำตา แบบไหนบ้าง ถ้าอยากรู้ไปหาคำตอบพร้อม ๆ กันเลย
ช่วงที่สถานการณ์บ้านเมืองอยู่ในห้วงของความขัดแย้งทางการเมือง มีการประท้วงขับไล่รัฐบาลอย่างดุเดือดจนเกินจะควบคุมนั้น ในส่วนของการปฏิบัติการควบคุมผู้ชุมนุมที่เกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะมีการดำเนินการจากเบาไปหาหนัก ไล่ตั้งแต่ การตั้งแต่สกัด การใช้โล่กัน การใช้น้ำแรงดันสูงฉีด การใช้เครื่องขยายเสียงระดับสูง แต่หากสถานการณ์ยังคงรุนแรง แก๊สน้ำตา ก็จะถูกนำมาใช้เพื่อสกัดกั้นหรือสลายม็อบให้ยอมถอยร่นออกไป ก่อนจะถึงขั้นตอนของกระสุนยาง หรือหากเลวร้ายกว่านั้นคือ... กระสุนจริง !
สำหรับการประท้วงในช่วงส่งท้ายปี 2556 นี้ แก๊สน้ำตา ถูกรายงานสถานการณ์รายวัน มีการยิงใส่ผู้ชุมนุมที่ฝ่าฝืนแนวกั้นต่าง ๆ ซึ่งแก๊สน้ำตาที่เจ้าหน้าที่นำมาใช้ในหนนี้ มีการผสมน้ำ ผสมสี โดยอ้างว่า เป็นยุทธวิธีทางจิตวิทยาเพิ่มความหวาดกลัว แต่แท้จริงแล้ว แก๊สน้ำตา ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ควบคุมฝูงชน มีกี่ชนิด มีฤทธิ์เช่นใดบ้าง และ วิธีป้องกันแก๊สน้ำตา มีขั้นตอนอย่างไรบ้างนั้น ไปหาคำตอบกัน..
แก๊สน้ำตา คืออะไร
แก๊สน้ำตา คือ สารเคมีชนิดหนึ่ง ซึ่งเมื่อถูกแก๊สน้ำตาแล้ว จะส่งผลให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุต่าง ๆ ที่ดวงตา จนทำให้ผู้ถูกแก๊สน้ำตาไม่สามารถลืมตาได้ชั่วขณะหนึ่ง นอกจากนี้ ยังมีอาการน้ำมูก น้ำลายไหล ไอ หายใจลำบาก เป็นต้น อย่างไรก็ดี อาการเหล่านี้ จะหายเองภายใน 1 ชั่วโมง
แก๊สน้ำตา มีกี่ชนิด
1. ชนิดแป้งฝุ่น
2. ชนิดกระป๋องขว้าง
3. สารเคมีผสมน้ำ
สำหรับผู้ที่ถูกแก๊สน้ำตา จะมีอาการ ดังนี้
ดวงตา
จะส่งผลให้แสบตาจนลืมตาไม่ขึ้น และมีน้ำตาไหลออกมาตลอด ทำให้ต้องกะพริบตาอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งอาจทำให้ตามองไม่เห็น หรือที่เรียกว่า ตาบอดชั่วคราว นั่นเอง แต่หากโดนในปริมาณมาก ๆ อาจทำให้ตาบอดสนิทได้
จมูก
ผู้ที่ถูกแก๊สน้ำตา จะรู้สึกแสบจมูก และมีน้ำมูกไหลออกมา
ปากและระบบทางเดินอาหาร
เมื่อถูกแก๊สน้ำตาแล้ว จะทำให้มีอาการแสบปาก และอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเสียอีกด้วย
ระบบทางเดินหายใจ
แก๊สน้ำตาจะทำให้รู้สึกแสบคอ มีอาการไอ มีเสมหะ แน่นหน้าอก หายใจลำบาก รวมทั้ง อาจทำให้หลอดลมตีบจนหายใจไม่ออกอีกด้วย ดังนั้น หากผู้ป่วยที่เป็นโรคหอบหืด หรือถุงลมโป่งพอง โดนแก๊สน้ำตาเข้าอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ และหากโดนแก๊สน้ำตาในปริมาณที่มาก อาจมีอาการปอดบวมน้ำได้เช่นเดียวกัน
ผิวหนัง
หากแก๊สน้ำตาถูกผิวหนังจะทำให้เกิดอาการแสบ และบวมแดง ยิ่งหากได้สัมผัสแก๊สน้ำตาเป็นเวลานานด้วยนั้น อาจทำให้ผิวหนังตรงบริเวณที่สัมผัสแก๊สน้ำตามีอาการเหมือนถูกไฟไหม้ นอกจากนี้ อาจมีผิวหนังอักเสบจากการ ได้ ซึ่งทำให้เกิดผื่นคัน โดยเกิดหลังจากสัมผัสไปแล้ว 72 ชั่วโมง
นอกจากอาการที่กล่าวมาในข้างต้นแล้ว ผู้ถูกแก๊สน้ำอาจมีอาการปวดศีรษะ ง่วงซึม, เจ็บหน้าอก ความดันเลือดตก เป็นต้น
แก๊สน้ำตาออกฤทธิ์นานเท่าไหร่
