ข้อความโดย: ฐิตา
« เมื่อ: สิงหาคม 01, 2015, 06:52:27 pm »~โ พ ช ฌ ง ค ป ริ ต ร~
ตำนาน
สมัยหนึ่ง สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า
ทรงประทับอยู่ ณ เวฬุวันมหาวิหาร ใกล้กรุงราชคฤห์
ครั้งนั้น พระมหากัสสปะ อาศัยอยู่ในปิปผลิคูหา
บัง เกิดโรคาพาธแรงกล้า อาการหนักขึ้นทุกวัน
ขณะที่พระผู้มีพระภาค ทรงสถิตอยู่ในสมาบัติ
เมื่อถึงกาลอันควร ทรงออกจากสมาบัติแล้ว
จึงทรงมีพระกรุณาโปรด
เสด็จไปเยี่ยมอาการไข้ของ พระมหากัสสปะเถระ
ทรงแสดง โพชฌงค์ทั้ง ๗ ประการ
ให้ท่านพระมหากัสสปะได้รับฟัง
เมื่อจบพระธรรมเทศนานั้น
พระมหากัสสปะ มีจิตโสมนัสยินดีรื่นเริงในธรรม
ลุกขึ้นกราบพระบาท หายจากอาการไข้โดยพลัน
อีกครั้ง ขณะที่พระบรมศาสดา
ทรงประทับอยู่ ณ เวฬุวันมหาวิหาร ใกล้กรุงราชคฤห์
ครานั้นพระมหาโมคคัลลานะ
อาศัยอยู่ ณ เขาคิชฌกูฎ เกิดอาการอาพาธหนัก
พระบรมศาสดาเมื่อทรงออกจากสมาบัติแล้ว
ได้เสด็จไปเยี่ยมอาการป่วยของพระโมคคัลลานะ
แล้วทรงแสดงโพชฌงค์ทั้ง ๗ ให้ พระมหาโมคคัลลานะ ฟัง
พระมหาโมคคัลลานะ นั้นก็หายจากอาการป่วยโดยพลัน
แม้พระบรมศาสดาเอง
เมื่อครั้งที่พระองค์ ทรงพระประชวรหนัก ด้วยโรคปวดท้อง
มิมียาใดๆ รักษาให้หายได้
จึงมีพระพุทธฎีการับสั่งให้พระจุนทะเถระ
แสดงโพชฌงค์ทั้ง ๗ ให้พระองค์ทรงสดับ
เมื่อ พระจุนทะเถระแสดง โพชฌงค์ทั้ง ๗ ประการ จบลง
พระบรมศาสดาก็ทรงหายจากอาการประชวรโดยพลัน
ทรงเสด็จลุกขึ้นจากพระบรรทมได้ในทันที
กาลนี้ ขอเชิญท่านผู้เจริญทั้งหลาย
สาธยายโพชฌงค์ทั้ง ๗ ให้แก่คนยาก
ได้สดับเพื่อความสวัสดี จะพึงมีแก่ข้าต่อไป
(มีต่อ)
..
..
