ข้อความโดย: 時々होशདང一རພຊຍ๛
« เมื่อ: พฤษภาคม 09, 2016, 08:59:44 pm »เมตตาเกิดจะไม่เกลียดใคร
[ส.ค.ส 2562 แด่ชาวไทย(เฉย)ไทยไม่รู้ - ไม่ชี้]
พระพุทธศาสนาไม่ได้สอนให้คนหลงงมงาย ไม่ได้สอนให้ไม่รู้ ไม่ได้สอนให้หลงยึดติดแต่เป็นคำสอนที่เป็นไปเพื่อละ ด้วยความรู้ไม่ควรลืมว่า[ธรรม] คือ ขณะนี้ ไม่ใช่อยู่ในตำรา กายดี วาจา ดี เพราะสติเกิดขึ้นระลึกเป็นไปในกุศล
อวิชชา(ความไม่รู้)เป็นมูลแห่ง วัฏฏะ ตราบใดที่ยังมีอ วิชชา อยู่สัตว์โลกยังจะต้องถูกอวิชชารวบรัดไว้ไม่ให้พ้นไปจากสังสารวัฏฏ์ได้
ผมเอาภาพที่คุ้นตาของคนกรุงเทพมาให้ดูเนื่องจากใกล้จะปีใหม่ 2562 แล้วและเพื่อให้ระลึกถึงว่ามีฅนด้อยโอกาสกว่าเราอีกมากมารอการช่วยเหลืออยู่ซึ่งปีใหม่ที่จะมาถึงใน 3 วันข้างหน้าก็เป็นเทศกาลแห่งความสุขอีกเทศกาลหนึ่งพวกเรามีความสุขแต่พวกเขาเหล่านี้จะไม่มีความสุขเลยเพราะฅนไทยเห็นแก่ตัวนี่ยังไม่นับถึงพวกเด็ก ๆ ที่ด้อยโอกาสฅนชราภาพไร้ลูกหลานเหลียวแลขอให้คิดเสียใหม่ว่าพวกเราจะไม่มีความสุขเลยถ้าพวกเขาเหล่านี้ยังไม่มีความสุขหรือมีคนอุปถัมภ์ค้ำชูช่วยกันแบ่งปันความสุขบ้างน่ะ
ความสุขและนรกอยู่ภายในตัวท่าน ภายในหัวใจและจิตใจของท่านเอง การเป็นคนที่มีชื่อเสียง ไม่ได้รับประกันความสุข ไม่ว่าจะเป็นที่นิยมอย่างไร เกียรติยศและรางวัลไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง ไม่ใช่ความร่ำรวย ความสุขที่แท้จริงอยู่ที่การเชื่อมกับบ่อเกิดภายในของความสุขสัมบูรณ์ที่เป็นนิรันดร์ไม่มีอะไรมาทำลายได้ การมีชัยชนะอันรุ่งโรจน์ในชีวิต เราจำเป็นต้องต่อสู้ในชีวิตประจำวันของเราอยู่ตลอดเวลา ทำงานที่เป็นความรับผิดชอบของเราทุก ๆ วันให้สำเร็จและมุ่งหน้าไปด้วยความเข้มแข็งยิ่งขึ้น ชีวิตของท่านจะส่องประกายด้วยจิตใจที่สูงส่งไม่มีหมดสิ้น พระพุทธะทิศจำนวนนับไม่ถ้วนจะให้การปกป้องท่านทั้งหลายซึ่งเป็นทูตของพระพุทธะที่น่าประทับใจและไม่มีวันจม ในฐานะแชมเปี้ยนอันดับหนึ่งของโลกเราควรจะหาเวลาว่าง ๆ ไปอยู่กับธรรมชาติให้มากที่สุด เช่น ไปนั่งดูสายน้ำที่กำลังไหล ระลอกคลื่นที่กระทบกันเข้ากับแสงแดดส่งประกายระยิบระยับ
หรือมองดูฝูงนกที่กำลังโผบินออกจากสุมทุมพุ่มไม้ พากันส่งเสียงร้อง จงมองดูชื่นชมธรรมชาติ ให้ใจไหลเข้าสู่ความบริสุทธิ์ เป็นหนึ่งเดียวกันและอยู่กับปัจจุบันขณะนั้น นับว่าเป็นช่วงเวลาอันประเสริฐสุขสงบยิ่ง ธรรมชาติเป็นสิ่งที่เรา ควรเรียนรู้ ควรเข้าใจกฏเกณฑ์และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพราะชีวิตเรากับธรรมชาติที่แวดล้อมล้วนแต่มีคุณค่าที่เท่าเทียมกันจึงควรสนใจศึกษาให้ถ่องแท้ โดยไม่ต้องไปสนใจกับพวกลาภยศชื่อเสียง ฯ ซึ่งเปรียบประดุจความฝัน มันไม่ใช่เรื่องจริงจังอะไรที่เราจะไปหมายมั่นยึดถือเป็นเจ้าของ การฝึกจิตปฏิบัติธรรม นอกจากเรามีสติแล้วจะต้องมีสัมปชัญญะด้วย คือการมีความรู้สึกตัวทั่วถึง ว่าในขณะนั้น ๆ กำลังทำ พูดหรือคิดอะไรเป็นการรู้เท่าทันการณ์แล้วพิจารณาว่า จะเอาไว้หรือสลัดออกไปจาก จิต การดำเนินชีวิต ต้อง
ประพฤติธรรมไปด้วย เพื่อเวลาที่เราฟังอะไรจะได้ยิน ดูอะไรจะได้เห็น ไม่ปล่อยจิตใจให้ล่องลอยไป โดยขาดสติสัมปชัญญะเมื่อเราปฏิบัติอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย ย่อมแลเห็นความงดงาม ความอัศจรรย์ใจซึ่งประจักษ์อยู่ต่อหน้าเรา เหมือนยืนอยู่บนภูเขา ย่อมมองเห็นได้กว้างไกลและชัดเจนไม่ว่าจะเป็นน้ำค้างที่จับเกาะตามใบไม้ หญ้า ดวงอาทิตย์ ที่กำลังขึ้นหรือลับจากขอบฟ้า ระลอกน้ำที่ถูกกระแสลมพัดพริ้วไหว เราจะเห็นความแตกต่างระหว่างจิตที่นำความสับสน เป็นทุกข์มาให้ และจิตที่นำความสงบสุขไร้ทุกข์มาให้ แล้วเราจะได้เลือกทางดำเนินชีวิตได้ถูกว่าจะเอาอย่างไร จะไปทางไหนดี ต้องดู รู้ เห็นมันด้วยปัญญาจงอยู่กับธรรมชาติบ่อย ๆ แล้วท่านจะเกิดปัญญา รู้จักเข้าใจชีวิตมากขึ้น จนมีแนวทางดับทุกข์ทางใจได้ เมื่อมีปัญหาชีวิต จงน้อมจิตเข้าสู่ความสงบ แล้วพิจารณาปัญหาด้วยปัญญาแก้ไขให้ดี ถูกต้องที่สุดโดยที่ไม่หนี ไม่สู้ ไม่อยู่ ไม่ไป ไม่ปรุงแต่ง ทำจิตให้ว่างเปล่า ปล่อยวางทุกสิ่ง สิ่งสูงสุดและความสำเร็จจะเกิดขึ้นภายในใจของท่าน
https://sites.google.com/site/dhammaandphoto/Home/karxankhuxhawcinikarphathna#