ข้อความโดย: ฐิตา
« เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2015, 04:11:50 pm »เมื่อศึกษา ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร และ วัชรเฉทิกปรัชญาปารมิตาสูตร แล้วพึงศึกษา ยอดธรรมยอดคาถา โดยท่านพระคุณเจ้า หลวงพ่อดาบส สุมโน ด้วยจะทราบว่า
ธรรมที่ท่าน แสดง ก็เป็น ศูนยตวาที ศูนยตวาทะ เหมือน การกล่าวใน ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร เลยทีเดียว
เช่นนั้นเอง | | |
ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1460357134184561&set=a.1472751769611764.1073741926.100006308642013&type=3&theater
วัชรเฉทิกปรัชญาปารมิตาสูตร
https://www.facebook.com/skch.sokocho/media_set…
ยอดธรรมยอดคาถา
ให้ศรัทธาท่องบ่นจดจำ ยอดธรรมยอดคาถานี้ ให้แม่นยำ
จัดเป็นการช่วยตัวเอง ให้รอดพ้นจากมวลทุกข์ ฯ
โดยท่านพระคุณเจ้า หลวงพ่อดาบส สุมโน
อาศรมเวฬุวัน บ้านลูกกลอน อ.เมือง จ.เชียงราย
ยอดธรรมยอดคาถา
เวลาจะภาวนา ให้ว่ายอดธรรมยอดคาถานี้ก่อน ถ้าหลายคนว่าพร้อมกัน
ยะโขธัมมัง วรังตัสสะ
เยชะนาเต ชะนาวะรัง
โกจิตตังสัง ขะตังมุตโต
เอโสปาระโม ทุกขังขะโย
ยะโขธัมมัง……ธรรมใดแล, เป็นธรรมไม่มีที่ภายในและที่ภายนอก, ไม่มีที่ล่วงมาแล้วและที่ยังมาไม่ถึง, ไม่มีทั้งที่กำลังเป็นอยู่, เป็นธรรมกวมทั่ว,ผ่องใส ปราศจากอารมณ์ต่างๆ อันจักถึงติดต้อง,เป็นธรรมว่างเปล่าจากปวงสังขตะที่เกิดดับ,
วะรังตัสสะ…….ธรรมนั้นแล, เป็นธรรมจักพึงประจักษ์เฉพาะตน, อันบุคคลจักพึงเห็นเอง, คือ พระนิพพาน เป็นที่หลุดรอด, ที่เรียกว่าฝั่ง, ล่วงวังวน เป็นที่ตั้งอยู่แห่งความตาย, อันบุคคลข้ามได้แสนยาก, เป็นธรรมประเสริฐ, อันพระตถาคตเจ้า ตรัสแสดงไว้ดีแล้ว ฯ
เยชะนาเต…….บรรดามนุษย์ทั้งหลาย, ชนเหล่าใด ที่เป็นผู้พ้นทุกข์เข้าถึงฝั่ง, ล่วงวังวน เป็นที่ตั้งอยู่แห่งความตาย, อันบุคคลข้ามได้แสนยาก ชนเหล่านั้นมีประมาณน้อย, ส่วนหมู่สัตว์คือ ชนนอกจากนี้ๆ, ย่อมเลาะเลียบไปตามชายฝั่ง, คือไปแล้วในอารมณ์ต่างๆ, ตามเห็นรูป รส โผฏฐัพพะ เสียง กลิ่น อยู่นั่นแหละ เหมือนหลับอยู่, ก็ชนทั้งหลายเหล่าใด ประพฤติตามธรรม, ในธรรมที่พระตถาคตตรัสแสดงไว้ดีแล้ว, ชนทั้งหลายเหล่านั้น จักเป็นผู้พ้นทุกข์ เข้าถึงฝั่ง, ล่วงวังวน เป็นที่ตั้งอยู่แห่งความตาย, อันบุคคลข้ามได้แสนยากนั้น ฯ
