ตอบ

ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

Verification:
ระหว่างความดีกับความไม่ดี เราจะเลือกทำสิ่งใดจึงจะสามารถบรรลุธรรมได้จริง ( เลือกตอบแค่ ความดี กับ ความไม่ดี ครับผม):
คนที่มีจิตใจอ่อนโยนส่วนใหญ่มัก คิดถึงสิ่งใดก่อนเสมอ  ( เลือกตอบแค่ ตัวเอง กับ คนอื่น ครับผม ):
กัน-ละ-ยา-นะ-มิด เขียนเป็นภาษาไทยที่ถูกต้องว่าอย่างไรครับ:
ชีวิตบางครั้งก็เหมือนเหรียญสองด้านใช่หรือไม่ครับบางครั้งก็หัวบางครั้งก็ก้อย( เลือกตอบแค่ ใช่ กับไม่ใช่ครับผม):
เว็บใต้ร่มธรรมเป็นเว็บเล็กๆแนวธรรมะในจิตใช่หรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า แสงธรรมนำใจ:
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า ใต้ร่มธรรม:
ใต้ร่มธรรม เป็น แค่เว็บไซต์และจินตนาการทางจิต การทำดี สำคัญที่ใจเรา เริ่มความดีที่ใจเราก่อนเสมอ พิมพ์คำว่า "เริ่มความดีที่ใจเราก่อนเสมอ":
เมื่อให้ท่านเลือก ระหว่าง (หนังสือเก่าๆเล่มหนึ่งที่เรารัก) กับ (มิตรแท้ที่รักเรา) คุณจะะเลือก:
บุคคลที่ไปหลายๆเว็บไซต์ โดยที่สวมบทบาทเป็นหลายๆคน โดยที่ไม่รู้ว่า แท้จริงใจเราต้องการอะไร เพื่อน หรือ ชัยชนะ:
กล่าวคำดังนี้  "ขอโทษนะ":
ระหว่าง (ผู้ที่เรียนรู้ธรรมะเพื่อเอาชนะผู้อื่น) กับ (ผู้ที่เรียนรู้ธรรมะเพื่อเอาชนะตัวเอง)  ท่านจะเลือกเป็น:
กล่าวคำดังนี้  "ขออโหสิกรรม":
หากมีคน บอกว่า เราไม่ดีเราเลว แต่ใจเรารู้ว่าไม่เป็นเช่นนั้น เราจะใช้วิธีใดจัดการกับเรื่องนี้  (โต้เถียงให้แรงกว่าที่เค้าว่ามา) หรือ (เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ความดีของเราเองไม่ต้องทำอะไร):
เคยนวดฝ่าเท้าให้ คุณพ่อคุณแม่บ้างไหม ถ้ามีโอกาส เราควรทำหรือไม่ (ควรกระทำอย่างยิ่ง หรือ ไม่ควรทำ):
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ใต้ร่มธรรมเองก็จะเป็นไปตามวัฐจักรนี้ ฉันท์ใดก็ฉันท์นั้น (เป็นจริง) หรือ (ไม่จริง):
พิมพ์คำว่า (แสงธรรมนำทางธรรมะนำใจ) ครับ:
รู้สึกระอายใจไหมที่เราทำร้ายคนอื่นด้วยวาจาหรือสำนวนที่ไม่สุภาพ โดยที่คนคนนั้นเค้าเคยเป็นผู้มีพระคุณต่อเรามา (ไม่ละอายใจ)หรือ(ละอายใจ):
สำนวนไทยที่ว่า แต่ละคนต่างมีรสนิยมแตกต่างกัน หรือไม่ตรงกัน  พิมพ์สำนวนต่อไปนี้ครับ (ลางเนื้อชอบลางยา):
ผู้ที่ไม่เคยรับรู้รสของความขมขื่น จะไม่รู้ว่าความหวานชื่นคืออะไร พิมพ์เป็นประโยคภาษาอังกฤษครับ เป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมดนะครับ เว้นวรรคคำด้วยครับ (He who has never tasted bitterness does not know what is sweet):

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: มิถุนายน 07, 2014, 12:38:58 pm »

อธิบดีกรมสุขภาพจิต เผย 5 สัญญาณเสี่ยงติดพนัน


-http://club.sanook.com/36449/%E0%B8%AD%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%95-%E0%B9%80%E0%B8%9C%E0%B8%A2-5/-


ข่าว 7 สี อธิบดีกรมสุขภาพจิต เผย 5 สัญญาณเสี่ยงติดพนัน

ข่าว 7 สีรายงานว่า ใกล้เข้าสู่บรรยากาศฟุตบอลโลกฟีเวอร์แล้ว จิตแพทย์แนะวิธีสังเกต 5 สัญญาณเสี่ยง ติดโรคพนัน

นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมสุขภาพจิต ระบุปัจจุบันนี้สายด่วนเลิกพนัน 1323 มีวัยรุ่นวัยทำงาน โทรเข้ามาขอรับคำปรึกษามาก กว่าร้อยละ 30 ส่วนใหญ่อยากเลิกเล่นพนันฟุตบอล เพราะมีผลกระทบต่อครอบครัว สร้างหนี้สินและเครียด จนบางรายอยู่ในภาวะซึมเศร้า เสี่ยงการฆ่าตัวตายและหันไปใช้สารเสพติด       อธิบดีกรมสุขภาพจิต ยืนยันว่าการติดพนัน รักษาหายได้ด้วยการทำพฤติกรรมบำบัด  รักษาด้วยยา รวมถึงกำลังใจจากคนรอบข้าง

ศูนย์การศึกษาปัญหาการพนัน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สำรวจพบว่ากลุ่มนักศึกษาที่ติดพนันฟุตบอล นิยมเล่นผ่านเจ้ามือ เล่นกันเองกับเพื่อน และผ่านเว็บไซต์โดยใช้สื่อออนไลน์รับข้อมูลการเล่นพนันบอลมากที่สุด

สำหรับ 5 สัญญาณอันตรายโรคติดพนัน ได้แก่

เชียร์ทุกคู่แม้ไม่รู้จัก

สุขภาพแย่

ตั้งตารอคอยจนไม่หลับไม่นอน
รวยผิดปกติ หรือเงินขาดมือ

พนันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แบบทุ่มสุดตัว

และหยุดเล่นไม่ได้ อาจทำเรื่องผิดกฎหมายเพื่อหาเงินไปเล่นหรือใช้หนี้ 

อารมณ์ฉุนเฉียวง่าย พูดปด ปกปิดครอบครัว

ที่สำคัญ คือไม่สนใจการเรียนและการงาน หมกมุ่นอยู่กับการพนัน



http://club.sanook.com/36449/%E0%B8%AD%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%95-%E0%B9%80%E0%B8%9C%E0%B8%A2-5/

http://club.sanook.com/36449/%e0%b8%ad%e0%b8%98%e0%b8%b4%e0%b8%9a%e0%b8%94%e0%b8%b5%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%a1%e0%b8%aa%e0%b8%b8%e0%b8%82%e0%b8%a0%e0%b8%b2%e0%b8%9e%e0%b8%88%e0%b8%b4%e0%b8%95-%e0%b9%80%e0%b8%9c%e0%b8%a2-5/
ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: มิถุนายน 04, 2014, 09:11:41 pm »