การออกฤทธิ์ของแก๊สน้ำตานั้น จะออกฤทธิ์ในทันทีที่สัมผัส และจะคงอยู่นานประมาณ 10-30 นาที หลังจากพ้นการสัมผัสนั้น แต่อาจมีอาการอยู่นานได้ถึง 24 ชั่วโมงขึ้นไป และผู้ถูกแก๊สน้ำตาอาจมีอาการรุนแรง และเป็นอันตรายมากขึ้น หากได้รับในปริมาณที่เข้มข้นมากหรืออยู่ในบริเวณที่มิดชิด ไม่มีการถ่ายเทของอากาศ
อุปกรณ์เบื้องต้นในการปฐมพยาบาลผู้ที่ถูกแก๊สน้ำตา
น้ำ (ควรนำมามากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อใช้ในการดื่ม ล้างแผล หรือล้างตา)
ถุงมือไวนิล (ใช้ป้องกันเลือดและสเปรย์พริกไทย)
อุปกรณ์รักษาบาดแผล เช่น ที่ปิดแผล, ผ้าก๊อซขนาด 2x2 และ 4x4, เทปใส และ ยาฆ่าเชื้อ หรือ ยาปฏิชีวนะอื่น ๆ
ผ้าอนามัยแบบสอดขนาดเล็ก (เหมาะสำหรับการห้ามเลือดกำเดา)
ที่กดลิ้น
เสื้อสะอาดที่บรรจุอยู่ในถุงพลาสติก (ใช้สำหรับเปลี่ยนในกรณีที่โดนแก๊สอย่างหนัก)
ที่บังแดด หรือ เสื้อกันฝน (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)
ยารักษาโรคต่าง ๆ เช่น ยาบรรเทาอาการช็อกหรือบาดเจ็บ
ขนมขบเคี้ยว, ผงไอซิ่งเค้ก หรือ ลูกกวาดชนิดแข็ง (ใช้สำหรับเพิ่มน้ำตาลในเลือด)
ยาแอสไพริน, ยาไอบูโปรเฟน (ยาต้านการอักเสบ)
วิธีที่ดูแลผู้ที่ถูกแก๊สน้ำตาในเบื้องต้น
ควรหลีกเลี่ยงและออกจากสถานที่ที่มีแก๊สน้ำตา
ควรไปอยู่ในบริเวณที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก และมีลมพัดเพื่อให้สารเคมีนั้นกระจายออกไป
ถอดเสื้อผ้าที่ถูกสารเคมีและใส่ไว้ในถุงที่ปิดมิดชิด
ร่างกายที่โดนแก๊สน้ำตาให้ล้างด้วยน้ำสะอาด
พยายามอย่าให้เสื้อผ้าเปียกเพราะสารเคมีจะละลายติดตามร่างกาย
ถ้าสารเคมีเข้าตาให้ใช้น้ำเกลือเจือจางล้างออก แล้วรีบไปพบแพทย์
อย่าใส่คอนแทคเลนส์ ในพื้นที่ที่เสี่ยงใช้แก๊สน้ำตา เพราะจะทำให้เกิดอันตรายต่อดวงตา
อย่าหยิบลูกกระสุนหรือกระป๋องแก๊สน้ำตาชนิดขว้างที่ยังไม่ระเบิด
ให้เคลื่อนตัวอยู่เหนือลม
ปกป้องดวงตาด้วยการสวมแว่นตาว่ายน้ำหรือแว่นตาประเภทอื่น ๆ ที่อากาศไม่สามารถเข้าได้
เตรียมผ้าชุบน้ำมะนาวหรือน้ำส้มสายชู เพื่อใช้ปิดจมูกและช่วยให้หายใจได้ในเวลาเคลื่อนตัวออกจากพื้นที่
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
-http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%8A%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%95%E0%B8%B2-
, โรงพยาบาลเทพปัญญา-http://www.theppanya.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538717051&Ntype=1-
-http://hilight.kapook.com/view/94281-
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ศูนย์ข้อมูลข่าวสารด้านการแพทย์ฉุกเฉินไทย
แก๊สน้ำตา คืออะไร มีวิธีป้องกันแก๊สน้ำตา แบบไหนบ้าง ถ้าอยากรู้ไปหาคำตอบพร้อม ๆ กันเลย
ช่วงที่สถานการณ์บ้านเมืองอยู่ในห้วงของความขัดแย้งทางการเมือง มีการประท้วงขับไล่รัฐบาลอย่างดุเดือดจนเกินจะควบคุมนั้น ในส่วนของการปฏิบัติการควบคุมผู้ชุมนุมที่เกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะมีการดำเนินการจากเบาไปหาหนัก ไล่ตั้งแต่ การตั้งแต่สกัด การใช้โล่กัน การใช้น้ำแรงดันสูงฉีด การใช้เครื่องขยายเสียงระดับสูง แต่หากสถานการณ์ยังคงรุนแรง แก๊สน้ำตา ก็จะถูกนำมาใช้เพื่อสกัดกั้นหรือสลายม็อบให้ยอมถอยร่นออกไป ก่อนจะถึงขั้นตอนของกระสุนยาง หรือหากเลวร้ายกว่านั้นคือ... กระสุนจริง !
