ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: กรกฎาคม 15, 2014, 06:23:20 am »มาริโอ เกิทเซ่ สวมบทฮีโร่ วอลเลย์สุดสวยเป็นประตูชัย ขณะที่ ลิโอเนล เมสซี่ ยังไม่สามารถเติมเต็มความฝันได้
-http://football.kapook.com/news_inside.php?id=19945&key=news-
ภาพ AFP
พลพรรค "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี ผงาดคว้าแชมป์ไปครองได้เป็นสมัยที่ 4 หลังจากเอาชนะ "ฟ้า-ขาว" อาร์เจนตินา 1-0 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ในเกม ฟุตบอลโลก 2014 รอบชิงชนะเลิศ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคม
มาริโอ เกิทเซ่ ดาวโรจน์ วัย 22 ปี เป็นฮีโร่ของเยอรมนี หลังจากถูกเปลี่ยนลงสนามมาในช่วงก่อนหมด 90 นาที และเป็นคนซัดประตูชัย จากจังหวะลูกผ่านจากด้านข้างของ อังเดร เชือร์เร่
เกิทเซ่ ดาวเตะจาก บาเยิร์น มิวนิค จัดการพักบอลด้วยอก ก่อนจะซัดลูกวอลเลย์ด้วยเท้าซ้ายผ่านมือ เซร์คิโอ โรเมโร่ นายทวารของอาร์เจนตินาเข้าประตูไปอย่างสุดสวย ในขณะที่การแข่งขันเหลืออีกแค่ 7 นาทีจะหมดเวลา
ในเกมนี้ ทั้งสองทีมต่างก็มีโอกาสยิงหลายครั้ง โดยอาร์เจนตินา ส่งบอลเข้าประตูไปได้แล้วจากลูกยิงของ กอนซาโล่ อิกวาอิน แต่ถูกเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้า ขณะที่ เบเนดิคท์ โฮเวเดส แบ็กซ้ายของเยอรมนี มีโอกาสโขกจากจังหวะเตะมุมไปชนเสาเต็มๆ
ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ทำให้ อาร์เจนตินา พลาดโอกาสที่จะได้ชูถ้วยแชมป์โลกบนแผ่นดินของชาติคู่ปรับอันดับ 1 และที่สำคัญ ลิโอเนล เมสซี่ ก็ยังไม่สุขสมหวัง ต้องรอคอยแชมป์ฟุตบอลโลก ถ้วยใบเดียวที่ยังไม่อาจจะคว้ามาชูได้ต่อไป
สำหรับทีมชาติเยอรมนีของ โยอาคิม เลิฟ ชุดนี้ สร้างสถิติยอดเยี่ยมไว้มากมาย และรวมถึงการสร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมยุโรปชาติแรกที่มาคว้าแชมป์ถึงดินแดนอเมริกาใต้ด้วย
ลิโอเนล เมสซี่ ยังคงไม่สมหวังกับถ้วยแชมป์โลกที่รอคอย
บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ คว้าแชมป์อย่างสะบักสะบอมกว่าใครในเกมนี้
บรรดาคู่ใจของแข้ง "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี ชื่นชมผลงานของคนรักกันชื่นมื่น
มาริโอ เกิทเซ่ ฮีโร่ในเกมนี้
แชมป์โลกสมัยที่ 4 ที่ "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี คว้าไปครองอย่างสมศักดิ์ศรี
-http://football.kapook.com/news_inside.php?id=19945&key=news-
ภาพ AFP
พลพรรค "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี ผงาดคว้าแชมป์ไปครองได้เป็นสมัยที่ 4 หลังจากเอาชนะ "ฟ้า-ขาว" อาร์เจนตินา 1-0 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ในเกม ฟุตบอลโลก 2014 รอบชิงชนะเลิศ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคม
มาริโอ เกิทเซ่ ดาวโรจน์ วัย 22 ปี เป็นฮีโร่ของเยอรมนี หลังจากถูกเปลี่ยนลงสนามมาในช่วงก่อนหมด 90 นาที และเป็นคนซัดประตูชัย จากจังหวะลูกผ่านจากด้านข้างของ อังเดร เชือร์เร่
เกิทเซ่ ดาวเตะจาก บาเยิร์น มิวนิค จัดการพักบอลด้วยอก ก่อนจะซัดลูกวอลเลย์ด้วยเท้าซ้ายผ่านมือ เซร์คิโอ โรเมโร่ นายทวารของอาร์เจนตินาเข้าประตูไปอย่างสุดสวย ในขณะที่การแข่งขันเหลืออีกแค่ 7 นาทีจะหมดเวลา
ในเกมนี้ ทั้งสองทีมต่างก็มีโอกาสยิงหลายครั้ง โดยอาร์เจนตินา ส่งบอลเข้าประตูไปได้แล้วจากลูกยิงของ กอนซาโล่ อิกวาอิน แต่ถูกเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้า ขณะที่ เบเนดิคท์ โฮเวเดส แบ็กซ้ายของเยอรมนี มีโอกาสโขกจากจังหวะเตะมุมไปชนเสาเต็มๆ
ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ทำให้ อาร์เจนตินา พลาดโอกาสที่จะได้ชูถ้วยแชมป์โลกบนแผ่นดินของชาติคู่ปรับอันดับ 1 และที่สำคัญ ลิโอเนล เมสซี่ ก็ยังไม่สุขสมหวัง ต้องรอคอยแชมป์ฟุตบอลโลก ถ้วยใบเดียวที่ยังไม่อาจจะคว้ามาชูได้ต่อไป
สำหรับทีมชาติเยอรมนีของ โยอาคิม เลิฟ ชุดนี้ สร้างสถิติยอดเยี่ยมไว้มากมาย และรวมถึงการสร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมยุโรปชาติแรกที่มาคว้าแชมป์ถึงดินแดนอเมริกาใต้ด้วย
ลิโอเนล เมสซี่ ยังคงไม่สมหวังกับถ้วยแชมป์โลกที่รอคอย
บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ คว้าแชมป์อย่างสะบักสะบอมกว่าใครในเกมนี้
บรรดาคู่ใจของแข้ง "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี ชื่นชมผลงานของคนรักกันชื่นมื่น
มาริโอ เกิทเซ่ ฮีโร่ในเกมนี้
แชมป์โลกสมัยที่ 4 ที่ "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี คว้าไปครองอย่างสมศักดิ์ศรี