ข้อความโดย: 時々होशདང一རພຊຍ๛
« เมื่อ: มิถุนายน 14, 2016, 05:17:14 pm »ในคืนพระจันทร์เต็มดวง 19 กุมภาพันธ์ 2562(อังคาร)ช่วงท้ายของเทศกาลตรุษจีน
ทุกวันนี้มีผู้คนที่มีความศรัทธาต่อ สัทธรรมปุณฑริกสูตร ความศรัทธาของบางคนคล้ายกับไฟในขณะที่ความศรัทธาของส่วนที่เหลือคล้ายกับน้ำ เมื่อพวกแรกฟังคำสอน ความกระตือรือร้นของพวกเขาโชติช่วงคล้ายดั่งไฟ แต่พวกเขาโน้มเอียงที่จะละทิ้งความศรัทธาของพวกเขา การมีความศรัทธาคล้ายกับน้ำหมายถึง ศรัทธาอย่างต่อเนื่องไม่เคยถดถอย เนื่องจากท่านมาเยี่ยมอาตมาบ่อยโดยไม่คำนึงถึงความยากลำบาก ความศรัทธาของท่านเปรียบเทียบได้กับน้ำไหล
ในบทที่แล้ว....
http://www.tairomdham.net/index.php/topic,10650.0.html
ได้เกริ่นถึงเรื่องที่ว่าไปช่วยงานศพ(ที่วัดแห่งหนึ่ง)เสร็จแล้วก็มาเยี่ยมผู้ป่วยที่โรงพยาบาล(แห่งหนึ่ง)เป็นที่รู้ ๆ กันว่าชีวิตของคนเราหนีไม่พ้นโรงพยาบาลกับวัดในเมื่อเราเกิดมาก็ต้องเกิดที่โรงพยาบาลน้อยมากที่เกิดที่บ้านหรือระหว่างทางที่จะไปโรงพยาบาลนี่พูดถึงในยุคปัจจุบันไม่นับถึงยุคโบราณกาล เกิดที่โรงพยาบาลเวลาป่วยก็ต้องเข้าโรงพยาบาลแล้วเวลาตายก็ตายที่บ้านหรือตายข้างถนนแล้วเอาไปโรงพยาลเสร็จแล้วก็เข้าวัดอีกทีหนึ่งนี่พูดในแง่ผู้ที่นับถือพระพุทธศาสนาไปงานศพแล้วได้อะไรจากงานศพหรือไปพบปะเพื่อนฝูงสรวลเส -
- เฮฮาหรือไปฟัง(พระสวด)ซึ่งส่วนใหญ่แขกที่ไปงานไม่ค่อยได้ฟังพระสวดกันหรอกคุยกันเสียมากว่าซึ่งบางคนก็ฟังรู้เรื่องบางคนก็ฟังไม่รู้เรื่องคนที่ฟังรู้เรื่องก็ฟังไปคนที่ฟังไม่รู้เรื่องก็คุยกันไปไม่ได้ประโยชน์อะไรจากงานศพหลวงพ่อ ปัญญานันท ท่านให้ดูธรรมมะจากงานศพไปงานศพทั้งทีควรที่จะได้ข้อคิดดี ๆ กลับมาอันที่จริงในครั้งพุทธกาลไม่มีการสวดศพ มีแต่การเทศนาว่าชีวิตมันไม่เที่ยงไม่จีรังในยุคปัจจุบันก็มีน้อยมากที่จะไม่(สวดศพ)เอาละเรื่องตาย - ศพไว้คุยรายละเอียดในโอกาสต่อไปเรามาเข้าเรื่องบท ส่งเสริมกำลังใจ กันก่อน
หัวข้อธรรม...สิ่งที่พวกเราแต่ละคนสามารถจะทำได้คืออะไร ก็คือ ทำอย่างดีที่สุด เราสามารถต่อสู้ด้วยกำลังทั้งหมดในวิถีทางของตนเอง ไม่ถูกรบกวนจากคำยกย่องหรือตำหนิ ซึ่งไม่อาจคาดเดาได้ เราสามารถก้าวหน้าด้วยจิตใจที่เร่าร้อน และภาคภูมิใจ ด้วยการทุ่มเททุกอย่างของเรา ถ้าเราสามารถดำเนินไปเช่นนี้ได้ตลอดชีวิต แน่นอนว่า เราสามารถมีชัยชนะในที่สุด
สังคมที่เต็มไปด้วยความอิจฉาริษยานั้น จะมีความขัดแย้งและปั่นป่วน จะไม่สามารถเจริญเติบโตหรือรุ่งเรืองได้ ในวรรณคดีจีนโบราณ ชูจื่อ มีกวีชื่อชูหยวน ถูกให้ร้าย ทำลายชื่อเสียง และถูกขับไล่ออกจากบ้านเกิดเมืองนอน ได้รำพึงว่า โลกนี้สกปรก อิจฉาริษยาผู้มีความสามารถ ชอบที่จะปิดบังคนดี และกล่าวร้ายพวกเขา เราต้องไม่ยอมแพ้ความชั่วร้ายและความอิจฉาริษยา มีการประชุมลับเพื่อจัดการและเชือดเฉือนฝ่ายตรงข้าม มาฝังรากในสังคม