สำหรับการประท้วงในช่วงส่งท้ายปี 2556 นี้ แก๊สน้ำตา ถูกรายงานสถานการณ์รายวัน มีการยิงใส่ผู้ชุมนุมที่ฝ่าฝืนแนวกั้นต่าง ๆ ซึ่งแก๊สน้ำตาที่เจ้าหน้าที่นำมาใช้ในหนนี้ มีการผสมน้ำ ผสมสี โดยอ้างว่า เป็นยุทธวิธีทางจิตวิทยาเพิ่มความหวาดกลัว แต่แท้จริงแล้ว แก๊สน้ำตา ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ควบคุมฝูงชน มีกี่ชนิด มีฤทธิ์เช่นใดบ้าง และ วิธีป้องกันแก๊สน้ำตา มีขั้นตอนอย่างไรบ้างนั้น ไปหาคำตอบกัน..
แก๊สน้ำตา คืออะไร
แก๊สน้ำตา คือ สารเคมีชนิดหนึ่ง ซึ่งเมื่อถูกแก๊สน้ำตาแล้ว จะส่งผลให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุต่าง ๆ ที่ดวงตา จนทำให้ผู้ถูกแก๊สน้ำตาไม่สามารถลืมตาได้ชั่วขณะหนึ่ง นอกจากนี้ ยังมีอาการน้ำมูก น้ำลายไหล ไอ หายใจลำบาก เป็นต้น อย่างไรก็ดี อาการเหล่านี้ จะหายเองภายใน 1 ชั่วโมง
แก๊สน้ำตา มีกี่ชนิด
1. ชนิดแป้งฝุ่น
2. ชนิดกระป๋องขว้าง
3. สารเคมีผสมน้ำ
สำหรับผู้ที่ถูกแก๊สน้ำตา จะมีอาการ ดังนี้
ดวงตา
จะส่งผลให้แสบตาจนลืมตาไม่ขึ้น และมีน้ำตาไหลออกมาตลอด ทำให้ต้องกะพริบตาอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งอาจทำให้ตามองไม่เห็น หรือที่เรียกว่า ตาบอดชั่วคราว นั่นเอง แต่หากโดนในปริมาณมาก ๆ อาจทำให้ตาบอดสนิทได้
จมูก
ผู้ที่ถูกแก๊สน้ำตา จะรู้สึกแสบจมูก และมีน้ำมูกไหลออกมา
ปากและระบบทางเดินอาหาร
เมื่อถูกแก๊สน้ำตาแล้ว จะทำให้มีอาการแสบปาก และอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเสียอีกด้วย
ระบบทางเดินหายใจ
แก๊สน้ำตาจะทำให้รู้สึกแสบคอ มีอาการไอ มีเสมหะ แน่นหน้าอก หายใจลำบาก รวมทั้ง อาจทำให้หลอดลมตีบจนหายใจไม่ออกอีกด้วย ดังนั้น หากผู้ป่วยที่เป็นโรคหอบหืด หรือถุงลมโป่งพอง โดนแก๊สน้ำตาเข้าอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ และหากโดนแก๊สน้ำตาในปริมาณที่มาก อาจมีอาการปอดบวมน้ำได้เช่นเดียวกัน
ผิวหนัง
หากแก๊สน้ำตาถูกผิวหนังจะทำให้เกิดอาการแสบ และบวมแดง ยิ่งหากได้สัมผัสแก๊สน้ำตาเป็นเวลานานด้วยนั้น อาจทำให้ผิวหนังตรงบริเวณที่สัมผัสแก๊สน้ำตามีอาการเหมือนถูกไฟไหม้ นอกจากนี้ อาจมีผิวหนังอักเสบจากการ ได้ ซึ่งทำให้เกิดผื่นคัน โดยเกิดหลังจากสัมผัสไปแล้ว 72 ชั่วโมง
นอกจากอาการที่กล่าวมาในข้างต้นแล้ว ผู้ถูกแก๊สน้ำอาจมีอาการปวดศีรษะ ง่วงซึม, เจ็บหน้าอก ความดันเลือดตก เป็นต้น
แก๊สน้ำตาออกฤทธิ์นานเท่าไหร่