ชะนาวะรัง…….ก็ชนใด ทำจิตของตน, ไม่ให้มีที่ภายในและที่ภายนอก, ไม่ให้มี ที่ล่วงมาแล้วและที่ยังมาไม่ถึง, ไม่ให้มีทั้งที่กำลังเป็นอยู่, ไม่ให้ตามเห็นอารมณ์ต่างๆ, ให้ผ่องใส ปราศจากอารมณ์ต่างๆ อันมาติดต้อง, ให้ว่างเปล่าจากปวงสังขตะที่เกิดดับ, ชนนั้น จักเป็นผู้พ้นทุกข์ เข้าถึงฝั่ง, ล่วงวังวนเป็นที่ตั้งอยู่แห่งความตาย, อันบุคคลข้ามได้แสนยากนั้น ฯ หรือมิฉะนั้น ชนใด, เป็นผู้กำหนดรู้อารมณ์ อันใดอันหนึ่งเป็นที่ตั้ง (มีรูปอารมณ์เป็นต้น) โดยความแยบคายแห่งจิตอยู่เฉพาะ, ชนนั้น ก็จะประจักษ์แจ้งอารมณ์ต่างๆ, ตามความเป็นจริงที่มันไม่จริง, คือว่างเปล่า, แล้วระอาท้อถอย, เหนื่อยหน่ายคลายวาง, เป็นผู้พ้นทุกข์เข้าถึงฝั่ง, ล่วงวังวนเป็นที่ตั้งอยู่แห่งความตาย, อันบุคคลข้ามได้แสนยากนั้น ฯ
โกจิตตังสัง……..ก็จิตของเรานี้เล่า, มันเพลินเที่ยวไปแล้วในอารมณ์ต่างๆ, ตามเห็นรูป รส โผฏฐัพพะ เสียง กลิ่น อยู่เหมือนหลับอยู่,
ขะตังมุตโต……..ไฉนเล่า เราจักเป็นผู้พ้นทุกข์, จิตของเรา จักเข้าถึงฝั่ง, ล่วงวังวนเป็นที่ตั้งอยู่แห่งความตาย, อันบุคคลข้ามได้แสนยากนั้นได้ ฯ
เอโสปาระโม…….เหตุนั้น กาลบัดนี้, เราจักทำจิตของเรา ไม่ให้มีที่ภายในและที่ภายนอก, ไม่ให้มีที่ล่วงมาแล้วและที่ยังมาไม่ถึง, ไม่ให้มีทั้งที่กำลังเป็นอยู่, ไม่ให้ตามเห็นอารมณ์ต่างๆ, ให้ผ่องใส ปราศจากอารมณ์ต่างๆอันมาติดต้อง, ให้ว่างเปล่าจากปวงสังขตะที่เกิดดับ,
ทุกขังขะโย…….. เป็นผู้พ้นทุกข์ เข้าถึงฝั่ง, ล่วงวังวนเป็นที่ตั้งอยู่แห่งความตาย, อันบุคคลข้ามได้แสนยากนั้น ฯ หรือ มิฉะนั้น, เราจักกำหนด รู้อารมณ์อันใดอันหนึ่งเป็นที่ตั้ง,(มีรูปอารมณ์เป็นต้น) โดยความแยบคายแห่งจิตอยู่เฉพาะ, เพื่อประจักษ์แจ้งอารมณ์ต่างๆ ตามความเป็นจริงที่มันไม่จริง, คือ ว่างเปล่า, แล้วระอาท้อถอย, เหนื่อยหน่ายคลายวาง, เป็นผู้พ้นทุกข์เข้าถึงฝั่ง, ล่วงวังวนเป็นที่ตั้งอยู่แห่งความตาย, อันบุคคลข้ามได้แสนยากนั้น, ซึ่งเป็นธรรมประเสริฐ, คือพระนิพพาน เป็นที่หลุดรอด, ตามที่พระตถาคตเจ้าตรัสแสดงไว้ดีแล้ว…….นั้นนั่นแล. ฯ
“บุคคลใด แม้มาเจริญ คือ สาธยายยอดธรรมยอดคาถานี้อยู่เนืองๆ บุคคลนั้น จักประสบประโยชน์ใหญ่หลวง เป็นผู้มีโชคใหญ่ จักไม่เข้าถึงความตาย ความตายจักไม่แลเห็นผู้นั้น จักบรรลุคุณวิเศษอันหาค่ามิได้”