โกงป็อกเด้ง

โกงป็อกเด้ง
-http://www.youtube.com/watch?v=ZZs3LjmZy_U-




การโกงไพ่เก้าเก

การโกงไพ่เก้าเก
-http://www.youtube.com/watch?v=i165yOt_R8Q-




สอนตัดไพ่ ขั้นเทพ พระกระโดดกำแพง

สอนตัดไพ่ ขั้นเทพ พระกระโดดกำแพง
-http://www.youtube.com/watch?v=e6D6fux4ukI-


.


ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: มิถุนายน 04, 2014, 09:07:33 pm »

สูตรโกงไพ่จากบรรพบุรุษ


สูตรโกงไพ่จากบรรพบุรุษ
-http://www.youtube.com/watch?v=6NUWNsepb7A-

.
ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: มิถุนายน 04, 2014, 09:04:00 pm »

เฉลย วิธี โกง ไพ่ป๊อกเด้ง

เฉลย วิธี โกง ไพ่ป๊อกเด้ง
-http://www.youtube.com/watch?v=0IToJ5jt2Dw-

.

ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: พฤษภาคม 22, 2014, 06:04:58 am »

โจรผีพนันบุกบ้านหญิงสาว จับมัด-ลวนลาม ก่อนชิงรถเก๋ง




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ข่าวสด

            ตำรวจจับทันควัน โจรควงมีด-ไม้ตีพริก บุกบ้านหญิงสาวย่านบางบัวทอง จับเหยื่อมัดมือมัดเท้า ปิดปาก ลวนลาม ก่อนชิงรถเก๋งฮอนด้าแจ๊สและแท็บเล็ต สารภาพติดพนัน

            วานนี้ (20 พฤษภาคม 2557) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธนะวัฒน์ จีนเมือง หรือแบ๊งค์ อายุ 23  ปี ชาว จ.อุทัยธานี ได้ใช้อาวุธมีดและไม้ตีพริกเป็นอาวุธ บุกจับตัว น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 25 ปี ภายในบ้านพักในหมู่บ้านบัวทอง จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่แผนกกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งกำลังลงมาอาบน้ำ โดยนายธนะวัฒน์ ได้จับ น.ส.เอ มัดมือมัดเท้าด้วยกระดาษกาว และนำตัวไปขังไว้ในห้องนอน ก่อนจะลงมือลวนลาม แต่ผู้เสียหายขอร้องบอกกับผู้ต้องหาว่าอยากได้อะไรก็ให้เอาไป นายธนะวัฒน์ จึงหยิบกุญแจรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้าแจ๊ส และแท็บเล็ตของ น.ส.เอ หลบหนีไป

            ด้าน พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบก.นนทบุรี เผยว่า หลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้กระจายกำลังติดตาม และตรวจสอบตามจุดรับจำนำรถยนต์ พบว่ารถยนต์ของ น.ส.เอ ผู้เสียหาย จอดอยู่ที่ลานจอดรถสาธารณะ เขตเตาปูน แผ่นป้ายทะเบียนด้านหลังถูกถอดออก เมื่อตรวจสอบแผ่นป้ายทะเบียนหน้าและป้ายเสียภาษี พบว่าเป็นรถยนต์ที่ถูกชิงทรัพย์มาจริง เจ้าหน้าที่จึงวางกำลังซุ่มดู กระทั่งพบนายธนะวัฒน์ เดินมาเปิดประตูรถคันดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม 

            ภายหลัง นายธนะวัฒน์ รับสารภาพว่าติดเล่นพนันอย่างหนัก จนเป็นหนี้มากจึงตัดสินใจก่อเหตุ โดยมาพักกับเพื่อนซึ่งมีบ้านอยู่ในซอยใกล้กับบ้านผู้เสียหาย



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก-http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRRd01EVTNOVEl4TXc9PQ==&subcatid=-
ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: พฤษภาคม 01, 2014, 07:45:49 pm »

หญิงวัยทองอังกฤษติดเว็บพนันโฉมแบ๊ว เผลอเล่นจนหนี้ท่วมหัว

-http://women.kapook.com/view87417.html-





เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Pinkcasino

          คุณแม่บ้านหรือผู้หญิงว่างงานที่ต้องอยู่แต่บ้านทั้งวัน มักเกิดอาการเบื่อหน่ายอยากหาอะไรสนุก ๆ มาให้บันเทิงใจบ้าง  บางคนก็อาจแก้เซ็งด้วยการท่องเว็บต่าง ๆ จนเกิดหลงไปติดกับเว็บการพนันเข้า แล้วหลวมตัวเล่นโดยควบคุมตัวเองไม่ได้ สุดท้ายเกิดหนี้ท่วมหัวไปโดยปริยาย

          เรื่องราวที่เป็นอุทาหรณ์สอนใจจากหญิงวัย 62 ปี ที่มีนามว่า ชีล่า มูเยอร์ (Sheila Muir) ซึ่งว่างงานอยู่กับบ้านแล้วรู้สึกว่าอยากหาอะไรทำแก้เหงา จนได้รู้จักกับเว็บไซต์การพนันออนไลน์หน้าตาหน้ารัก ด้วยรูปคัพเค้กและแมวเหมียวแสนดึงดูดใจให้อยากเข้าไปเล่น แต่หารู้ไม่ว่าเธอต้องเสียเงินไปมากมายจนสุดท้ายก็ต้องนั่งน้ำตาตกเพราะเป็นหนี้ล้นมือ

          วันที่ 23 เมษายน 2014 เว็บไซต์เดลี่เมล เปิดเผยเรื่องราวเกี่ยวกับ ชีล่า มูเยอร์ ผู้ติดการเล่นพนันบิงโกออนไลน์อย่างหนัก จนใช้เงินที่ได้มาจากอาชีพการงานในด้านการตลาดมากว่า 20 ปีไปอย่างฟุ่มเฟื่อย ซึ่งแอนดรูว์ มูเยอร์ (Andrew Muir) สามีของเธอบอกว่า ภรรยาติดเล่นบิงโกออนไลน์งอมแงม แต่ก็ยังมีเหตุการณ์ชนะพนันเมื่อปีที่แล้วที่เธอได้เงินมา 137 ปอนด์ (ประมาณ 7,000 บาท) ที่ตัวเขาเองก็อดรู้สึกตื่นเต้นไปด้วยไม่ได้ อย่างไรก็ดีเขาไม่เคยคิดว่าภรรยาจะติดเกมพนันออนไลน์ได้จนหนี้บานถึงเพียงนี้