~อ ภ ย ป ริ ต ร~
ตำนาน
ครั้งหนึ่ง พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงพระสุบินนิมิตถึงอาเพศ ๑๖ อย่าง
แล้วให้เกิดความหวาดหวั่น ต่อมรณภัยที่มองไม่เห็น
จึงทรงเล่าพระสุบินนั้น ให้พราหมณ์ปุโรหิตรับฟัง
พราหมณ์ปุโรหิตพยากรณ์ว่าจะบังเกิดเหตุการณ์ให้พระองค์
มีอันตรายอย่างหนึ่งอย่างใด รวมทั้งราชสมบัติด้วย
ปุโรหิตนั้น ได้ทูลแนะวิธีป้องกันอันตราย ด้วยบัญญัติวิธี
คือ เอาสัตว์อย่างละ ๔ ๆ มาฆ่าบูชายัญ
พระเจ้าปเสนทิโกศล
จึงทรงมีรับสั่งให้จัดเตรียมประจำพิธีและสิ่งของ
ตามถ้อยคำของปุโรหิตบอก
ครานั้น พระนางมัลลิกาเทวี
พระมเหสีของ พระเจ้าปเสนทิโกศล จึงทูลขึ้นว่า
เสด็จพี่อย่าพึ่งทำยัญพิธีกรรมใดๆ เลย
ขอได้โปรดเสด็จไปทูลถาม ถึงพระสุบินนิมิตนั้น
แด่พระผู้มีพระภาคเจ้าก่อน
พระองค์ทรงเป็นสัพพัญญู
มิมีสิ่งใดที่พระพุทธองค์ไปรู้
ราชาโกศล จึงเสด็จพร้อมมเหสีและบริวาร
ไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ณ เชตวันมหาวิหาร
แจ้งทูลถามถึงสุบินนิมิตทั้ง ๑๖ ข้อนั้น
พระผู้มีพระภาคทรงตรัสว่า
ดูก่อนมหาบพิตร
ภัยอันตรายใดๆ จะพึงบังเกิดมีแก่พระองค์
จากเหตุแห่งพระสุบินนิมิตนั้นหามีไม่
สุบินนิมิตของพระองค์
เป็นสิ่งบอกเหตุที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
หลังจากเราตถาคตนิพพานไปแล้ว
และในที่สุดพระผู้มีพระภาค
จึงทรงขอให้ พระเจ้าปเสนทิโกศล
ล้มเลิกยัญพิธีทั้งปวงเสีย
บัดนี้ถึงกาลอันควรแล้ว
ขอเชิญพระสาวกแก้ว ได้โปรดสาธยาย อะภะยะปริตร
เพื่อพิชิตอวมงคลทั้งหลายที่บังเกิดขึ้น
ให้พินาศไปด้วยเทอญ
(มีต่อ)
..
..
~ม ง ค ล จั ก ร ว า ฬ~
ตำนาน
ด้วยอานุภาพแห่งพระมหาบุรุษลักษณ ๓๒ ประการ
แห่งพระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้เป็นอรหันต์ ผู้ตรัสรู้เองแล้ว ผู้มีบุญญาธิการ
อันหาประมาณมิได้ด้วยพระฤทธิ์อันใหญ่ แลพระคุณอันใหญ่
อันสำเร็จได้ด้วยพระสิริ ปัญญาเครื่องตั้งมั่น พระปัญญาเครื่องรู้
พระเดชและพระชัย ที่สามารถห้ามเสียซึ่งสรรพอันตรายทั้งหลาย
ด้วยอานุภาพแห่งอนุพยัญชนะ ๘๐
ด้วยอานุภาพแห่งมงคลทั้ง ๑๐๘ ประการ
ด้วยอานุภาพแห่งพระรัศมี มีฉัพพรรณรังสี ๖ ประการ
ด้วยอานุภาพแห่งพระเกตุมาลา
ด้วยอานุภาพแห่งบารมี ๑๐ ประการ
ด้วยอานุภาพแห่งอุปบารมี ๑๐ ประการ
ด้วยอานุภาพแห่งปรมัตถบารมี ๑๐ ประการ
ด้วยอานุภาพแห่งศีล สมาธิ ปัญญา
ด้วยอานุภาพแห่งพระพุทธรัตนะ
ด้วยอานุภาพแห่งพระธรรมรัตนะ
ด้วยอานุภาพแห่งพระสังฆรัตนะ
ด้วยอานุภาพแห่งเดช
ด้วยอานุภาพแห่งพระกำลัง
ด้วยอานุภาพแห่งเญยธรรม
ด้วยอานุภาพแห่งพระธรรมขันธ์ ๘ หมื่น ๔ พัน
ด้วยอานุภาพแห่งโลกุตตรธรรม ๙ ประการ
ด้วยอานุภาพแห่งพระอริยมรรคมีองค์ ๘ ประการ
ด้วยอานุภาพแห่งสมาบัติ ๘ ประการ
ด้วยอานุภาพแห่งพระอภิญญา ๖ ประการ
ด้วยอานุภาพแห่งพระญาณในอริยสัจ ๔
ด้วยอานุภาพแห่งพระทศพลญาณ
ด้วยอานุภาพแห่งพระสัพพัญญุตญาณ
ด้วยอานุภาพแห่งพระเมตตา กรุณา อุเบกขา
ด้วยอานุภาพแห่งพระปริตรทั้งปวง
