ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2015, 05:44:59 am »แชร์กระหน่ำ ภาพพระธุดงค์กลางป่าเขา ยกเทียบกับพระธุดงค์กลางเมือง
-http://hilight.kapook.com/view/115270-
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก บ๊อบ สายแข็ง
ชาวเน็ตร่วมแชร์ ภาพพระธุดงค์กลางป่าเขา เดินเท้าแบกสัมภาระจาก อ.แม่สอด จ.ตาก มุ่งหน้าที่ จ.กาญจนบุรี ยกเป็นพระแท้แห่งพุทธศาสนา ต่างจากการธุดงค์ในเมือง ซึ่งกำลังเป็นประเด็นขณะนี้
วันนี้ (3 กุมภาพันธ์ 2558) ในโลกโซเชียลมีเดียกำลังเกิดกระแสการแชร์คลิปและข้อความเปิดประสบการณ์ของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ที่ออกมาบอกเล่าความประทับใจจากการพบพระภิกษุที่ออกธุดงค์อยู่บนพื้นที่ป่าเขา เส้นทางจาก อ.แม่สอด มุ่งหน้าไปยัง อ.อุ้งผาง จ.ตาก เพื่อที่จะเดินทางไปยัง จ.กาญจนบุรี โดยมีความยากลำบากและความเหน็ดเหนื่อยในการเดินทาง ซึ่งแตกต่างจากการเดินธุดงค์ในเมือง ซึ่งกำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคมในขณะนี้
โดย คุณ "บ๊อบ สายแข็ง" ได้เปิดเผยเรื่องราวดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวของเขาว่า...
"(ความเห็นส่วนตัวนะ)
2-3 ปีที่ผ่านมา ผมมีโอกาสเดินทางบ่อยด้วยมอไซค์ บางเดือนเดินทาง 10,000-15,000 กม. หนึ่งเหตุการณ์ที่ผมมักเจอบ่อย ๆ คือได้พบเจอ ได้เห็นพระภิกษุกำลังเดินธุดงค์ ทุกภูมิภาคที่เดินทางไป
อย่างพระท่านนี้ พบเจอท่านระหว่างเส้นทาง อ.แม่สอด มุ่งหน้าไป อ.อุ้งผาง โดยมีสัมภาระดังที่เห็น จึงได้เข้าไปถือโอกาสทำบุญ โดยการถวายปัจจัยเงินสดซึ่งท่านก็รับไว้ แต่ก่อนที่ผมจะลุกขึ้น ท่านยื่นปัจจัยกลับมา แล้วบอกว่าช่วยนำปัจจัยนี้ไปให้ทำบุญกับคนที่ต้องการมากกว่าอาตมา เพราะอาตมาไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงิน ก็เลยถวายน้ำเปล่ากับเครื่องดื่มเกลือแร่ ท่านบอกว่าอันนี้แหละเหมาะกับอาตมามากกว่า ถามท่านว่าท่านธุดงค์ไปไหน ท่านตอบว่า มาจาก อ.แม่สอด จ.ตาก เดินทางไป จ.กาญจนบุรี บอกตรง ๆ ผมอึ้งเลย เราขับมอเตอร์ไซค์ยังเหนื่อยเลย แต่ท่านเดินแบกสัมภาระ
อีกทั้งการเดินในอากาศร้อน ๆ เท้าเปล่า แบกทั้งสัมภาระ บาตร กลด รู้สึกว่า ทำไมมันช่างแตกต่างกับการเดินธุดงค์ที่กำลังเป็นกระแสสังคมอยู่ตอนนี้ ที่สร้างความวุ่นวายเกิดคำถามมากมายในสังคม ถึงความเหมาะสมหรือไม่ พุทธศาสนาที่แท้จริงคืออะไร"
ขณะที่ชาวเน็ตเมื่อได้ทราบเรื่องราวดังกล่าว ก็เข้ามาร่วมแสดงความเคารพศรัทธาในพระรูปดังกล่าว ที่มีการธุดงค์ด้วยความมานะพยายาม เป็นที่น่าศรัทธาของชาวพุทธทั้งหลาย และเป็นภิกษุในพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง พร้อมกันนี้ยังได้ร่วมกันแชร์ต่อเรื่องราวดี ๆ เช่นนี้ไปสู่สังคมด้วย
.