          ชีวิตการแต่งงานของทั้งคู่กว่า 40 ปี นั้นไม่เคยประสบพบเจอกับเหตุการณ์ที่ทำให้รายจ่ายเยอะพุ่งทะลุเกินกว่ารายรับเลย โดยในตอนแรกเขาไม่เชื่อด้วยซ้ำว่าเธอจะจ่ายเงินได้มากมายขนาดนั้น และคิดว่าต้องมีอะไรผิดพลาด แต่ที่ธนาคารก็ยืนยันว่าตัวเลขไม่ผิดพลาดแน่นอน จนเมื่อเขานำจดหมายจากธนาคารมาให้เธอดู เธอถึงกับหลั่งน้ำตาออกมา และสารภาพผิดกับสามีว่าเธอเสียเงินไปกว่า 20,000 ปอนด์ (ประมาณ 1 ล้านบาท) ให้กับเกม Kitty Bingo

          ทั้งนี้ เมื่อเธอเริ่มเข้าเล่นพนันใน Kitty Bingo แล้ว ทำให้ในทุก ๆ คืนเธอไม่เป็นอันหลับอันนอน เพราะต้องเปิดโน๊ตบุ๊กเล่นพนันบนเตียง โดยที่มีสามีนอนอยู่ข้าง ๆ โดยไม่รู้ตัวเลยว่าเธอต้องเสียเงินไปให้กับมันวันละ 1,000 ปอนด์ (ประมาณ 50,000 บาท) ซึ่งเว็บไซต์การพนันออนไลน์เหล่านี้ฉลาดมากเลยทีเดียว เพราะพวกเขาหลอกล่อผู้เล่นที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่มาติดกับด้วยภาพคัพเค้กน่ารัก ๆ และภาพการ์ตูนรูปสัตว์ แถมยังมีการเอาใจด้วยการให้ช็อกโกแลตกล่องยักษ์ส่งตรงถึงหน้าบ้านผู้เล่นด้วย

          สำหรับบริษัทผู้ทำเว็บไซต์การพนันออนไลน์ที่ได้ทำรายได้ไปแล้วกว่า 800 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4 หมื่นล้านบาท) ได้ลูกค้าส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมเล่นการพนันออนไลน์เป็นลูกค้าผู้หญิง อันเนื่องมาจากพวกเธออยากหลีกหนีแรงกดดันจากความสัมพันธ์ จากงานที่ยุ่งยาก และการเลี้ยงลูกน้อย อีกทั้งพักหลัง ๆ ยังมีโฆษณาเว็บไซต์เหล่านี้ออกอากาศทางโทรทัศน์เพื่อหวังให้แม่บ้านที่ไม่ได้ออกไปทำงานแล้วรู้สึกว่าเหงา ๆ ได้หลงเข้ามาติดกับเสียเงินให้กับการพนันเหล่านี้ด้วย

          นอกจากนี้ชีล่ายังเผยว่า "เมื่อฉันชนะครั้งแรก ฉันก็อยากเล่นต่อ และเมื่อแพ้ ก็อยากเล่นต่ออีกเพื่อให้ได้เงินคืน เมื่อเริ่มเป็นหนี้เยอะขึ้น ฉันรู้ว่าต้องบอกสามี แต่ไม่รู้จะบอกยังไง ฉันเคยคิดว่าจะเขียนใส่กระดาษแล้วให้เขาได้มาอ่านเองด้วยซ้ำ วันหนึ่งฉันยืนอยู่ที่สถานีรถไฟ และคิดได้ว่าเมื่อคนมีปัญหาในใจเก็บไว้มากมาย ก็ต้องคิดที่จะจบปัญหาทั้งหมดให้ได้"

          เรื่องของชีล่าน่าจะเป็นเรื่องอุทาหรณ์ให้กับคุณแม่บ้าน หรือสาวที่ชอบฆ่าเวลาด้วยการส่องเว็บไปเรื่อยเปื่อยได้เป็นอย่างดี หากคุณเองก็เป็นแม่บ้าน ต้องเลี้ยงลูกอยู่กับบ้านแล้วรู้สึกอยากหาอะไรทำแก้เหงา ก็ไม่จำเป็นต้องหาทางออกด้วยการพนันเลยนะคะ เพราะการพนันถือได้ว่าเป็นกลลวงจูงใจที่ทำให้เสียเงินได้ง่ายมาก หากคุณชนะแล้วคุณหยุดใจตัวเองไม่ให้เล่นต่อได้ก็ถือว่าเป็นโชคดีไป แต่หากคุณยังอยากชนะไปอีกเรื่อย ๆ ไม่รู้จักพอ นั่นอาจจะทำให้คุณเสียเงินมากมายจนกลายเป็นหนี้ แล้วต้องมารู้สึกเสียใจภายหลังที่ก่อหนี้ไปกับเรื่องไร้สาระอีกด้วย ฉะนั้นอย่าเข้าไปพัวพันกับการพนันออนไลน์เหล่านั้นเลยจะดีที่สุดเลยค่ะ
ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: มีนาคม 09, 2014, 08:17:57 am »

.
รวบครูสาวหน้ามืดลักโน๊ตบุ๊กจำนำจ่ายค่าหวย

แม่พิมพ์สาว ติดเล่นหวยงอมแงมลักโน๊ตบุ๊กโรงเรียน จำนำกว่า40เครื่อง ถึงคราวซวย สตง.มาตรวจสอบ เครียดจัดวิ่งหนีเข้าห้องน้ำซดน้ำยาล้างส้วม หวังหนีอาญาแผ่นดิน เพื่อนๆครูช่วยไว้ทันรอดตายหวุดหวิด

-http://www.dailynews.co.th/Content/crime/221510/%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%82%E0%B8%99%E0%B9%8A%E0%B8%95%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B9%8A%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B8%88%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%A2-

วันเสาร์ 8 มีนาคม 2557 เวลา 17:57 น.





 เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ที่สน.บางขุนเทียน พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผกก.สน.บางขุนเทียน, พ.ต.ท.ไกรวิทย์ อุณหก้องไตรภพ รองผกก.(สส.) ,ร.ต.ท.สายชล ทรงเดช รอง สว.สส. พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนร่วมกันแถลงข่าวจับกุม น.ส.สดใส ชาประดิษฐ์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 182ถนนริมคลองด่าน แขวงบางค้อ เขตจอมทอง ข้าราชการครูระดับ3 ตำแหน่งผู้ช่วยแผนงานกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีของโรงเรียนสตรีวัดอัปสรสรรค์ พร้อมของกลางคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คยี่ห้อเดลรุ่นโวสโตร  5เครื่อง และ ตั๋วจำนำ 39 ใบ ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกกลางทั้งหมดได้ภายในห้องพักครูโรงเรียนสตรีวัดอัปสรสรรค์แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ

พ.ต.ท.ไกรวิทย์ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 8 มี.ค.มีผู้บริหารของโรงเรียนดังกล่าวเข้าแจ้งความกับฝ่ายสืบสวนสน.บางขุนเทียนว่า จะมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) เข้ามาตรวจสอบคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คของหลวงซึ่งทางโรงเรียนเบิกจากคลังมาเพื่อใช้ในการเรียนการสอนและให้บรรดาอาจารย์ยืมใช้แต่ปรากฏว่าคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค ทั้งหมด 40 เครื่อง ได้สูญหายไปโดยสงสัยว่า น.ส.สดใส ผู้ต้องหาซึ่งเป็นครูฝ่ายมัลติมีเดียเป็นคนถือกุญแจตู้เก็บอุปกรณ์และมีส่วนรับผิดชอบในการเบิกจ่ายน่าจะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พ.ต.อ.โชติวัฒน์ จึงสั่งการให้นำกำลังไปตรวจสอบที่โรงเรียนและเรียกตัว น.ส.สดใส มาสอบสวน โดยระหว่างให้ปากคำ  น.ส.สดใส เกิดอาการเครียด จึงวิ่งเข้าห้องน้ำครูไปขังตัวเองก่อนหยิบขวดน้ำยาล้างห้องน้ำบีบใส่ปากหวังฆ่าตัวตายบรรดาเพื่อนครูอาจารย์ต้องรีบเข้าทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนจะเร่งนำตัวส่ง รพ.ทหารเรือ เพื่อให้แพทย์ทำการล้างท้องช่วยชีวิตเอาไว้อย่างปลอดภัย

จากการสอบสวน น.ส.สดใส ให้การรับสารภาพว่า ได้แอบขโมยคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊กของหลวงไปจำนำจริง โดยเอาไปจำนำไว้ตามโรงรับจำนำย่านจอมทอง และบางปะแก้ว และจะทยอยขโมยไปทีละ 1-2 เครื่อง ทำมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2555 เพื่อหาเงินไปจ่ายค่าหวยใต้ดิน ได้เงินมาเครื่องละประมาณ 3,000 – 8,000 บาท จากนั้น เมื่อถึงสิ้นเดือนก็จะไปไถ่ถอนออกมาเก็บคืนตู้เซฟทางโรงเรียนเหมือนเดิม แต่ระยะหลังหมุนเงินไม่ทันจึงแอบเอาไปจำนำจนเกลี้ยงตู้ กว่า 40 เครื่อง เป็นจังหวะที่ทางราชการส่งเจ้าหน้าที่เดินทางมาตรวจสอบสภาพคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊กทางโรงเรียนจึงทราบเรื่องทั้งหมดเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาเป็นเจ้าพนักงานรักษาทรัพย์เบียดบังทรัพย์ไปโดยทุจริตก่อนพาตัวส่งพนักงานสอบสวนและพาไปฝากขังที่ศาลอาญาธนบุรีดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนที่ไม่นำตัวผู้ต้องหามาทำการแถลงข่าวเนื่องจากเกรงว่าหลังจากนี้จะเกิดอาการเครียดจนกลับไปคิดสั้นฆ่าตัวตายอีก.


ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: ธันวาคม 10, 2013, 05:26:54 pm »

สามีเครียดหนี้พนัน! คว้า .38 ยิงลูกเมียและตัวเองดับ 3 ศพ
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม    10 ธันวาคม 2556 16:15 น.

-http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9560000152202-

พ่อค้าย่านคลองเตยเครียดภรรยาติดการพนัน หนี้สินรุงรัง คว้าปืนขนาด .38 ยิงเมียและบุตรสาววัย 2 ขวบเศษเสียชีวิต ส่วนลูกชายกระสุนเข้าศีรษะอาการโคม่า ก่อนปลิดชีพตัวเอง ตำรวจระบุสาเหตุเครียดถูกเจ้าหนี้พนันทวงเงินกว่าล้านบาท
       
       วันนี้ (10 ธ.ค.) เมื่อเวลา 09.40 น. ร.ต.ท.อาทิตย์ ชิณวงศ์ พนักงานสอบสวน สน.ท่าเรือ รับแจ้งเหตุยิงกันเสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บสาหัส 1 ราย ในบ้านพักไม่มีเลขที่ ภายในชุมชนพัฒนาใหม่ ซอยคั่วพลิก ถ.สุนทรโกษา แขวงและเขตคลองเตย จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.จักษ์ จิตตธรรม รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.สุพจน์ พรหมศิริ รอง ผบก.น.5 พ.ต.ท.สิราวิชญ์ นวมดี รอง ผกก.สส.สน.ท่าเรือ แพทย์นิติเวช รพ.จุฬา เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
       
       ที่เกิดเหตุเป็นบ้านในชุมชนแออัดพบผู้เสียชีวิต 3 ราย ทราบชื่อ นายบุญลือ เอี่ยมพ่อค้า อายุ 52 ปี อยู่ในสภาพนอนหงายจมกองเลือด สวมใส่เสื้อลายสกอตแขนสั้นสีน้ำเงิน-แดง กางเกงขาสั้นสีเลือดหมู และพบอาวุธปืน .38 รุ่นสมิทแอนด์เวสสัน 1 กระบอก บริเวณข้างลำตัว นางทองแดง ช่อรักษ์ อายุ 42 ปี ภรรยาของนายบุญลือ สภาพศพนั่งคุกเข่าคว่ำหน้าศีรษะมุดอยู่ในตู้เสื้อผ้า สวมเสื้อสีแดง กางเกงขาสั้นสีดำ ข้างกันนั้นพบศพบุตรสาววัย 2 ขวบเศษ สภาพนอนคว่ำเสียชีวิต นอกจากนี้ยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย คือ นายธนโชติ เอี่ยมพ่อค้า อายุ 15 ปี บุตรชาย ถูกกระสุนยิงเข้าที่บริเวณขมับข้างขวา กระสุนฝังในศีรษะนอนหายใจรวยริน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการช่วยเหลือในเบื้องต้นก่อนเร่งนำตัวส่งห้องฉุกเฉิน รพ.จุฬาฯ เป็นการเร่งด่วน
       