ด้วยอานุภาพแห่งสรณะ คือพระรัตนตรัย
ขอสรรพโรค สรรพโศก สรรพอุบาทว์
และความทุกข์กายทุกข์ใจ
ความคับแค้นใจทั้งปวงของท่านจงสูญหายไป
แม้อันตรายทั้งปวงสูญหายไป
ขอความปรารถนาของท่าน จงสำเร็จโดยพลัน
ขอความอายุยืน จงมีแก่ท่าน
ขอท่านจงเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยความเป็นอยู่ตลอด ๑๐๐ ปีในกาลทั้งปวง
ขอเหล่าเทพยดาทั้งหลายที่สถิตอยู่ในอากาศ
อยู่ในภูเขา อยู่ในป่า อยู่บนภาคพื้นดิน อยู่ในแม่น้ำมหาสมุทร
จงตามรักษาท่านทั้งหลายทุกเมื่อเทอญ
..
..
นำมาจากบอร์ดเก่า โพสต์โดย คุณกุหลาบสีชา
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=15180
กระทู้เกี่ยวเนื่องกัน
• ตำนานพระปริตร : เ จ็ ด ตำ น า น
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=23&t=19722
• ตำนานพระปริตร : สิ บ ส อ ง ตำ น า น
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=23&t=19723
• ความหมายและการสวดพระปริตร
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=23&t=44177
• พิธีสวดพระปริตรรามัญ : พระมหาจรูญ ญาณจารี
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=23&t=30982
• ว่าด้วยโมรปริตร
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=28&t=30605
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง
19723.ตำนานพระปริตร : สิ บ ส อ ง ตำ น า น
- http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=23&t=19723
ตำนาน
สมัยหนึ่ง สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า
ทรงประทับอยู่ ณ เวฬุวันมหาวิหาร ใกล้กรุงราชคฤห์
ครั้งนั้น พระมหากัสสปะ อาศัยอยู่ในปิปผลิคูหา
บัง เกิดโรคาพาธแรงกล้า อาการหนักขึ้นทุกวัน
ขณะที่พระผู้มีพระภาค ทรงสถิตอยู่ในสมาบัติ
เมื่อถึงกาลอันควร ทรงออกจากสมาบัติแล้ว
จึงทรงมีพระกรุณาโปรด
เสด็จไปเยี่ยมอาการไข้ของ พระมหากัสสปะเถระ
ทรงแสดง โพชฌงค์ทั้ง ๗ ประการ
ให้ท่านพระมหากัสสปะได้รับฟัง
เมื่อจบพระธรรมเทศนานั้น
พระมหากัสสปะ มีจิตโสมนัสยินดีรื่นเริงในธรรม
ลุกขึ้นกราบพระบาท หายจากอาการไข้โดยพลัน
อีกครั้ง ขณะที่พระบรมศาสดา
ทรงประทับอยู่ ณ เวฬุวันมหาวิหาร ใกล้กรุงราชคฤห์
ครานั้นพระมหาโมคคัลลานะ
อาศัยอยู่ ณ เขาคิชฌกูฎ เกิดอาการอาพาธหนัก
พระบรมศาสดาเมื่อทรงออกจากสมาบัติแล้ว
ได้เสด็จไปเยี่ยมอาการป่วยของพระโมคคัลลานะ
แล้วทรงแสดงโพชฌงค์ทั้ง ๗ ให้ พระมหาโมคคัลลานะ ฟัง
พระมหาโมคคัลลานะ นั้นก็หายจากอาการป่วยโดยพลัน
แม้พระบรมศาสดาเอง
เมื่อครั้งที่พระองค์ ทรงพระประชวรหนัก ด้วยโรคปวดท้อง
มิมียาใดๆ รักษาให้หายได้
จึงมีพระพุทธฎีการับสั่งให้พระจุนทะเถระ
แสดงโพชฌงค์ทั้ง ๗ ให้พระองค์ทรงสดับ
เมื่อ พระจุนทะเถระแสดง โพชฌงค์ทั้ง ๗ ประการ จบลง
พระบรมศาสดาก็ทรงหายจากอาการประชวรโดยพลัน
ทรงเสด็จลุกขึ้นจากพระบรรทมได้ในทันที
กาลนี้ ขอเชิญท่านผู้เจริญทั้งหลาย
สาธยายโพชฌงค์ทั้ง ๗ ให้แก่คนยาก
ได้สดับเพื่อความสวัสดี จะพึงมีแก่ข้าต่อไป
(มีต่อ)
..