การออกฤทธิ์ของแก๊สน้ำตานั้น จะออกฤทธิ์ในทันทีที่สัมผัส และจะคงอยู่นานประมาณ 10-30 นาที หลังจากพ้นการสัมผัสนั้น แต่อาจมีอาการอยู่นานได้ถึง 24 ชั่วโมงขึ้นไป และผู้ถูกแก๊สน้ำตาอาจมีอาการรุนแรง และเป็นอันตรายมากขึ้น หากได้รับในปริมาณที่เข้มข้นมากหรืออยู่ในบริเวณที่มิดชิด ไม่มีการถ่ายเทของอากาศ
อุปกรณ์เบื้องต้นในการปฐมพยาบาลผู้ที่ถูกแก๊สน้ำตา
น้ำ (ควรนำมามากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อใช้ในการดื่ม ล้างแผล หรือล้างตา)
ถุงมือไวนิล (ใช้ป้องกันเลือดและสเปรย์พริกไทย)
อุปกรณ์รักษาบาดแผล เช่น ที่ปิดแผล, ผ้าก๊อซขนาด 2x2 และ 4x4, เทปใส และ ยาฆ่าเชื้อ หรือ ยาปฏิชีวนะอื่น ๆ
ผ้าอนามัยแบบสอดขนาดเล็ก (เหมาะสำหรับการห้ามเลือดกำเดา)
ที่กดลิ้น
เสื้อสะอาดที่บรรจุอยู่ในถุงพลาสติก (ใช้สำหรับเปลี่ยนในกรณีที่โดนแก๊สอย่างหนัก)
ที่บังแดด หรือ เสื้อกันฝน (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)
ยารักษาโรคต่าง ๆ เช่น ยาบรรเทาอาการช็อกหรือบาดเจ็บ
ขนมขบเคี้ยว, ผงไอซิ่งเค้ก หรือ ลูกกวาดชนิดแข็ง (ใช้สำหรับเพิ่มน้ำตาลในเลือด)
ยาแอสไพริน, ยาไอบูโปรเฟน (ยาต้านการอักเสบ)
วิธีที่ดูแลผู้ที่ถูกแก๊สน้ำตาในเบื้องต้น
ควรหลีกเลี่ยงและออกจากสถานที่ที่มีแก๊สน้ำตา
ควรไปอยู่ในบริเวณที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก และมีลมพัดเพื่อให้สารเคมีนั้นกระจายออกไป
ถอดเสื้อผ้าที่ถูกสารเคมีและใส่ไว้ในถุงที่ปิดมิดชิด
ร่างกายที่โดนแก๊สน้ำตาให้ล้างด้วยน้ำสะอาด
พยายามอย่าให้เสื้อผ้าเปียกเพราะสารเคมีจะละลายติดตามร่างกาย
ถ้าสารเคมีเข้าตาให้ใช้น้ำเกลือเจือจางล้างออก แล้วรีบไปพบแพทย์
อย่าใส่คอนแทคเลนส์ ในพื้นที่ที่เสี่ยงใช้แก๊สน้ำตา เพราะจะทำให้เกิดอันตรายต่อดวงตา
อย่าหยิบลูกกระสุนหรือกระป๋องแก๊สน้ำตาชนิดขว้างที่ยังไม่ระเบิด
ให้เคลื่อนตัวอยู่เหนือลม
ปกป้องดวงตาด้วยการสวมแว่นตาว่ายน้ำหรือแว่นตาประเภทอื่น ๆ ที่อากาศไม่สามารถเข้าได้
เตรียมผ้าชุบน้ำมะนาวหรือน้ำส้มสายชู เพื่อใช้ปิดจมูกและช่วยให้หายใจได้ในเวลาเคลื่อนตัวออกจากพื้นที่
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
-http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%8A%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%95%E0%B8%B2-
, โรงพยาบาลเทพปัญญา-http://www.theppanya.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538717051&Ntype=1-