       น.ส.กฤษณา ช่อรักษ์ อายุ 34 ปี น้องสาวของนางทองแดงกล่าวว่า ปกติพักอาศัยอยู่ที่จังหวัดบุรีรัมย์ แต่ช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาพี่สาวของตนมีอาการป่วยบ่อยครั้งจึงได้บอกให้ตนมาช่วยกิจการ ซึ่งพี่สาวและสามีประกอบอาชีพร้านค้าขายปลาดุกภายในตลาดคลองเตย 2 ก่อนเกิดเหตุ เวลาประมาณ 09.00 น. ตนพร้อมพี่สาวเพิ่งกลับจากตลาดด้วยกัน ก่อนที่จะแยกย้ายกันเข้าบ้านพัก ซึ่งตนพักอาศัยอยู่ใกล้เคียงกับบ้านของพี่สาว หลังจากนั้นประมาณ 10 นาทีก็ได้ยินเสียงดังคล้ายกับลูกโป่งแตกจำนวน 4 ครั้ง จึงรีบวิ่งออกมาดูและพบกับหลานสะใภ้ ก่อนที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าตรวจบ้านพักหลังดังกล่าว
       
       น.ส.กฤษณากล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องหนี้สินของครอบครัวของพี่สาวนั้น ตนพอจะทราบบ้าง แต่ไม่รู้รายละเอียดมากนัก ซึ่งตนไม่เคยถามเพราะไม่อยากยุ่งเรื่องส่วนตัว ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ของสามีภรรยาคู่นี้ไม่เคยมีการทะเลาะวิวาทหรือมีปากเสียงกัน และไม่มีท่าทีว่าจะก่อเหตุถึงขั้นฆ่ากันตายมาก่อน
       
       ด้านนายนาวี หาอย่าทุกข์ อายุ 49 ปี เพื่อนบ้านละแวกใกล้เคียง กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 09.20 น. นางทองแดงได้โทรศัพท์มาหาตน แต่หลับอยู่จึงไม่ได้รับโทรศัพท์ ต่อมาเวลาประมาณ 10.00 น. มีคนที่รู้จักกับตนได้โทรศัพท์มาบอกว่าครอบครัวของนายบุญลือนั้นมีเหตุยิงกันภายในครอบครัว จึงรีบโทรศัพท์กลับไปยังนางทองแดง แต่ปรากฏว่าไม่มีใครรับสาย จึงวิ่งมาที่บ้านเกิดเหตุ และพบว่านางทองแดงเสียชีวิตแล้ว ซึ่งตนรู้สึกตกใจอย่างมาก โดยก่อนหน้านั้นตนเคยพูดคุยกับนายบุญลือ ซึ่งนายบุญลือมีอาการเครียดพร้อมกับเปรยว่าหากเป็นอะไรไปฝากลูกสาวคนเล็กด้วย พร้อมกับบ่นเรื่องหนี้สินที่นางทองแดงสร้างขึ้น ซึ่งตนจะคอยพูดคุยให้คำปรึกษากับนายบุญลือมาตลอด อย่างไรก็ตาม ช่วง 2-3 วันก่อนที่จะเกิดเหตุ นายบุญลือได้เก็บตัวอยู่ภายในบ้านไม่ออกมาทำงานเหมือนเดิม
       
       พ.ต.อ.จักษ์ จิตตธรรม รอง ผบก.น.กล่าวว่า เบื้องต้นได้สอบถามพยานแวดล้อมทราบว่า ผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นสามีภรรยากัน มีปัญหาเรื่องหนี้สินจากการเล่นการพนัน ซึ่งนางทองแดงติดการพนันอย่างหนักและมีหนี้สินหลักล้านบาท ช่วง 1-2 เดือนก่อนที่จะเกิดเหตุได้มีเจ้าหนี้มาทวงถามเงินนางทองแดงที่บ้านพักบ่อยครั้ง นายบุญลือจึงได้นำเงินเก็บจากการค้าขายมาชำระหนี้ให้นางทองแดงเป็นประจำ จากการตรวจสอบทราบว่านายบุญลือมีรถยนต์ 3 คัน และรถบรรทุก 6 ล้ออีก 1 คัน ซึ่งนางทองแดงกำลังจะนำรถยนต์ของนายบุญลือไปขายเพื่อใช้หนี้สินที่ตัวเองก่อขึ้น สำหรับสาเหตุคาดว่าน่าจะเกิดจากอาการเครียดสะสม ประกอบกับภาระค่าใช้จ่ายภายในครอบครัวที่ชักหน้าไม่ถึงหลังของนายบุญลือ จึงลงมือก่อเหตุสลด ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเก็บรวบรวมหลักฐานทั้งหมดเพื่อหาสาเหตุการสังหารครั้งนี้ต่อไป

ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: กันยายน 28, 2013, 08:34:20 am »

ผีพนัน
-http://sport.sanook.com/1238054/%E0%B8%9C%E0%B8%B5%E0%B8%9E%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%99/-



กีฬากับการพนัน เป็นของที่อยู่คู่กันมาทุกยุคทุกสมัย บางประเทศ ก็มีการเปิดให้ แทงกันอย่างถูกกฎหมาย แต่ว่าบางทีก็ไม่ใช่

หลายคนสงสัยว่า พวกนักกีฬา เขาจะรู้กันหรือไม่ ว่า เกมที่ตัวเองลงแข่งมีเดิมพัน ต้องชนะเท่าไหร่ สกอร์เท่าไหร่ ราคาเปิดมา ต่อกันเท่าไหร่ ขอบอกเลยว่า ยังไงเขาก็รู้ เพราะบางคนถึงขั้นกระโดดลงมาแจมกับการเดิมพันเองเลยด้วยซ้ำ
 
ตอนนี้คนที่เป็นข่าวดังมากที่สุดก็คงจะเป็น สตีเฟ่น ลี อดีตนักสนุกเกอร์คนดังชาวอังกฤษ ที่ตอนนี้ โดนสั่งแบนยาวถึง 12 ปี หลังโดนจับได้ว่าผิดจริงจากคดีล็อกผล ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่เป็นถึง 7 ครั้ง
 

สตีเฟ่น ลี อดีตนักสนุกเกอร์คนดังชาวอังกฤษ
 

ถ้าเราจะหา กีฬาชนิดไหน ที่สามารถล็อกผลได้แบบแนบเนียนที่สุด ผมคงต้องขอบอกเลยว่า สนุกเกอร์ นี่แหละ คือหนึ่งในนั้น
 
กีฬาฟุตบอล การล็อกผล จะทำได้ยากหน่อย เพราะมันขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัย ยิ่งเมื่อทีมคุณมีตั้ง 11 คน หากเพื่อนไม่เอากับคุณด้วย มันก็ยากที่จะทำได้ตามเป้า
 
ดังนั้นกีฬาที่จะล็อกผลได้ง่าย ก็จะต้องเป็นกีฬาประเภทบุคคล แต่อย่าง กีฬาเทนนิส หรือ แบดมินตัน มันก็ไม่ใช่ง่าย เพราะยังไงคนดูก็ดูออก หากคุณจงใจตีเสียจนเกินงาม
 
