ตอบ

ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

Verification:
ระหว่างความดีกับความไม่ดี เราจะเลือกทำสิ่งใดจึงจะสามารถบรรลุธรรมได้จริง ( เลือกตอบแค่ ความดี กับ ความไม่ดี ครับผม):
คนที่มีจิตใจอ่อนโยนส่วนใหญ่มัก คิดถึงสิ่งใดก่อนเสมอ  ( เลือกตอบแค่ ตัวเอง กับ คนอื่น ครับผม ):
กัน-ละ-ยา-นะ-มิด เขียนเป็นภาษาไทยที่ถูกต้องว่าอย่างไรครับ:
คุณเชื่อในศรัทธาของความดีไหมครับ ( เลือกตอบแค่ เชื่อ กับ ไม่เชื่อ ครับผม):
คิดว่าความดีทำยากไหม( เลือกตอบแค่ ยาก กับ ไม่ยาก ครับผม):
ถ้าเราโกรธใคร ธรรมะจะเป็นหนทางผ่อนคลายความโกรธนั้นลงได้ใช่ไหม ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม ):
ชีวิตบางครั้งก็เหมือนเหรียญสองด้านใช่หรือไม่ครับบางครั้งก็หัวบางครั้งก็ก้อย( เลือกตอบแค่ ใช่ กับไม่ใช่ครับผม):
เว็บใต้ร่มธรรมเป็นเว็บเล็กๆแนวธรรมะในจิตใช่หรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
เว็บใต้ร่มธรรมเป็นเว็บเล็กๆในโลกออนไลน์ใช่หรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
โดยปกติชน นิ้วมือของคนเรา มีกี่นิ้ว (ตอบเป็นภาษาไทยครับ):
วัฒนธรรมไทยเมื่อเห็นผู้ใหญ่ท่านจะทำความเคารพ ด้วยการไหว้ท่านก่อนเสมอใช่หรือไม่:
กล่าวคำดังนี้  "ให้อภัยนะ":
กล่าวคำดังนี้  "ขออโหสิกรรม":
ในโลกออนไลน์หรือโลกแห่งจิต ไม่มีใครทำอะไรเราได้ นอกเสียไปจาก (คนพาล) หรือ (ใจของเราเอง):
เคยนวดฝ่าเท้าให้ คุณพ่อคุณแม่บ้างไหม ถ้ามีโอกาส เราควรทำหรือไม่ (ควรกระทำอย่างยิ่ง หรือ ไม่ควรทำ):
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ใต้ร่มธรรมเองก็จะเป็นไปตามวัฐจักรนี้ ฉันท์ใดก็ฉันท์นั้น (เป็นจริง) หรือ (ไม่จริง):
พิมพ์คำว่า (แสงธรรมนำทางธรรมะนำใจ) ครับ:
สำนวนไทยที่ว่า แต่ละคนต่างมีรสนิยมแตกต่างกัน หรือไม่ตรงกัน  พิมพ์สำนวนต่อไปนี้ครับ (ลางเนื้อชอบลางยา):
ขนทรายเข้าวัดคือ พิมพ์สำนวนต่อไปนี้ครับ (ทำบุญทำกุศลโดยวิธีนำหรือหาประโยชน์เพื่อส่วนรวมมิได้ทำเพื่อตนเอง):
ไม่มีอะไรสายสำหรับการเริ่มต้น พิมพ์เป็นประโยคภาษาอังกฤษครับ เป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมดนะครับ เว้นวรรคคำด้วยครับ (It is never too late to mend):

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: กระตุกหางแมว
« เมื่อ: สิงหาคม 03, 2010, 02:16:52 am »

ไปตรวจสายตาบ้างดีกว่า..กลัว
ข้อความโดย: Pure+
« เมื่อ: สิงหาคม 02, 2010, 11:09:20 pm »

:27: อันนี้ผมกลัวที่สุดเลย ขอบคุณครับพี่แป๋ม..
พี่เพียวก็กลัวเหมือนกัน..
เคยมีอาการ..
ไปให้หมอตรวจ หมอบอกว่าจอประสาทตาบวมและรั่ว(สาเหตุหลักมาจากความเครียดและใช้สายตามากผิดปรกติ) ต้องยิงเลเซอร์
แต่อยู่มาประมาณสองเดือน อาการก็เริ่มดีขึ้น ไปให้หมอตรวจอีกที หมอบอกว่าเป็นปรกตีแล้ว
ก็เลยงงๆอยู่เหมือนกัน  :01: แต่ก็ยังกลัวว่าจะกลับไปเป็นอีก.. :37:
ข้อความโดย: แก้วจ๋าหน้าร้อน
« เมื่อ: สิงหาคม 02, 2010, 10:03:03 pm »