..
~อ ภ ย ป ริ ต ร~
ตำนาน
ครั้งหนึ่ง พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงพระสุบินนิมิตถึงอาเพศ ๑๖ อย่าง
แล้วให้เกิดความหวาดหวั่น ต่อมรณภัยที่มองไม่เห็น
จึงทรงเล่าพระสุบินนั้น ให้พราหมณ์ปุโรหิตรับฟัง
พราหมณ์ปุโรหิตพยากรณ์ว่าจะบังเกิดเหตุการณ์ให้พระองค์
มีอันตรายอย่างหนึ่งอย่างใด รวมทั้งราชสมบัติด้วย
ปุโรหิตนั้น ได้ทูลแนะวิธีป้องกันอันตราย ด้วยบัญญัติวิธี
คือ เอาสัตว์อย่างละ ๔ ๆ มาฆ่าบูชายัญ
พระเจ้าปเสนทิโกศล
จึงทรงมีรับสั่งให้จัดเตรียมประจำพิธีและสิ่งของ
ตามถ้อยคำของปุโรหิตบอก
ครานั้น พระนางมัลลิกาเทวี
พระมเหสีของ พระเจ้าปเสนทิโกศล จึงทูลขึ้นว่า
เสด็จพี่อย่าพึ่งทำยัญพิธีกรรมใดๆ เลย
ขอได้โปรดเสด็จไปทูลถาม ถึงพระสุบินนิมิตนั้น
แด่พระผู้มีพระภาคเจ้าก่อน
พระองค์ทรงเป็นสัพพัญญู
มิมีสิ่งใดที่พระพุทธองค์ไปรู้
ราชาโกศล จึงเสด็จพร้อมมเหสีและบริวาร
ไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ณ เชตวันมหาวิหาร
แจ้งทูลถามถึงสุบินนิมิตทั้ง ๑๖ ข้อนั้น
พระผู้มีพระภาคทรงตรัสว่า
ดูก่อนมหาบพิตร
ภัยอันตรายใดๆ จะพึงบังเกิดมีแก่พระองค์
จากเหตุแห่งพระสุบินนิมิตนั้นหามีไม่
สุบินนิมิตของพระองค์
เป็นสิ่งบอกเหตุที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
หลังจากเราตถาคตนิพพานไปแล้ว
และในที่สุดพระผู้มีพระภาค
จึงทรงขอให้ พระเจ้าปเสนทิโกศล
ล้มเลิกยัญพิธีทั้งปวงเสีย
บัดนี้ถึงกาลอันควรแล้ว
ขอเชิญพระสาวกแก้ว ได้โปรดสาธยาย อะภะยะปริตร
เพื่อพิชิตอวมงคลทั้งหลายที่บังเกิดขึ้น
ให้พินาศไปด้วยเทอญ
(มีต่อ)
..
..
