ตอบ

ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

Verification:
กัน-ละ-ยา-นะ-มิด เขียนเป็นภาษาไทยที่ถูกต้องว่าอย่างไรครับ:
คิดว่าความดีทำยากไหม( เลือกตอบแค่ ยาก กับ ไม่ยาก ครับผม):
ถ้าเราโกรธใคร ธรรมะจะเป็นหนทางผ่อนคลายความโกรธนั้นลงได้ใช่ไหม ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม ):
เว็บใต้ร่มธรรมเป็นเว็บเล็กๆแนวธรรมะในจิตใช่หรือไม่ ( เลือกตอบแค่ ใช่ กับ ไม่ใช่ ครับผม):
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า ความดีนำทาง:
^^ ขอความกรุณาพิมพ์คำว่า ใต้ร่มธรรม:
โดยปกติชน นิ้วมือของคนเรา มีกี่นิ้ว (ตอบเป็นภาษาไทยครับ):
วัฒนธรรมไทยเมื่อเห็นผู้ใหญ่ท่านจะทำความเคารพ ด้วยการไหว้ท่านก่อนเสมอใช่หรือไม่:
เมื่อให้ท่านเลือก ระหว่าง (หนังสือเก่าๆเล่มหนึ่งที่เรารัก) กับ (มิตรแท้ที่รักเรา) คุณจะะเลือก:
บุคคลที่ไปหลายๆเว็บไซต์ โดยที่สวมบทบาทเป็นหลายๆคน โดยที่ไม่รู้ว่า แท้จริงใจเราต้องการอะไร เพื่อน หรือ ชัยชนะ:
กล่าวคำดังนี้  "ขอโทษนะ":
ระหว่าง (ผู้ที่เรียนรู้ธรรมะเพื่อเอาชนะผู้อื่น) กับ (ผู้ที่เรียนรู้ธรรมะเพื่อเอาชนะตัวเอง)  ท่านจะเลือกเป็น:
กล่าวคำดังนี้  "ให้อภัยนะ":
กล่าวคำดังนี้  "ขออโหสิกรรม":
รู้สึกระอายใจไหมที่เราทำร้ายคนอื่นด้วยวาจาหรือสำนวนที่ไม่สุภาพ โดยที่คนคนนั้นเค้าเคยเป็นผู้มีพระคุณต่อเรามา (ไม่ละอายใจ)หรือ(ละอายใจ):
สำนวนไทยที่ว่า แต่ละคนต่างมีรสนิยมแตกต่างกัน หรือไม่ตรงกัน  พิมพ์สำนวนต่อไปนี้ครับ (ลางเนื้อชอบลางยา):
ขนทรายเข้าวัดคือ พิมพ์สำนวนต่อไปนี้ครับ (ทำบุญทำกุศลโดยวิธีนำหรือหาประโยชน์เพื่อส่วนรวมมิได้ทำเพื่อตนเอง):
ผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ ผู้ที่ทำตนให้เล็กที่สุด ผู้ที่เล็กที่สุดก็จะกลายเป็นผู้ที่ใหญ่ที่สุด ผู้ที่มีเกียรติคือผู้ที่ให้เกียรติผู้อื่น ฉะนั้นสมาชิกใต้ร่มธรรมควรให้เกียรติกันและกัน พิมพ์คำว่า (ฉันจะให้เกียรติสมาชิกทุกๆท่านในใต้ร่มธรรมเสมอด้วยวาจาสุภาพอ่อนน้อม):
ไม่มีอะไรสายสำหรับการเริ่มต้น พิมพ์เป็นประโยคภาษาอังกฤษครับ เป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมดนะครับ เว้นวรรคคำด้วยครับ (It is never too late to mend):
ผู้ที่ไม่เคยรับรู้รสของความขมขื่น จะไม่รู้ว่าความหวานชื่นคืออะไร พิมพ์เป็นประโยคภาษาอังกฤษครับ เป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมดนะครับ เว้นวรรคคำด้วยครับ (He who has never tasted bitterness does not know what is sweet):

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: พฤษภาคม 09, 2015, 07:01:03 pm »

 “โด้” บริจาค 5 ล้านช่วยเหยื่อภัยพิบัติที่เนปาล
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

-http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9580000052827-


คริสเตียโน โรนัลโด ซูเปอร์สตาร์ลูกหนังของ รีล มาดริด และทีมชาติโปรตุเกส ตกเป็นข่าวร่วมบริจาคเงินจำนวน 5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 260 ล้านบาท) เข้าองค์กรการกุศลเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดที่ประเทศเนปาล

โซ ฟุต สื่อของฝรั่งเศส รายงานข่าว โรนัลโด วัย 30 ปี ได้ร่วมบริจาคเงินเข้ามูลนิธี เซฟ เดอะ ชิลเดรน (Save the Chidren) ซึ่งเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เจ้าตัวก็ได้ใช้ เฟซบุ๊ก และ ทวิตเตอร์ โพสต์ข้อความให้แฟนๆช่วยกันบริจาคเงินอีกด้วย

ทั้งนี้ โรนัลโด ได้ชื่อว่าเป็นนักเตะใจบุญรายหนึ่งของวงการ โดยเคยออกเงินค่าใช้จ่ายผ่าตัดสมองให้กับเด็กอายุ 10 เดือนรายหนึ่ง จำนวน 6 หมื่นปอนด์ (ประมาณ 3.1 ล้านบาท) และหยิบยื่นน้ำใจช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ตกยากอยู่เสมอหากมีโอกาส

สำหรับเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในประเทศเนปาล ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีประชาชนเสียชีวิตอยู่ใต้ซากปรักหักพังของอาคารต่างๆ รวมถึงถูกหิมะบนภูเขาถล่มทับลงมา โดยล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 7,759 ราย และบาดเจ็บมากกว่า 16,000 คนแล้ว


------------------------------------------------------


เยี่ยมมาก มีแล้วรู้จักแบ่งปันช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน


.
ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 21, 2015, 09:11:56 am »

เมื่อหนุ่มทำมือถือตกในแท็กซี่ โทรไปก็ไม่มีคนรับ ผลสุดท้ายคือ...

