ข้อความโดย: 時々होशདང一རພຊຍ๛
« เมื่อ: เมษายน 27, 2015, 07:05:59 pm »หลีกเลี่ยงการสวดมนต์เพื่อขับไล่วิญญาณ บทสวดมนต์แต่ละบทมีอำนาจขับไล่และเบียดเบียนพวกวิญญานชั้นต่ำในโลกทิพย์ให้ได้รับความเดือดร้อน ถ้าหยุดสวดไปเลยได้ยิ่งดีเพราะจะได้ไม่ทำความเดือดร้อนให้แก่พวกภูตผีปีศาจต่อไป เพราะเขาเหล่านั้นใช่ใครอื่นแต่เป็นญาติเป็นพี่น้องกันกับเรานี่เอง แต่..แม้จะเป็นพี่น้องกันก็ตามหากก่อกวนเขาอยู่บ่อย ๆ เขาก็กลายเป็นนายเวรขึ้นมาได้
ฉะนั้นก็ไม่ต้องสวดมนต์เมื่อยังใช้ไม่เป็น ก็เพียงแต่ กราบ..พุทโธ แล้วก็คิดอุทิศว่า "บุญนี้ให้แก่เหล่าเทพที่ดูแลรักษาข้า รักษาบ้านข้า" กราบ..ธัมโม "บุญนี้ให้เหล่านายเวรข้าที่เดินทางมาถึงและที่กำลังเล่นงานข้าอยู่" กราบ..สังโฆ "บุญนี้ให้ถึงแก่เหล่าเปรตผีปีศาจผีสัตว์เดรัจฉานที่มีอยู่ในบริเวณบ้านเรือนของข้า" หรือหากต้องการอุทิศไปให้ใครก็ให้คิดเอาได้เลย เมื่อได้กราบอย่างนี้แล้ว ต่อไปแทนที่จะสวดมนต์ก็ให้คิดอธิษฐานเบิกบุญมาจ่าย จ่ายแล้วจ่ายเล่ารอบแล้วรอบเล่าอยู่อย่างนั้น จนกว่าถึงเวลาพักผ่อนหลับนอนจึงอยุด ถ้า
ทำได้อย่างนี่ ควาสุขสบายจะเกิดกับครอบครัวนั้น ๆ แน่นอน ทุกวันนี่กลายเป็นว่าที่วัดไหน ๆ ก็สอนให้สวดมนต์ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ? เพราะครูบาอาจารย์เหล่านั้นไม่ได้เห็นว่าอานุภาพการสวดมนต์มันเป็นอันตรายแก่ผู้ที่เขาอยู่ในภพภูมิต่ำๆหรือถ้าไม่อยากนำมาพูดเพราะจะทำให้ต้องได้พูดมากอธิบายมาก เดี๋ยวคนโน้นก็ว่าครูบาจารย์พาทำมา เดี๋ยวคนนี้ก็ว่าสวดแล้วดี ต่าง ๆ นา ๆ ท่านขี้เกียจพูดก็เลยเงียบเฉยไปเลย..อย่างนี้ก็มีแต่ถ้าหาก ผู้ใดที่ยังไงก็ต้องจะต้องสวดให้ได้ ก่อนจะสวดก็ให้ตั้งจิตคิดประกาศบอกเขาก่อนว่า "ภูตผีปีศาจชั้นต่ำทั้งหลาย บัดนี้เราจะสวดมนต์ใครชอบฟังเอาบุญกุศลก็ให้ตั้งใจฟัง หากใครไม่ชอบหรือฟังแล้วทรมานก็ให้หลีกหนีไปที่อื่นจนกว่าเราจะสวดมนต์เสร็จแล้วจึงกลับมาเถิด" ดังนี้ แต่ให้รู้ว่ายังมีผู้ที่เขาเดือดร้อนอยู่
บางส่วนจาก คู่มือ อุทิศบุญที่ได้ผล โดยพระอาจารย์เกษม อาจิณฺณสีโล ลูกศิษย์ หลวง ปู่หล้า
ฉะนั้นก็ไม่ต้องสวดมนต์เมื่อยังใช้ไม่เป็น ก็เพียงแต่ กราบ..พุทโธ แล้วก็คิดอุทิศว่า "บุญนี้ให้แก่เหล่าเทพที่ดูแลรักษาข้า รักษาบ้านข้า" กราบ..ธัมโม "บุญนี้ให้เหล่านายเวรข้าที่เดินทางมาถึงและที่กำลังเล่นงานข้าอยู่" กราบ..สังโฆ "บุญนี้ให้ถึงแก่เหล่าเปรตผีปีศาจผีสัตว์เดรัจฉานที่มีอยู่ในบริเวณบ้านเรือนของข้า" หรือหากต้องการอุทิศไปให้ใครก็ให้คิดเอาได้เลย เมื่อได้กราบอย่างนี้แล้ว ต่อไปแทนที่จะสวดมนต์ก็ให้คิดอธิษฐานเบิกบุญมาจ่าย จ่ายแล้วจ่ายเล่ารอบแล้วรอบเล่าอยู่อย่างนั้น จนกว่าถึงเวลาพักผ่อนหลับนอนจึงอยุด ถ้า
ทำได้อย่างนี่ ควาสุขสบายจะเกิดกับครอบครัวนั้น ๆ แน่นอน ทุกวันนี่กลายเป็นว่าที่วัดไหน ๆ ก็สอนให้สวดมนต์ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ? เพราะครูบาอาจารย์เหล่านั้นไม่ได้เห็นว่าอานุภาพการสวดมนต์มันเป็นอันตรายแก่ผู้ที่เขาอยู่ในภพภูมิต่ำๆหรือถ้าไม่อยากนำมาพูดเพราะจะทำให้ต้องได้พูดมากอธิบายมาก เดี๋ยวคนโน้นก็ว่าครูบาจารย์พาทำมา เดี๋ยวคนนี้ก็ว่าสวดแล้วดี ต่าง ๆ นา ๆ ท่านขี้เกียจพูดก็เลยเงียบเฉยไปเลย..อย่างนี้ก็มีแต่ถ้าหาก ผู้ใดที่ยังไงก็ต้องจะต้องสวดให้ได้ ก่อนจะสวดก็ให้ตั้งจิตคิดประกาศบอกเขาก่อนว่า "ภูตผีปีศาจชั้นต่ำทั้งหลาย บัดนี้เราจะสวดมนต์ใครชอบฟังเอาบุญกุศลก็ให้ตั้งใจฟัง หากใครไม่ชอบหรือฟังแล้วทรมานก็ให้หลีกหนีไปที่อื่นจนกว่าเราจะสวดมนต์เสร็จแล้วจึงกลับมาเถิด" ดังนี้ แต่ให้รู้ว่ายังมีผู้ที่เขาเดือดร้อนอยู่
บางส่วนจาก คู่มือ อุทิศบุญที่ได้ผล โดยพระอาจารย์เกษม อาจิณฺณสีโล ลูกศิษย์ หลวง ปู่หล้า