-http://hilight.kapook.com/view/115270-
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก บ๊อบ สายแข็ง
ชาวเน็ตร่วมแชร์ ภาพพระธุดงค์กลางป่าเขา เดินเท้าแบกสัมภาระจาก อ.แม่สอด จ.ตาก มุ่งหน้าที่ จ.กาญจนบุรี ยกเป็นพระแท้แห่งพุทธศาสนา ต่างจากการธุดงค์ในเมือง ซึ่งกำลังเป็นประเด็นขณะนี้
วันนี้ (3 กุมภาพันธ์ 2558) ในโลกโซเชียลมีเดียกำลังเกิดกระแสการแชร์คลิปและข้อความเปิดประสบการณ์ของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ที่ออกมาบอกเล่าความประทับใจจากการพบพระภิกษุที่ออกธุดงค์อยู่บนพื้นที่ป่าเขา เส้นทางจาก อ.แม่สอด มุ่งหน้าไปยัง อ.อุ้งผาง จ.ตาก เพื่อที่จะเดินทางไปยัง จ.กาญจนบุรี โดยมีความยากลำบากและความเหน็ดเหนื่อยในการเดินทาง ซึ่งแตกต่างจากการเดินธุดงค์ในเมือง ซึ่งกำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคมในขณะนี้
โดย คุณ "บ๊อบ สายแข็ง" ได้เปิดเผยเรื่องราวดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวของเขาว่า...
"(ความเห็นส่วนตัวนะ)
2-3 ปีที่ผ่านมา ผมมีโอกาสเดินทางบ่อยด้วยมอไซค์ บางเดือนเดินทาง 10,000-15,000 กม. หนึ่งเหตุการณ์ที่ผมมักเจอบ่อย ๆ คือได้พบเจอ ได้เห็นพระภิกษุกำลังเดินธุดงค์ ทุกภูมิภาคที่เดินทางไป
อย่างพระท่านนี้ พบเจอท่านระหว่างเส้นทาง อ.แม่สอด มุ่งหน้าไป อ.อุ้งผาง โดยมีสัมภาระดังที่เห็น จึงได้เข้าไปถือโอกาสทำบุญ โดยการถวายปัจจัยเงินสดซึ่งท่านก็รับไว้ แต่ก่อนที่ผมจะลุกขึ้น ท่านยื่นปัจจัยกลับมา แล้วบอกว่าช่วยนำปัจจัยนี้ไปให้ทำบุญกับคนที่ต้องการมากกว่าอาตมา เพราะอาตมาไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงิน ก็เลยถวายน้ำเปล่ากับเครื่องดื่มเกลือแร่ ท่านบอกว่าอันนี้แหละเหมาะกับอาตมามากกว่า ถามท่านว่าท่านธุดงค์ไปไหน ท่านตอบว่า มาจาก อ.แม่สอด จ.ตาก เดินทางไป จ.กาญจนบุรี บอกตรง ๆ ผมอึ้งเลย เราขับมอเตอร์ไซค์ยังเหนื่อยเลย แต่ท่านเดินแบกสัมภาระ
อีกทั้งการเดินในอากาศร้อน ๆ เท้าเปล่า แบกทั้งสัมภาระ บาตร กลด รู้สึกว่า ทำไมมันช่างแตกต่างกับการเดินธุดงค์ที่กำลังเป็นกระแสสังคมอยู่ตอนนี้ ที่สร้างความวุ่นวายเกิดคำถามมากมายในสังคม ถึงความเหมาะสมหรือไม่ พุทธศาสนาที่แท้จริงคืออะไร"
ขณะที่ชาวเน็ตเมื่อได้ทราบเรื่องราวดังกล่าว ก็เข้ามาร่วมแสดงความเคารพศรัทธาในพระรูปดังกล่าว ที่มีการธุดงค์ด้วยความมานะพยายาม เป็นที่น่าศรัทธาของชาวพุทธทั้งหลาย และเป็นภิกษุในพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง พร้อมกันนี้ยังได้ร่วมกันแชร์ต่อเรื่องราวดี ๆ เช่นนี้ไปสู่สังคมด้วย
.