-http://hilight.kapook.com/view/116244-




 ตกใจสุด ๆ เมื่อทำโทรศัพท์ไอโฟนหล่นในรถแท็กซี่ กว่าจะรู้ตัวก็ผ่านไปกว่า 10 นาที กระหน่ำโทรไปเท่าไรก็ไม่มีคนรับ แล้วจะได้โทรศัพท์คืนหรือไม่

            มีหลายคนที่เผลอลืมข้าวของทิ้งไว้ในรถแท็กซี่ และส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นของสำคัญอย่างกระเป๋าสตางค์ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก หรือโทรศัพท์มือถือเสียด้วย ซึ่งมีหลายคนไม่ได้ของคืน แต่ยังมีบางคนโชคดีได้รับของคืนจากคนขับแท็กซี่ที่มีความซื่อสัตย์

            ดังเช่นเรื่องราวของ คุณสมาชิกหมายเลข 1712601 ที่ตั้งกระทู้ชื่อ "ขอโทษครับ ผมรับโทรศัพท์ไม่เป็น" ไว้ในเว็บไซต์พันทิป เพื่อบอกเล่าเหตุการณ์ที่เขาเผลอทำโทรศัพท์มือถือตกไว้ในรถแท็กซี่สีฟ้า ทะเบียน ทว 7692 ลองไปดูว่าเจ้าของกระทู้จะได้โทรศัพท์คืนหรือไม่

            เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่าย ๆ ของวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2558 ขณะที่เจ้าของกระทู้เรียกรถแท็กซี่จากห้างเซ็นทรัล ลาดพร้าว ให้ไปส่งที่ย่านพระราม 9 ซึ่งตอนลงจากรถก็วุ่นวายพอสมควร เพราะต้องอุ้มลูกชายวัย 2 ขวบด้วย อีกทั้งยังมีข้าวของพะรุงพะรัง ทำให้เผลอทำโทรศัพท์มือถือ iPhone 5s ที่เพิ่งซื้อมาไม่ถึง 7 วัน ตกไว้ในรถ กว่าจะรู้ตัวก็ผ่านไป 10 นาทีแล้ว จึงได้โทรศัพท์เข้าเครื่องของตัวเอง แต่ไม่มีคนรับสายเลย

            "รู้ตัวก็ผ่านไป 10 กว่านาที ผมเลยรีบเอาโทรศัพท์เพื่อนโทรเข้าเบอร์ผมแบบลน ๆ ใจสั่น ๆ ไม่มีใครรับสายผมเลย ผ่านไป 20 นาที ทำใจแล้วครับ คงเหมือนครั้งที่ผ่าน ๆ มา ไม่ได้คืนแน่ ๆ แต่ไหน ๆ ไม่ได้คืนแล้วก็ลองโทรให้มันถึงที่สุด จนมีคนรับสายเป็นเสียงสาวเสียงหวาน "มีคนเอาโทรศัพท์มาคืนค่ะ สะดวกลงมาเอาตอนนี้ข้างล่างไหมคะ"

            เสียงนั้นทำเอาเจ้าของกระทู้ดีใจมาก รีบวิ่งมาลงรับโทรศัพท์คืน โดยหวังจะได้เจอหน้าสาวเสียงหวานคนนั้น แต่...สุดท้ายก็ไม่เจอผู้หญิงคนที่เขาคุยด้วย เจอแต่ผู้ชายที่เป็นพี่คนขับรถแท็กซี่คันเกิดเหตุยืนถือโทรศัพท์รออยู่

            "ผมกำลังจะยกไหว้ขอบคุณ แต่พี่คนขับแท็กซี่ก็พูดขึ้นมาว่า "ขอโทษครับ ผมรับโทรศัพท์ไม่เป็น" ผมดีใจมาก ๆ ครับที่ได้โทรศัพท์คืน แต่ที่ดีใจกว่านั้นคือผมได้เห็นว่าในสังคมยังมีคนดี ๆ ที่สร้างเรื่องราวน่ารัก ๆ และน่าประทับใจในสังคม ขอบคุณมาก ๆ ครับพี่ที่อุตส่าห์วนรถกลับคืนมาให้ ผมรู้ว่าพี่ต้องกลับรถไกลมาก ๆ และเสียเวลากับผมไม่น้อย ขอบคุณพี่มาก ๆ ครับ "คุณสมหมาย ประจญมอญ" คนขับ "แท็กซี่สีฟ้า ทว 7592" พี่โคตรจ๊าบเลยอะ หล่อกว่าพระเอกหนังอีก"

            งานนี้ชาวเน็ตเลยเข้ามาชื่นชมยกย่อง คุณสมหมาย ประจญมอญ เป็นการใหญ่ พร้อมกับบอกเจ้าของกระทู้โชคดีมากที่ได้เจอคนดี ๆ ในสังคม

