ข้อความโดย: ฐิตา
« เมื่อ: ธันวาคม 05, 2013, 06:46:07 pm »พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ตรัสกับอาตมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๗
วันนั้นเป็นวันเททองหล่อรูป หลวงพ่อปาน เนื่องในงานสร้างพระอุโบสถ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตรัสว่า..
"เวลานี้จิตใจของผมไม่มีห่วงใยในวัตถุแล้วขอรับ เห็นว่าวัตถุทุกอย่างทรัพย์สินทุกอย่างที่เรารับมานี้มันเป็นมรดกตกทอดจากญาติผู้ใหญ่ แต่ว่าญาติผู้ใหญ่ที่หาไว้ให้นั้นก็ปรากฏว่าทุกท่านเวลานี้ไม่มีใครอยู่เหลือเลย ตายหมด แต่ละท่านที่ตายแล้วไม่มีใครแบกภาระคือทรัพย์สมบัติไปได้เลย ปล่อยทอดทิ้งไว้ให้คนอื่นปกครองต่อไป ที่เสียหายไปก็มาก ทรงตรัสต่อไปว่า ผมไม่ติดใจในวัตถุ ไม่เยื่อใยในวัตถุ มียังไงกินอย่างนั้น มียังไงใช้อย่างนั้น มีความต้องการอย่างเดียวถ้ามีวัตถุขึ้นมาถ้าสามารถจะแจกจ่าย หรือหาทางทะนุบำรุงบรรดาประชาชนทั้งหลายโดยทั่วหน้าให้มีความสุขได้อย่างนี้ผมพอใจ"
อารมณ์อย่างนี้เขาเรียกว่า "อารมณ์ละ" ไม่ติดในวัตถุ ถ้าอารมณ์ละไม่ติดในวัตถุ มีแต่ว่าเราจำจะต้องรักษามันไว้บ้าง เพราะว่าร่างกายยังมีอยู่มันยังต้องกินต้องใช้ ถ้าเสียหายไปแล้ว เราก็ไม่ห่วงใยในมัน แต่ว่าถ้าสิ่งใดอันมีอยู่รักษาด้วยดี อย่างนี้เป็นอารมณ์ใจของบุคคลผู้ละ ถ้าเราไม่ติดในวัตถุ ต่อไปกำลังใจมันก็สูงมันก็ละคือไม่ติดในขันธ์ ๕ คือร่างกาย เพราะว่าการที่จะละได้จริงๆ ในด้านวัตถุต้องเป็นคนที่ปัญญาจริงๆ ที่เขาเรียกว่า.. วิปัสสนาญาณ
หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง
>>> F/B Motanaboon.Com
۞۞۞ ۩۞۩ หลวงพ่อ/พ่อหลวง ۩۞۩ ۞۞۞
>>> F/B Motanaboon.Com
۞۞۞ ۩۞۩ หลวงพ่อ/พ่อหลวง ۩۞۩ ۞۞۞