ข้อความโดย: ฐิตา
« เมื่อ: พฤษภาคม 01, 2014, 03:22:22 pm »รอยไถแปร - ก้าน แก้วสุพรรณ
ทุ่งนาแดนนี้ ไม่มีความหมาย
เหลือเพียงกลิ่นโคลนสาบควาย เห็นซากคันไถแล้วเศร้า
เห็นนาที่ร้าง นั้นมีแต่ฟางแทนรวงข้าว
เห็นเคียวที่เกี่ยวเหน็บติดเสา เล่นเอาใจเราสะท้อน
ทุ่งนาแดนนี้ ข้าเคยไถทำ
สองมือข้าเคยหว่านดำ ฤดูฝนพร่ำหน้าก่อน
แต่มาปีนี้ ฤดีข้าแสนจะสะท้อน
เพราะมาไร้คู่กอดเคียงหมอน ทิ้งให้เรานอนระกำ
รอยไถเอย ข้าเคยไถถาก
เดี๋ยวนี้เจ้ามาคิดจาก ฝากให้เป็นรอยไถช้ำ
เปลี่ยนรอยไถใหม่ ทิ้งรอยไถเก่าระกำ
อกใครใครบ้างไม่ช้ำ เมื่อยามเห็นรอยไถแปร
ทุ่งนาแดนนี้ คงร้างไปอีกนาน
ข้าเองก็เหลือจะทาน เพราะมันแสนสุดจะแก้
หมดกำลังใจ แล้วเรียมเอ๋ยข้าคงตายแน่
จะไถไปอีกก็กลัวแท้ เพราะรอยมันแปรเสียแล้วเรียมเอย
เหลือเพียงกลิ่นโคลนสาบควาย เห็นซากคันไถแล้วเศร้า
เห็นนาที่ร้าง นั้นมีแต่ฟางแทนรวงข้าว
เห็นเคียวที่เกี่ยวเหน็บติดเสา เล่นเอาใจเราสะท้อน
ทุ่งนาแดนนี้ ข้าเคยไถทำ
สองมือข้าเคยหว่านดำ ฤดูฝนพร่ำหน้าก่อน
แต่มาปีนี้ ฤดีข้าแสนจะสะท้อน
เพราะมาไร้คู่กอดเคียงหมอน ทิ้งให้เรานอนระกำ
รอยไถเอย ข้าเคยไถถาก
เดี๋ยวนี้เจ้ามาคิดจาก ฝากให้เป็นรอยไถช้ำ
เปลี่ยนรอยไถใหม่ ทิ้งรอยไถเก่าระกำ
อกใครใครบ้างไม่ช้ำ เมื่อยามเห็นรอยไถแปร
ทุ่งนาแดนนี้ คงร้างไปอีกนาน
ข้าเองก็เหลือจะทาน เพราะมันแสนสุดจะแก้
หมดกำลังใจ แล้วเรียมเอ๋ยข้าคงตายแน่
จะไถไปอีกก็กลัวแท้ เพราะรอยมันแปรเสียแล้วเรียมเอย
noway2know -http://www.prachathon.org/forum/index.php?topic=8631.0