ภาพจาก เฟซบุ๊ก -Pattaradanai Beersod Laonukul-



ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: มกราคม 24, 2015, 08:10:35 am »

คนดีอยู่ยาก ตำรวจถูกขู่ฆ่า เหตุปฏิบัติหน้าที่ดีจนขัดผลประโยชน์

-http://hilight.kapook.com/view/114665-








เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก  คุณ veenono สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

                  ชาวเน็ตร่วมแชร์เรื่องราวตำรวจน้ำดี เคร่งครัดในการทำหน้าที่จนถูกขู่ฆ่า ชี้ตำรวจยังถูกขู่ฆ่า ประชาชนคงหาความปลอดภัยยาก วอนผู้มีอำนาจช่วยคุ้มครองดูแล

                 คงเป็นเรื่องที่ปฏิเสธได้ยากว่าสังคมปัจจุบันนี้คนดี ๆ ชักจะอยู่ยากขึ้นไปทุกที ดังเช่นกรณีล่าสุดที่กำลังเป็นที่พูดถึงกันในโลกออนไลน์ขณะนี้ เมื่อ ลุงป๋อม หรือ ร.ต.ท. วิชัย จิตสัจจพังศ์ รองสารวัตรจราจร สน.เทียนทะเล ได้ถูกผู้มีอิทธิพลขู่ฆ่า เหตุเพราะมีความเคร่งครัดจริงจังในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลงานจราจรบริเวณถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล จนไปขัดผลประโยชน์กับคนบางกลุ่ม ตามที่คุณ veenono สมาชิกเว็บไซต์พันทิป  ได้นำมาเปิดเผยในห้วข้อ "ตำรวจยังถูกขู่ฆ่า ประชาชนคงหาความปลอดภัยยาก" เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2558 โดยบอกเล่าเรื่องราว ดังนี้

                 "มีตำรวจไทยไม่กี่นายหรอกครับที่ใช้จักรยานในการออกตรวจเพราะทั้งเหนื่อย ทั้งร้อน ทั้งไม่ปลอดภัย หนึ่งในนั้นคือหมวดป๋อม ร.ต.ท. วิชัย จิตสัจจพงศ์ รองสารวัตรจราจร สน.เทียนทะเล ที่ใช้จักรยานในการออกตรวจมาแล้วเป็นปีที่ 6

                 และด้วยการขี่จักรยานกวดขันเข้มตลอดเส้นทางบางขุนเทียน-ชายทะเล เพื่อป้อมปรามผู้กระทำผิดวินัยจราจร จึงมีคนประสงค์ร้ายมีทั้งฝากข่มขู่ พ่นเสา พ่นพื้นถนนข่มขู่

                 เมื่อประมาณ 6 ปีก่อนผมจำได้ว่าผมขี่จักรยาน trex 4500 เข้าไปเส้นบางขุนเทียนชายทะเล ได้พบลุงป๋อม จึงเข้าไปทักทายและขอถ่ายรูป พร้อมนำข้อมูลเรื่องราวดี ๆ ของลุงป๋อม ตำรวจจักรยานมาเขียนยกย่อง ในสิ่งที่ลุงทำในเวปไทยเอ็มทีบี (Thaimtb.com) จนมีหลายคนสนใจและมีผู้มีกำลังทรัพย์นำจักรยานที่ดี ๆ ไปมอบให้ลุงป๋อม

                 ภาพนี้ผมถ่ายลุงป๋อมภาพแรกเลยและเป็นภาพที่เคยมีปัญหา คือมีคนแสดงความเป็นเจ้าของ แต่ผมบอกว่าให้ดูที่รถจักรยานผมที่จอดอยู่ในภาพ จากวันนั้นถึงวันนี้ ลุงป๋อมก็ยังใช้จักรยานในการตรวจตราความเรียบร้อย เพราะใช้จักรยานออกตรวจทุกวันจึงอาจทำให้ใช้จักรยานไปหลายคันมาก ๆ

                 เมื่อมีคนรักก็มีคนเกลียดครับ คนที่เสียผลประโยชน์ อันธพาล อิทธิพล มีเรื่องซ่อนเร้นมากมาย ใครสะดวกก็ชวนกันหาโอกาสไปให้กำลังใจลุงป๋อมกันสักรอบนะครับเพื่อน ๆ

                 วันนี้ผมแวะเข้าไปพูดคุยให้กำลังใจลุงป๋อมมา แกบอกว่าตอนนี้ผู้กำกับจราจรสั่งแกว่าห้ามตรวจเกินเวลา 6 โมงเย็นเพราะสายข่าวแจ้งมาว่าแกอาจจะถูกทำร้ายได้


เปิดใจตำรวจจักรยานถูกขู่ทำร้าย
-http://www.youtube.com/watch?x-yt-ts=1421914688&v=d-NEFouuWxA&x-yt-cl=84503534-
คลิป เปิดใจตำรวจจักรยานถูกขู่ทำร้าย โพสต์โดย คุณ Ittipol Barameekriangkrai  สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