แต่สำหรับ กีฬาสนุกเกอร์ นั้น ง่ายนิดเดียว ยิ่งในระดับอาชีพแล้ว หากคุณแทงพลาดสักไม้ คุณก็เสียเฟรมง่ายๆ โดยที่แทบไม่มีใครจับได้ 


ลี คงหิวเงินมาก ถึงขั้นแ_กไม้แทนไปก่อน
 

สาเหตุสำคัญของ นักกีฬาที่ต้องลงมาทำแบบนี้ ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องเงินๆ ทองๆ อย่างที่เรารู้กันว่า กระแสของกีฬาสนุกเกอร์นั้นไม่บูมเหมือนในอดีต และที่สำคัญ เงินรางวัลก็ยิ่งร่อยหรอลงไปทุกขณะ ทำให้ หลายคนต้องหาทางออกด้วยวิธีนี้ ซึ่งเชื่อว่า สตีเฟ่น ลี คงไม่ใช่คนสุดท้ายที่ทำแบบนี้
 
อีกคนหนึ่ง ที่ตอนนี้ โดนสงสัยอยู่พอสมควร ก็คือ ลี ชอง เหว่ย นักแบดมินตันมือวางอันดับ 1 ของโลก ชาวมาเลเซีย ที่ถูกพวกนักพนันทั้งหลายตั้งข้อสังเกตุกันว่า ตีเหมือนรู้ราคา
 
การเล่นพนันกีฬาแบดมินตัน หรือ เทนนิส นั้น จะมีการคิดเงินขึ้น ก็คือเกมการแข่งขันมันต้องจบลงอย่างเดียว ถ้าแข่งไม่จบ ก็ถือว่าทุกอย่างเป็นโมฆะ
 

ถ้าชอง เหว่ย จะแกล้งแพ้ หลินตัน นี่แหละเหมาะสุดเพราะสูสีและไม่มีทางจับได้แน่
 

ถ้าให้ยกตัวอย่าง แมตช์ล่าสุด ที่โดนตั้งข้อสงสัย ก็คงเป็น เกมที่ ชองเหว่ย แพ้หลินตัน ในรอบชิงชนะเลิศ เนื่องจากว่าต้องถอนตัวในแต้มสุดท้าย มือ 1 ของโลกชาว มาเลเซีย ตัดสินใจถอนตัวในแต้มสุดท้าย เนื่องจากอาการบาดเจ็บ ผลคือ หลิน ตัน ชนะได้แชมป์ไป แต่คนที่แทงว่า เขาจะได้แชมป์ ก็ไม่ได้เงิน เพราะถือว่าเกมยกเลิก
 
หรือ สมมติว่า นักกีฬา A มีแต้มต่อนักกีฬา B อยู่ที่ เกมครึ่ง แม้ว่า นักกีฬา B จะได้เกมไปแล้ว แต่ก็ใช่ว่า คนแทงนักกีฬา B จะได้เงิน เพราะ ถ้าหากเกิดมีการถอนตัว นักกีฬา A เงินเดิมพันทั้งหมดก็จะถูกยกเลิกไป
 
วกมาที่ วงการฟุตบอล กันบ้าง ก็อย่างที่เห็นเป็นข่าว กันเกี่ยวกับการล็อกผล ที่กำลังมีการพยายามกวาดล้างกันอยู่ แต่ที่อยากจะพูดถึงก็คือ พวกนักบอล ตอนเลิกเล่นไปแล้ว แต่ก็ต้องพังเพราะการพนัน
 

ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี แต่ถ้าผิดจริงเขาก็รื้อคดีกลับมาจนลงโทษคนผิดได้


 จูเซปเป้ ซินญอรี่ อดีตดาวยิงคนดังของ สโมสร ลาซิโอ ก็ไม่พ้นวงจรอุบาทว์นี้ เพราะโดนจับได้ถึงขั้น เป็นคนรับแทงเองด้วยซ้ำ อย่างที่เป็นข่าวใหญ่โต เมื่อ 2 ปีก่อน
 
คนที่การพนันทำลายชีวิตไปเลยก็คือ ดีทมาร์ ฮามันน์ อดีตกองกลางทีมชาติเยอรมัน ของ สโมสร ลิเวอร์พูล, บาเยิร์น มิวนิค และ อีกหลาย ๆ ทีม
 
ฮามันน์ ยอมรับว่าตัวเองติดพนันอย่างมาก โดยเฉพาะการแทงผ่านเว็บ ที่สำคัญ เขาไม่ได้แค่แทงบอลเท่านั้น แต่รวมไปถึงกีฬาอื่นๆ ยัน คริกเก็ต และ ปาลูกดอก โดยเฉพาะ สองกีฬาอย่างหลัง ตัวของ ฮามันน์ เผยว่า เขาสูญเงินไปเป็นล้านเลยด้วยซ้ำ
 


อดีตจอมทัพหงส์แดง และอินทรีเหล็กออกมาสารภาพว่าตัวเขาเองเคยติดการพนันง่อมแง่ม
 

การติดพนันงอมแงมของ ฮามันน์ ไม่เพียงแค่ทำให้เขาเสียเงินแทบหมดตัวเท่านั้น แต่ยังทำให้ ภรรยาของเขา หนีเขาไปอีกต่างหาก ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า กว่าจะทำใจได้ และถอนตัวออกมาก็แทบตายเหมือนกัน
 
กรณีศึกษาของคนที่ยกตัวอย่างมานี้ ก็เป็นอุทาหรณ์สอนใจเราได้เหมือนกัน ว่า การพนันไม่เคยทำให้ใครรวย ถ้าเล่นแค่ขำ ๆ สนุก ๆ ก็พอได้ ที่พูดแบบนี้ก็รู้ว่า คงห้ามคนที่เล่นเป็นกิจวัตรไม่ได้อยู่แล้ว
 
แต่ถ้าหวังจะรวยในทางนี้ ขอเตือนว่า เลิกคิดเถอะครับ ดู ฮามันน์ , ซินญอรี่ หรือ สตีเฟ่น ลี เป็นตัวอย่าง ได้
 

เรื่องโดย "The Nut"
ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: มิถุนายน 29, 2013, 09:31:28 pm »

รวบแล้ว! หลานทรพีฆ่าโหด สองตา-ยาย ชิงทรัพย์จ่ายหนี้พนันบอล
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม    29 มิถุนายน 2556 17:39 น.
-http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9560000079145-




เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายธิพันธ์ธร มากสมบูรณ์ หรือโต๊ด อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาทำแผนฯ



ตร.สน.บางเขน รวบหลานทรพีปาดคอ 2 ตา - ยาย ชิงทรัพย์ อ้างติดหนี้พนันฟุตบอล
       
       วันนี้(29มิ.ย.)เมื่อเวลา 13.00น. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ ผกก.สน.บางเขน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัวนายธิพันธ์ธร มากสมบูรณ์ หรือโต๊ด อายุ 23 ปี พร้อมของกลาง มีดปลายแหลมจำนวน 1เล่ม เงินสด 2,400 บาท และพระเครื่องกว่า 100 องค์
       
       พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมาเกิดเหตุมีคนร้ายใช้อาวุธมีดก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ ส.ท.สมหมาย บุญโต อายุ 81ปี และนางมาลัย บุญโต อายุ76ปี สองสามีภรรยาเสียชีวิตภายในบ้านพักเลขที่ 49/133 หมู่บ้านไปรษณีย์ ซ.พหลโยธิน 48 แยก 56 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. โดยคนร้ายได้ทรัพย์สินเป็นพระเครื่องและเงินสดจำนวนหนึ่ง ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบกองเลือดและมีหยดเลือดหยดอยู่ตามทางหลังบ้านซึ่งคาดว่าเป็นทางที่คนร้ายปีนกำแพงหลังบ้านหลบหนี เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่านายธิพันธ์ธร ซึ่งเป็นหลานชายแท้ๆของผู้ตายมีพฤติกรรมน่าสงสัย หลังเกิดเหตุได้หายไปจากบ้านและเคยมีประวัติเข้าไปลักทรัพย์ในบ้านดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ออกติดตามตัวเพื่อมาสอบสวน จนสามารถจับกุมตัวนายธิพันธ์ธรได้ที่สน.พหลโยธิน หลังเจ้าตัวทำทีเข้าไปแจ้งความเพื่อปิดบังอำพรางว่าถูกโชเฟอร์แท็กซี่ทำร้าย ซึ่งที่จริงแล้ว แผลที่ฝ่ามือขวานั้นมาจากการต่อสู้ขัดขืนของผู้ตาย
       
       ด้านพ.ต.อ.เจริญ กล่าวต่อว่า นายธิพันธ์ธรไม่ได้ทำงานอะไร แต่หลอกคนในบ้านว่ามีงานทำแล้ว และจะออกจากบ้านไปข้างนอกตั้งแต่เช้ากลับเข้ามาตอนเย็น แต่ไม่ได้ไปทำงาน ซึ่งสาเหตุที่ได้ก่อเหตุครั้งนี้เนื่องจาก นายธิพันธ์ธร ได้ไปติดพนันบอลในเว็บไซต์รับพนันบอล และกำลังถูกติดตามทวงหนี้ จึงแอบลักลอบเข้าไปในบ้านของตากับยายทั้งสองคน ซึ่งเป็นตายายแท้ๆของนายธิพันธ์ธร ซึ่งอยู่ติดกันกับบ้านของตนเอง ในขณะนั้นคนในครอบครัวออกไปข้างนอกกันหมด โดยขณะที่นายธิพันธ์ธร กำลังเดินเข้าไปในบ้านนั้น ก็พบกับนางมาลัยนอนดูโทรทัศน์อยู่ นางมาลัยได้สังเกตเห็นนายธิพันธ์ธร สะพายกระเป๋าท่าทางแปลกๆ จึงขอดูว่าในกระเป๋ามีอะไรอยู่ เนื่องจากเกรงว่านายธิพันธ์ธรจะเข้ามาขโมยของในบ้านอีกแต่นายธิพันธ์ธรไม่ยอมจึงมีการยื้อยุดฉุดกระชากและนางมาลัยเรียกให้ส.ท.สมหมาย มาช่วย จนนายธิพันธ์ธร เกิดความโมโหและใช้มีดปลายแหลมแทงทั้งสองคนจนเสียชีวิต
       
       จากการสอบสวนนายธิพันธ์ธร ให้การว่า ตนติดหนี้เว็บไซต์พนันบอลจำนวน 20,000 บาท และต้องหาเงินมาจ่ายก่อนวันจันทร์ที่1ก.ค.นี้ แต่ไม่รู้ว่าจะหามาจากที่ไหน จึงคิดว่าจะเข้าไปแอบขโมยสร้อยคอทองคำ ของตากับยายในบ้าน โดยเลือกลงมือในวันศุกร์ซึ่งไม่มีใครอยู่บ้าน แต่เมื่อเดินเข้าไปยายกลับมาขอค้นดูในกระเป๋าตน ซึ่งในนั้นมีเสื้อ หนังสือ และมีดปลายแหลม ซึ่งตนได้เอาเสื้อกับหนังสือให้ยายดู แต่ยายไม่เชื่อ บอกว่าอยากจะดูให้หมด พร้อมทั้งกับดุด่าว่าตนจะต้องเข้ามาลักขโมยของในบ้านอีกแน่ เนื่องจากตนเคยเข้าไปขโมยของในบ้านมาแล้ว 2 ครั้ง
       
       "นอกจากนี้ยายยังด่าว่าจะไม่สนใจอีกแล้ว เพราะเตือนอะไรก็ไม่เคยฟัง ทำให้ผมรู้สึกน้อยใจว่ายายไม่สนใจ ต้องอยู่ตัวคนเดียว และเกิดความโมโห เมื่อสบโอกาสตอนที่ยายเมินหนีชักมีดปลายแหลมในกระเป๋าสะพายออกมา แต่ยายหันหน้ามาเจอพอดี จึงเกิดการแย่งมีด ระหว่างนั้นยายเรียกตาให้มาช่วย ผมจึงสะบัดมีดไปทางตา ขณะที่ตาวิ่งเข้ามา มีดก็โดนตาจนทรุดลงและเสียชีวิต จากนั้นผมก็หันมาใช้มีดแทงยายอีกคน" นายธิพันธ์ธร กล่าว
       
       นายธิพันธ์ธร กล่าวว่า จากนั้นตนได้หยิบเงินในกระเป๋าสตางค์ตามีอยู่ประมาณ 200 บาท และพระเครื่องจำนวนหนึ่งในกระเป่าถือก่อนปีนกำแพงด้านหลังบ้านหนีออกไป แล้วเดินลุยป่าหลังบ้านไปโผล่ซอยถัดไป แต่คิดว่าคงไปไม่รอดเพราะไม่มีเงิน จึงทำทีไปแจ้งความหลอกว่าถูกแท็กซี่ทำร้าย เพื่ออำพรางคดี
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังการแถลงข่าวเจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายธิพันธ์ธร ไปทำแผนชี้จุดเกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพ ที่บ้านหลังที่เกิดเหตุ โดยมีประชาชนละแวกใกล้เคียงมามุงดูการทำแผนฯ เป็นจำนวนมาก ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป




คนร้ายฆ่าโหดสองตายายหมกบ้านพักชิงพระเครื่องดังเย้ยตะวัน!
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม    28 มิถุนายน 2556 23:40 น.
-http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9560000078921-

ตำรวจบางเขน รับแจ้งเหตุคนถูกฆ่าในบ้านพักภายในหมู่บ้านไปรษณีย์นิเวศกลางวันแสกๆ ตรวจสอบพบเป็นอดีตทหารผ่านศึกสงครามเวียดนามรุ่น 1 พร้อมเมียถูกกระหน่ำแทงดับอนาถ คาดคนร้ายฆ่าชิงทรัพย์
       
       วันนี้ (28 มิ.ย.) เมื่อเวลา 14.45 น. พ.ต.ท.แบ๊งค์ บัวนวล พงส.ผนพ.สน.บางเขน ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 49/133 หมู่ 4 หมู่บ้านไปรษณีย์นิเวศน์ซอย 1 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบแล้วเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผบช.น. พล.ต.ต.มานิต วงศ์สมบูรณ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ ผกก.สน.บางเขน แพทย์รพ.ตำรวจ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ้ง
       
       ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียวเนื้อที่ประมาณ 50 ตารางวา มีร่องรอยหยดเลือดปรากฏรอบบ้าน ภายในบ้านพบร่องรอยรื้อค้นกระจุยกระจาย ที่หน้าห้องนอน พบศพนางมาลัย บุญโต อายุ 76 ปี สภาพศพสวมเสื้อลายดอกใส่ผ้าถุง นอนตะแคงเสียชีวิตโดยถูกแทงด้วยของมีคมจำนวน 12 แผล มีแผลฉกรรจ์ถูกปาดคอ ภายในห้องนอน พบศพ ส.ท.สมหมาย บุญโต อายุ 81 ปี อดีตทหารผ่านศึกสงครามเวียดนามรุ่น 1 ข้าราชการบำนาญการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สภาพศพไม่สวมเสื้อ ใส่กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน นอนคว่ำ หัวหันไปทางเตียงนอน ถูกแทงด้วยของมีคมเข้าที่ลิ้นปี่และหน้าอกเสียชีวิตจมกองเลือด บริเวณหิ้งบูชาพระในห้อง มีรอยรื้อค้นทรัพย์สินกระจุยกระจายและคราบเลือด ตรวจสอบบริเวณใกล้ยเคียงพบเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีเทาดำต้องสงสัยว่าเป็นของคนร้าย จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
       จากการสอบสวนนางสุภาพร บุญโต อายุ 56 ปีลูกสาวคนตายให้การว่า บ้านหลังดังกล่าวอยู่กัน 6 คน แบ่งกันอยู่โดยมีบ้านอีกหลังอยู่ในรั้วเดียวกัน ปกติพ่อกับแม่จะอยู่บ้านหลังเกิดเหตุ ตนจะดูแลพ่อกับแม่ โดยพ่อจะดูโทรทัศน์ในห้อง ส่วนแม่ก็จะเย็บผ้ากับจักรอยู่ในบ้าน ก่อนเกิดเหตุตนออกจากบ้านตอน 11.30 น. เพื่อไปทำธุรกรรมที่ธนาคารในห้างแฟชั่นส์ ไอส์แลนด์ เมื่อกลับมาตอนเวลา 14.00 น. เห็นสุนัขที่พ่อเลี้ยงไว้ อยู่นอกตัวบ้าน ทั้งที่ปกติสุนัขจะอยู่แต่ในตัวบ้านไม่ได้ออกมาก็เกิดสงสัย จึงตะโกนเรียกพ่ออยู่นาน พ่อก็ไม่ได้ออกมา เมื่อดูที่ประตูบ้านพบว่าล็อกกุญแจบ้านปิดมิดชิดผิดปกติ จึงเดินอ้อมไปทางหลังบ้านซึ่งมีบ้านอีกหลังติดกันภายในรั้วเดียวกัน เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็ถึงกับตกใจ เพราะเห็นคราบเลือดเป็นทางยาว ก่อนจะเห็นศพพ่อกับแม่ของตนจึงรีบเรียกคนแถวนั้นมาช่วยคิดว่าอาจจะยังไม่ตายแต่เห็นบาดแผลกับเลือดออกมาแยะคิดว่าเสียชีวิตแน่นอนจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที
       พล.ต.ต.อนุชัย กล่าวว่า เบื้องต้นสันนิษฐานว่าคนร้ายมีมากกว่า 1 คน เข้ามาก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงสองตายายร่วมกว่า 10 แผลทำให้เสียเลือดมากเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ มีการรื้อค้นทรัพย์สิน เพื่อหาทรัพย์สินบางอย่าง แต่ไม่ได้ไป ทั้งนี้คนร้ายได้รับบาดเจ็บถูกของมีคมบาด ซึ่งจะได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปรพ.ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุเผื่อคนร้ายมารักษาตัว นอกจากนี้เจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในละแวกใกล้เคียง ส่วนประเด็นการฆาตกรรมนั้น ยังไม่มุ่งไปทางใดทางหนึ่ง ขอสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อหาข้อเท็จจริงและไล่ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
       มีรายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้าเกิดเหตุ ประมาณ 2-3 วันมีผู้ชาย 2 คนเดินทางมาสอบถามบ้านของผู้เสียชีวิต และวันนี้ในช่วงเที่ยง มีชาย 2 คน คนแรกสูง 170 เซนติเมตร สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำสภาพเก่า ทั้งสองคนรูปร่างสันทัด เดินทางมาถามหาบ้านผู้ตายที่ร้านอาหารตามสั่งหน้าปากซอย ส่วนปมเหตุฆาตกรรมนั้น เจ้าหน้าที่มุ่งที่ประเด็นชิงทรัพย์ เพราะผู้ตายสะสมพระเครื่องรุ่นเก่า มีพระใส่กรอบเลี่ยมทองเก็บไว้ แต่ตอนเกิดเหตุ ทางลูกหลานผู้ตายได้ค้นหาพบว่าสร้อยพระเลี่ยมทองหายไปเป็นพวงยังไม่ทราบมูลค่า อย่างไรก็ดีทางญาติจะตรวจสอบทรัพย์สินทั้งหมดอีกครั้งว่ามีทรัพย์สินใดหายไปอีกหรือไม่ ทั้งนี้หลังก่อเหตุคนร้ายได้รับบาดเจ็บไปล้างมือที่หลังบ้านแล้วหลบหนีไป มีพยานเห็นคนสภาพตัวเปียกน้ำเดินไปทางหลังของหมู่บ้านซึ่งเป็นบึงน้ำหญ้ารกร้างดังกล่าว