~ม ง ค ล จั ก ร ว า ฬ~
ตำนาน
ด้วยอานุภาพแห่งพระมหาบุรุษลักษณ ๓๒ ประการ
แห่งพระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้เป็นอรหันต์ ผู้ตรัสรู้เองแล้ว ผู้มีบุญญาธิการ
อันหาประมาณมิได้ด้วยพระฤทธิ์อันใหญ่ แลพระคุณอันใหญ่
อันสำเร็จได้ด้วยพระสิริ ปัญญาเครื่องตั้งมั่น พระปัญญาเครื่องรู้
พระเดชและพระชัย ที่สามารถห้ามเสียซึ่งสรรพอันตรายทั้งหลาย
ด้วยอานุภาพแห่งอนุพยัญชนะ ๘๐
ด้วยอานุภาพแห่งมงคลทั้ง ๑๐๘ ประการ
ด้วยอานุภาพแห่งพระรัศมี มีฉัพพรรณรังสี ๖ ประการ
ด้วยอานุภาพแห่งพระเกตุมาลา
ด้วยอานุภาพแห่งบารมี ๑๐ ประการ
ด้วยอานุภาพแห่งอุปบารมี ๑๐ ประการ
ด้วยอานุภาพแห่งปรมัตถบารมี ๑๐ ประการ
ด้วยอานุภาพแห่งศีล สมาธิ ปัญญา
ด้วยอานุภาพแห่งพระพุทธรัตนะ
ด้วยอานุภาพแห่งพระธรรมรัตนะ
ด้วยอานุภาพแห่งพระสังฆรัตนะ
ด้วยอานุภาพแห่งเดช
ด้วยอานุภาพแห่งพระกำลัง
ด้วยอานุภาพแห่งเญยธรรม
ด้วยอานุภาพแห่งพระธรรมขันธ์ ๘ หมื่น ๔ พัน
ด้วยอานุภาพแห่งโลกุตตรธรรม ๙ ประการ
ด้วยอานุภาพแห่งพระอริยมรรคมีองค์ ๘ ประการ
ด้วยอานุภาพแห่งสมาบัติ ๘ ประการ
ด้วยอานุภาพแห่งพระอภิญญา ๖ ประการ
ด้วยอานุภาพแห่งพระญาณในอริยสัจ ๔
ด้วยอานุภาพแห่งพระทศพลญาณ
ด้วยอานุภาพแห่งพระสัพพัญญุตญาณ
ด้วยอานุภาพแห่งพระเมตตา กรุณา อุเบกขา
ด้วยอานุภาพแห่งพระปริตรทั้งปวง
ด้วยอานุภาพแห่งสรณะ คือพระรัตนตรัย
ขอสรรพโรค สรรพโศก สรรพอุบาทว์
และความทุกข์กายทุกข์ใจ
ความคับแค้นใจทั้งปวงของท่านจงสูญหายไป
แม้อันตรายทั้งปวงสูญหายไป
ขอความปรารถนาของท่าน จงสำเร็จโดยพลัน
ขอความอายุยืน จงมีแก่ท่าน
ขอท่านจงเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยความเป็นอยู่ตลอด ๑๐๐ ปีในกาลทั้งปวง
ขอเหล่าเทพยดาทั้งหลายที่สถิตอยู่ในอากาศ
อยู่ในภูเขา อยู่ในป่า อยู่บนภาคพื้นดิน อยู่ในแม่น้ำมหาสมุทร
จงตามรักษาท่านทั้งหลายทุกเมื่อเทอญ
..
..
นำมาจากบอร์ดเก่า โพสต์โดย คุณกุหลาบสีชา
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=15180
กระทู้เกี่ยวเนื่องกัน
• ตำนานพระปริตร : เ จ็ ด ตำ น า น
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=23&t=19722
• ตำนานพระปริตร : สิ บ ส อ ง ตำ น า น
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=23&t=19723
• ความหมายและการสวดพระปริตร
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=23&t=44177
• พิธีสวดพระปริตรรามัญ : พระมหาจรูญ ญาณจารี
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=23&t=30982
• ว่าด้วยโมรปริตร
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=28&t=30605
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง
19723.ตำนานพระปริตร : สิ บ ส อ ง ตำ น า น
- http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=23&t=19723