                 จากคลิป เผยให้เห็นลุงป๋อมที่ยืนกรานว่าจะขอปฏิบัติหน้าที่ต่อไปอย่างเคร่งครัด แม้ว่าจะถูกผู้มีอิทธิพลหรืออันธพาลขู่ทำร้ายก็ตาม โดยยืนยันว่าจะขอทำงานเพื่อปกป้องคนใช้จักรยาน สำหรับผู้ที่เสียผลประโยชน์จากการปฏิบัติหน้าที่ของลุงก็คงจะเป็นกลุ่มร้านอาหารที่ไม่มีที่จอดรถ จนต้องอาศัยพื้นถนนเป็นทื่จอดรถ ซึ่งนับว่ามีความผิดฐานกีดขวางการจราจร จึงต้องดำเนินการตามกฎหมาย

                 ทั้งนี้หลังจากที่เรื่องราวดังกล่าวได้ถูกบอกเล่าออกไป ก็มีชาวเน็ตจำนวนมากที่เข้ามาร่วมให้กำลังใจแก่นายตำรวจน้ำดีผู้นี้ ซึ่งนับว่าหาได้ยากยิ่งในสังคมปัจจุบัน ขณะที่บางคนยังเข้ามาบอกเล่าเรื่องราวดี ๆ ของ ลุงป๋อม ซึ่งเป็นที่รักของชาวบ้านในบริเวณดังกล่าวด้วย

                 อย่างไรก็ตาม ยังมีชาวเน็ตอีกมากที่รู้สึกสงสัยว่า ทั้ง ๆ ที่ผู้บังคับบัญชาของ ลุงป๋อม ก็ทราบดีว่าอาจมีการดักทำร้ายลุง เหตุใดจึงไม่หาทางจัดการกับกลุ่มอันธพาลเหล่านี้ก่อน นอกจากนี้ยังมีคนอีกจำนวนมากที่เสนอว่าน่าจะหาบัดดี้ออกปฏิบัติหน้าที่คู่กับ ลุงป๋อม เพื่อความปลอดภัย และฝากไปถึงผู้บังคับบัญชาและผู้มีอำนาจให้เข้ามาดูแลเรื่องดังกล่าว เพื่อคุ้มครองตำรวจดี ๆ ให้อยู่คู่สังคมไทยต่อไป


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
pantip.com


ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: กันยายน 20, 2014, 08:57:23 pm »

ยกย่องตำรวจที่ทำหน้าที่ที่ถูกต้องครับ



------------------------------------------------------------------



คลิปตำรวจจับรถตู้คิดเกินราคา ไล่สาวท้องแก่ลงจากรถ คนแชร์ว่อน

-http://hilight.kapook.com/view/108345-




คลิปตำรวจจับรถตู้คิดเกินราคา ไล่สาวท้องแก่ลงจากรถ

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก YouLike (คลิปเด็ด)

            โลกโซเชียลฯ แห่แชร์คลิปนายตำรวจตัวอย่าง จับคนขับรถตู้คิดเงินเกินราคา ไล่คนท้องลงจากรถ โดยไม่สนที่คนขับอวดเบ่งว่ารู้จักนายตำรวจยศใหญ่

            วันนี้ (20 กันยายน 2557) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กกำลังมีการแชร์คลิปที่มีชื่อว่า "ตำรวจตัวอย่าง จับรถตู้คิดเกินราคา (19/09/57)" ซึ่งคลิปดังกล่าวได้ถูกโพสต์ลงในเพจเฟซบุ๊กชื่อดัง YouLike (คลิปเด็ด) โดยผู้ถ่ายคลิป ระบุว่า คนขับรถตู้คันดังกล่าวคิดเงินเกินราคา โดยคิดเงินจากศูนย์การค้าอิมพีเรียล เวิล์ด สำโรงไป จ.ชลบุรี 120 บาท จะลงตรงไหนก็คิดราคาเดียวกัน ซึ่งต่อมามีหญิงท้องแก่ขึ้นรถและถามว่า ทำไมไม่คิดราคาตามระยะทาง คนขับรถตู้ก็โวยวายและขู่ว่าเถ้าแก่เคลียร์กับผู้กำกับท้องที่ต่าง ๆ และเจ้าหน้าที่ขนส่งไว้แล้ว พร้อมไล่คนท้องลงจากรถจนล้มลงริมฟุตบาท แต่เจอเจ้าหน้าที่ตำรวจคนในคลิปเห็นจึงเข้ามาช่วยเหลือทันที

            ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจคันดังกล่าว ได้กล่าวกับคนขับรถตู้ว่า ตนเองไม่สนว่าใครจะใหญ่แค่ไหนก็ไม่เกี่ยว คุณจะไล่ผู้โดยสารลงจากรถตู้ไม่ได้ จากนั้นได้เขียนใบสั่งทันที และจะประสานงานกรมขนส่งเพื่อดำเนินคดีกับคนขับรถตู้ต่อไป

            จากการโพสต์คลิปวิดีโอดังกล่าว ทำให้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย อาทิ ตนเจอบ่อยมากรถตู้ที่เก็บค่าโดยสารเกินราคา ซึ่งตนคิกว่าน่าจะมีมาตรการขั้นเด็ดขาดกับรถตู้ทั่วประเทศ ถ้าเป็นไปได้ควรจะมีการทำตารางค่าโดยสารตามระยะทางติดไว้บนรถเพื่อความยุติธรรมให้กับผู้โดยสารด้วย นอกจากนี้ยังมีความคิดเห็นที่ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจคนที่ปรากฎอยู่ในคลิปมีชื่อว่า ผู้กองตั้ม หรือ ร.ต.ท. ศฐา สัตยวาที สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ พร้อมบอกว่า ถือเป็นตัวอย่างที่ดีของตำรวจไทย


https://www.facebook.com/video.php?v=898712820249389
-https://www.facebook.com/video.php?v=898712820249389-
คลิป ตำรวจตัวอย่าง จับรถตู้คิดเกินราคา! (19/9/57) โพสต์โดย เฟซบุ๊ก YouLike (คลิปเด็ด)



ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: สิงหาคม 30, 2014, 08:45:53 am »

แท็กซี่พลเมืองดี เก็บเงินไกด์ชาวจีนเกือบ 8 หมื่นบาท ส่งคืนเจ้าของ

-http://hilight.kapook.com/view/107258-



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดย คุณเรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

            แท็กซี่พลเมืองดี เก็บเงินไกด์ชาวจีน 7.8 หมื่นบาท ส่งคืน ด้านเจ้าของเงินสุดใจดี มอบเงินให้ 5 พันบาท เป็นการตอบแทน

            วันนี้ (29 สิงหาคม 2557) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า โชเฟอร์แท็กซี่พลเมืองดี ได้เก็บเงินของไกด์ชาวจีนแล้วนำส่งสถานีวิทยุเพื่อความปลอดภัยและการจราจรหรือ สวพ.91 ทราบชื่อคือ นายนเรศ ลือชาโคตร อายุ 41 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ ทะเบียน ทม 9068 กรุงเทพมหานคร



            ทั้งนี้ นายนเรศ เล่าว่า ได้รับผู้โดยสารชาวจีน 2 คน มาจากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปส่งที่บ้านเอื้ออาทรคู้บอน หลังจากไปส่งเสร็จก็ได้มีผู้โดยสารท่านอื่นมาขึ้นต่อ หลังจากส่งผู้โดยสารรายล่าสุดแล้วตนจึงกลับบ้านไปนอนพัก เนื่องจากฝนตกหนัก รวมทั้งโช๊คแตก ตนจึงก้มลงดูโช๊คใต้เบาะคนขับ เห็นกระเป๋าสีน้ำตาลหนึ่งใบ จึงหยิบขึ้นมาดูพบธนบัตรสกุลหยวนจำนวนหนึ่งและธนบัตรไทยอีกจำนวนหนึ่ง รวมเป็นเงิน 78,000 บาท พอตรวจสอบเอกสารก็พบว่าเป็นผู้โดยสารชาวจีนที่ตนได้ไปส่ง ทราบชื่อคือ นายโฟ เจือนฟง สัญชาติจีน ไกด์บริษัท นิวฟู่ฮั่ว ตนจึงได้แจ้งไปที่ สวพ.91 ให้ช่วยตามหาเพื่อนำเงินไปส่งคืน



            ด้าน นายโฟ หลังจากได้รับเงินคืนแล้ว ก็ได้กล่าวชื่นชมในความซื่อสัตย์และมีน้ำใจของ นายนเรศ พร้อมกับมอบเงิน 5,000 บาท ให้เป็นค่าตอบแทนในความมีน้ำใจ

เรื่องเล่าเช้านี้ แท็กซี่น้ำใจงามเก็บเงินเกือบ8หมื่นบาทส่งคืนไกด์ชาวจีน (29ส.ค.57)
-http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=h6ewWn28BnE-
คลิป แท็กซี่น้ำใจงามเก็บเงินเกือบ8หมื่นบาทส่งคืนไกด์ชาวจีน (29ส.ค.57) : เครดิต รายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดย คุณเรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
-http://www.dailynews.co.th/Content/crime/262654/%E0%B9%81%E0%B8%97%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%8B%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%997.8%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B9%8C%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%99-
ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: สิงหาคม 24, 2014, 09:42:33 am »

ทึ่งเลย น้องนะโม วัยแค่ 4 ขวบ สวดมนต์ยาวคล่องปร๋อ

-http://hilight.kapook.com/view/106981-






เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ข่าวสด

            พุทธศาสนิกชนน้อย น้องนะโม เด็กชายวัยแค่ 4 ขวบ แต่สวดมนต์ยาวได้คล่องปร๋อ แถมยังชอบนั่งสมาธิด้วย

            เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2557 รายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ เผยเรื่องราวที่ทั้งน่าทึ่งและน่าเอ็นดู ของเด็กชายรตน โกมาสถิต หรือ น้องนะโม อายุ 4 ปี กำลังศึกษาอยู่ชั้นอนุบาลสอง ที่โรงเรียนดรุโณทัย จังหวัดตรัง อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 12/9 ถนนวิเศษกุล ตำบลทับเที่ยง เขตเทศบาลนครตรัง ซึ่งมีความสามารถพิเศษไม่เหมือนเด็ก ๆ ทั่วไปในวัยเดียวกัน เพราะน้องนะโมสามารถสวดมนต์ได้อย่างคล่องแคล่วหลายบท ไม่ว่าจะเป็นบทบูชาพระพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ บทมงคล 39 บทแผ่เมตตา ฯลฯ โดยสวดได้อย่างแม่นยำจากความจำ ไม่ต้องอาศัยหนังสือบทสวดเลย