ที่มา http://www.buddha-dhamma.com/index.php…
>> F/B โพธิ นิรันดร์ยะภาค
ธรรมที่ท่าน แสดง ก็เป็น ศูนยตวาที ศูนยตวาทะ เหมือน การกล่าวใน ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร เลยทีเดียว
เช่นนั้นเอง | | |
ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1460357134184561&set=a.1472751769611764.1073741926.100006308642013&type=3&theater
วัชรเฉทิกปรัชญาปารมิตาสูตร
https://www.facebook.com/skch.sokocho/media_set…
ยอดธรรมยอดคาถา
ให้ศรัทธาท่องบ่นจดจำ ยอดธรรมยอดคาถานี้ ให้แม่นยำ
จัดเป็นการช่วยตัวเอง ให้รอดพ้นจากมวลทุกข์ ฯ
โดยท่านพระคุณเจ้า หลวงพ่อดาบส สุมโน
อาศรมเวฬุวัน บ้านลูกกลอน อ.เมือง จ.เชียงราย
ยอดธรรมยอดคาถา
เวลาจะภาวนา ให้ว่ายอดธรรมยอดคาถานี้ก่อน ถ้าหลายคนว่าพร้อมกัน
ยะโขธัมมัง วรังตัสสะ
เยชะนาเต ชะนาวะรัง
โกจิตตังสัง ขะตังมุตโต
เอโสปาระโม ทุกขังขะโย
ยะโขธัมมัง……ธรรมใดแล, เป็นธรรมไม่มีที่ภายในและที่ภายนอก, ไม่มีที่ล่วงมาแล้วและที่ยังมาไม่ถึง, ไม่มีทั้งที่กำลังเป็นอยู่, เป็นธรรมกวมทั่ว,ผ่องใส ปราศจากอารมณ์ต่างๆ อันจักถึงติดต้อง,เป็นธรรมว่างเปล่าจากปวงสังขตะที่เกิดดับ,
วะรังตัสสะ…….ธรรมนั้นแล, เป็นธรรมจักพึงประจักษ์เฉพาะตน, อันบุคคลจักพึงเห็นเอง, คือ พระนิพพาน เป็นที่หลุดรอด, ที่เรียกว่าฝั่ง, ล่วงวังวน เป็นที่ตั้งอยู่แห่งความตาย, อันบุคคลข้ามได้แสนยาก, เป็นธรรมประเสริฐ, อันพระตถาคตเจ้า ตรัสแสดงไว้ดีแล้ว ฯ
เยชะนาเต…….บรรดามนุษย์ทั้งหลาย, ชนเหล่าใด ที่เป็นผู้พ้นทุกข์เข้าถึงฝั่ง, ล่วงวังวน เป็นที่ตั้งอยู่แห่งความตาย, อันบุคคลข้ามได้แสนยาก ชนเหล่านั้นมีประมาณน้อย, ส่วนหมู่สัตว์คือ ชนนอกจากนี้ๆ, ย่อมเลาะเลียบไปตามชายฝั่ง, คือไปแล้วในอารมณ์ต่างๆ, ตามเห็นรูป รส โผฏฐัพพะ เสียง กลิ่น อยู่นั่นแหละ เหมือนหลับอยู่, ก็ชนทั้งหลายเหล่าใด ประพฤติตามธรรม, ในธรรมที่พระตถาคตตรัสแสดงไว้ดีแล้ว, ชนทั้งหลายเหล่านั้น จักเป็นผู้พ้นทุกข์ เข้าถึงฝั่ง, ล่วงวังวน เป็นที่ตั้งอยู่แห่งความตาย, อันบุคคลข้ามได้แสนยากนั้น ฯ
