ข้อความโดย: 時々होशདང一རພຊຍ๛
« เมื่อ: พฤษภาคม 01, 2016, 04:21:44 pm »1 May 2016
ศาสตร์แห่งการใช้ชีวิตหรือศาสตร์แห่งการดำเนินชีวิต เข็มทิศชีวิต เพื่อการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องและดีงามหลวงพ่อ ปัญญานันท เคยกล่าวไว้ว่าจงใช้ชีวิตให้คุ้มค่าสมกับที่ได้เกิดมาคุ้มค่าอย่างไรหากว่าเรามองโลกในแง่ดีแล้วก็จะเห็นว่าได้ ลาภ เสื่อมลาภ ได้ยศเสื่อมยศ ไม่มีใครครอบครองสิ่งใดจีรังยั่งยืนเราควรทำใจให้อยู่ในทาง สายกลาง
สำหรับในวันแรงงานแห่งชาติ 1 พฤษภาคม 2559 นำเสนอเป็นตอนที่ 2 ในส่วนภาพถ่ายด้านบนนั้น เป็นภาพยุคฟองสบู่แตก
ศีล ๕ ที่เราจำเป็นต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
งดเว้นจากการฆ่าสัตว์
งดเว้นจากการลักทรัพย์
งดเว้นจากการประพฤติอพรหมจรรย์(การเสพเมถุน)
งดเว้นจากการพูดเท็จ
งดเว้นจากดื่มสุราเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท
พุทธธรรมสอนว่า เป้าหมายที่พวกเราเกิดในชาตินี้ก็คือ มีชีวิตมนุษย์ที่มีความสุขตลอดไป ซึ่งการที่จะมีความสุขตลอดไปได้นั้น ก็จะต้องยึดถือธรรมะที่ถูกถ้วนแท้จริง จึงจะสามารถมีความสุข แต่คนทั่วไปมักเข้าใจผิดว่า การดำเนินชีวิตไม่ต้องพึ่งพาธรรมะ เพราะตัวเองมีความรู้ความสามารถ จึงมีอาชีพการงานที่ดีได้ ครอบครัวก็มีฐานะร่ำรวย สุขภาพร่างกายก็แข็งแรง แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว แต่ความสุขดังกล่าวเหล่านี้นั้นไม่จีรัง
ไม่ใช่ความสุขสมบูรณ์ เป็นเพียงแค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น ไม่มีใครรับรองว่าจะยั่งยืนไปได้นานแค่ไหน ทุกคนจึงคิดว่า ในเมื่อปัจจุบันนี้ดีอยู่แล้ว ก็เชื่อว่าอนาคตก็คงจะดีเช่นนี้ตลอดไป นอกจากนี้ บางคนคิดแต่ว่า ชีวิตนี้มีเพื่อหาเงิน จึงพยายามทำงานหนักและสะสมเงิน บางคนก็ตั้งความหวังไว้กับลูก ให้ลูกเป็นคนเก่งจะได้มีชื่อเสียง แม้ว่าสิ่งเหล่านี้อาจจะดูมีความหมายหรือมีประโยชน์ แต่เมื่อมองจากธรรมะแล้ว สิ่งเหล่านี้ก็ยังไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง เป็นเพียงแค่ความสุขส่วนหนึ่งเท่านั้น
เมื่อเรามองดูชีวิตของคนที่มีชื่อเสียง เราพบว่าหลายคนห่างไกลจากความสมบูรณ์ในปฐมวัย ตัวอย่างเช่น เซอร์วินสตัน เชอร์ชิล รู้กันว่าสอบตก ท่านมหาตมะ คานธี ก็เช่นกันเป็นนักเรียนที่เรียนปานกลาง ท่านขี้อาย ขี้กลัวและไม่ค่อยคุยกับผู้อื่น อัลเบิร์ท ไอน์สไตน์ ยังทำได้ไม่ดีในบางวิชา ถึงแม้จะยอดเยี่ยมทางด้านคณิตศาสตร์ วิลเฮล์ม เรินต์เกน ผู้ค้นพบรังสีเอ็กซ์ ก็เคยถูกไล่ออกจากโรงเรียนเทคนิคเพราะการกล่าวโทษจากเพื่อนร่วมชั้นทั้งที่ไม่ได้กระทำผิด แต่อะไรที่บุคคลเหล่านี้มีเหมือนกันในปฐมวัยของ
พวกเขา ก็คือ พวกเขาไม่ยอมแพ้ต่อตัวเอง คนที่ได้คะแนนไม่ดี ถูกรังแก ถูกเพื่อนหักหลัง ล้มเหลวต้องรับมือกับปัญหาดังเช่น ความเจ็บป่วยหรือความยากจน คนเหล่านี้มักมีความสามารถที่จะเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่นและมีความเข้าใจลึกซึ้งในชีวิต ดังนั้นสิ่งสำคัญคือ อย่ายอมแพ้ ถ้าท่านสามารถทำเช่นนั้น ถึงแม้ท่านต้องทนทุกข์กับอะไรก็ตาม แน่นอนว่าจะส่งผลดีต่อการเจริญเติบโตของท่านในอนาคตได้
時々๛कभी कभी 一