น้องนะโม วัยแค่ 4 ขวบ สวดมนต์ยาวคล่องปร๋อ

            นางปวีณา โกมาสถิต คุณย่าและแม่บุญธรรมของน้องนะโม เผยว่า น้องนะโมเป็นลูกของลูกชายคนเล็ก แต่ลูกชายทำงานต่างจังหวัดและต้องย้านสถานที่ทำงานบ่อย เลยขอรับน้องนะโมมาเลี้ยงตั้งแต่ 1 ขวบ แล้วก็จดทะเบียนให้น้องเป็นลูกบุญธรรมด้วย ส่วนนิสัยชอบสวดมนต์ของหลานนั้นเริ่มมาตั้งแต่ 2 ขวบ เห็นพระสงฆ์หรือเห็นใครไปวัดไม่ได้ จะชอบขอตามไปด้วย ซึ่งนอกจากจะสวดมนต์ได้คล่องแคล่วแล้ว น้องนะโมยังชอบนั่งสมาธิ และมีความจำดีเลิศ

            ส่วนตัวหนูน้อยคนเก่งรายนี้ บอกว่า ชอบสวดมนต์เพราะทำให้มีความสุข แล้วก็ภูมิใจด้วยเพราะยังไม่มีเพื่อนคนไหนทำได้เหมือนตน ถ้าโตกว่านี้ก็อยากจะบวชเณร ส่วนในอนาคตอยากเป็นคุณหมอ


เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ น้องนะโม หนูน้อยหัวใจธรรมะวัย4ขวบ สวดมนต์ได้อย่างคล่องแคล่ว (23 ส.ค.57)
-http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=LPXRywPAzmM-
คลิป น้องนะโม หนูน้อยหัวใจธรรมะวัย4ขวบ สวดมนต์ได้อย่างคล่องแคล่ว (23 ส.ค.57) : เครดิต รายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ โพสต์โดย คุณเรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร

ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: สิงหาคม 18, 2014, 09:57:05 pm »

เด็กหญิงวัย 13 สู้ชีวิต ทำงานหาเลี้ยงดูคุณตา กับแม่พิการ

-http://hilight.kapook.com/view/106737-




น้องปูเป้ ด.ญ.ณัฐริกา เบ้าบุญตี๋ เด็กหญิงวัย 13 สู้ชีวิต ทำงานหาเลี้ยงดูคุณตา กับแม่พิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดย คุณ เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
 
             น้องปูเป้ ด.ญ.ณัฐริกา เบ้าบุญตี๋ วัย 13 ปี เด็กยอดกตัญญู รับจ้างทำงานหาเงินเลี้ยงดูแลคุณตา กับแม่พิการ และน้องชายอีก 2 คน

             วันนี้ (18 สิงหาคม 2557) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3 รายงานว่า คุณครูจากโรงเรียนเซไลวิทยา อ.วังสะพุง จ.เลย แจ้งว่าที่โรงเรียนเซไลวิทยานั้น มีเด็กหญิงยอดกตัญญูอยู่ 1 คน คือ ด.ญ.ณัฐริกา เบ้าบุญตี๋ หรือ น้องปูเป้ อายุ 13 ปี นักเรียนอยู่ชั้น ม.1 โดยครอบครัวของน้องปูเป้ มีฐานะยากจน แต่น้องปูเป้เป็นเด็กเรียนเก่ง

             ปัจจุบัน น้องปูเป้ อยู่กับคุณแม่ อายุ 37 ปี ที่มีความพิการที่ขา คุณตา วัย 86 ปี ซึ่งตาบอดสนิททั้ง 2 ข้าง และน้องชายอีก 2 คน ก็กำลังเรียนอยู่ชั้น ป.1 และป.3 ทำให้หน้าที่ในการดูแลคุณแม่ คุณตา รวมถึงการหารายได้มาจุนเจือครอบครัวตกเป็นหน้าที่ของน้องปูเป้ ซึ่งน้องปูเป้ จะมีรายได้จากการไปรับจ้างแยกขยะที่โรงงานทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และในแต่ละเดือนนั้น ครอบครัวของน้องปูเป้จะได้รับเบี้ยยังชีพคนพิการและผู้สูงอายุ เดือนละ 1,300 บาท ส่วนคุณพ่อของน้องปูเป้นั้นได้ออกจากบ้านไปตั้งแต่น้องปูเป้ยังไม่เกิด
 
             คุณครู เผยว่า ในตอนแรกนั้น คุณแม่ของน้องปูเป้ ได้ขอให้น้องปูเป้ลาออกจากโรงเรียน เพื่อมาทำงานหารายได้จุนเจือครอบครัว แต่ครูได้ขอร้องให้น้องปูเป้เรียนต่อ โดยทางโรงเรียนยินดีสนับสนุนค่าเล่าเรียนให้น้องปูเป้บางส่วน โดยทุกวันเสาร์-อาทิตย์ นอกจากการไปรับจ้างแยกขยะที่โรงงานแล้ว น้องปูเป้ ยังไปรับจ้างที่ร้านรับชื้อของเก่าได้วันละ 120 บาท และหากเป็นช่วงฤดูตัดอ้อย น้องปูเป้ ก็จะขอลาหยุดเพื่อไปรับจ้างตัดอ้อย

             ซึ่งหลังจากทราบเรื่องดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ไปพบน้องปูเป้ ยังเลขที่ 45 บ้านน้อยคีรี หมู่ 15 ต.โคกขมิ่น อ.วังสะพุง จ.เลย ก็ได้พบคุณแพร เบ้าบุญตี๋ อายุ 37 ปี คุณแม่ของน้องปูเป้ และคุณตาของน้องปูเป้ ที่กำลังนอนป่วยอยู่บนบ้าน