ชะนาวะรัง…….ก็ชนใด ทำจิตของตน, ไม่ให้มีที่ภายในและที่ภายนอก, ไม่ให้มี ที่ล่วงมาแล้วและที่ยังมาไม่ถึง, ไม่ให้มีทั้งที่กำลังเป็นอยู่, ไม่ให้ตามเห็นอารมณ์ต่างๆ, ให้ผ่องใส ปราศจากอารมณ์ต่างๆ อันมาติดต้อง, ให้ว่างเปล่าจากปวงสังขตะที่เกิดดับ, ชนนั้น จักเป็นผู้พ้นทุกข์ เข้าถึงฝั่ง, ล่วงวังวนเป็นที่ตั้งอยู่แห่งความตาย, อันบุคคลข้ามได้แสนยากนั้น ฯ หรือมิฉะนั้น ชนใด, เป็นผู้กำหนดรู้อารมณ์ อันใดอันหนึ่งเป็นที่ตั้ง (มีรูปอารมณ์เป็นต้น) โดยความแยบคายแห่งจิตอยู่เฉพาะ, ชนนั้น ก็จะประจักษ์แจ้งอารมณ์ต่างๆ, ตามความเป็นจริงที่มันไม่จริง, คือว่างเปล่า, แล้วระอาท้อถอย, เหนื่อยหน่ายคลายวาง, เป็นผู้พ้นทุกข์เข้าถึงฝั่ง, ล่วงวังวนเป็นที่ตั้งอยู่แห่งความตาย, อันบุคคลข้ามได้แสนยากนั้น ฯ
โกจิตตังสัง……..ก็จิตของเรานี้เล่า, มันเพลินเที่ยวไปแล้วในอารมณ์ต่างๆ, ตามเห็นรูป รส โผฏฐัพพะ เสียง กลิ่น อยู่เหมือนหลับอยู่,
ขะตังมุตโต……..ไฉนเล่า เราจักเป็นผู้พ้นทุกข์, จิตของเรา จักเข้าถึงฝั่ง, ล่วงวังวนเป็นที่ตั้งอยู่แห่งความตาย, อันบุคคลข้ามได้แสนยากนั้นได้ ฯ
เอโสปาระโม…….เหตุนั้น กาลบัดนี้, เราจักทำจิตของเรา ไม่ให้มีที่ภายในและที่ภายนอก, ไม่ให้มีที่ล่วงมาแล้วและที่ยังมาไม่ถึง, ไม่ให้มีทั้งที่กำลังเป็นอยู่, ไม่ให้ตามเห็นอารมณ์ต่างๆ, ให้ผ่องใส ปราศจากอารมณ์ต่างๆอันมาติดต้อง, ให้ว่างเปล่าจากปวงสังขตะที่เกิดดับ,
ทุกขังขะโย…….. เป็นผู้พ้นทุกข์ เข้าถึงฝั่ง, ล่วงวังวนเป็นที่ตั้งอยู่แห่งความตาย, อันบุคคลข้ามได้แสนยากนั้น ฯ หรือ มิฉะนั้น, เราจักกำหนด รู้อารมณ์อันใดอันหนึ่งเป็นที่ตั้ง,(มีรูปอารมณ์เป็นต้น) โดยความแยบคายแห่งจิตอยู่เฉพาะ, เพื่อประจักษ์แจ้งอารมณ์ต่างๆ ตามความเป็นจริงที่มันไม่จริง, คือ ว่างเปล่า, แล้วระอาท้อถอย, เหนื่อยหน่ายคลายวาง, เป็นผู้พ้นทุกข์เข้าถึงฝั่ง, ล่วงวังวนเป็นที่ตั้งอยู่แห่งความตาย, อันบุคคลข้ามได้แสนยากนั้น, ซึ่งเป็นธรรมประเสริฐ, คือพระนิพพาน เป็นที่หลุดรอด, ตามที่พระตถาคตเจ้าตรัสแสดงไว้ดีแล้ว…….นั้นนั่นแล. ฯ
“บุคคลใด แม้มาเจริญ คือ สาธยายยอดธรรมยอดคาถานี้อยู่เนืองๆ บุคคลนั้น จักประสบประโยชน์ใหญ่หลวง เป็นผู้มีโชคใหญ่ จักไม่เข้าถึงความตาย ความตายจักไม่แลเห็นผู้นั้น จักบรรลุคุณวิเศษอันหาค่ามิได้”
ที่มา http://www.buddha-dhamma.com/index.php…
>> F/B โพธิ นิรันดร์ยะภาค