ข้อความโดย: 時々होशདང一རພຊຍ๛
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2016, 08:51:05 pm »ถ่ายภาพโดย 時々๛कभी कभी๛ ภาพได้อารมณ์หลอนมากถ่ายด้วยกล้อง Digital ขอสงวนลิขสิทธิ์ห้ามทำซ้ำและดัดแปลงภาพถ่าย.....हस्ताक्षर......時々๛कभी कभी๛ การกดชัตเตอร์มีโอกาสแค่ครั้งเดียวเท่านั้นถ้าพลาดก็พลาดตลอดไป...https://2017th.wordpress.com/
ความตายเป็นเช่นไร - จะเจ็บปวดทรมานมั๊ย ? หนาวมั๊ย ? ร้อนมั๊ย รู้แต่ว่าต้องไปอย่างเดียวดาย คงมีแต่ความมืด(สำหรับคนทำบาปกรรมอย่างเช่นตัวข้าพเจ้า)แต่ข้าพเจ้าคงตายแบบนอนตาไม่หลับแน่ เจ้ากรรมนายเวรคงยังไม่ให้อภัยแก่ข้าพเจ้าวันก่อนเกือบตายแต่ไม่ตาย(อาจจะตายเร็ว ๆ นี้)วันไหน - เดือนไหน - ปีไหน ไม่มีใครบอกได้ ทุก ๆ ต่างกลัวความตาย ตอนนี้ข้าพเจ้ากลับยิ้มรับและเตรียมตัวต้อนรับความตายได้แล้ว ชีวิต หลังความตายเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ทางด้านศาสนาคริสต์กล่าวไว้ดังนี้คนที่พยายามในขณะที่เขายังมีชีวิตอยู่ ขอให้เขาเป็นคนแบบเดียวกันกับที่เขาปรารถนาเป็น เมื่อความตายมาถึงเขาก็เป็นสุขและมีสติปัญญา การดูหมิ่นโลกอย่างแท้จริง ความปรารถนาอย่างร้อนรนที่จะเจริญก้าวหน้าในด้านคุณธรรม การชอบที่จะมีวินัย กิจกรรมที่แสดงออกถึงการเสียใจในเรื่องความผิดบาป ความพร้อมที่จะเชื่อฟัง การปฏิเสธตัวเอง และความเพียรพยายามที่จะอดทนต่อความยากลำบากทุกอย่างเพราะความรักที่มีต่อพระคริสต์ สิ่งเหล่านี้แหละจะทำให้คนนั้นคาดหวังได้มากที่จะมีความสุขในความตาย
คำถามที่น่าคิดก็คือเรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไรเพื่อที่จะรอความตายโดยไม่ทำประโยชน์อะไร แก่ โลกใบนี้เลยหรืองัยครับบางทีได้อ่านข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์มีคนคฆ่าตัวตายทุกวันคนที่ฆ่าตัวตายในทางพุทธศสานนั้นเป็นบาปเมื่อวานนี้ได้อ่นหนังสือพิมพ์ข่าวสดมีข่าวว่าดังนี้เอาย่อ ๆ ล่ะกันแค่ทำกระเป๋าตังค์หายก็ฆ่าตัวตาย อืม....ตายง่ายดายจัง
ในนิกายนิชิเร็นโชชิวสมาคมโซคางักไกกล่าวไว้ว่า จุดมุ่งหมายของชีวิตคืออะไร ก็คือ ความสุข แต่ความสุขนั้นมีอยู่ 2 ชนิด คือ ความสุขสัมพัทธ์ กับ ความสุขสัมบูรณ์ ความสุขสัมพัทธ์มีหลายรูปแบบ จุดมุ่งหมายของพุทธธรรมก็คือ การบรรลุพุทธภาวะ ในความหมายปัจจุบัน อาจอธิบายได้ว่า เป็นการบรรลุความสุขสัมบูรณ์ ซึ่งเป็นสภาพของความสุขที่ไม่สามารถทำลายได้หรือไม่พ่ายแพ้
ท่านพุทธทาสกล่าวถึง ตายก่อนตาย ไว้ว่า ตายก่อนตายคือการตายจากความยึดมั่นถือมั่น การไม่มีตัวตนตลอดเวลา ซึ่งตรงข้ามกับตายเมื่อตาย ที่เป็นการตายของคนมีตัวตน เพราะฉะนั้นในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่เราจึงควรฝึกตายก่อนตายเพื่อจะได้ไม่ รู้จักตายอีกต่อไป ให้ทราบตามความเป็นจริงว่า ไม่ว่าจะมีบุคคลใดเป็นที่รักก็ตาม จะต้องพลัดพรากจากไปทั้งหมด