             จากการพูดคุยกับคุณแพร ทราบว่า เมื่อปี 2550 ตนกับน้องปูเป้ ได้ยืมรถจักรยานยนต์เพื่อน เพื่อขับไปซื้อนมที่ตลาดให้ลูกชายคนเล็ก ซึ่งตอนนั้นมีอายุได้ 4 เดือนแล้ว แต่ปรากฏว่า ระหว่างเดินทางตนกับน้องปูเป้ถูกรถกระบะชน ทำให้ตนขาหัก 3 ท่อน  แพทย์ต้องผ่าตัดใส่เหล็กด้ามไว้ ส่วนน้องปูเป้ก็ได้รับบาดเจ็บที่ขาเช่นเดียวกัน
 
             ช่วงหลังเกิดเหตุนั้น ทางคู่กรณีก็ได้ให้เงินช่วยเหลือ จำนวน 45,000 บาท ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวนั้น ตนได้นำไปให้เพื่อนบ้าน 10,000 กว่าบาท เพื่อชดใช้ค่ารถจักรยานยนต์ที่ได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุ ส่วนเงินที่เหลือก็นำไปจ่ายค่ารักษาพยาบาล แต่ปรากฏว่าไม่พอ สุดท้ายตนก็ต้องอยู่รักษาตัวต่อในโรงพยาบาลในฐานะคนไข้อนาถา ก่อนที่แพทย์จะให้ตนออกจากโรงพยาบาล และมารักษาตัวต่อที่บ้าน
 
             คุณแพร เล่าต่อว่า หลังจากสามีคนที่ 3 ของตนทราบว่า ตนพิการไม่สามารถเดินได้ตามปกติก็ได้หนีจากไป ทำให้ตนต้องหาเงินจุนเจือครอบครัวเพียงลำพัง โดยตอนแรก ๆ ตนยังไม่สามารถเดินได้ ก็ต้องคลานไปขึ้นรถที่มารับคนงานไปตัดอ้อย นอกจากรับจ้างตัดอ้อยแล้ว ตนก็ยังรับจ้างทำงานทั่ว ๆ ไปเท่าที่คนพิการจะสามารถทำได้ เพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัว จนสุดท้ายกระดูกที่หักไม่เชื่อมต่อกัน เนื่องจากตนไม่ได้ไปพบแพทย์ตามนัด และเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา เหล็กที่ดามกระดูกโผล่ออกมา จึงต้องไปพบแพทย์อีกครั้ง ทางแพทย์ก็ได้ผ่าเอาเหล็กออก ทำให้ทุกวันนี้ เวลาเดินไปไหนมาไหนตนต้องใช้ไม้เท้าคอยพยุง

             ด้านน้องปูเป้ เล่าว่า ในแต่ละวันก่อนไปโรงเรียนนั้น ตนมีหน้าที่เตรียมกับข้าวไว้ให้แม่กับตา พร้อมทั้งต้องพาตาและแม่ลงมานั่งเล่นอยู่ที่ใต้ถุนบ้านทุกวัน เพื่อป้องกันการพลัดตกบันไดลงมา และเมื่อไปโรงเรียนแล้ว ตนก็จะไปช่วยทำความสะอาดห้องพักครู ซึ่งคุณครูก็ให้ค่าจ้างเดือนละ 200 บาท ส่วนช่วงกลางวัน ก็โชคดีที่แม่ค้าที่โรงเรียนแบ่งข้าวให้ตนได้ทานเป็นประจำ โดยตนก็จะเข้าไปช่วยล้างจานที่ร้านของแม่ค้า เพื่อตอบแทนบุญคุณ

             หากวันไหนตนมีเงินเหลือก็จะแวะซื้อกับข้าวมาให้ที่บ้าน และช่วงที่เงินซึ่งได้จากการรับจ้างทำงานของตนหมด ตนก็จะหยุดเรียน เพื่อไปรับจ้างทำงานหาเงินมาใช้จ่ายภายในครอบครัว ซึ่งตอนแรก ๆ ก็รู้สึกท้อ เพราะคิดว่าหากเป็นแบบนี้ต่อไปตนอาจไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือต่อ แต่โชคดีที่ตนได้มีโอกาสเรียนต่อ และก็หวังว่า ตนจะได้เรียนหนังสือได้สูงที่สุด ซึ่งหากเป็นแบบนั้น ตนเชื่อว่าจะสามารถหางานที่ดี และรายได้ที่ดี พอที่จะดูแลแม่ ตา และน้อง ๆ ได้ดีกว่าที่เป็นอยู่


เรื่องเล่าเช้านี้ น้องปูเป้ ด.ญ.วัย13ยอดกตัญญู แบกภาระหาเลี้ยงครอบครัว ดูแลคุณตา-แม่พิการ(18ส.ค.57)
-http://www.youtube.com/watch?v=lS0mBWxEq-0-
คลิป น้องปูเป้ ด.ญ. วัย 13 ยอดกตัญญู แบกภาระหาเลี้ยงครอบครัว ดูแลคุณตา-แม่พิการ (18 ส.ค. 57)
: เครดิตรายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดยคุณ เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร 



ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: สิงหาคม 16, 2014, 08:29:28 am »