 :27: อันนี้ผมกลัวที่สุดเลย ขอบคุณครับพี่แป๋ม..
ข้อความโดย: สายลมที่หวังดี
« เมื่อ: สิงหาคม 02, 2010, 08:08:27 pm »

 :45: จิงค่ะ ดูแลสุขภาพกันแต่เนิ่นๆ จะได้ไม่สายเกินแก้ ขอบคุณนะค่ะพี่แป๋ม

ข้อความโดย: Plusz
« เมื่อ: สิงหาคม 02, 2010, 07:13:47 pm »

เราต้องรักษาสุขภาพแล้วล่ะ ,,, :")
ข้อความโดย: ฐิตา
« เมื่อ: สิงหาคม 02, 2010, 05:08:44 pm »


                   


        โรคความเสื่อมในดวงตา


วันนี้เรามาเตรียมความพร้อมกันก่อนที่อายุจะถึง 60 ปีกันดีกว่า โดยโรคยอดฮิตของคนมีอายุมากๆ คือ โรคเกี่ยวกับความเสื่อมของดวงตา ดังนั้นเรามารู้จักโรคนี้กันเถอะ

โรคเกี่ยวกับความเสื่อมของดวงตา มีสาเหตุมาจากอายุ (ARMD) เป็นโรคที่นำไปสู่ภาวะตาบอดของผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี โดยโรคนี้เกิดจากความเสื่อม ของบริเวณที่สำคัญ ของเรติน่า ที่เรียกว่า  macula ซึ่งบริเวณนี้ เป็นส่วนที่มีการรับแสงที่เข้มข้นที่สุดของดวงตา ซึ่งมีหน้าที่ให้การมองเห็นในส่วนกลางของภาพ เมื่อบริเวณนี้เริ่มเสื่อมถอย ก็จะส่งผลให้เราสูญเสียการมองเห็นส่วนกลางของภาพ ซึ่งผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้จะไม่สามารถมองเห็นหน้าผู้อื่นตรงๆได้ แต่สามารถมองเห็นของรอบๆของคนที่เขาจ้องมองอยู่ได้


ความเสื่อมในดวงตามี 2 รูปแบบคือแบบเปียกและแบบแห้ง ซึ่ง 90% ของผู้ป่วยมักจะเป็นแบบแห้ง ซึ่งอาจจะพัฒนาขึ้นเป็นแบบเปียกได้ในที่สุด โดยโรคความเสื่อมในดวงตาแบบเปียก เป็นสาเหตุให้เกิดการเสื่อมลงของการมองเห็นส่วนกลาง โดยจะเพิ่มเส้นเลือดใหม่ และเพิ่มการรั่วของเส้นเลือดจนส่งผลให้ตาบอดได้ ความเสื่อมแบบเปียกนี้สามารถรักษาได้ด้วยการใช้แสงเลเซอร์ เพื่อยับยั้งการผลิตเส้นเลือดใหม่ที่ก่อให้เกิดการบวม และการรั่วไหล รวมถึงการคั่งของเลือดในเรติน่า
 

               


สำหรับกลไกที่ทำให้เรติน่าเสียหายได้นั้น จากการศึกษาวิจัยพบว่า แสงที่ผ่านเข้าดวงตาและรวมตัวอยู่ที่ macula ของเรติน่า เป็นสาเหตุให้เกิดการผลิตอนุมูลอิสระบริเวณรอบนอกของตัวรับแสง หากสารต้านอนุมูลอิสระไม่เพียงพอ สารอนุมูลอิสระเหล่านี้ก็จะเข้าทำลายไขมันไม่อิ่มตัวความเข้มข้นสูง (PUFA) บริเวณรอบนอกของเรติน่าและตัวรับแสง ซึ่งจะทำปฏิกิริยาออกซิเดชั่นกับคอเลสเตอรอล LDL PUFA และผลจากการทำปฏิกิริยาก็จะเกิดการก่อตัวของ lipofuscin ซึ่งเป็นกลุ่มของโปรตีน หรือไลปิดที่สะสมอยู่ภายในเยื่อบุตาแสดงเม็ดสีภายในเรติน่า

การศึกษาหลายชิ้นได้แสดงให้เห็นว่าผู้ป่วยที่เป็นโรค ARMD มีระดับของสังกะสี ซีลีเนียม วิตามินซี คาโรธีนอยส์ และ วิตามินอี ในระดับต่ำ เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่เป็นโรคนี้ เมื่อทราบอย่างนี้แล้ว เราควรรับประทานอาหารที่มีสารอาหารที่จำเป็นเหล่านี้ เพื่อไม่ให้เกิดความเสื่อมกับดวงตาของเรากันดีกว่า


 :13:  http://variety.phuketindex.com/health/