บิ๊กไบค์ใจหล่อมาก ช่วยขับเปิดทางให้รถกู้ภัย


-http://hilight.kapook.com/view/106623-






เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก กู้ชีพบูรณะ ศูนย์ สาม

            ชาวเน็ตชื่นชม คนขับบิ๊กไบค์น้ำใจงามขับเปิดทางให้รถกู้ภัย ระหว่างกลับจากไปรับผู้ป่วยที่สระบุรี

            วันที่ 15 สิงหาคม 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กได้มีการแชร์ข้อความของคนขับรถศูนย์กู้ชีพบูรณะ โรงพยาบาลราษฎร์บูรณะ ที่ได้กล่าวชื่นชมและขอบคุณคนขับบิ๊กไบค์น้ำใจงาม ช่วยขับนำเปิดทางระหว่างกู้ภัยกลับจากไปรับผู้ป่วยที่สระบุรี ทำให้รถกู้ชีพขับผ่านไปได้โดยสะดวก

            สำหรับข้อความดังกล่าวโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก กู้ชีพบูรณะ ศูนย์ สาม ซึ่งเหตุการณ์ภายในคลิปเป็นช่วงที่รถกู้ชีพเปิดสัญญาณไซเรนเพื่อขอทาง ด้านหน้ามีผู้ขับรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์อยู่ด้านหน้า โดยคนขับได้โบกให้รถยนต์ที่อยู่ด้านหน้ารถกู้ชีพเบี่ยงซ้ายออกไปเพื่อเปิดทางให้รถกู้ชีพขับผ่านไปตลอดทาง พร้อมกับระบุข้อความประกอบคลิปว่า...

            "วันที่ 11/8/57 ได้ไปรับผู้ป่วยที่ รพ. สระบุรี ขากลับรถติดมากแล้วก็มีพี่บิ๊กไบค์มาช่วยอำนวยทางให้ซึ่งไม่รู้ว่าพี่เขาเป็นใครมาจากไหน แต่รู้เพียงอย่างเดียวพี่โคตรหล่อสวยน้ำใจงามมาก ขอขอบคุณครับ"





อย่างไรก็ตาม หลังจากคลิปดังกล่าวได้มีการส่งต่อก็ทำให้มีชาวเน็ตเข้ามาชื่นชมคนขับบิ๊กไบค์อย่างมากมายทีเดียว


https://www.facebook.com/photo.php?v=688347484589523
-https://www.facebook.com/photo.php?v=688347484589523-
คลิป บิ๊กไบค์ใจหล่อมาก ช่วยขับเปิดทางให้รถกู้ภัย โพสต์โดย เฟซบุ๊ก กู้ชีพบูรณะ ศูนย์ สาม



ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: สิงหาคม 03, 2014, 11:20:24 am »

บัณฑิตสาว ช่วยเหลือเหยื่อรถชนเลือดอาบทั้งเครื่องแบบ

-http://hilight.kapook.com/view/106104-




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Boon Khongkha , เฟซบุ๊ก ว่าที่ร้อยตรีหญิง ธัญญ่า ตัวแสบ

          บัณฑิตสาวน้ำใจงาม เข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุจนเลือดอาบ ไม่สนใจว่าเครื่องแบบจะเปื้อนหรือไม่ ชาวเน็ตแห่ชื่นชม

          วันที่ 1 สิงหาคม 2557 ในโลกโซเชียลได้มีการแบ่งปันเรื่องราวดี ๆ ของบัณฑิตสาวน้ำใจงามรายหนึ่ง ที่ตัดสินใจตรงเข้าไปช่วยเหลือเพื่อนบัณฑิตซึ่งประสบอุบัติเหตุรถจนจนเลือดอาบ แม้ว่าเธอกับคนเจ็บจะไม่รู้จักกันเลยก็ตาม แถม น้องธัญญ่า บัณฑิตน้ำใจงานรายนี้ยังให้การช่วยเหลือเพื่อนโดยไม่เกรงว่าชุดเครื่องแบบสีขาวของตัวเองจะเปื้อนเลือดด้วย โดยเฟซบุ๊ก Boon Khongkha ของช่างภาพเจ้าของเรื่องราวดังกล่าว ได้โพสต์ภาพของบัณฑิตสาวว่าที่ร้อยตรีหญิงรายนี้ ขณะเข้าช่วยเหลือเพื่อนบัณฑิตผู้ประสบอุบัติเหตุ พร้อมระบุว่า

          "คนงาม....หลังจากได้ยินผมบอก มีคนโดนรถชน เธอก็วิ่งเข้าไป และทำอะไรที่ผมไม่คาดคิด เธอเข้าไปช่วยโดยที่ไม่ต้องสวมถุงมือยางด้วยจนเลือดแปะเปื้อนที่แขนของเธอ ผมเองต้องเตือน และรีบเอาแอลกอฮอล์เช็ดให้ ผมไม่รู้ว่าวันนี้มีเพื่อนบัณฑิตรับปริญญาทั้งหมดกี่คน แต่....ผมรู้ว่า เธอเป็นบัณฑิตคนเดียวที่เข้าไปช่วยเหลือ ช่วยกดไลค์ให้บัณฑิตน้ำใจงามคนนี้ด้วยครับ"



.

ข้อความโดย: sithiphong
« เมื่อ: สิงหาคม 03, 2014, 08:06:02 am »

ร่วมความช่วยเหลือจากมนุษย์


ร่วมความช่วยเหลือจากมนุษย์

-http://www.youtube.com/watch?v=TwhOMnvEXJ8-



.